ตอนที่แล้วตอนที่ 35 ยอดวิชาปรุงยา ปรุงยาแบบไร้พิษ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 37 เขาหมอกเมฆา, ท่านจะไปตายหรือ?

ตอนที่ 36 ทุกอย่างในโลกล้วนเป็นวัตถุดิบ สรรพสิ่งล้วนเป็นยา มุ่งหน้าสู่จวนพระสูตร


ที่หน้าผาด้านหลังของสำนักชิงหยุนเต๋า

ซู ลั่วเฉิน จริงจังอย่างยิ่งในการให้ความรู้เกี่ยวกับการปรุงยา

เย่ปิงก็กำลังฟังอย่างตั้งใจ

“น้องเล็ก กฎที่ว่ายาและลูกกลอนทุกชนิดมีผลข้างเคียงนั้นไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้”

“ทว่าหากเจ้าต้องการกลั่นยาที่ไม่มีพิษอย่างแท้จริง เจ้ารู้ไหมว่าหัวใจหลักของมันควรเป็นอย่างไร”

ซูลั่วเฉินถาม.

"ข้าไม่รู้ขอรับ."

เย่ปิงคิดอยู่พักหนึ่ง แต่เขาก็คิดอะไรไม่ออก.

หากเป็นกฎที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างเคร่งครัด ในทางทฤษฎีแล้วมันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะปรับแต่งยาที่ไม่มีพิษ.

แม้ว่าเย่ปิงจะไม่เคยกลั่นยามาก่อน แต่เขาก็มีความรู้เกี่ยวกับการแพทย์แผนจีนบ้างในชีวิตก่อนหน้านี้.

มีสารพิษจากสมุนไพรมากมายหลายชนิด บางทียาบางชนิดอาจดีต่อการบำรุง แต่อาจเติมพลังหยางมากเกินไป ดังนั้นผู้ที่อ่อนแอจึงไม่สามารถรับประทานของที่บำรุงมากเกินไปได้เนื่องจากอาจถึงแก่ชีวิตได้.

เพื่อที่จะระงับพลังหยางที่เกินมา จะต้องเพิ่มยาบำรุงหยิน ทว่า นั่นก็มีข้อเสียเช่นกันเนื่องจากต้องเติมสมุนไพรชนิดอื่นเพื่อลดความเป็นพิษลงไปด้วย.

เมื่อเติมสมุนไพรลงไปหลายชนิด ก็จะมีส่วนผสมของสารพิษมากขึ้น.

ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ในทางทฤษฎีที่จะกำจัดปัญหาเหล่านั้น.

อีกอย่าง ยาไม่มีพิษยังถือเป็นยาอเนกประสงค์ที่สามารถรับประทานได้ถ้วนหน้าไม่ว่าจะมีสภาพร่างกายและอยู่ในสถานการณ์ใดก็ตาม.

ดังนั้นเย่ปิงจึงไม่สามารถคิดวิธีแก้ปัญหาใดๆ ในการกำจัดสารพิษได้เลย.

ทว่าซู ลั่วเฉิน ยิ้มอย่างสงบและพูดต่อว่า “จริงๆ แล้วมันง่ายมาก.ถ้ากำจัดสมุนไพรออกไปได้ ก็จะไม่มีพิษใด ๆ เลย”

เย่ปิงตกตะลึงหลังจากได้ยินสิ่งที่เขาพูด.

เมื่อเขาได้ยินครั้งแรกก็ดูเหมือนจะสมเหตุสมผลอยู่.

แต่ว่า.... จะทำยาเม็ดได้อย่างไร ถ้าไม่ใช้สมุนไพร?

'ศิษย์พี่ ลั่วเฉินข้าอาจจะไม่รู้เกี่ยวกับการปรุงยา แต่ข้าไม่ใช่คนโง่ไร้เดียงสานะขอรับ.'

เย่ปิงเงียบไปทันที.

เขาไม่รู้ว่าจะพูดอะไรต่อ.

เขารู้สึกว่ามันค่อนข้างไร้สาระและเกินจริงเกินไป.

เมื่อสัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลงในสีหน้าของเย่ปิง ซูลั่วเฉินก็ไม่ตื่นตระหนกและยังคงดูสงบมากขึ้นแทน.

“ศิษย์น้องเย่ปิง เจ้าคิดว่าข้าหลอกเจ้าหรือเปล่า?”

ซูลั่วเฉินถามด้วยสีหน้าสงบ.

“ข้าไม่กล้าคิดแบบนั้นขอรับ”

เย่ปิงส่ายหัวและปฏิเสธทันที

แม้ว่าเขาจะมีข้อสงสัยอยู่บ้าง แต่เย่ปิงไม่คิดว่า ซู ลั่วเฉิน กำลังหลอกเขา แต่เขาแค่รู้สึกว่ามันเกินจริงเกินไป.

ในช่วงเวลาถัดมา ซู ลั่วเฉิน ก็หัวเราะเบา ๆ

เขากล่าวว่า “เป็นเรื่องปกติที่เจ้าจะมีข้อสงสัย แต่ถ้าข้าสอนการปรุงยาแบบปกติให้กับเจ้า มันจะถือว่าเป็นวิชาลับได้อย่างไร?”

ซูลั่วเฉินกล่าวด้วยรอยยิ้มอย่างมั่นใจ.

เย่ปิงจมลงในความคิดลึก ๆ ทันทีหลังจากได้ยินคำพูดของเขา.

'ก็จริงนะ' บางสิ่งบางอย่างที่ยอดฝีมือสอนจะเหมือนกับคนธรรมดาได้อย่างไร?'

ก่อนที่เย่ปิงจะได้พูดอะไร ซู ลั่วเฉิน ก็พูดต่อ.

“น้องเล็ก เป็นเรื่องปกติที่เจ้าจะมีข้อสงสัยเช่นนี้เพราะเจ้าไม่เข้าใจ”

“ตัวอย่างเช่น หากเจ้ายังคงเป็นมนุษย์ในโลกมนุษย์และมีคนบอกเจ้าว่ามีเซียนกระบี่ที่ไม่มีใครเทียบได้ในโลกนี้ที่สามารถบดขยี้ดวงดาวได้ด้วยการแทงกระบี่เพียงครั้งเดียว เจ้าจะเชื่อเขาไหมล่ะ?”

ซูลั่วเฉินพูดช้าๆ

จู่ๆ เย่ปิงก็รู้แจ้งจากคำพูดของเขา

ใช่แล้ว หลายสิ่งหลายอย่างอาจดูเหมือนเป็นไปไม่ได้ในตอนแรก เพียงเพราะมีสิ่งหนึ่งไม่สามารถบรรลุเป้าหมายเหล่านั้นได้ นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าคนอื่นๆ ในโลกจะไม่สามารถบรรลุเป้าหมายได้เช่นกัน.

เย่ปิงพูดทันที “ขอบคุณสำหรับการคลายข้อสงสัยของข้า ศิษย์พี่ ข้าเป็นคนใจแคบเกินไปนิดหน่อยขอรับ.”

เขาเข้าใจมันอย่างสมบูรณ์ ในความเป็นจริง เขารู้สึกละอายใจเพราะไม่เคยคิดว่าสักวันหนึ่งเขาจะใจแคบเช่นนี้.

“อย่าโทษตัวเองเลย.” ซูลั่วเฉินพูดต่อด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน

“เคล็ดลับของสิ่งที่เรียกว่ายาเม็ดไม่มีพิษนั้นอยู่ที่ความจริงที่ว่าไม่จำเป็นต้องใช้สมุนไพร น้องเล็ก ศิลปะการปรุงยาเป็นเพียงสามขั้นตอนเท่านั้น. รวบรวมสมุนไพร กลั่นด้วยเปลวไฟวิญญาณ และในที่สุดก็ทำยาขึ้นมาด้วยพลังเต๋า”

“แล้วแก่นแท้ของสมุนไพรคืออะไร?”

ซู ลั่วเฉิน มองไปที่ เย่ ปิงและถามคำถามนั้นกับเขาอย่างจริงจัง.

'แก่นแท้ของสมุนไพรคืออะไร?'

เย่ปิงขมวดคิ้วในขณะที่เขาไม่รู้ว่าจะตอบคำถามนี้อย่างไร.

เมื่อเห็นว่าเย่ปิงลังเลเกี่ยวกับคำตอบของเขา ซูลั่วเฉินก็พูดขึ้นมาอีกครั้ง.

“แก่นแท้ของสมุนไพรคือพลังวิญญาณยังไงล่ะ.”

“สมุนไพรทุกชนิดเติบโตในสถานที่ที่มีพลังวิญญาณ ดังนั้นสมุนไพรจึงเป็นอีกรูปแบบหนึ่งของการควบแน่นของพลังวิญญาณ”

“แต่ทำไมสมุนไพรถึงมีสารพิษล่ะ? เป็นเพราะพลังวิญญาณไม่มีสิ่งเจือปนและถือเป็นสิ่งที่บริสุทธิ์ที่สุดในโลก แต่เมื่อพวกมันโตขึ้น พวกมันก็จะแปดเปื้อนไปด้วยธาตุทั้งห้าของโลกและก่อตัวเป็นพลังงานสกปรก ซึ่งส่งผลให้เกิดการรวมตัวของสารพิษ”

“ดังนั้น เพื่อปรับแต่งยาที่ไม่เป็นพิษ เจ้าต้องเลิกใช้สมุนไพรและเข้าใจพลังวิญญาณของสวรรค์และโลกโดยตรง จากนั้นจึงทำยาขั้นสูงสุดด้วยพลังเต๋าสูงสุด. เจ้าเข้าใจไหม?”

ซู ลั่วเฉิน มีคารมคมคายและสอดคล้องกันในคำพูดของเขา.ประโยคสุดท้ายของเขาก็เหมือนกับระฆังขนาดใหญ่ที่ดังก้องอยู่ในสมองของ เย่ ปิง.

'เข้าใจพลังงานจิตวิญญาณของสวรรค์และโลกโดยตรง จากนั้นทำยาขั้นสูงด้วยพลังเต๋าสูงสุด?'

นี่แหละ!

นี่แหละ!

นี่แหละ!

ก่อนหน้านี้ เย่ปิงสงสัยจริง ๆ ว่า ซู ลั่วเฉิน กำลังหลอกเขา แต่หลังจากได้ยินทฤษฎีนั้น เย่ปิงก็เข้าใจทันที.

เขาไม่สงสัยอะไรอีกต่อไปเพราะทฤษฎีนี้ฟังดูสมเหตุสมผลอย่างยิ่ง.

'สมบัติในโลกแห่งการฝึกฝนเซียนมีอะไรอยู่ด้านในบ้าง?'

'พลังจิตวิญญาณยังไงล่ะ.'

ดังนั้นสิ่งที่ ซู ลั่วเฉิน พูดก็ถูกต้อง.

สมุนไพรเป็นเพียงพลังวิญญาณอีกรูปแบบหนึ่ง.

สาเหตุของสารพิษในสมุนไพรก็คือพวกมันได้รับความเสียหายจากพลังงานของธาตุทั้งห้าของโลก.

นั่นคือความแตกต่างระหว่างคุณสมบัติที่แปดเปื้อนและคุณสมบัติที่ได้รับมาหลังการเกิด.

ตัวอย่างเช่น ทารกในครรภ์มีร่างกายที่บริสุทธิ์.

แต่เมื่อเกิดมาก็จะกลายเป็นร่างที่แปดเปื้อนทันที.

เว้นเสียแต่ว่าเด็กจะไม่หายใจ กิน ดื่ม หรือแปดเปื้อนจากธาตุทั้งห้า ก็จะถือว่าร่างที่บริสุทธิ์ แต่สิ่งเหล่านั้นมันเป็นไปไม่ได้.

ทฤษฎีของ ซู ลั่วเฉิน อาจดูซับซ้อนมาก แต่เมื่อ เย่ ปิงคิดอย่างรอบคอบ เขาก็ตระหนักว่ามันง่ายมาก.

ยากลั่นด้วยพลังจิตวิญญาณของโลก.

ยาดังกล่าวโดยธรรมชาติแล้วไม่มีพิษเพราะไม่ได้ปรุงด้วยสมุนไพร แต่เป็นพลังวิญญาณของโลก.

"ข้าเข้าใจแล้วขอรับ."

เย่ปิงเชื่อมั่นในตัวซูลั่วเฉินอย่างสมบูรณ์

ความสงสัยในใจเขาก็หายไปทันทีเช่นกัน

"ดีดีมาก. น้องเย่ปิง เมื่อเจ้าเข้าใจแล้ว ให้เขียนขั้นตอนการกลั่นยาไม่มีพิษของเจ้าลงในหนังสือเล่มนี่เสียและทำความเข้าใจให้ดี เมื่อเจ้าทำยาขึ้นมาได้แล้วให้มาพบข้า”

หลังจากพูดอย่างนั้น ซู ลั่วเฉิน ก็ยื่นหนังสือให้ เย่ ปิง.

“ขอบคุณสำหรับการสอนของศิษย์พี่มากขอรับ.”

เย่ปิงคว้าหนังสือยามาอย่างเคร่งขรึม ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้น

'วิธีการกลั่นยาไร้พิษ'

'ถ้าข้าเชี่ยวชาญศิลปะการปรุงยานี้ ข้าก็จะได้ไม่ต้องกังวลเรื่องผลข้างเคียงตอนกินยาเพื่อปรับแต่งพลังปราณสินะ?’

“น้องเล็ก เจ้ามีข้อสงสัยอะไรอีกหรือไม่? หากเจ้ามี ก็อย่าลังเลที่จะกล่าวมันออกมา.”

ซู ลั่วเฉิน กล่าวหลังจากส่งคัมภีร์ลับให้ เย่ ปิง.

ถ้าไม่มีอะไรแล้วเขาก็จะออกไปก่อน.

ทว่าเย่ปิงกลับมีข้อสงสัย.

“ศิษย์พี่ ข้ามีคำถามขอรับ. โปรดให้ความกระจ่างแก่ข้าด้วย”

"อะไรล่ะ?"

“ศิษย์พี่ ผู้ที่ไม่ใช่ผู้ฝึกตนสามารถกินยาปรับแต่งพลังปราณ ได้หรือไม่ขอรับ?”

เย่ปิงถามด้วยความอยากรู้อยากเห็นราวกับแมว.

'ผู้ที่ไม่ใช่ผู้ฝึกตนสามารถกินยาปรับแต่ง พลังปราณ ได้หรือไม่'

ซู ลั่วเฉิน ให้คำตอบที่แน่ชัดได้โดยไม่ต้องคิดเลย.

“ยาปรับแต่งพลังปราณเป็นอาหารเสริมที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ฝึกตน ทว่า สำหรับผู้ที่ไม่ฝึกตนแล้ว เม็ดยาจะไม่ส่งผลใดๆ เลย. อย่างมากก็คงช่วยให้คนคนหนึ่งสามารถเติบโตเส้นลมปราณวิญญาณได้”

สิ่งที่ ซู ลั่วเฉิน พูดนั้นเป็นเรื่องที่รู้กันดี.

ยาปรับแต่ง พลังปราณ จะไม่เป็นพิษหรือเป็นอันตรายต่อมนุษย์ที่ไม่ได้อยู่ในขั้นปรับแต่งพลังปราณ ผลกระทบแทบจะไม่แสดงออกมา. มันสามารถใช้เพื่อปลุกเส้นลมปราณวิญญาณให้เติบโตได้เท่านั้น มีเพียงบางสำนักหลักหรือตระกูลผู้ฝึกตนเท่านั้นที่จะทำเช่นนั้น.

เพราะถึงยังไงยาปรับแต่งพลังปราณ แต่ละเม็ดก็มีราคาแพง ใครจะใช้มันเพื่อปลูกเส้นลมปราณวิญญาณกัน?

“ข้าเข้าใจแล้ว ขอบคุณสำหรับคำแนะนำของเจ้าศิษย์พี่ขอรับ.”

เย่ปิงพยักหน้า เขาพอจะเข้าใจบ้างแล้ว.

ทว่าในไม่ช้า ซู ลั่วเฉิน กล่าวต่อว่า “หากยังมีบางสิ่งที่เจ้าไม่เข้าใจในภายหน้า เจ้าสามารถไปที่ จวนพระสูตรเพื่ออ่านคัมภีร์ลับและหนังสือเกี่ยวกับการปรุงยา คำตอบส่วนใหญ่สำหรับคำถามของเจ้ามีอยู่ในหนังสือ.”

ซู ลั่วเฉิน เตือนเขาด้วยความกรุณา

แม้ว่าจะมีหนังสือไม่มากนักในจวนพระสูตรของสำนัก แต่ก็มีหนังสือพื้นฐานค่อนข้างมาก และคำตอบส่วนใหญ่สามารถพบได้ในหนังสือเหล่านั้น. มันจะช่วยป้องกันไม่ให้เย่ปิงจมอยู่กับปัญหาเล็กๆ น้อยๆ แบบนั้น.

จู่ๆ เย่ปิงก็เข้าใจจากคำพูดของเขา.

ในช่วงเวลานี้ เขาใช้เวลามากเกินไปในการทำความเข้าใจรอยกระบี่ มากจนลืมเกี่ยวกับจวนพระสูตรไป.

เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ เย่ปิงก็ขอบคุณ ซู ลั่วเฉิน ทันทีอีกครั้ง.

“เอาล่ะ ข้าจะไม่รบกวนเจ้าแล้ว. ศิษย์น้องเย่ปิง เรียนรู้การปรุงยาให้ดี เมื่อเจ้าทำยาได้แล้ว ก็มาหาข้า อย่าตกใจถ้าเจ้าทำไม่ได้ เพราะถึงยังไงเต๋าก็มีอยู่ 3,000 ประเภท”

หลังจากเตือนครั้งสุดท้าย ซู ลั่วเฉิน ก็จากไปอย่างมีความสุข.

'ดูซะ นี่แหละการเป็นอาจารย์.'

'ดูซะว่า การถ่ายทอดความรู้มันเป็นอย่างไร'

'มองข้าสิ.'

'มองพี่รองซะสิ'

'อ่า เขาใจร้อนเกินไป'

'เขาจะสืบทอดตำแหน่งเจ้าสำนักในภายหน้าได้อย่างไร'

'ข้าควรจะแข่งขันกับเขาเพื่อชิงตำแหน่งในภายหน้าดีหรือไม่นะ'

ซูลั่วเฉินอารมณ์ดีมาก. เขาถึงกับเริ่มคิดว่าควรจะแข่งขันกับซูชางหยูในตำแหน่งเจ้าสำนักดีหรือไม่.

ในขณะนี้ เย่ปิงเริ่มดูคัมภีร์ลับการปรุงยาที่ไม่มีพิษบนหน้าผา.

5 1 โหวต
Article Rating
1 Comment
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด