ตอนที่ 29 อิซานางิ
หลังจากปล่อยปล่อยวิญญาณคำสาปเพื่อทำลายอีกาของเมเม เคยจาคุก็มองไปทางโรงงานด้วยความสงสัย
“เจ้าเด็กนั่นไม่โดนมาฮิโตะเปลี่ยนวิญญาณหรอ? นี่มันน่าสนใจจริงๆ”
ตอนที่มือของมาฮิโตะสัมผัสกับมือของโกโจ คาเอเดะ เคนจาคุคิดว่าการต่อสู้นั้นจบลงแล้ว
โกโจ คาเอเดะจะต้องโดนมาฮิโตะจับได้แน่นอน
แต่ใครจะคาดคิด พลังของมาฮิโตะไม่ได้ถูกสำแดงออกมา แต่ทั้งกลับยืนค้างอยู่อย่างนั้น
และเมื่อทั้งสองขยับตัวอีกครั้ง ก็กลายเป็นโกโจ คาเอเดะที่ต่อยมาฮิโตะทะลุหลังคาโรงงานไป
“หัวหน้าหน่วยที่10จาก13หน่วยพิทักษ์แห่งเซย์เรย์เทย์ เขาดูเป็นคนที่แข็งแกร่ง ดูเหมือนว่าจะประมาทเซย์เรย์เทย์ไม่ได้แล้วสิ”
หลังจากพึมพำ เคนจาคุก็รอดูผลลัพธ์จากนอกโรงงานอย่างเงียบ ๆ
ขณะนี้ภายในโรงงาน
เมื่อโกโจ คาเอเดะและมาฮิโตร่วงลงไปในโรงงานด้วยกัน เขาก็พูดกับระบบทันที
“เช็คอินเลย!”
"ติ๊ง - ขอแสดงความยินดีกับโฮสต์ที่เช็คอินสำเร็จ รางวัลคือของใช้แล้วทิ้ง 'อิซานางิ' "
"ติ๊ง - ขอแสดงความยินดีกับโฮสต์ที่เช็คอินสำเร็จ รางวัลคือแม่แบบตัวละคร 'เอส' "
หลังจากได้ยินของรางวัลจากการเช็คอิน โกโจ คาเอเดะก็ดีใจแบบสุดๆ
"ต้องงี้สิวะ การทำงานหนักของฉันไม่สูญเปล่าจริงๆ"
อิซานางิเป็นวิชาที่มีผู้ใช้เนตรวงแหวนเท่านั้นที่จะใช้ได้ในโลกของนารูโตะ
มันเป็นวิชาที่ทำให้ผู้ใช้นั้นรอดพ้นจากความตายได้ แต่ต้องแลกกับเนตรวงแหวนบอด
ในช่วงระยะเวลาที่ทักษะนี้ทำงาน ผู้ใช้สามารถพลิกสถานการณ์การต่อสู้ได้ หรือเปลี่ยนการตายของตนให้เป็นเพียงความฝันได้
ซึ่งอิซานางิที่โกโจ คาเอเดะได้รับเป็นแบบใช้ได้ครั้งเดียว และจะมีผลเป็นระยะเวลา5นาที
กล่าวอีกนัยหนึ่งคือตราบใดที่เขาใช้ไอเทมนี้ เขาจะอยู่ยงคงกระพันเป็นเวลาห้านาที
รางวัลอีกอย่างคือแม่แบบตัวละคร เอซ
นี่เป็นตัวละครที่น่าเศร้าจากโลกของวันพีซ เขาคือผู้ที่กินผลปีศาจเมระเมระและกลายเป็นมนุษย์เพลิง
เมื่อโกโจ คาเอเดะเปิดใช้งานแม่แบบแล้ว เขาจะสามารถใช้พลังทั้งหมดของเอซได้โดยตรง
และเมื่อไม่ได้ใช้งานแม่แบบ คำสาปที่ว่าห้ามโดนน้ำทะเลของผู้ใช้ผลปีศาจก็จะไม่มีผลต่อเขา
ดังนั้นรางวัลแม่แบบตัวละครจึงมีประโยชน์และไม่เป็นอันตราย
"โฮกกก--"
ในขณะที่โกโจ คาเอเดะยังคงมองดูรางวัลของระบบอย่างมีความสุข วิญญาณคำสาประดับพิเศษที่เพิ่งเกิดใหม่ก็ค้นพบทั้งสองที่พึ่งเข้าไปในอาณาเขตของมันทันที
และส่งเสียงร้องคำรามออกมา
“ให้ตายเถอะ การโจมตีเข้าถึงวิญญาณเลยหรอ? ศัตรูตามธรรมชาติกันชัดๆ!”
ความทรงจำของมาฮิโตะถูกปรับเปลี่ยนโดยโกโจ คาเอเดะเรียบร้อยแล้ว
ดังนั้นตามความเข้าใจของเขา โกโจ คาเอเดะแค่มีพลังในการป้องกันวิญญาณเท่านั้น ทำให้เขาไม่สามารถปรับเปลี่ยนวิญญาณโกโจ คาเอเดะไม่ได้
แถมตอนนี้ยังโจมตีวิญญาณเขาได้อีก ทำให้มาฮิโตะเริ่มกลัวเล็กน้อย (ฮาคิเกราะถูกระบบปรับให้โจมตีวิญญาณเข้า จะได้ปัดเป่าคำสาปได้)
ถึงยังไงในตอนนี้ เขาก็เป็นแค่วิญญาณคำสาปที่พึ่งเกิด
เพราะร่างเขาเป็นวิญญาณ ทำให้ผู้ใช้คุณไสยปัดเป่าเขาได้ยาก ไม่อย่างนั้นผู้ใช้คุณไสยระดับ1 ก็เพียงพอที่จะปัดเป่าเขาได้ (ในเนื้อเรื่องคือการโจมตีกายภาพไม่มีผลกับมาฮิโตะ แต่ในนี้เขียนว่ามาฮิโตะเป็นร่างวิญญาณ อันนี้ผมก็ไม่แน่ใจว่ามันใช่ไหมแต่จะแปลตามนี้ไปก่อนนะครับ)
“เจ้าหนู หลังจากที่ฉันกางอาณาเขตได้แล้ว ฉันจะมาชำระบัญชีแค้นนี้กับแก”
มาฮิโตะตัดสินใจออกไปจากที่นี่
เขาเปลี่ยนร่างวิญญาณอย่างรวดเร็วและวิ่งออกไปทางประตูโรงงาน (มาฮิโตะเปลี่ยนร่างได้ เผื่อใครลืม)
แม้ในโรงงานตอนนี้จะกลายเป็นอาณาเขตของวิญญาณคำสาปที่พึ่งเกิดก็ตาม แต่มันยังคงง่ายมากที่จะออกไป เพราะมันเป็นแค่อาณาเขตที่ยังไม่สมบูรณ์
โกโจ คาเอเดะที่เห็นมาฮิโตะวิ่งหนีไปแล้วก็ไม่ได้คิดจะวิ่งตามไป
แม้ว่าด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบันของเขา การฆ่ามาฮิโตะนั้นไม่ใช่เรื่องเหนือบ่ากว่าแรงเลย
เพราะด้วยพลังของหัตถ์คู่ผันแปร มาฮิโตะจะถูกเขาจัดการได้อย่างง่ายดาย
แต่เขาแค่ไม่รู้ว่าเคนจาคุจะมาไม้ไหนอีกถ้าเสียมาฮิโตะไป
ดังนั้น แทนที่จะมาฮิโตะ ปล่อยให้มันอยู่ต่อเพราะเขาสามารถรับมือมันได้อยู่แล้ว
"โฮกกกก—"
แต่แม้โกโจ คาเอเดะจะปล่อยมาฮิโตะไป แต่เหมือนวิญญาณคำสาปที่พึ่งเกิดจะไม่อยากปล่อยไปเท่าไหร่
หลังจากคำรามด้วยความโกรธ คลื่นพลังคำสาปอันน่าสะพรึงกลัวก็ปรากฏออกมาบนมือของมัน
ฟิ้วว (เสียงคำสาปปล่อยพลังออกไป)
แต่มาฮิโตะไม่ได้มีเจตนาจะหลบการโจมตีของคำสาป
บู้ม!
พลังอันน่าสะพรึงกลัวกระทบกับมาฮิโตะแบบเต็มๆ
ร่างของเขากระแทกเข้ากับผนังจนเป็นรู ร่างกายของมาฮิโตะตอนนี้เสียทรงไปหมดแล้ว
"โฮกกก—"
เมื่อวิญญาณคำสาปเห็นผลลัพธ์ของการโจมตี มันก็ส่งเสียงคำรามด้วยความตื่นเต้น
จากนั้นสายตาของมันก็ค่อยๆเลื่อนไปที่โกโจ คาเอเดะ
แต่มันไม่รู้ว่าการโจมตีธรรมดาของมันนั้นทำอะไรมาฮิโตะไม่ได้
มาฮิโตะค่อยๆกลายเป็นของเหลว ก่อนจะประกอบกันขึ้นมาใหม่เป็นรูปลักษณ์เดิม
"ครั้งหน้าฉันจะฆ่าแกแน่!"
หลังจากพูดออกมาด้วยรอยยิ้มโหดเหี้ยม มาฮิโตะก็เดินจากไป
เมื่อมันเห็นว่ามาฮิโตะหนีไปแบบนั้น วิญญาณคำสาปก็เหมือนทำของเล่นชิ้นโปรดหาย มันคำรามด้วยความโกรธ
มันยกมือขึ้นเตรียมปลดปล่อยพลังอีกครั้ง
คราวนี้เป้าหมายกลายเป็นโกโจ คาเอเดะแทน
“ไม่ได้สู้กับคำสาประดับพิเศษมานานแค่ไหนแล้วนะ งั้นมาลองพลังฮอลโลว์ที่พึ่งได้รับเมื่อไม่นานมานี้ดีกว่า”
เมื่อเผชิญหน้ากับวิญญาณคำสาประดับพิเศษตัวนี้ โกโจ คาเอเดะไม่ได้ให้ความสำคัญกับมันมากนัก
เขาหลบการโจมตีของมันอย่างง่ายดาย
จากนั้นก็ใช้มือขวาลูบหน้า หน้ากากกระดูกที่มีลวดลายสีดำก็ปรากฏขึ้นและปกคลุมใบหน้าของโกโจ คาเอเดะ
บัซซซ
เมื่อหน้ากากกระดูกปกคลุมใบหน้าของโกโจ คาเอเดะ ออร่าอันน่าเกรงขามก็ระเบิดออกมาจากร่างของโกโจ คาเอเดะทันที
แรงดันวิญญาณที่ปลดปล่อยออกมาทำให้วิญญาณคำสาปกลัวจนไม่กล้าขยับเลย
มันเดินถอยไปจนถึงมุมของโรงงาน มองโกโจ คาเอเดะด้วยความหวาดกลัว
“อืมม เป็นพลังที่แข็งแกร่งมาก แต่ดูเหมือนจะใช้พลังฮอลโลว์บ่อยไม่ได้ มันกินพลังเกินไป”
หลังจากใช้พลังฮอล์โลว์ โกโจ คาเอเดะก็สัมผัสได้ถึงความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้นหลายเท่าทันที
แต่มันก็กินพลังในร่างกายมากเช่นกัน
ถ้าเกิดไม่มีพลังสำรองของเบียคุโก คงใช้พลังฮอลโลว์ได้ไม่นาน
"งั้นลองสักท่าดีกว่า"
พลังฮอลโลว์ไม่เพียงแต่เพิ่มความแข็งแกร่งเท่านั้น แต่ยังมีท่าโจมตีของฮอลโลว์ด้วย
โกโจ คาเอเดะยกนิ้วขึ้นมาชี้ไปที่คำสาปที่อยู่ไม่ไกล
"เซโร่!"
หวืดดด
พลังอันน่าสะพรึงยิงใส่วิญญาณคำสาปจนพื้นที่บริเวณนั้นระเบิดเละทะไปหมด
เคนจาคุที่กำลังพามาฮิโตะหนีก็หันกลับมามอง
"เป็นพลังที่รุนแรงจริงๆ! เซย์เรย์เทย์ ประมาทไม่ได้จริงๆ"