ตอนที่ 28 โจมตีมาฮิโตะ
"เจอแล้ว อยู่นั่นไง"
บนภูเขาใกล้ๆกับโรงงานร้างที่โกโจ คาเอเดะอยู่ มาฮิโตะและเคนจาคุก็สัมผัสได้ถึงครรภ์คำสาปที่อยู่ในโรงงานและดูดซับพลังคำสาปรอบๆอยู่
"เจ้าเด็กผมขาวนั่นนะหรอ? แต่แปลกนะ สัมผัสถึงพลังคุณไสยไม่ได้เลย"
มาฮิโตะไม่ได้สนใจในคำสาประดับพิเศษ เขาเป็นวิญญาณคำสาปพิเศษที่เกิดจากอารมณ์เชิงลบของมนุษย์
ดังนั้นฉันจึงสนใจในตัวของมนุษย์มากกว่า
"ก็ดูแปลกๆอยู่นะ ไม่แน่ว่—"
ก่อนที่เคนจาคุจะพูดจบ เขาก็สัมผัสได้ถึงความรู้สึกที่ถูกสอดแนมอีกครั้งเหมือนคราวก่อน
“เขาเจอพวกเราแล้วล่ะ”
หลังพูดจบ เคนจาคุก็พึมพัมกับตัวเอง
“แสดงว่าคราวก่อนคนที่จับตาดูฉันคือเขาสินะ คิดถูกจริงๆที่มาในวันนี้”
เมื่อได้ยินคำพูดของเคนจาคุ มาฮิโตะก็ยิ้มอย่างชั่วร้าย
"ก็ดีเลยสิ ฉันเองก็ไม่ได้อยากหลบซ่อนซะด้วย"
หลังจากพูดจบ มือของมาฮิโตะก็กลายเป็นปีก จากนั้นก็บินไปทางโรงงานร้างทันที
โกโจ คาเอเดะตอนนี้ลุกขึ้นยืนแล้ว เขาตื่นตัวอยู่เสมอและสัมผัสได้ถึงการปรากฏตัวของทั้งคู่แต่แรก
“ทำไมสองคนนี้ถึงมาที่นี่?”
โกโจ คาเอเดะแปลกใจเล็กน้อยกับการมาถึงของทั้งสองคน เพราะเขาคิดว่าแขกที่มาเยือนน่าจะเป็นพวกผู้ใช้คุณไสยมากกว่า
แต่กลายเป็นว่าวิญญาณคำสาปดันมาก่อนผู้ใช้คุณไสยซะได้
"แต่ก็ไม่เป็นไร ขอแค่ไม่ใช่โกโจ ซาโตรุก็พอ"
เพราะถ้าไม่ใช่โกโจ ซาโตรุ เขาก็มีดีพอที่จะต่อกรกับวิญญาณคำสาปพวกนี้
นอกจากนี้ ด้วยการมาถึงของคำสาประดับพิเศษทั้งสองนี้ รางวัลจากการเช็คอินจะต้องดีขึ้นอย่างแน่นอน
ขณะที่โกโจ คาเอเดะกำลังคิดอยู่ มาฮิโตะก็มาถึงหลังคาโรงงานแล้ว
เขาพูดด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มว่า
“มานอนที่นี่ในเวลาแบบนี้ ระวังจะเจอคนไม่ดีเอานะจ๊ะ”
แน่นอนว่าโกโจ คาเอเดะไม่ได้กังวลเกี่ยวกับพลังของมาฮิโตะเลย
หนึ่งเพราะเขามีหัตถ์คู่ผันแปร และแถมมาฮิโตะก็พึ่งเกิดได้ไม่นาน
ดังนั้นเขาน่าจะยังไม่เชี่ยวชาญพลังของตัวเองอย่างเต็มที่
ทำให้มาฮิโตะไม่ได้อันตรายมากนักสำหรับเขา
"คนเลวหรอ? ฉันนี่แหละคนเลวน่ะ"
โกโจ คาเอเดะหันกลับมาแล้วพูดด้วยรอยยิ้มที่สงบนิ่ง
และขณะที่โกโจ คาเอเดะพูดจบ มาฮิโตะก็เข้ามาใกล้และจะเอามือมาแตะตัวเขา
แต่โกโจ คาเอเดะเอามือตัวเองมาขวางไว้
ส่วนเคนจาคุที่มองจากระยะไกลและเห็นมือของมาฮิโตะสัมผัสกับมือของโกโจ คาเอเดะก็เผยรอยยิ้มแห่งชัยชนะก่อนจะตะโกนออกไป
“อย่าพึ่งทำอะไรมากนะ ยังต้องสอบสวนเขาก่อน!”
ในขณะเดียวกัน เมเมที่มาทำภารกิจพร้อมกับอุ้ยอุ้ย น้องชายของเธอก็อยู่ไม่ไกลจากโรงงานร้างแล้ว
"กลิ่นอายคำสาปดูรุนแรงจริงๆ ตรวจสอบจากระยะไกลก่อนแล้วกัน"
รอยยิ้มจางๆปรากฏขึ้นที่มุมปากของเมเม
เธอเปิดใช้พลังของเธอทันที ควบคุมอีกาให้บินเข้าไปบริเวณโรงงานและรับรู้วิสัยทัศน์ผ่านอีกาเพื่อสำรวจรอบโรงงาน
“เจ้าเด็กผมขาวคือเป้าหมายของภารกิจ แต่วิญญาณคำสาปอันน่าขนลุกที่อยู่ด้านข้างเป็นใคร? แถมยังมีครรภ์คำสาปอยู่ในโรงงานร้างด้วย ตกลงพวกมันตั้งใจจะทำอะไรกันแน่?”
เมเมที่เห็นสถานการณ์รอบๆโรงงานก็สงสัยเป็นอย่างมากว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ จึงตัดสินใจรอดูไปก่อน
"นายอยากปรับเปลี่ยนจิตวิญญาณของฉันหรอ?"
โกโจ คาเอเดะมองดูมาฮิโตะที่ตอนนี้หยุดยิ้มแล้ว
"นายรู้พลังของฉันหรอ?"
มาฮิโตะถามด้วยความประหลาดใจ
ตอนแรกหลังจากที่เขาได้แตะมือกับโกโจ คาเอเดะ เขาก็คิดว่าเขาชนะแล้ว
และเขาต้องการจะเปลี่ยนจิตวิญญาณของโกโจ คาเอเดะ
แต่เขาก็ต้องประลหาดใจเมื่อพบว่าพลังของเขาเหมือนถูกกีดกันด้วยบางอย่าง ทำให้เขาไม่สามารถทำอะไรโกโจ คาเอเดะได้
แน่นอนว่าสิ่งที่กีดกันพลังของมาฮิโตะคือพลังของหัตถ์คู่ผันแปร
“ฉันจำเป็นต้องรู้พลังปัญญาอ่อนแบบนั้นรึไง?”
หลังจากที่โกโจ คาเอเดะพูดอย่างดูถูกเหยียดหยาม ทันใดนั้นมือของเขาที่แตะกับมือของมาฮิโตะอยู่ก็เปล่งแสงสีน้ำเงิน
บัซ
มาฮิโตะรู้สึกเหมือนถูกฟ้าผ่า ร่างกายของเขาชักกระตุกไปมา
ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความช็อก
แต่หลังจากนั้นไม่นาน ดวงตาของเขาก็ค่อยๆหม่นหมองไปเหมือนกับศพ
ตอนนี้โกโจ คาเอเดะกำลังมองผ่านความทรงจำของมาฮิโตะ
แต่น่าเสียดายที่มาฮิโตะพึ่งเกิดมาได้ไม่นาน
ความทรงจำในจิตวิญญาณของเขาไม่มีอะไรมากมายเลย
ส่วนความทรงจำที่ลึกลงไปนั้น มันคืออารมณ์เชิงลบของมนุษย์ที่ให้กำเนิดเขาขึ้นมา
แต่โกโจ คาเอเดะไม่ได้ชอบดูความทรงจำน่าสะอิดสะเอียนแบบนั้น
หลังจากเรียกดูความทรงจำจากวิญญาณของมาฮิโตะในระยะเวลาสั้นๆแล้ว โกโจ คาเอเดะก็รู้แล้วว่าเคนจาคุตามหาเขาทำไม
"อย่าพึ่งเปิดเผยความสามารถนี้ แก้ไขความทรงจำก่อนแล้วกัน"
ขณะที่โกโจ คาเอเดะกำลังแก้ไขความทรงจำนั้น พลังคำสาปในโรงงานร้างก็ปะทุขึ้นทันที
คำสาประดับพิเศษเกิดขึ้นอย่างเป็นทางการ
“ถึงเวลาเช็คอินแล้ว!”
หลังจากสัมผัสได้ถึงการกำเนิดของวิญญาณคำสาประดับพิเศษ โกโจ คาเอเดะก็แสดงรอยยิ้มตื่นเต้นออกมา
เขากำหมัดขวาและเคลือบฮาคิเกราะ
และต่อยอย่างดุเดือดไปที่หน้าของมาฮิโตะที่กำลังฟื้น
ปัง!
แรงมหาศาลทุบหลังคาโรงงานโดยตรง ทำให้ทั้งสองคนตกลงไปในโรงงานร้าง
เมื่อมองจากด้านนอก จะไม่เห็นฉากภายในโรงงานผ่านหลังคาที่เป็นรู
แต่กลับกัน ข้างในโรงงานตอนนี้มีกำแพงคำสาปล้อมรอบเอาไว้
"นี่คืออาณาเขตที่ยังไม่สมบูรณ์หรอ?"
เมเมที่เฝ้าดูสถานการณ์ผ่านอีกาขมวดคิ้ว
อาณาเขตเป็นเรื่องยากต่อผู้ใช้คุณไสยที่ไม่มีอาณาเขต
พัพ
เมื่อเมเมต้องการจะสังเกตเพิ่มเติม อีการที่ใช้สังเกตของเธอก็ตายไปแล้ว
"อืมม สถานการณ์ตอนนี้ไม่ปกติ ฉันไม่ควรลงมือคนเดียว"
เมื่อถูกบังคับให้ต้องถอนพลังคุณไสยของเธอออก เมเมก็หันกลับมาพูดกับอุ้ยอุ้ยว่า
"ถอยกันก่อน"
หลังจากได้ยินคำพูดของเมเม อุ้ยอุ้ยก็ไม่ได้พูดอะไรเลย แต่ถือกระเป๋าแล้วตามเธอไปแบบเงียบๆ