ตอนที่ 1524 ช่องว่าง..
ภายใต้การยืนกรานของ เว่ย เทียนเฉิง งานแถลงข่าวของ วั่นกู่ กรุ๊ป จึงถูกจัดขึ้นตามกำหนด
ไม่เพียงแต่ เว่ย เทียนเฉิง จะเข้าร่วมด้วยตัวเอง แต่ยังรวมถึง โจว อีเหว่ย ประธานของ แบล็ค ไอร่อน กรุ๊ป ก็เข้าร่วมด้วย ตามกําหนดการเดิมนอกเหนือจากการถ่ายทอดสดแล้ว ยังได้มีการเชิญนักข่าวจากสื่อต่างๆ ให้เข้ามาร่วม และมีการจัดเตรียมความพร้อมสำหรับข่าวที่จะประกาศรายงานออกไป
อย่างไรก็ตาม.. งานแถลงข่าวครั้งนี้กลับไม่ได้กระตุ้นให้เกิดเป็นกระแสใดๆ ขึ้นเลย!
ทั้งมันยังไม่สามารถดึงดูดความสนใจจากโลกภายนอกได้มากนัก
เมื่อเทียบกับฉากที่ได้รับความนิยมไปอย่างล้นหลามของ หยงจิ่ว กรุ๊ป ที่เพิ่งระเบิดขึ้นเมื่อวานนี้ ที่นี่.. มันกลับดูรกร้างเกินไปด้วยซ้ำ
ภายใต้การโฆษณาชวนเชื่ออย่างเข้มข้นของ วั่นกู่ จึงได้รับความสนใจจากโลกภายนอก แต่เมื่อผู้คนเปรียบเทียบแผนของ วั่นกู่ กับหยงจิ่ว พวกเขาต่างพากันเยาะเย้ย วั่นกู่ ไปในทันที..
“เมื่อเทียบกับ หยงจิ่ว กรุ๊ป ถามหน่อยนี่สามารถเรียกได้ว่า เมตาเวิร์ส?”
“เฮ้.. นี่คือกำลังมองว่าพวกเราเป็นคนโง่?”
“ฮ่าฮ่าๆ วิ่งตามกระแสเร็วขนาดนี้ ดังนั้นพวกคุณจึงคิดว่า.. สามารถลอกเลียนแบบคนอื่นได้!”
“ไร้สาระจริง! หยงจิ่ว เพิ่งประกาศออกไปเมื่อวาน แล้ว.. พวกแกก็ประกาศตาม?”
“ฮ่าฮ่าๆๆ แม้ว่าความกล้าหาญนั้นจะน่ายกย่อง แต่นี่มันก็ดูออกจะน่าอายหน่อยๆ นะ…”
ผู้คนพากันเยาะเย้ยแผนโครงการเมตาเวิร์สของ วั่นกู่ กรุ๊ป
แน่นอนว่าพวกเขาไม่สามารถตําหนิสาธารณชนได้ เพราะเมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว ช่องว่างนั้นมันกลับชัดเจนเกินไป ร่างที่ใหญ่โตของ หลินฟาน เมื่ออยู่ข้างหน้า ..วั่นกู่ ก็กลับดูเล็กลงไปทันที
ตามแผนเดิม วั่นกู่ จะประกาศเข้าสู่เมตาเวิร์ส และเปิดตัวผลิตภัณฑ์ตัวแรกของโครงการเมตาเวิร์ส ในชื่อ ‘กู่เหยิ่ง (古壤, อาณาจักรโบราณ)’
กู่เหยิ่ง เป็นโลกเสมือนจริงที่ผู้คนสามารถเข้าไปในอาณาจักรโบราณนี้ได้ผ่านอุปกรณ์ VR เพื่อที่จะได้ดื่มด่ำไปกับมัน…
มันฟังดูลึกลับมาก แต่จริงๆ แล้ว หากให้พูดตามตรง นี่มันก็คือสิ่งที่เทคโนโลยีในปัจจุบันสามารถบรรลุได้ อีกทั้งมันก็ไม่ได้ให้ความรู้สึกที่ว่า แปลกใหม่อะไร..
สิ่งนี้แตกต่างจากส่วนต่อประสานสมองกับคอมพิวเตอร์ที่ หลินฟาน ได้พรรณนาในการเข้าสู่โลกเสมือนจริง ..อย่างมาก
ตามก้อนเค้กที่ หลินฟาน วาดไว้ โลกเสมือนจริงได้ถูกสร้างขึ้น เมื่อผู้ใช้เชื่อมต่อเข้ากับเทคโนโลยีส่วนต่อประสานสมองกับคอมพิวเตอร์ จิตใต้สํานึกของผู้ใช้จะข้ามไปยังโลกเสมือนจริง และเป็นเช่นเดียวกับคนจริงๆ ที่ได้เข้าไปสู่ในโลกนั้น และจะได้รับประสบการณ์ที่เหมือนกับในโลกแห่งความเป็นจริงทุกประการ
แต่ กู่เหยิ่ง(อาณาจักรโบราณ) ที่ถูกสร้างขึ้นโดย วั่นกู่ จริงๆ แล้วมันเป็นเพียงความรู้สึกของภาพสามมิติที่เกิดจากอุปกรณ์ VR เท่านั้น คุณสามารถมองเห็น และได้ยิน หรือการวิ่งออกไปในพื้นที่เล็กๆ ได้ แต่คุณไม่อาจสัมผัส หรือสามารถรับกลิ่นได้ และการจะเข้าไปสัมผัสโลกเสมือนจริงด้วยตัวคนจริงๆ นั้น ความรู้สึกนี้ดูเหมือนจะยังห่างไกลอยู่มาก…
ท้ายที่สุดแล้ว ด้วยระดับเทคโนโลยีในปัจจุบัน มันเป็นไปไม่ได้ที่จะบรรลุสถานการณ์นี้ หรือแม้แต่กระทั่งฉากวาดก้อนเค้กชิ้นนั้นเหมือนอย่างของ หลินฟาน
อย่างไรก็ตาม หลินฟาน ได้วาดเค้กชิ้นใหญ่ หรือก็คือ ภาพรวมใหญ่นี้ขึ้นอยู่ตรงหน้าทุกคน และเขาสามารถทําให้ทุกคนเชื่อได้ กลับกัน.. หาก วั่นกู่ ได้ทําสิ่งนี้ตาม.. ก็ดูเหมือนจะทำให้ผู้คนเห็น ‘พ่อมดเล็กเจอพ่อมดใหญ่(1)’ แล้ว
ทั้งหมดมันก็เหมือนกับ หลินฟาน บอกว่าเขาจะสร้างเครื่องบิน แล้วจากนั้น เว่ย เทียนเฉิง ก็ออกมา และบอกว่าเขาต้องการจะสร้างรถม้า ช่องว่างนี้นั้น ..ใหญ่เกินไปจริงๆ
เว่ย เทียนเฉิง หลงตัวเองว่าเขาสามารถเผชิญหน้ากับ หลินฟาน ได้ แต่นอกจากการสัมผัสเลือดที่เปื้อนจมูกของเขาแล้ว เขาไม่ได้ทําร้ายใดๆ หลินฟาน เลย ในทางตรงกันข้าม ผู้คนกลับพากันคาดหวังในตัวของ หลินฟาน มากยิ่งขึ้น
งานแถลงข่าวจบลงแล้ว
เว่ย เทียนเฉิง ที่ได้จ้องมองดูความคิดเห็นของผู้คน เมื่อนั้นเขาก็เต็มไปด้วยความโกรธทันที
“ฉันไม่ได้ตามกระแสของ ไอ้เด็ก หลินฟาน นั่น แผนการนี้ฉันเตรียมมันเอาไว้นานแล้ว!”
“หาว่าฉันตาม ไอ้เด็ก หลินฟาน นั่น? ฉันไม่คิดสนใจมันเลยด้วยซ้ำ!”
“บัดซบ!”
ท่ามกลางความคิดเห็นมากมาย เว่ย เทียนเฉิง แทบจะไม่พบความคิดเห็นเชิงบวก ซึ่งมันทําให้เขาโกรธเป็นอย่างมาก…
เขาตระหนักแล้วว่า โจว อีเหว่ย อาจจะพูดถูก เขาไม่ควรจะจัดงานแถลงข่าวในวันนี้ บางทีมันควรจะถูกเลื่อนออกไปก่อน ..จริงๆ
หยงจิ่ว กรุ๊ป แท้จริงแล้ว ..ได้สร้างคลื่นลมกระโชกแรงอย่างมาก มันพัดพาแผนการของเขาหายไปต่อหน้าต่อตา เปรียบเสมือนเรือลำเล็กๆ ที่น่าสงสารต่อหน้า หยงจิ่ว มันจะสามารถรอดมาได้หรือไม่!
เมื่อเห็นพ่อของเขาโกรธจัด เว่ย เจี้ยนเซิง ก็ทำได้แต่ก้มศีรษะลงอยู่ข้างๆ เขาไม่กล้าที่จะพูดอะไรออกไป
เขาคาดไว้แล้วว่ามันจะเป็นแบบนี้ สิ่งที่ไม่คาดคิดก็คือ สถานการณ์ในเวลานี้เลวร้ายกว่าที่เขาคาดคิดเอาไว้
ในวันเดียวกันนั้น ราคาหุ้นของ วั่นกู่ กรุ๊ป ได้ลดลงไป!
หยงจิ่ว กรุ๊ป ได้ประกาศแผนโครงการเมตาเวิร์ส และราคาหุ้นก็พุ่งสูงขึ้น
แต่เมื่อ วั่นกู่ กรุ๊ป เริ่มประกาศแผนโครงการเมตาเวิร์ส ราคาหุ้นไม่เพียงแต่ไม่พุ่งสูงขึ้นเท่านั้น แต่กลับลดลงไป…
เมื่อมองไปที่ราคาหุ้นที่ลดลง เว่ย เทียนเฉิง ก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป เขาได้พ่นเลือดออกมาโดยตรง ดวงตาของเขามืดครึ้ม แลดูสั่นไหวไปมา และร่างกายของเขาก็โซเซจนแทบจะล้มลงไปกับพื้น
เดิมทีเขาคิดว่าด้วยโครงการใหม่จะทำให้ราคาหุ้นเพิ่มขึ้น ..แต่มันกลับลดลงแบบไม่คาดคิด การโจมตีในครั้งนี้ ..ใหญ่เกินไปจริงๆ ก่อนหน้าเขาได้คาดหวังมันเอาไว้สูงแค่ไหน ..มาตอนนี้ การโจมตีนี้ก็ดูเหมือนจะรุนแรงเท่านั้น
“ท่านพ่อ!”
เว่ย เจี้ยนเซิง ตกใจมาก และรีบเข้าไปช่วยประคอง เว่ย เทียนเฉิง
เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเสียใจ หากเขารู้ว่ามันจะเป็นแบบนี้เขาคงจะพยายามห้ามปรามพ่อของเขา เมื่อวานนี้
“ช่วยพยุงพาฉันไปนั่งลงที” เว่ย เทียนเฉิง กล่าว
เว่ย เจี้ยนเซิง จึงประคอง เว่ย เทียนเฉิง นั่งลง
“เจี้ยนเซิง แกบอกฉันหน่อยสิว่า เรากำลังจะสูญเสียตําแหน่งอันดับหนึ่งในเจียงหนาน ..ของเรา และเราคงรักษามันเอาไว้ไม่ได้อีกแล้ว ใช่ไหม?” เว่ย เทียนเฉิง ถาม
เว่ย เจี้ยนเซิง ต้องการตอบตามความจริง เขาเองเกรงว่ามันจะ ..ใช่ แม้ว่าราคาหุ้นของ วั่นกู่ ของพวกเขาจะไม่ลดลง แต่ด้วยความโดดเด่นของ หยงจิ่ว มันก็เป็นเพียงเรื่องของเวลาเท่านั้นก่อนที่พวกเขาจะขึ้นแซงหน้า วั่นกู่ แล้วนับประสาอะไรกับราคาหุ้นของ วั่นกู่ ทีลดลงไป ..ในเวลานี้
แต่เขากลับไม่กล้าพูดแบบนี้เพื่อทำให้พ่อของเขาหงุดหงิด โดยพูดไปแค่ว่า : “เปล่าหรอกครับ ท่านพ่อ ไอ้เด็ก หลินฟาน มันก็แค่วาดเค้กชิ้นใหญ่ ที่ไม่สมจริงเท่านั้น ไม่ช้าก็เร็วผู้คนจะตระหนักรู้ถึงมัน และแผนการของเราก็จะมั่นคงขึ้น..”
เว่ย เทียนเฉิง ยิ้มอย่างขมขื่น และกล่าวว่า : “ถ้าแกสามารถวาดเค้กชิ้นใหญ่ได้ และทําให้ทุกคนเชื่อมั่นได้ ทําให้ตลาดมองโลกในแง่ดีได้ แต่ไม่.. ไม่เลย ฉันสู้ไอ้เด็ก หลินฟาน นั่นไม่ได้!”
เว่ย เจี้ยนเซิง กล่าวว่า : “เป็นไปได้อย่างไร ท่านพ่อ ท่านพ่ออาจจะสู้ หลินฟาน มันไม่ได้ แต่ท่านก็ไม่จำเป็นต้องกังวล เราเป็นที่หนึ่งในเจียงหนาน และไม่ว่ายังไงเราก็จะเป็นที่หนึ่งเสมอ”
เว่ย เทียนเฉิง กล่าวว่า : “เจี้ยนเซิง ไหนแกลองบอกฉันมาทีว่าต่อไปเราจะทําอะไรต่อได้บ้าง?”
แผนโครงการเมตาเวิร์สของเขาถือได้ว่าล้มเหลวลงแล้ว ต่อไปจะทําอะไรได้อีก เพื่อทำให้ราคาหุ้นเพิ่มขึ้น?
เว่ย เจี้ยนเซิง กล่าวว่า : “นี่…”
เว่ย เจี้ยนเซิง หมดหนทาง เขาทำอะไรไม่ถูกเล็กน้อย แม้แต่พ่อของเขาก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของ ไอ้เด็ก หลินฟาน เช่นนี้มันก็เป็นเรื่องยากมากสำหรับเขาที่จะจัดการกับ หลินฟาน..
เว่ย เทียนเฉิง คิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ เขาถามว่า : “ชุย เหวินเหวิน.. แกยังเก็บเธอไว้อยู่อีกไหม?”
เว่ย เจี้ยนเซิง กล่าวว่า : “ครับ”
ดวงตาของ เว่ย เทียนเฉิง ฉายแววความชั่วร้ายออกมา : “หลินฟาน ตัวน้อยนั่น มันได้ประกาศแล้วว่าให้ หลี่ จื่อเสีย เป็นผู้รับผิดชอบโครงการเมตาเวิร์ส ..ไม่ใช่หรือ? งั้นเราก็จะเริ่มจากเธอ! แกรีบไปจัดการ ฉันต้องการพบกับ ชุย เหวินเหวิน!”
เว่ย เจี้ยนเซิง ถามอย่างสงสัยว่า : “พ่อ.. ท่านพ่อ หมายถึง?”
เว่ย เทียนเฉิง กล่าวว่า : “ชุย เหวินเหวิน ควรจะรู้ถึงอดีตของ หลี่ จื่อเสีย เป็นอย่างดี และเธอควรต้องรู้ถึงประวัติอันมืดมนของ หลี่ จื่อเสีย ฉันต้องการดูว่ามีอะไรบ้างที่เราสามารถนํามาใช้เพื่อสร้างความยุ่งยากให้กับเธอได้..”
เว่ย เจี้ยนเซิง เข้าใจแล้ว พ่อของเขาตั้งใจวางแผนจะทําให้ หลินฟาน สะดุดอีกครั้ง
มันยากที่จะเข้มแข็งด้วยตัวเอง แต่การทำให้ผู้คนสะดุดนั้น เว่ย เทียนเฉิง กลับเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านนี้ อีกทั้งในเวลานี้ มันก็ไม่มีวิธีใดที่ดีไปกว่านี้อีกแล้ว…
พวกเขาตัดสินใจที่จะกำจัด หลี่ จื่อเสีย โดยทําให้ หลี่ จื่อเสีย เสียชื่อเสียง ด้วยการสาดน้ำสกปรกลงในโครงการเมตาเวิร์สของ หยงจิ่ว กรุ๊ป โดยทำลายชื่อเสียงของพวกเขา ถึงเวลานั้นคงเป็นเรื่องยากที่ราคาหุ้นของ หยงจิ่ว ..จะไม่ตกลงมา
ขณะที่พวกเขากำลังวางแผน…
หลินฟาน ก็เสร็จสิ้นภารกิจของเขาที่หางโจว และพร้อมที่จะกลับไปยังเมืองหยุนเฉิงแล้ว
หลายวันมานี้ หลินฟาน ยุ่งมาตลอด สําหรับโครงการเมตาเวิร์ส เขาได้วางแผนไว้แล้ว ต่อไปก็แค่ดําเนินการไปตามแผน ..ก็พอ
หลินฟาน ส่งมอบโครงการนี้ให้กับ หลี่ จื่อเสีย และจินอวี้ กรุ๊ป จะยังคงอยู่ในหางโจวต่อไป กล่าวคือ ฐานหลักของเมตาเวิร์สจะยังคงอยู่ที่หางโจว
ตามแผนที่ หลินฟาน ตั้งไว้, ในอนาคตตลาดของ หยงจิ่ว กรุ๊ป จะกระจายไปทั่วโลก, ก้าวแรก คือ กระจายไปให้ได้ทั่วประเทศ, และเมืองหางโจว จะเป็นจุดแรกของแผนการขยายตัวของ หลินฟาน
หลี่ จื่อเสีย เธอจะยังคงอยู่ที่หางโจวต่อไป ..ในอนาคต
ในวันอําลา หลินฟาน พูดกับ หลี่ จื่อเสีย ว่า : “ก่อนที่ผมจะไป ผมอยากพาคุณไปที่ที่หนึ่งก่อน..”
หลี่ จื่อเสีย ถามอย่างสงสัยว่า : “ที่ไหน?”
หลินฟาน ยิ้มเล็กน้อย : “พอถึงที่นั่นแล้ว เดี๋ยวคุณก็จะรู้..”
(1)[พ่อมดเล็กเจอกับพ่อมดใหญ่ (小巫见大巫)] - เป็นการเปรียบเทียบ ของสองอย่าง.. หรือ คนสองคน ว่าฝ่ายหนึ่งด้อยกว่าอีกฝ่ายหนึ่งอย่างเห็นได้ชัด