ตอนที่แล้วบทที่ 3 : กฎของร่างโคลน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 5 : เข้ายิมสร้างกล้าม

บทที่ 4 : ทำงานหาเงิน


บทที่ 4 : ทำงานหาเงิน

แผนการไปยิมของซังวูต้องพังทลายลงตั้งแต่เริ่มต้น

[ ยอดคงเหลือ:  3,623,800 วอน ]

ยอดเงินในบัญชีธนาคาร: 3.6 ล้านวอน

ในเงินจำนวนนี้ เขาต้องเว้นไว้จ่ายค่าเล่าเรียน 3.5 ล้านวอน ดังนั้นในความเป็นจริงแล้ว เขาจึงเหลือเงินเพียงประมาณ 100,000 วอนเท่านั้น

ไม่ต้องพูดถึงค่าลงทะเบียนยิมเลย แค่ค่าเช่าห้องเดือนนี้มันยังไม่พอเลยด้วยซ้ำ!

ฉันยากจนขนาดนี้ได้ยังไงกันนะ?

จริงๆ แล้ว ยอดเงินคงเหลือเดิมของเขาก็มีค่อนข้างมาก มันมีถึงประมาณ 4.5 ล้านวอน

แต่เขาก็ลงเอยด้วยการจ่ายเงินซื้ออาหารเป็นจำนวนมากในช่วงสองสามสัปดาห์ที่ผ่านมา

' ทำไมช่วงนี้ฉันถึงหิวบ่อยจังนะ?'

มันไม่ใช่ค่าใช้จ่ายอื่นใดนอกจากค่าอาหาร

เมื่อร่างกายของเขาเติบโตขึ้น เขาก็มักจะหิวอยู่ตลอดเวลา ด้วยเหตุนี้เอง เขาจึงหมดเงินจำนวนมากไปกับค่าอาหาร

“...ฉันคงต้องหางานพาร์ทไทม์ซะแล้วสิ”

ในความเป็นจริง แม้ว่าเขาจะไม่ได้ทำงานพาร์ทไทม์ แต่เขาก็ยังสามารถหาเงินได้

ในปัจจุบัน กำไรเฉลี่ยต่อเดือนที่เขาได้มาจากการขายไอเทมในเกมก็อยู่ที่ประมาณ 1 ล้านถึง 1.5 ล้านวอน

แต่ก็อย่างที่บอกไป เมื่อความนิยมของเกมลดลง รายได้ที่เขาได้รับเองก็ลดลงอย่างต่อเนื่องตามไปด้วย

เดิมที เมื่อผลกำไรจากเกมที่เขาเล่นลดลงเช่นนี้ เขาก็จะออกจากเกมที่เขาเล่นอยู่เดิมไปเริ่มเล่นเกมใหม่โดยทันที

แต่ตอนนี้ เขาก็ไม่ได้มีความตั้งใจที่จะทำอย่างนั้น

' นี่เป็นเพราะตอนนี้ฉันต้องเปลี่ยนกลับมาดูแลตัวเองจริงๆ จังๆ แล้ว'

จริงๆ แล้ว ฉันก็คิดว่าฉันควรประหยัดเงินด้วยการทำงานพาร์ทไทม์

นี่เพราะฉันต้องซื้ออาหารและยาเพื่อเสริมสุขภาพและช่วยในการเจริญเติบโตของร่างกาย

บุคลิกขี้เกียจของเขาได้เปลี่ยนแปลงไปแล้ว

' ฉันจะฝึกฝนผ่านการทำงานหนักเป็นหลัก ด้วยวิธีนี้ ฉันก็จะสามารถหาเงินและฝึกฝนร่างกายไปด้วยได้'

แน่นอนว่าเขายังไม่มีความตั้งใจที่จะทำงานใช้แรงแบบนี้ด้วยตัวเอง

‘ นี่เป็นเพราะงานนี้มันเป็นของหมายเลข 1 ยังไงล่ะ!!!’

แต่ฉันเดาว่าฉันคงจะต้องไปทำมันดูก่อนสักสองสามครั้งแรก…

ร่างโคลนไม่ได้มีพลังทุกอย่างอย่างที่คิด มันไม่สามารถทำตามคำสั่งที่ซับซ้อนได้ ดังนั้นเขาจึงต้องป้อนคำสั่งลงไปสักสองสามครั้งก่อน

ด้วยวิธีนี้ ร่างโคลนของเขาก็จะสามารถเริ่มทำงานที่ซับซ้อนมากขึ้นได้

ซังวูค้นหางานทางอินเทอร์เน็ตในขณะที่เขาคิดถึงแผนการในอนาคตของเขา

สิ่งที่เขากำลังมองหาคืองานพาร์ทไทม์ที่เขาจะได้ใช้แรงงาน

และในตอนนั้นเองที่เขาเห็นโฆษณารับสมัครงานที่สะดุดตาเขา

───────────────

[ ข้อมูลงาน ]

งานคัดแยกและขนย้ายพัสดุ

พัสดุถูกจัดใส่ในกล่องไว้แล้ว สามารถขนย้ายได้ง่ายๆ เลย

[ เวลาการทำงาน ]

ระยะเวลางาน : 19:00 ~ 04:00 น. (มีเวลาพัก 60 นาที)

วันทำงาน: วันจันทร์ - วันเสาร์ (ปิดวันอาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์)

สถานที่ทำงาน: XXX ศูนย์ทรัพยากรบุคคล, กังโกคู, โซล

ค่าจ้างรายวัน: 100,000+ วอน (จ่ายด้วยเงินสดทันทีหลังจบวัน สามารถต่อรองได้ )

───────────────

' ใกล้กับโซลและยังได้ค่าแรงรายวันตั้ง 100,000 วอน! นี่แหละงานที่ฉันต้องการ!'

ซังวูติดต่อตามเบอร์ที่แจ้งไว้ในทันที

-สวัสดีครับ นี่คือศูนย์ขนส่งกังโกคู

“สวัสดีครับ พอดีผมติดต่อมาเพราะได้ยินมาว่าคุณกำลังมองหาพนักงานพาร์ทไทม์ขนย้ายสินค้าน่ะครับ”

-อ้อเข้าใจแล้วครับ เราไม่มีการสัมภาษณ์นะครับ แค่ต้องมาแสดงตัวก็พอแล้ว ว่าแต่คุณเริ่มทำงานได้เมื่อไหร่ล่ะครับ?

“ผมคิดว่าน่าจะพรุ่งนี้ได้เลยนะครับ”

-เรากำลังขาดแคลนคนงานอยู่...คุณมาวันนี้เลยไม่ได้หรอ?

“อ่า... ก็ได้ครับ!”

-เยี่ยมเลย คุณมาที่ศูนย์ขนส่งภายในเวลา 18.30 น. ได้เลยครับ

“เข้าใจแล้วครับ ขอบคุณครับ”

หลังจากวางสายแล้ว ซังวูก็เอียงหัว

' กำลังขาดแคลนคนงานหรอ?'

แม้ว่าเขาจะมีความรู้สึกเป็นลางไม่ดี แต่เขาก็ยังมองมันในแง่ดี

'ร่างโคลนของฉันทำงานหนักได้สบายอยู่แล้ว ฉันก็แค่ต้องไปสอนงานมันนิดหน่อยก็เท่านั้นเอง'

จากนั้นเขาก็หยิบราเมนสำเร็จรูปออกมาสามถุงแล้วเติมน้ำร้อนลงไป

* * *

หลังจากกินอาหารมื้อใหญ่เสร็จ ซังวูก็เรียกหมายเลข 1 มารวมพลและขึ้นรถบัสไปที่ศูนย์ขนส่งกังโกคู

ถัดจากเขาบนรถบัสคือหมายเลข 1 ในตอนนี้หมายเลข 1 กำลังสวมหน้ากากอนามัยและหมวกที่ดึงลงมาอยู่

นี่เป็นมาตรการที่เขาเตรียมไว้สำหรับการทำงาน

' มันจะโอเคไหมนะที่จะบอกพวกเขาว่าเราเป็นฝาแฝด แต่นั่นก็อาจจะสร้างปัญหาโดยไม่มีเหตุผลเอาได้'

ในที่สุดรถบัสก็มาถึงศูนย์ขนส่ง

ผู้ชายในชุดซอมซ่อเดินลงมาจากรถบัสทีละคน

ซังวูเดินลงมาเป็นคนสุดท้ายในหมู่พวกเขา

นี่เป็นครั้งแรกที่เขามายังศูนย์ขนส่ง ดังนั้นทุกอย่างที่นี่จึงดูแปลกตาและน่าทึ่งสำหรับเขา

' อาคารหลังนี้ใหญ่กว่าและสูงกว่าที่ฉันคิดไว้อีกแฮะ แล้วนี่ฉันต้องไปตรงไหนกันล่ะเนี่ย?'

ตรงกันข้ามกับความคิดที่เขาคิดว่าจะสามารถเดินตามผู้คนไปได้ คนงานทุกคนแยกย้ายกันออกไปประจำตำแหน่งของตน ราวกับว่าพวกเขารู้ว่าพวกเขากำลังทำอะไรอยู่

ในท้ายที่สุด มันก็มีเพียงซังวูและหมายเลข 1 เท่านั้นที่ยังคงยืนเหม่ออยู่อย่างนั้น พวกเขาไม่สามารถเข้าใจสถานการณ์ได้ว่าพวกเขาจะต้องไปทำอะไรที่ตรงไหน

“เฮ้เจ้าหนุ่ม เธอมาที่นี่เป็นครั้งแรกหรอ?”

ชายวัย 40 ที่มีรูปร่างทรุดโทรมพูดกับซังวู

กางเกงเดินป่าตัวเก่าที่ปกคลุมไปด้วยฝุ่นกำลังปกปิดผิวสีแทนของเขา

“สวัสดีครับ นี่เป็นครั้งแรกที่ผมกับเพื่อนมาที่นี่”

“ฉันเข้าใจแล้ว ถ้าอย่างนั้นเธอก็ไปที่ห้องทำงานของจูกิก่อนสิ”

“เข้าใจแล้วครับ ขอบคุณนะครับ”

ซังวูโค้งคำนับและกำลังจะหันหลังกลับ

“แต่ถ้านี่เป็นครั้งแรกของเธอ ง้นเธอก็คงจะรู้เกี่ยวกับรายละเอียดงานแล้วใช่ไหม…”

“รายละเอียดงานหรอครับ?”

“มันเกี่ยวกับการขนย้ายพัสดุน่ะ มันเป็นส่วนที่ยากที่สุด ส่วนการจำแนกประเภทนั้นเป็นเรื่องง่ายมาก”

“โอ้ ผมเข้าใจแล้ว ผมมาที่นี่เพราะผมอยากทำงานแบบนี้แหละ”

“ตอนแรกทุกคนก็พูดกันอย่างนั้นแหละ แต่พอพวกเขาได้เริ่มงาน พวกเขาก็วิ่งหนีกันไปหมด”

“ฮ่าฮ่า ไม่ต้องกังวลไปครับ”

“ยังไงก็เถอะ เธอก็อย่าหนีไปซะล่ะ ว่าแต่เพื่อนที่อยู่ข้างๆ เธอนี่ไม่ค่อยพูดไม่ค่อยจาเลยนะ.... เอาเข้าจริงฉันยังไม่ได้ยินเสียงเขาพูดเลย”

“เอ่อ...  เขาอาจจะดูหยาบคายนิดหน่อย แต่เขาไม่ใช่คนไม่ดีหรอกครับ พอดีเขาแค่มีปัญหาพิการทางสมองนิดหน่อยนะครับ มันเลยทำให้เขาไม่ค่อยพูดค่อยจา คุณลุงคิดซะว่าเขาเป็นเด็กปัญญาอ่อนก็ได้ครับ”

“อืม... ยังหนุ่มอยู่เลย เห้อ~ เอาเถอะ ฉันไม่ได้คิดอะไรมากอยู่แล้ว”

เพื่อป้องกันเหตุการณ์ไม่คาดคิด ซังวูจึงต้องทุ่มสุดตัวเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายสังเกตเห็นความผิดปกติ เขารู้สึกผิดเล็กน้อย

' ฉันขอโทษนะหมายเลข 1...'

หมายเลข 1 : ไม่เป็นไรครับท่าน ;-;

หลังจากขอบคุณชายคนนั้นแล้ว ซังวูและหมายเลข 1 ก็ได้มุ่งหน้าไปที่ออฟฟิศ

ซังวูได้ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของเขาแก่เจ้าหน้าที่โดยสังเขป เนื่องจากหมายเลข 1 ไม่สามารถใช้เป็นชื่อได้ ดังนั้นเขาจึงแอบใช้ชื่อเพื่อนสนิทของเขา คยองโด

ความรู้สึกผิดอีกระลอกถาโถมเข้ามาอีกแล้ว~

' คยองโด ฉันขอโทษ...'

หลังจากโกหกพลิกแพลงอยู่หลายครั้ง เขาก็สามารถไปเริ่มงานได้ในที่สุด

มีกล่องพัสดุมากมายนับไม่ถ้วนกองกันราวกับเป็นเนินเขา

กล่องและพัสดุรูปทรงต่างๆ ถูกห่อไว้ด้วยพลาสติก

พวกมันกองซ้อนกันเหมือนกับเป็น 'เนินเขา' จริงๆ

“นี่คือปริมาณงานสำหรับวันนี้”

หัวหน้างานพูดคุยกับซังวู

“... ครับ?”

“ฮ่าฮ่า มันอาจจะดูเยอะก็จริง แต่เอาจริงๆ แล้วมันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่เลย ถ้าเธอสามารถขนย้ายพวกมันทั้งหมดเสร็จได้ งานของเธอในวันนี้ก็จะจบลงแล้ว เพราะงั้นหากเธอต้องการจะเลิกงานเร็ว เธอก็จงพยายามทำให้ดีที่สุดเข้าล่ะ”

“เอาล่ะ เรามาเริ่มกันเลยเถอะ!”

หัวหน้างานให้กำลังใจซังวูและหมายเลข 1 โดยการตบไหล่ของพวกเขาเบาๆ

และแล้วนรกก็ได้เริ่มต้นขึ้น

กล่องถูกผลักออกไปตามราง พวกมันพุ่งตรงไปทางรถบรรทุก

จากนั้นพวกเขาจึงบรรจุกล่องขึ้นรถบรรทุกทีละกล่อง ตามลำดับน้ำหนัก โดยเริ่มจากหนักไปเบา

อย่างไรก็ตาม ปัญหาก็คือกล่องแต่ละใบนั้นไม่ได้เรียงน้ำหนักกันมา

กล่องทุกประเภทมีทั้งเบาและหนัก บางส่วนถูกกองไว้บนรางอย่างยุ่งเหยิง

เขาเลยต้องใช้สมองอย่างหนักในการจัดกล่อง

เมื่อเขาหยิบกล่องพัสดุขึ้นมาครั้งแรก มันก็เบากว่าที่เขาคาดเอาไว้มาก ด้วยเหตุนี้เอง ซังวูจึงคิดว่า 'กินหมูล่ะงานนี้'

และหลังจากนั้นไม่ถึง 10 นาที

' ชิบหาย... แฮ่ก... กูจะตายแล้วว....'

จากถุงพลาสติกที่เบาราวกับกระดาษ สู่กล่องลังพัสลุหนักหลายสิบกิโลกรัม

เมื่อเขาเริ่มขนย้ายพัสดุทีละชิ้น น้ำหนักและความเมื่อยล้าก็เริ่มสะสมมากขึ้นเรื่อยๆ

และก่อนที่เขาจะทันรู้ตัว พัสดุหลายแสนชิ้นก็ได้ท่วมท้นเหนือตัวเขาแล้ว

แขนและเอวของเขารู้สึกปวดเมื่อยราวกับกำลังจะขาด และเหงื่อของเขาก็ไหลอาบไปทั่วร่างกายราวกับเปียกฝน

' ฉันปลุกพลังมาแล้วนะ... แต่ทำไมมันถึงยังยากเย็นได้ขนาดนี้กันนะ?'

ซังวูปลุกพลังขึ้นมาแล้วก็จริง แต่เขาก็ยังลืมไปว่าค่าสถานะของเขานั้นยังเป็นค่าสถานะของคนธรรมดาทั่วๆ ไปอยู่

ในที่สุดเขาก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป เขายืดหลังอยู่ครู่หนึ่งแล้วมองไปรอบๆ

คนอื่นๆ ต่างก็เหงื่อออกหนักมากในขณะทำงาน ถึงกระนั้น ใบหน้าของพวกเขาก็ไม่ได้ดูยากลำบากเหมือนอย่างที่เขาคิด ดูเหมือนคนส่วนใหญ่เองก็จะปลุกพลังขึ้นมาแล้วเช่นกัน

' อย่างน้อยคนเหล่านี้ก็คงจะปลุกพลังได้สกิลยกของหนักหรืออะไรพวกนั้นละมั้ง?’

‘ นี่พวกเขาจะแข็งแรงกันเกินไปไหมนะ?'

ซังวูเริ่มมีข้อสงสัยเช่นนั้น เมื่อเขามองดูพวกเขาทำงาน เขาก็พบว่าพวกเขากำลังขนส่งโดยการโยน รับและขนพัสดุขึ้นรถอย่างต่อเนื่องและราบรื่นโดยมีการเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อย

ซังวูมองดูฉากนี้อย่างใกล้ชิดและพูดคุยกับหมายเลข 1 ซึ่งกำลังขนย้ายพัสดุอยู่ข้างๆ เขา

“นี่หมายเลข 1 นายเห็นพวกเขาไหม? แบบเดียวกับคนข้างๆ เลย เราสามารถขนพัสดุหนักทีละชิ้นได้ นายจัดการพวกของหนักไปเลย ส่วนฉันจะจัดการกับพวกน้ำหนักเบาเอง”

“รับทราบครับเจ้านาย!”

อันที่จริงหมายเลข 1 ก็ทำงานได้ดีอยู่แล้ว เขาคัดแยกพัสดุที่เข้ามาตามน้ำหนัก โดยยกชิ้นที่หนักกว่าขึ้นมาก่อนแล้วจึงส่งมอบให้กับคนงานในพื้นที่บรรทุกสินค้าของรถบรรทุก คนงานตรงส่วนนั้นก็คือคนที่บอกซังวูเกี่ยวกับห้องออฟฟิศก่อนหน้านี้

แม้ว่าเขาจะเหงื่อออกมากแล้ว แต่หมายเลข 1 ก็ยังไม่เคยหยุดพักและยังคงขนย้ายสินค้าต่อไปด้วยการเคลื่อนไหวแบบเดิม บางทีอาจเป็นเพราะความแข็งแกร่งของเขาที่อ่อนแอเอง เขาจึงเคลื่อนย้ายของหนักด้วยเสียงครวญครางราวกับเด็กแบกเป้ไปเรียน

“เฮ้เจ้าหนุ่ม เธอทำงานได้ดีมาก!”

ก่อนที่เขาจะรู้ตัว รถบรรทุกคันแรกก็เต็มไปด้วยพัสดุและได้ขับออกไปแล้ว ขณะเดียวกัน ชายคนนั้นก็พูดขณะรอรับรถบรรทุกคันที่สอง

หมายเลข 1 ที่ทำงานหนักดูภูมิใจที่ได้รับคำชมเป็นอย่างมาก

“ฮ่าฮ่าฮ่า หมายเลข 1... ไม่สิ คยองโดทำงานหนักจริงๆ นั่นแหละ นี่เพราะเขาเป็นพวกเด็กใจสู้ยังไงล่ะครับ”

“งั้นหรอ? ยังไงก็เถอะ เขาทำงานได้ดีมากจริงๆ แต่ถึงอย่างนั้นก็อย่ากดดันตัวเองมากเกินไปล่ะ นักเรียนคยองโด”

ชายคนนี้เข้ากับพวกเขาได้เป็นอย่างดี และชื่อของเขาคือจางด็อกชิล

ต่างจากหน้าตาของเขาซึ่งดูเหมือนจะอายุเพียง 40 ปี ว่ากันว่าจริงๆ แล้วเขาอายุ 50 ปีแล้ว

และในไม่ช้า รถบรรทุกสินค้าคันที่สองก็มาตั้งอยู่หน้ารางแล้ว

นรกแห่งการขนส่งได้เริ่มต้นขึ้นอีกครั้งแล้ว

ซังวูและหมายเลข 1 เริ่มทำงานอย่างหนัก

ยก โยน ย้าย

ทำซ้ำไม่มีสิ้นสุด!

[ ความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้น 0.001 ]

[ ความอดทนเพิ่มขึ้น 0.001 ]

และแล้วเขาก็ได้ยินข้อความที่น่ายินดี

' ไม่ผิดหวังเลยจริงๆ'

มันเหนื่อยมาก แต่ฉันก็มีความสุข ฉันรู้สึกราวกับว่าสิ่งต่างๆ กำลังจะดีขึ้น

และในช่วงเวลาสั้นๆ ฉันก็ได้เข้าใจ (หากฉันส่งต่องานทั้งหมดให้กับอันดับ 1 เมื่อไหร่ อะไรๆ ก็จะง่ายขึ้น)

ซังวูใช้เวลาว่างคุยกับจางด็อกชิล

“เธอเรียนมหาลัยไหนล่ะ?”

“ผมเรียนมหาวิทยาลัยคยองกุกครับ”

“โอ้ นั่นเป็นมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงไม่ใช่หรอ?”

มหาวิทยาลัยคยองกุกเป็นมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียง?

แม้ว่ามันจะเป็นมหาวิทยาลัยในโซล แต่ระดับของมันก็ยังต่ำอยู่นิดหน่อย ด้วยเหตุนี้เอง ซังวูจึงขมวดคิ้ว

“เอ่อ มันไม่ใช่มหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงอะไรหรอกครับ”

“เธอจะถ่อมตัวไปทำไม ฉันไม่คิดว่าลูกสาวของฉันจะสามารถเข้ามหาวิทยาลัยคยองกุกได้ด้วยซ้ำ เฮ้อ~ เด็กคนนั้นได้หัวสมองมาจากใครกันนะ...”

จางด็อกชิลถอนหายใจยาว ดูเหมือนเขาจะกังวลมากที่ลูกสาวของเขาเรียนไม่เก่ง

“ไม่ต้องกังวลไปหรอครับลุง ผมเองก็เรียนไม่เก่งเหมือนกัน แต่ผมก็ยังเข้ามหาวิทยาลัยคยองกุกได้”

“เรียนไม่เก่งแต่สามารถเข้าไปได้? ถ้าอย่างนั้นเธอช่วยบอกฉันมาทีได้ไหมว่าเธอทำได้ยังไง?”

“ครับ? เอ่อ... ผมก็ตั้งใจอ่านหนังสือแล้วก็มีไปเรียนพิเศษบ้าง…”

“เรียนพิเศษ! ใช่แล้ว มันยังมีวิธีนั้นอยู่นี่นา”

การแสดงออกของจางด็อกชิลดูสดใสขึ้นทันควัน

ดูเหมือนว่าเขาจะตระหนักได้ถึงบางสิ่งที่ยิ่งใหญ่แล้ว

“เธอกำลังคิดหางานพาร์ทไทม์อื่นอยู่รึเปล่า?”

“งานพาร์ทไทม์อื่นงั้นหรอครับ? ก็ดีเหมือนกันนะครับ”

“ใช่แล้ว เธอยังหนุ่ม ไม่ต้องมาทำงานใช้แรงกายแบบนี้หรอก ถ้าเธอโอเค เธอช่วยมาสอนลูกสาวฉันหน่อยได้ไหมล่ะ? ถือซะว่าช่วยฉันหน่อยก็แล้วกันนะ”

“อะไรนะครับ?”

ซังวูกำลังพยายามจะปฏิเสธเพราะเขาไม่เคยสอนใครมาก่อน

แต่แล้วจู่ๆ เขาก็นึกถึงยอดเงินในบัญชีธนาคารของเขา

' แต่ฉันยังต้องการเงินอยู่ หมายเลข 1 สามารถทำงานนี้ต่อไปได้ และเนื่องจากฉันสามารถสร้างรายได้ได้มากมายจากการสอนแบบส่วนตัว งั้นฉันก็น่าจะลองดู'

หลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง ซังวูก็ถามจางด็อกชิลอีกครั้ง

“แล้วคุณลุงจะให้ผมสอนทุกวิชาเลยรึเปล่าครับ?”

" ก็คงต้องเป็นแบบนั้น เธอเป็นลูกสาวของฉัน แต่เธอก็เรียนไม่เก่งเอาซะเลย…”

“เอ่อ...แล้วคุณลุงจะจ่ายเท่าไหร่หรอครับ?”

“ประมาณ 50,000 วอนต่อครั้งเป็นไง? ฉันจะให้เธอสอนครั้งละสองชั่วโมง สัปดาห์ละครั้งหรือสองครั้ง”

50,000 วอนต่อ 2 ชั่วโมง เมื่อพิจารณาถึงค่าจ้างรายชั่วโมงแล้ว ข้อเสนอนี้ก็ถือได้ว่าไม่เลว

“เยี่ยมไปเลย ผมตกลงครับ!”

“ฮ่าฮ่า ขอบคุณนะ ฉันจะไปคุยกับลูกสาวหลังเลิกงานและจะติดต่อกลับไป เธอช่วยบอกข้อมูลติดต่อของเธอมาทีได้ไหม?”

“ได้แน่นอนครับ!”

นี่เป็นเรื่องที่ไม่คาดคิด แต่งานสอนพิเศษนอกเวลาก็เป็นงานที่ดีจริงๆ

‘มันเป็นการสอนแบบตัวต่อตัว... ฉันเชื่อว่ามันจะออกมาดีอย่างแน่นอน'

งานสอนพิเศษพาร์ทไทม์เป็นงานที่ฉันไม่เคยทำมาก่อนเพราะฉันค่อนข้างเป็นคนขี้อายมาก

แต่หลังจากปลุกพลังมาแล้ว ซังวูก็เปลี่ยนไปทีละน้อย

นี่เป็นเพราะเขาได้รับ 'ความมั่นใจ' มาแล้ว

และหมายเลข 1 ซึ่งเป็นที่มาของ ‘ความมั่นใจ’ ของเขาก็กำลังขนย้ายพัสดุไปมาราวกับทาสอย่างเงียบๆ....

[ ความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้น 0.001 ]

เมื่อตกลงเรื่องงานสอนพิเศษกันเสร็จแล้ว งานก็ดำเนินต่อไปจนถึงตีสี่...

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด