บทที่ 35 โจมตีฉันด้วยสายฟ้า? ช่างเป็นอัจฉริยะ!
บทที่ 35 โจมตีฉันด้วยสายฟ้า? ช่างเป็นอัจฉริยะ!
ตั้งแต่อุจิวะโอบิโตะถูกลักพาตัวในค่าย หมู่บ้านนินจาหลักทั้งสามก็เคลื่อนไหวอย่างพร้อมเพียงกัน
แม้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสามฝ่ายไม่ได้มีความใกล้ชิดกัน
แต่เนื่องจากการปล้นนินจาของโคโนฮะในระหว่างการเจรจาสันติภาพนั้น ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเป็นการยั่วยุหมู่บ้านนินจาหลักทั้งสาม
ดังนั้นหลังจากรู้ว่ามีการต่อสู้อยู่ใกล้ๆ และขนาดการต่อสู้ยังใหญ่มาก คาเงะทั้งสามจึงรีบมาพร้อมกับนินจาชั้นยอดหลายคน
แม้พวกเขารู้ว่ามีการต่อสู้อยู่ใกล้ๆ ล่วงหน้า แต่ทุกคนยังตกตะลึงเมื่อมาถึงที่นี่จริงๆ
เพาะต้นไม้สูงที่เติบโตอย่างเขียวชอุ่มมาเป็นเวลานานในบริเวณใกล้เคียงได้เปลี่ยนรูปลักษณ์ไปในเวลานี้
กิ่งก้านใบเหี่ยวเฉา ลำต้นผุพัง ต้นไม้ทั้งป่าผุกร่อนไปหมด ดูเหมือนมันจะแตกสลายกลายเป็นผงได้เพียงแค่สัมผัส
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในใจกลางของการสู้รบ ร่องรอยขนาดใหญ่ที่ดูเหมือนถูกระเบิดด้วยลูกบอลสัตว์หาง ทำให้เหล่านินจารู้สึกหวาดกลัว
‘สิ่งมีชีวิตชนิดไหนกำลังต่อสู้อยู่ที่นี่ ถึงได้สร้างสถานการณ์เหมือนกับภัยพิบัติทางธรรมชาติเช่นนี้?!’
ด้วยความคิดนี้ ในไม่ช้าพวกเขาเห็นร่างทั้งสองตรงกลางสนามรบ
“นั่นคือเอเนลแห่งเจ็ดเทพโจรสลัด!”
เครือข่ายข้อมูลที่อยู่ในมือของคาเงะทั้งสามนั้นเพียงพอในการบอกพวกเขาให้ทราบเกี่ยวกับการปรากฏตัวของเอเนล ดังนั้นในเวลานี้ไรคาเงะรุ่นสี่ เอ จึงเป็นคนที่เร็วที่สุดในการจดจำตัวตนของเอเนลได้
เขาได้ให้ความสนใจอย่างมากกับนินจาสายฟ้าผู้สร้างเหตุการณ์ใหญ่ด้วยตัวคนเดียว โดยเฉพาะวิชานินจาสายฟ้าของอีกฝ่ายที่ว่ากันว่าสามารถกลายร่างเป็นสายฟ้าได้
แต่มินาโตะและอีกสองคนกำลังมุ่งความสนใจไปยังบุคคลอื่นไม่เหมือนไรคาเงะรุ่นที่สี่
มินาโตะและฮิรุเซ็นมุ่งความสนใจไปยังชายอีกคนหนึ่งผู้ยืนอยู่ข้างเอเนล
“ชายคนนั้น…”
เมื่อพิจารณาจากตำแหน่ง ทั้งสองเป็นฝ่ายเดียวกันอย่างไม่ต้องสงสัย
กล่าวอีกนัยหนึ่ง…
“สมาชิกเจ็ดเทพโจรสลัดคนที่สอง!”
เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ จิตใจของทั้งสองก็เริ่มหวั่นเกรง
ก่อนหน้านี้สมาชิกเจ็ดเทพโจรสลัดเอเนลได้สร้างเสียงดังกึกก้องในโลกนินจาก่อนแล้ว
และตอนนี้ องค์กรลึกลับอันโด่งดังในโลกนินจา สมาชิกคนที่สองปรากฏตัวขึ้นในที่สุด
“ดูด้านข้างหลังสิ”
ในเวลาเดียวกัน โอโนกิเตือนขึ้นเบาๆ เช่นกัน
หลังจากได้ยินคำพูดของเขา นินจาหลายคนสังเกตเห็นสิ่งหนึ่ง
ด้านหลังครอกโคไดล์ มีกลุ่มทรายลอยติดตามอย่างใกล้ชิด
เมื่อดูจากขนาดและรูปร่างของทรายแล้ว ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามีคนอยู่ข้างใน!
“ความสามารถในการควบคุมทราย…นี่คือเหตุผลว่าทำไมพวกเขาถึงปล้นหนึ่งหาง?”
หลังจากสังเกตเห็นฉากนี้ ปฏิกิริยาแรกในหัวใจของคาเงะทั้งสามคล้ายกับมาดาระมาก โดยคิดว่าครอกโคไดล์คือพลังสถิตร่างหนึ่งหาง
แต่สิ่งนี้ไม่สามารถตำหนิพวกเขาได้ เพราะมุมมองโลกเป็นตัวกำหนดขนาดขอบเขตการมองเห็น
วิสัยทัศน์ของพวกเขาถูกกำหนดให้ไม่มีทางเทียบได้กับเย่หลิน
“แน่นอนอยู่แล้ว ต้องเป็นคนพวกนี้ นั่นควรเป็นโอบิโตะ!”
ข้อยกเว้นประการเดียวคือมินาโตะ ผู้ใส่ใจเรื่องความปลอดภัยของลูกศิษย์มาโดยตลอด
“หยุดพวกเขา! อย่าปล่อยพวกเขาไป!”
แต่ไม่ว่าคาเงะทั้งสามกำลังคิดอะไรอยู่ การตัดสินใจของพวกเขาสอดคล้องกันอย่างยิ่ง
อีกฝั่งมีเพียงสองคน และมีสี่คนในฝั่งของเขาเป็นผู้ทรงพลังระดับคาเงะ
กล่าวอีกนัยหนึ่งนี่คือโอกาส!
แต่ก่อนที่พวกเขาจะได้ลงมือ…
“จิ๊ซซ!”
เสียงเหมือนนกนับพันธุ์ส่งเสียงร้อง
จากนั้นมีร่างหนึ่งพุ่งออกมาจากกลุ่มนินจาด้านหลังคาเงะทั้งสาม พุ่งเข้าหาเอเนลกับครอกโคไดล์
“คาคาชิ!”
หลังเห็นร่างนั้น มินาโตะแสดงท่าทีประหลาดใจอย่างหาได้ยาก
เห็นได้ชัด เขาไม่คาดคิดว่าลูกศิษย์อันภาคภูมิใจผู้สงบอยู่ตลอดเวลาของเขาจะทำสิ่งนั้นจริงๆ!
ในเวลาเดียวกัน ดวงตาของคาคาชิที่พุ่งเข้าหาเอเนลเต็มไปด้วยความเย็นชาและความโกรธ
ไม่นานนี้ เขาได้เห็นโอบิโตะ เพื่อนสนิทของเขาถูกลักพาตัวต่อหน้าต่อตา
เขาภูมิใจในความแข็งแกร่งของตัวเองมาโดยตลอด แต่กลับไม่สามารถหยุดยั้งเรื่องทั้งหมดนี้ไม่ให้เกิดขึ้นได้ มันทำให้เขารู้สึกอับอายอยู่ในใจ
ในเวลานี้ เขาโจมตีทันทีโดยไม่ลังเล!
สิ่งที่เขาแสดงคือวิชานินจาสายฟ้า ‘ชิโดริ’ ที่เขาสร้างขึ้นเองและยังไม่เสร็จสมบูรณ์ด้วยซ้ำ!
แต่…
“จิ๊ซซ!”
เมื่อเสียงนกนับพันดังชัดเจนขึ้น ร่างของคาคาชิก็เข้าประชิดตัวเอเนลแล้ว
มือที่พันด้วยสายฟ้าแทงทะลุเข้าหน้าอกของศัตรู
แต่แล้ว คาคาชิเห็นเพียงสีหน้าเยาะเย้ยเล็กน้อยของอีกฝ่าย
“ใช้สายฟ้ากับฉัน? แกเป็นอัจฉริยะ”
เมื่อคำพูดจบลง คาคาชิรู้สึกว่าจู่ๆ สายฟ้าในมือก็ควบคุมไม่ได้
สายฟ้าที่ควบแน่นบนมือของเขาตกลงไปในมือของศัตรูในชั่วพริบตาต่อมา กลายเป็นดาบสายฟ้าฟันเข้าหาเขา!
สิ่งที่ทำให้คาคาชิซึ่งเย่อหยิ่งตลอดมาไม่เชื่อยิ่งกว่าเดิม คือเขาไม่สามารถคิดวิธีต้านทานการโจมตีนี้อย่างมีประสิทธิภาพได้!
คาถานินจา วิชาดาบ ก้าวพริบตา และวิชาไทจุสึที่เขาภาคภูมิใจมาโดยตลอดนั้นวิ่งวนอยู่ในใจของเขา
สิ่งเหล่านี้…ไม่มีประโยชน์เมื่อเผชิญหน้ากับการโจมตีครั้งนี้!
แต่ในชั่วพริบตาต่อมา เขาเห็นผมสีทองปรากฏขึ้นตรงหน้า
“อย่าได้แตะต้องลูกศิษย์ของฉัน!”
ในมือของมินาโตะ จักระหมุนวนอยู่บนคุไนได้ปะทะกับดาบสายฟ้า
หลังจากนั้นมินาโตะรีบถอยออกไปทันทีที่เขาคว้าคาคาชิได้!
หลังได้เห็นฉากนี้แล้ว เย่หลินไม่ได้ควบคุมหุ่นทั้งสองตัวให้ไล่ตามพวกเขา
ในทางกลับกัน ในเวลานี้เขาพึมพำอยู่ในใจเล็กน้อย
อนาคต ‘นินจาไตบกพร่อง’ ตอนนี้ดูเหมือนว่าเขาอายุเพียงสิบกว่าขวบ
“แต่แล้วอีกครั้ง ดูเหมือนว่าโอบิโตะยังไม่ได้ปลุกเนตรวงแหวน และเขาไม่ได้มอบมันให้กับคาคาชิด้วย”
“ด้วยวิธีนี้ คาคาชิผู้ไม่มีเนตรวงแหวน…สุดท้ายแล้วเขาจะเติบโตขึ้นมาแบบไหน?”
เย่หลินคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วยความสนใจอย่างมาก
เขาจำได้อย่างคลุมเครือ ดูเหมือนเขาเคยเห็นฉากทางการที่เรียกว่า ‘คาคาชิหมดจักระ’ ในชีวิตก่อนหลายครั้ง และมีการกล่าวถึงในนั้นว่าสำหรับนินจาที่ไม่ใช่อุจิวะ เนตรวงแหวนเองใช้งานได้ยากทำให้มีภาระหนัก
ดังนั้นหากคาคาชิไม่ได้รับเนตรวงแหวนของโอบิโตะ ความสำเร็จของอัจฉริยะโคโนฮะผู้นี้ควรสูงกว่าการมีเนตรวงแหวน
แต่เมื่อเย่หลินพึมพำอยู่ในใจ คาคาชิเองกำลังถูกตำหนิ
“คาคาชิ! นินจาต้องควบคุมอารมณ์ตัวเองอยู่เสมอ ลืมไปแล้วหรือเปล่า!?”
“สองคนนี้ไม่ใช่ศัตรูที่เธอสามารถรับมือได้ ออกไปอยู่ข้างหลังครู!”
มินาโตะปกติเป็นคนอ่อนโยนสดใสอยู่เสมอ ในเวลานี้ตะโกนใส่คาคาชิด้วยเสียงต่ำ
“ขอโทษครับอาจารย์”
หลังจากการปะทะง่ายๆ ก่อนหน้านี้ คาคาชิรู้ว่ามินาโตะพูดถูก
ดังนั้นเขาจึงก้มหัวและยอมรับความผิดพลาดของตัวเอง แต่เขารู้สึกถึงความพ่ายแพ้ในใจอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
‘โจนินบ้าอะไร มันก็แค่นั้น…’
เขาค่อนข้างพึงพอใจเล็กน้อยกับความสำเร็จในการเป็นโจนินเมื่ออายุสิบสี่ปี แต่ตอนนี้เขาตื่นเต็มที่จากความล้มเหลวครั้งใหญ่นี้แล้ว
สิ่งที่เรียกว่าโจนินไม่มีแม้คุณสมบัติในการเคลื่อนไหวครั้งที่สองต่อหน้าสัตว์ประหลาดตัวจริง ไม่ต้องพูดถึงการช่วยเหลือเพื่อนของตัวเอง!
“ผมเป็นคนประมาทเอง อาจารย์มินาโตะ”
“แต่ได้โปรด…ช่วยโอบิโตะด้วย!”
คาคาชิกระซิบบอกมินาโตะ
“แน่นอน”
หลังจากได้ยินคำพูดของคาคาชิ มินาโตะรู้ว่าลูกศิษย์ของตัวเองสงบลงแล้ว เขาจึงพยักหน้าอย่างเคร่งขรึม: “โอบิโตะเป็นลูกศิษย์ของครู ครูต้องช่วยเขาอย่างแน่นอน!”
“และถึงพฤติกรรมก่อนหน้านี้ของเธอจะประมาทเลินเล่อ แต่…”
“ไม่ใช่ว่าไม่มีประโยชน์อะไรเลย”
ระหว่างคำพูด เขามองไปยังเอเนลกับครอกโคไดล์ตรงหน้าด้วย
ในเวลานี้ คาคาชิสังเกตเห็นเช่นกัน
เพียงช่วงเวลาสั้นๆ ตำแหน่งของบุคคลในสนามรบมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่!
ไรคาเงะรุ่นสี่เอ ยืนไปทางทิศตะวันตกของทั้งสอง ตั้งท่ายกหมัดขึ้น
โฮคาเงะรุ่นสามฮิรุเซ็น ยืนอยู่ทางเหนือของทั้งสองโดยมีท่อไปป์อยู่ในปาก
สึจิคาเงะรุ่นสามโอโนกิ ลอยไปทางทิศใต้ของทั้งสองโดยเอามือไพร่หลัง
เพิ่มมินาโตะในตำแหน่งตะวันออกของทั้งคู่
เพียงในช่วงเวลาอันสั้นนั้น…
ก่อนคาคาชิจะรู้ตัว มหาอำนาจระดับคาเงะทั้งสี่ได้ล้อมศัตรูเอาไว้อย่างสมบูรณ์!
…………………….