บทที่ 19 การสนทนา ณ จุดสูงสุดของโคโนฮะ!
บทที่ 19 การสนทนา ณ จุดสูงสุดของโคโนฮะ!
โคโนฮะ ห้องประชุมตึกโฮคาเงะ
คนที่อยู่ในห้องประชุมตอนนี้เป็นคนมีชื่อเสียงในโคโนฮะ
ไม่ว่าจะเป็นโฮคาเงะรุ่นที่สาม,ผู้นำองค์กรรากดันโซ
อุทาทาเนะ โคฮารุ และมิโตคาโดะ โฮมูระ ที่ปรึกษาอาวุโสทั้งสองของหมู่บ้าน
เช่นเดียวกับ ‘สามนินจาแห่งโคโนฮะ’ จิไรยะ, โอโรจิมารุ, และซึนาเดะ ซึ่งมีชื่อเสียงในโลกนินจาจากช่วงสงครามโลกนินจาครั้งที่สองต่างมารวมตัวกันในห้องประชุม
ในเวลานี้พวกเขามองไปยังมินาโตะซึ่งกำลังรายงานข่าว สีหน้าของพวกเขาเคร่งขรึมอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน
ข้อมูลที่มินาโตะนำกลับมาค่อนข้างแปลกประหลาดเกินไป
แม้แต่โฮคาเงะรุ่นที่สามผู้ส่งมินาโตะไปสอบสวนเรื่องนี้ยังไม่รู้ว่าควรพูดอะไรในเวลานี้
พูดตามตรง ถ้าเป็นนินจาคนอื่นๆ ในโคโนฮะนำข่าวดังกล่าวกลับมา ฮิรุเซ็นคงคิดว่าอีกฝ่ายตกอยู่ภายใต้ภาพลวงตาแน่นอน
แต่เป็นมินาโตะที่นำข่าวกลับมา
ในความคิดของโฮคาเงะรุ่นสาม อีกฝ่ายเป็นหนึ่งในผู้สมัครอันเหมาะสมที่สุดในการขึ้นเป็นโฮคาเงะมานานแล้ว
และคนอื่นๆ ในสถานที่นี้ก็เหมือนกัน พวกเขาสามารถไว้วางใจความแข็งแกร่งและความภักดีของมินาโตะที่มีต่อหมู่บ้านได้
ด้วยเหตุนี้เอง แม้แต่จิไรยะผู้มักเป็นคนจริงจังน้อยที่สุดยังต้องเคร่งเครียดในเวลานี้
“สิบสามหน่วยพิทักษ์แห่งเซเรเทย์”
“เจ็ดเทพโจรสลัดจากแกรนด์ไลน์”
“ยังมีนักล่าอสูรกับเผ่าพันธุ์อสูรกินคน”
ฮิรุเซ็นพึมพำกับตัวเอง: “ช่างเป็นข้อมูลที่น่ากลัวจริงๆ”
มันยากสำหรับเขาในการจินตนาการว่าหากองค์กรเหล่านี้มีอยู่จริง โลกที่เรียกว่าโลกนินจาที่พวกเขาเคยรู้จักมันผิวเผินแค่ไหน?
“มินาโตะ เธอบอกว่าได้ต่อสู้กับสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าอสูร?”
ในขณะเดียวกันโอโรจิมารุถามขึ้น
เขากับจิไรยะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน และสำหรับมินาโตะ เขาถือว่าเป็นผู้อาวุโสด้วย แน่นอนว่าไม่จำเป็นต้องสุภาพ
“ใช่ครับ เราต่อสู้กันแล้ว”
มินาโตะรู้สึกละอายใจเล็กน้อย: “อีกฝ่ายชื่อโคคุชิโบ”
“ตามคำบอกเล่าของเด็กหนุ่มที่ผมช่วยเหลือ เขาเป็นหนึ่งในสิบสองอสูรภายใต้การบังคับบัญชาของราชาอสูร และอันดับของเขาเป็นหนึ่งในระดับสูงสุด”
“เขามีความสามารถในการงอกดาบออกจากร่างกายตัวเอง นอกจากนั้น…”
มินาโตะพูดถึงลักษณะของโคคุชิโบที่เขาได้เห็น
รวมถึงร่างกายอมตะของคู่ต่อสู้ ความแข็งแกร่งอันทรงพลัง กับทักษะดาบอันงดงาม
เขาไม่ได้ปิดบังความจริงว่าในสุดท้ายแล้วต้องหลบหนี
สำหรับนินจา การให้ข้อมูลถึงหมู่บ้านเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เขาจะไม่ปิดบังมัน
หลังจากได้ยินความแข็งแกร่งของโคคุชิโบ ทุกคนในสถานที่นั้นต่างเงียบมากกว่าเดิม
พวกเขายังได้ตรวจสอบอาการบาดเจ็บของมินาโตะก่อนหน้านี้ด้วย จากนั้นฮิรุเซ็นส่งอันบุไปยังสถานที่เกิดเหตุเพื่อตรวจสอบ
ดังนั้นพวกเขาจึงรู้ว่าสิ่งที่มินาโตะพูดนั้นเป็นเรื่องจริง
และนี่คือจุดน่ากลัวมากที่สุด
เนื่องจากมินาโตะคือหนึ่งในผู้ทรงอิทธิพลระดับแนวหน้าของโคโนฮะอย่างไม่ต้องสงสัย แต่ในมือของคู่ต่อสู้เขากับจบลงด้วยการหลบหนี
“สิบสองอสูรจันทรา…โคคุชิโบเป็นเพียงหนึ่งในสิบสองอสูรผู้ทรงพลังที่สุดหรือเปล่า?”
จิไรยะถอนหายใจ
“ไม่ใช่สิบสองแต่เป็นสิบสาม”
โอโรจิมารุพูดแทรกขึ้นในเวลานี้: “อย่าลืมการดำรงอยู่ที่เรียกว่าราชาอสูรต้องแข็งแกร่งมากเช่นกัน”
“ถ้าตามที่มินาโตะพูด อสูรพวกนั้นเป็นสัตว์ประหลาดอมตะ”
“โคคุชิโบมีชีวิตอยู่มานานกว่าห้าร้อยปีมีความแข็งแกร่งเช่นนี้ไม่ปกติงั้นเหรอ?”
เป็นที่น่าสังเกตว่าเมื่อโอโรจิมารุพูดคำว่า ‘อมตะ’ ในเวลานี้ดวงตาของเขาเปล่งประกายแวววาวอย่างยิ่ง
ราวกับว่าเขาปรารถนาอยากเห็นอสูรด้วยตาของตัวเองจริงๆ
“ห้าร้อยปี…”
เมื่อได้ยินตัวเลขนี้หัวใจของทุกคนก็หนักอึ้ง
ผ่านไปกี่ปีแล้วนับตั้งแต่ยุคเซ็นโงคุที่นินจาถือกำเนิดขึ้น
สำหรับการก่อตั้งหมู่บ้านนินจานั้นยังไม่ถึงร้อยปีด้วยซ้ำ
กล่าวอีกนัยหนึ่ง การดำรงอยู่ของอสูรนั้นเก่าแก่กว่าที่พวกเขาจินตนาการไว้มาก!
หากคิดไกลออกไปอีกสักหน่อย อีกฝ่ายควรเป็นเผ่าพันธุ์ที่มีอยู่ตั้งแต่ยุคโลกนินจายังไม่ถูกสร้างขึ้น
“ไม่ใช่แค่อสูรเท่านั้น แต่ยังรวมถึงนักล่าอสูรที่ต่อสู้กับพวกมันมานับพันปีด้วย…ถ้าอสูรแข็งแกร่งขนาดนี้ นักล่าอสูรต้องมีความแข็งแกร่งคล้ายกัน”
“นอกจากนี้ แม้ว่าสิบสามหน่วยพิทักษ์กับเจ็ดเทพโจรสลัดด้อยกว่าอสูร ก็ไม่ควรมีความแตกต่างมากเกินไป”
ซึนาเดะพูดขึ้น เธอหันไปหามินาโตะด้วย
“มินาโตะ เธอกำลังบอกว่าเธอสงสัยว่าเซเรเทย์ แกรนด์ไลน์ และภูเขาฟูจิคาซาเนะล้วนเป็นสถานที่คล้ายกับภูเขาเมียวโบคุงั้นเหรอ?”
เธอเป็นผู้สืบทอดของป่าชิโคสึ ดังนั้นเธอจึงรู้ถึงการมีอยู่ของดินแดนเซียนทั้งสามโดยธรรมชาติ
“ผมเดาได้ประมาณนั้นครับ”
“มิฉะนั้น มันเป็นไปไม่ได้ในการอธิบายความแข็งแกร่งของพวกเขา แล้วทำไมไม่มีใครรู้ถึงการดำรงอยู่ของพวกเขามาก่อน”
มินาโตะพยักหน้า: “แต่นี่เป็นเพียงการคาดเดา ไม่สามารถระบุสถานการณ์เฉพาะได้”
ต้องบอกว่าสถานการณ์พื้นฐานได้รับการแก้ไขแล้ว
จากนั้นทั้งห้องเงียบไปชั่วขณะหนึ่ง
ไม่ใช่ว่าไม่อยากพูด แต่ไม่รู้จะพูดอะไรต่างหาก
โดยเฉพาะฮิรุเซ็นใช้มือบีบที่มุมหางตาของเขา
การพัฒนาสิ่งต่างๆ นั้นลึกลับเกินไป
เดิมทีคิดว่ามันเป็นเพียงองค์กรลับที่สร้างปัญหาในขณะสงครามกำลังใกล้เข้ามา แต่ตอนนี้มีองค์กรสี่กองกำลังเข้ามาเกี่ยวข้องอย่างอธิบายไม่ได้
และจากสิ่งที่รู้ตอนนี้ สิบสามหน่วยพิทักษ์, นักล่าอสูร, เจ็ดเทพโจรสลัด กับอสูร เป็นกองกำลังเก่าแก่และทรงพลังมากกว่าที่พวกเขาคิด!
ยิ่งไปกว่านั้นฮิรุเซ็นยังมีสองคำถามใหญ่อยู่ในใจ
ก่อนอื่นพลังทั้งสี่นี้ซ่อนอยู่ในโลกนินจาจริงหรือเปล่า?
ในเงามืดของโลกนินจา มีกองกำลังคล้ายกันมากกว่านี้ที่คอยรักษามรดก แต่พวกเขาไม่รู้อะไรเกี่ยวกับมันเลยงั้นหรือ?
ประการที่สอง ทำไมกองกำลังเหล่านี้ที่ไม่เคยเปิดเผยการดำรงอยู่ของตัวเองมาหลายปีจึงปรากฏขึ้นในโลกนินจาเวลาเดียวกัน?
“สิบสามหน่วยพิทักษ์คว้าร่างของไรคาเงะรุ่นสามไป กับเจ็ดเทพโจรสลัดส่งคนไปเอาสมบัติของคุสะ…จุดประสงค์ของพวกเขาคืออะไรกันแน่?”
……………………