บทที่ 13 เซนอิทสึและไอเทมพิเศษระดับ SSS!
บทที่ 13 เซนอิทสึและไอเทมพิเศษระดับ SSS!
เย่หลินไม่ได้หยุดการอัญเชิญหลังจากเขาได้โคคุชิโบ
เหมือนกับที่คิดเอาไว้ก่อนหน้านี้ เขาวางแผนสำรองแต้มเอาไว้สองพันแต้ม แล้วนำที่เหลือทั้งหมดเพื่ออัญเชิญต่อ
“ไปต่อเลย!”
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในครั้งนี้ เย่หลินมีคะแนนเหลือแปดพันหนึ่งร้อนแต้ม รวยอย่างไม่ต้องสงสัย
แต่…
[โฮสต์ใช้ 6,000 แต้มสามารถอัญเชิญได้ 12 ครั้ง]
[ขอแสดงความยินดีกับโฮสต์ที่ได้รับไอเทมระดับ D ‘การ์ดของคุจิกิลูเคีย’]
[ขอแสดงความยินดีกับโฮสต์ที่ได้รับไอเทมระดับ D ‘ขนของอินุยาฉะ’]
[ขอแสดงความยินดีกับโฮสต์ที่ได้รับหุ่นระดับ D ‘หุ่นฝึก’]
[...]
สิบครั้งติดต่อกัน
การอัญเชิญสิบครั้งโดยไม่มีข้อยกเว้นได้รับไอเทมเสริมระดับ D ที่ไร้ประโยชน์
ตัวอย่างเช่นการ์ดของลูเคีย เอฟเฟกต์คือเพิ่มความน่าจะเป็นในการอัญเชิญหุ่นเชิดลูเคีย 0.1%
อีกอันหนึ่งคือขนของอินุยาฉะ ความสามารถคือการยับยั้งสุนัขตัวอื่น
หุ่นฝึกเพื่อการต่อสู้ ตามชื่อ มันคือหุ่นฝึกที่ไม่มีความสามารถพิเศษใดๆ
ประสบการณ์สุดยอดแห่งความเกลือนี้ยังทำให้หัวใจของเย่หลินสั่นสะท้านอีกด้วย
‘มันจะกลายเป็นขยะทั้งหมดได้ยังไง!’
เมื่อเย่หลินรู้สึกสงสัยเล็กน้อยในการตัดสินใจครั้งก่อนของเขามันถูกต้องหรือไม่ การอัญเชิญที่เหลืออีกสองครั้งได้เปลี่ยนสีหน้าของเขาทันที!
[ขอแสดงความยินดีกับโฮสต์ได้รับหุ่นระดับ B เซนอิทสึ อากาสึมะ]
“มาแล้ว!”
หัวใจของเย่หลินเต้นรัวทันทีที่เขาได้ยิน
จากนั้นหุ่นตัวใหม่ปรากฏขึ้นตรงหน้าเขา
เป็นเด็กหนุ่มผมสีบรอนด์สั้นเสื้อคลุมสีเหลือง
บนเอวของเขามีดาบที่คลายความร้อนแปลกๆ ออกมา
[เซนอิทสึ อากาสึมะ]
[หุ่นเชิดระดับ B]
[ความเชี่ยวชาญในการควบคุม: 0%]
[เซ็ตดาบพิฆาตอสูร – นักล่าอสูร]
[ทักษะ: ลมหายใจแห่งสายฟ้า, การได้ยินระดับสูง]
[ทักษะพิเศษ: สัญชาตญาณดาบ, กระบวนท่าปราณอัสนี (ความสามารถในการควบคุมถึง 100% เพื่อปลดล็อค ระดับหุ่นจะเพิ่มขึ้นเป็นระดับ A)]
“มันเป็นหุ่นเชิดดาบพิฆาตอสูรอีกแล้ว…วันนี้ฉันมีชะตากรรมกับเซ็ตนี้!”
เย่หลินพึมพำ
เห็นได้ชัดว่าหุ่นตัวนี้ไม่ได้มีความหมายกับเขามากนัก
เมื่อมีหุ่นระดับ S สามตัวอยู่ข้างหน้า แม้ว่าเซนอิทสึจะเพิ่มความสามารถถึงระดับสูงสุด มันก็ยังคงอยู่ในระดับ A ซึ่งไม่เพียงพอที่จะเทียบกับหุ่นก่อนหน้าจริงๆ
“แต่ก็ดีกว่าไม่ได้อะไรเลย”
ดังนั้นเย่หลินจึงทำได้เพียงปลอบใจตัวเองเท่านั้น ท้ายที่สุดแล้วมันเป็นหุ่นเชิดระดับ B ดีกว่าขยะระดับ D เหล่านั้นถึงหมื่นเท่าใช่ไหม
เมื่อเย่หลินกำลังคิด…
[ขอแสดงความยินดีกับโฮสต์ที่ได้รับไอเท็มพิเศษระดับ SSS ‘คูปองเสริมพลังนิรันดร์’]
เสียงที่ดังอยู่ในหูราวกับเสียงฟ้าร้องจนแทบจะทำให้หูเขาหนวก!
“ระดับ SSS?!”
เขายังสงสัยว่าตัวเองได้ยินผิดไปหรือเปล่า
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขาเห็นไอเทมนี้ในแถบของระบบ ดวงตาของเขาแทบบอด
[คูปองเสริมพลังนิรันดร์]
[ไอเทมเสริมพิเศษระดับ SSS]
[จำนวนครั้ง: 3/3]
[คุณสมบัติ: สามารถใช้วัสดุเสริมหุ่นเชิดกับโฮสต์ได้]
การนำเสนอนั้นเรียบง่ายอย่างน่าประหลาดใจ
แต่เพียงประโยคนี้ก็ทำให้เย่หลินแทบกระโดดทันที!
ใช้วัสดุหุ่นเชิดกับโฮสต์ – เขารู้ว่ามันหมายถึงอะไร!
ต้องรู้ว่าหนึ่งในปัญหาใหญ่ที่สุดของเย่หลินในตอนนี้จริงๆ แล้วคือปัญหาเกี่ยวกับร่างกายของเขาเอง
เช่นเดียวกับปรมาจารย์หุ่นเชิดคนอื่นๆ
แม้ว่าหุ่นเชิดของเขาจะทรงพลังมาก แต่ความอ่อนแอของร่างกายผู้ควบคุมก็เป็นจุดอ่อนที่ยิ่งใหญ่มาโดยตลอด
มันโทร่าของเอเนลทำให้จุดอ่อนนี้ตกเป็นเป้าหมายได้ยาก แต่จุดอ่อนนี้ยังคงมีอยู่เสมอ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเย่หลินมีหุ่นเชิดมากขึ้นเรื่อยๆ ความอ่อนแอนี้จะเป็นอันตรายถึงชีวิตมากขึ้น
ท้ายที่สุดแล้วหุ่นเชิดต้องถูกค้นพบไม่ช้าก็เร็ว
ในเวลานั้น หากศัตรูของเย่หลินไม่สามารถจัดการกับหุ่นเชิดได้ พวกเขาต้องหาวิธีจัดการกับเย่หลินอย่างแน่นอน!
แต่ตอนนี้เย่หลินเห็นวิธีแก้ปัญหาแล้ว!
เช่นหนึ่งในวัสดุที่เขาได้รับก่อนหน้านี้ การเพิ่มประสิทธิภาพสายฟ้าของไรคาเงะรุ่นสาม
ถ้าเขาใช้มันกับตัวเอง เขาจะมีระดับวิชานินจาสายฟ้าของไรคาเงะรุ่นสาม กระโดดจากคนธรรมดาไปสู่ระดับคาเงะ!
“โอกาสแค่สามครั้งเท่านั้น…”
เย่หลินสงบลงอย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้เขายังรู้ว่าการเสริมกำลังระดับ SSS ครั้งนี้เขาโชคดีอย่างแน่นอนที่สามารถอัญเชิญมันออกมาได้
ไม่รู้ว่าอีกนานแค่ไหนกว่าจะได้แบบนี้อีก
เขาต้องระมัดระวังการใช้โอกาสทั้งสามนี้ในการเสริมความแข็งแกร่ง เขาต้องเลือกวัสดุที่เหมาะสมที่สุดเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับตัวเอง
“บูม!”
ขณะที่เย่หลินกำลังคิดอยู่ จู่ๆ ก็เกิดเสียงดังขึ้น
เย่หลินหันศีรษะไปมองโดยไม่รู้ตัว
เขาสังเกตเห็นว่ากล่องสวรรค์อันใหญ่โตที่อยู่ไม่ไกลกำลังพังทลายลง!
“นี่คือ…”
เย่หลินตกตะลึงเล็กน้อย
แต่ไม่นานเขาก็เข้าใจ
สัตว์ประหลาดกับพลังทั้งหมดในกล่องสวรรค์ถูกระบบดูดซับแล้วแปลงเป็นคะแนนกับวัสดุหุ่นเชิด
ในกรณีนี้ การแตกสลายตามธรรมชาติของกล่องสวรรค์มันสมเหตุสมผลเช่นกัน
“บูม!”
“บูม!”
ต่อหน้าต่อตาเย่หลิน เขาเห็นผู้คนจำนวนมากถูกขับออกจากกล่องสวรรค์ขณะที่มันแตกสลาย
คนเหล่านี้แต่ละคนสวมเสื้อผ้าหมู่บ้านนินจาที่แตกต่างกัน และการเสียชีวิตของพวกเขาช่างน่าสังเวชอย่างยิ่งโดยไม่มีข้อยกเว้น มีสีหน้าบิดเบี้ยวหวาดกลัว
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ร่างกายของพวกเขาเกือบไม่สมบูรณ์อย่างเห็นได้ชัด ราวกับว่าพวกเขาถูกกัดกินโดยบางสิ่ง!
“คนพวกนี้…คือนินจาที่หมู่บ้านคุสะสังเวยให้กับกล่องสวรรค์งั้นเหรอ?
เย่หลินรู้ทันทีว่านินจาเหล่านี้ต้องเป็นนินจาที่ถูกหมู่บ้านคุสะลักพาตัวจากสถานที่ต่างๆ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาและสังเวยให้กับกล่องสวรรค์!
ในตอนท้ายเย่หลินเห็นเด็กผมดำถูกพ่นออกมา!
แตกต่างจากผู้คนก่อนหน้าตรงที่ร่างกายของเด็กชายผมดำคนนี้ซีดมาก แต่เห็นได้ชัดว่าเขายังมีชีวิตอยู่
“เด็กคนนี้…ลูกชายมุอิ?”
เย่หลินจำได้ทันทีว่าชายหนุ่มคนนี้คือมุกุ ลูกชายของมุอิ!
“ตามเนื้อเรื่องเดิมเด็กคนนี้ควรกลายเป็นปีศาจในที่สุด”
“ไม่น่าแปลกใจเลยที่เขายังมีสติอยู่”
เย่หลินเลือกมองมุกุและเข้าใจทันที
เดิมทีสัตว์ประหลาดในกล่องเลือกมุกุเป็นร่างสถิตของมัน ดังนั้นมุกุจึงกลายเป็นคนเดียวที่ยังคงมีสติท่ามกลางเหยื่อทั้งหมดในกล่องสวรรค์
“แต่ไม่มีพลังชีวิตจริงๆ”
เย่หลินส่ายหัว
เขาสามารถเห็นได้ว่าร่างกายของมุกุในเวลานี้ไม่มีพลังอีกต่อไป ไม่ต่างกับการตายไปแล้ว
สำหรับจิตสำนึกของเขามันถูกรักษาไว้เพียงเพราะอิทธิพลของสัตว์ประหลาด แต่ตอนนี้มันสลายไปอย่างรวดเร็วอย่างเห็นได้ชัด
เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ เย่หลินเหลือบมองหุ่นโคคุชิโบที่อยู่ข้างๆ
มีแสงสว่างวาบแวบเข้ามาในดวงตา
ผ่านการควบคุม หุ่นโคคุชิโบเดินเข้ามาใกล้มุกุอย่างช้าๆ
เมื่อเผชิญกับการจ้องมองของเด็กชาย อสูรร้ายหกตาถามขึ้นอย่างแผ่วเบา
“เจ้าอยากมีชีวิตอยู่หรือเปล่า?”
เมื่อได้ยินคำพูดที่ไม่แยแสของโคคุชิโบ ความหวังพุ่งขึ้นมาในดวงตาของมุกุที่ค่อยๆ สูญเสียความแวววาวไป
เห็นได้ชัดว่าเขาต้องการมีชีวิตอยู่
หลังจากประสบกับความทรมานภายในกล่องสวรรค์เขาปรารถนาที่จะมีชีวิตอยู่มากกว่าใครๆ!
ชั่วครู่ต่อมา โคคุชิโบยื่นมือออกไปด้านหน้า
ผิวหนังบนนิ้วแตก เลือดสีม่วงเข้มหยดหนึ่งค่อยๆ ไหลออกมา
“ถ้าอย่างนั้น กินซะ”
……………………