ตอนที่ 23 ฉันมาทำธุระของเซย์เรย์เทย์
หลังจากกลับมาที่โรงภาพยนต์ผ่านทางท่อระบายน้ำแล้ว
โกโจ คาเอเดะก็เห็นฟุชิงุโระ เมงุมิที่กำลังร่วมมือกับชิกิงามิของตนในการต่อกรกับคำสาประดับสองอยู่ไม่ไกล
ส่วนร่างเงาของเขาก็นอนเล่นอยู่ไม่ไกลและคอยให้กำลังใจเป็นครั้งคราว
ถือเป็นการสวมรอยเป็นเขาได้อย่างแนบเนียน
“สมกับเป็นร่างเงาของฉันจริงๆ”
หลังจากที่เห็นพฤติกรรมของร่างเงาแล้ว โกโจ คาเอเดะอดไม่ได้ที่จะบ่นออกมา
เมื่อโกโจ คาเอเดะส่งสัญญาณ ร่างเงาก็ค้นพบตำแหน่งของโกโจ คาเอเดะอย่างรวดเร็ว
มันค่อยๆลุกขึ้นยืนแล้วพูดกับเมงุมิ
"สู้ๆนะเมงุมิ ฉันขอไปห้องน้ำก่อนแล้วกัน เดี๋ยวฉันกลับมา"
หลังจากได้ยินคำพูดของโกโจ คาเอเดะ ฟุชิงุโระ เมงุมิก็รู้สึกอยากจะสบถออกมา
แม้ว่าเขาจะเป็นผู้ใช้คุณไสยอัจฉริยะ และอยู่ในระดับสองแล้วก็ตาม
แต่รุ่นพี่คนนี้ไม่เห็นหรอว่าเขานั้นกำลังเสียเปรียบและไม่มีประสบการณ์การต่อสู้เลย?
เอาแต่นอนชิวๆสบายใจเฉิบ แล้วตะโกนว่า "สู้ๆนะ" เป็นครั้งคราว
ถ้าไม่ใช่เพราะต้องปัดเป่าวิญญาณคำสาประดับสองนี้ก่อน ฟุชิงุโระ เมงุมิคงอยากจะอัญเชิญมโหรากามาตายพร้อมกันทั้งคู่ไปเลย
“ให้ตายสิ๊ ตายๆไปซะที”
ฟุชิงุโระ เมงุมิผู้โมโหก็เอาความโกรธไปลงที่คำสาประดับสอง
และเนื่องจากความโกรธของเขา พลังไสยเวทของเขาจึงแข็งแกร่งขึ้นมาทันที
เขากระโดดออกมาอยู่ในระยะที่ปลอดภัย ก่อนจะทำท่ามือเรียกชิกิงามิ
“งูยักษ์ โอโรจิ!”
ปัง
ทันใดนั้นก็มีงูยักษ์โผล่มา มันพุ่งไปพันรอบๆตัวคำสาประดับสองและโจมตีมันด้วยการกัดเรื่อยๆ
หลังจากคำสาประดับสองถูกปัดเป่าแล้ว ฟิชิงุโระ เมงุมิก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
“ฟุ่วว ครั้งหน้าจะไม่ทำภารกิจกับรุ่นพี่คนนี้แล้ว”
เมงุมิพูดกัดฟันพูดกับตัวเอง
หลังจากที่เมงุมิปัดเป่าคำสาปได้สำเร็จแล้ว โกโจ คาเอเดะที่ทำให้หน้าตาตัวเองกลับมาเป็นแบบเดิมแล้วก็เดินมาทันเวลาพอดี
“ฉันคิดไว้แล้วว่านายต้องทำได้ ฟุชิงุโระคุง”
หลังจากที่เห็นว่าคำสาประดับที่สองถูกกำจัดออกไปแล้ว โกโจ คาเอเดะก็ยิ้มและพูดอย่างอ่อนโยน
เมื่อฟุชิงุโระเห็นโกโจ คาเอเดะกลับมา เขาที่พึ่งรู้สึกดีที่กำจัดคำสาปได้ก็หน้าเปลี่ยนสีทันที
หน้าเขาบูดบึ้ง และไม่ตอบสนองต่อคำพูดของโกโจ คาเอเดะเลย
เขาไม่เข้าใจเลยจริงๆ ทั้งคู่เป็นพี่น้องตระกูลโกโจ แต่ทำไมมันต่างกันราวฟ้ากับเหวขนาดนี้?
โกโจ คาเอเดะไม่สนใจสีหน้าบูดบึ้งของฟุชิงุโระ เมงุมิ เขายังคงยืนยิ้มรอจนกว่าม่านจะหายไป
เมื่อกลับไปที่โรงเรียน เหล่านักเรียนปีสองปัจจุบันที่เห็นสีหน้าของเมงุมิก็พอจะเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น
เพราะพวกเขาเคยไปทำภารกิจกับโกโจ คาเอเดะหลายครั้งแล้ว
ทุกครั้งที่ไปทำภารกิจด้วยกัน โกโจ คาเอเดะจะรับบทเป็นเชียร์ลีดเดอร์คอยให้กำลังใจทุกคน
ก็คือไม่มีส่วนร่วมในการต่อสู้ พอเจออันตรายหน่อยก็หนีหายไปทันที
“ฮ่าฮ่าฮ่า อย่าไปซีเรียสมากเลยฟุชิงุโระ ทำตัวให้ชินไว้เวลาทำภารกิจกับหมอนั่นเถอะ เขาไม่ได้มีเจตนาอะไรไม่ดีหรอกนะ แต่เขาแค่ไม่มีประโยชน์น่ะ”
แพนด้าเดินไปกอดคอเมงุมิ และพูดด้วยรอยยิ้ม
“แซลมอน”
อินุมากิ โทเกะเองก็ร่วมภารกิจกับคาเอเดะหลายครั้ง และเข้าใจดี
"เห้ย เห้ย ทำไมพูดกันแรงจังล่ะ"
อันที่จริงโกโจ คาเอเดะไม่สนใจคำพูดที่ว่า "ไร้ประโยชน์" เลย แถมเขายังอยากให้คนพวกนี้พูดแบบนี้กับเขาเยอะๆด้วย
เพราะแบบนี้จะทำให้การปกปิดตัวตนของเขามันสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น
ฟุชิงุโระ เมงุมิดูประหลาดใจเมื่อได้ยินคำพูดของแพนด้า
แพนด้าเล่าเรื่องราวของโกโจ คาเอเดะที่เขารู้ให้เมงุมิฟังอย่างละเอียด
มากิไม่ได้สนใจคำพูดล้อเลียน แถมยังรู้สึกเยาะเย้ยเรื่องที่แพนด้าเล่าให้เมงุมิฟังเรื่องข่าวลือของคาเอเดะในตระกูลใหญ่ด้วย
เพราะมีแค่เธอที่รู้ว่าโกโจ คาเอเดะนั้นแข็งแกร่งแค่ไหน
แม้ว่าอาจจะไม่แข็งแกร่งขนาดโกโจ ซาโตรุ แต่ก็ต้องอยู่ในระดับพิเศษแน่นอน
เธอเคยจินตนาการมากกว่าหนึ่งครั้งถึงภาพที่พวกคนจากตระกูลใหญ่ต่างก็ตกใจเมื่อรับรู้ถึงความแข็งแกร่งของโกโจ คาเอเดะ
เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ มากิก็พึมพำด้วยไฟที่ลุกโชนในจิตใจ "ฉันเองก็ต้องพยายามมากขึ้นไปอีก!"
ตัดภาพมาที่เมงุมิตอนนี้ หลังจากได้ฟังเรื่องราวจากแพนด้า เขาไม่มีท่าทีแบบก่อนหน้านี้ต่อโกโจ คาเอเดะแล้ว
ถึงโกโจ คาเอเดะจะทำตัวน่าหมั่นไส้ก็จริง แต่มันแทบเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วกับคนธรรมดาที่ไม่สามารถใช้พลังไสยเวทได้จะมาถึงขั้นผู้ใช้คุณไสยระดับ 2
ฟุชิงุโระ เมงุมิมั่นใจมากว่าการที่คนไร้ประโยชน์อย่างโกโจ คาเอเดะเป็นผู้ใช้คุณไสยระดับสองได้นั้นต้องเป็นเพราะพี่ชายของเขาอย่างโกโจ ซาโตรุช่วยแน่นอน
ไม่นานหลังจากที่ทุกคนพูดคุยกัน ฟ้าก็เริ่มมืดอย่างช้าๆ
หลังจากทานอาหารเย็นในโรงอาหารแล้ว พวกเขาก็แยกย้ายกันกลับหอพัก
รอจนกระทั่งทุกคนหลับกันหมดแล้ว
โกโจ คาเอเดะได้แปลงตัวเองให้เป็นฮิซึกายะ โทชิโร่อีกครั้ง จากนั้นก็เดินออกไปพร้อมกับดาบฟันวิญญาณเฮียวรินมารุตรงไปที่คลังของต้องสาปซึ่งเป็นที่เก็บนิ้วของสุคุนะและแผนภาพมรณะครรภ์คำสาป
อย่างไรก็ตาม ขณะที่เขากำลังเข้าใกล้คลัง เขาก็ถูกพบโดยยามเฝ้าคลัง
“นายเป็นผู้บุกรุกหรอ?”
หลังจากได้ยินเสียงคำรามของยามเฝ้าประตู โกโจ คาเอเดะก็ตอบอย่างหยิ่งผยอง
“ฉันมาทำธุระของเซย์เรย์เทย์ ไสหัวไปซะ”
“บ้าเอ้ย มีผู้บุกรุก รีบส่งสัญญาณเตือนเร็ว”
หลังจากเห็นยามเฝ้าคลังส่งสัญญาณเตือนแล้ว โกโจ คาเอเดะก็ลงมือทันทีอย่างไม่ลังเล
“เฮียวริวเซนบิ!” (มังกรน้ำแข็งสะบัดหาง)
หลังจากใช้ทักษะเริ่มต้นของเฮียวรินมารุ เขาก็แช่แข็งยามเฝ้าคลังระดับสองทั้งสองคนได้อย่างง่ายดาย
การโจมตีแค่นี้จะไม่ถึงตาย และพวกเขาได้ส่งสัญญาณเตือนแล้ว จะมีคนมาช่วยพวกเขาในไม่ช้า
“เอาล่ะ ฉันควรจะรีบไปได้แล้ว”
หลังจากได้ยินเสียงสัญญาณเตือนภัย โกโจ คาเอเดะก็เข้าไปในคลังของต้องสาปทันที
หลังจากเอานิ้วข้างนึงของสุคุนะออกไป เขาก็หายตัวไปบนท้องฟ้าอันกว้างใหญ่ทันที