ตอนที่ 14 ภารกิจยกระดับ
เหลิงหยูเหว่ยนั้นก็ยืนอยู่ห่างจากฐานทัพไป 10 ไมล์ในขณะหันไปมองด้านหลังด้วยสีหน้าซับซ้อนใจ
เมื่อครู่ในห้องบัญชาการ เธอนั้นได้รับคริสตัลพลังงานจากซูเฉินเป็นจำนวนมาก และตอนนี้ในกระเป๋าสะพายของเธอนั้นก็เต็มไปด้วยคริสตัลพลังงานซึงมในมากพอที่จะทำให้เธอเข้าสู่ระดับสี่ดาว
“พี่สาว พี่กับซูเฉินคุยอะไรกันในนั้นหน่ะ? เขาเป็นลูกลับของคนใหญ่คนโตใหนกัน?”ลั่วฮางก็ถามขึ้นมาอย่างสงสัย
ด้วยฐานทัพที่ทรงพลังขนาดนี้ ซูเฉินจะต้องไม่ใช่คนธรรมดาแน่นอน และอย่างที่เขาคาดเดาไว้ หมอนี่จะต้องเป็นนายน้อยแน่ๆ
“อย่าถามอะไรไม่ควร รู้มากไปก็ไม่ดีนะ”เหลิงหยูเหว่ยนั้นก็ตอบกลับไปก่อนที่ลั่วฮางจะได้พูดจนจบ
“รู้แล้วน่า ไม่ถามก็ได้ ฉันไม่คิดว่าหมอนั่นจะทรงพลังมากกว่าที่ฉันจินตนาการไว้หน่ะ ไอ้คนที่มีเรื่องกับหมอนั่นในตอนนั้นนี่โง่จริงๆเลย”ลั่วฮางก็พูดออกมาซึ่งเขาดูจะผิดหวังมาก
“เมื่อเรากลับไปกันแล้ว ก็ทำเป็นว่าพวกเราไม่รู้ว่าเกิดอะไรที่นี่ ส่วนคนพวกนั้น เราจะบอกว่าพวกนั้นตกตายในปากของสัตว์กลายพันธุ์ และพวกเราทำได้แค่เก็บสิ่งของของคนพวกนั้นมาอย่างยากลำบากแล้วกัน”เหลิงหยูเหว่ยก็พูดออกมาในขณะหันไปมองของชิ้นเล็กในมือของเธอ
เธอนั้นได้รับของชิ้นนี้มาจากซูเฉินโดยมีเป้าหมายเพื่อทำให้คนในสถานที่รวมตัวสับสนและเพื่อไม่ให้พวกเขารู้ความจริงเกี่ยวกับที่นี่
ส่วนทางฝั่งซูเฉิน เขาได้เร่งความเร็วในการรวบรวมพลังงาน ตามที่ระบบได้กล่าวไว้ เมื่อเขามีพลังงานถึง 50,000 หน่วย เขาก็จะสามารถพัฒนาระดับผู้บัญชาการของเขาได้
เขาจึงตรวจสอบพลังงานที่เหลือของเขาและพบว่าเขายังมีอยู่ประมาณ20,000 หน่วย เพราะงั้นเขาจำเป็นต้องหาพลังงานมามากกว่านี้!!
“พลังงานที่ได้รับจากการล่าสัตว์กลายพันธุ์ในทุกๆวันไม่เยอะเหมือนเคยแล้ว มากสุดคงได้แค่วันละสองสามพันหน่วย ส่วนโรงกลั่นแร่ หากนับการขนส่งของรถขุดประเภทมิติเวลาแล้ว เราก็คงได้แค่วันละหนึ่งพันหน่วย แม้ว่าเราจะเพิ่มแรงงานไปอีกห้าคน มันก็ไม่ได้เพิ่มความเร็วในการรวบรวมพลังงานนัก”ซูเฉินก็พูดออกมาซึ่งเขานั้นตระหนักได้ว่ามันไม่มีทางอื่นแล้ว
พลังงานที่ได้รับจากเหมืองถ่านหินนั้นไม่เยอะนัก ถ้าหากเขาเปลี่ยนเป็นเหมืองแร่หายาก เงินหรือทองคำ พลังงานที่ได้รับก็คงจะมากกว่านี้
หรือบางทีเขาก็จำเป็นต้องมีรถขุดเพิ่มเพราะมันจะช่วยเพิ่มความเร็วในการรวบรวมพลังงาน
ด้วยความคิดที่ไม่อยากจะเสียกำลังพลโดยสูญเปล่า ซูเฉินจึงตัดสินใจเปลี่ยนแผนการ จำนรวนคนที่ออกไปล่าสัตว์กลายพันธุ์จึงลดลง ส่วนคนที่เหลือนอกจากทหารที่คอยคุ้มกันในส่วนที่จำเป็น ที่เหลือทั้งหมดถูกส่งไปขุดเหมือง!!
ถ้าหมาล่าเนื้อมีความสามารถในการขุดเหมืองหล่ะก็ ป่านนี้เขาส่งพวกมันไปแล้ว
หมาล่าเนื้อ “???”
คนทั้งห้าที่หมดสตินั้นก็ได้ลืมตาตื่นขึ้นและพบว่าพวกเขานั้นถูกจับตัวแล้วโดนบังคับให้ทำการขุดเหมือง
ในตอนแรกคนทั้งห้านั้นก็ต่อต้านอย่างดุเดือดแต่เมื่อทหารคนหนึ่งสั่งสอนทั้งห้าคนจนหลาบจำ พวกนั้นก็เชื่องขึ้นมาทันทีเลย
ทั้งห้าคนนั้นไม่เคยคิดเลยว่าจะมีคนมาสร้างฐานทัพที่นี่ และดูเหมือนว่ามันจะใหญ่มากด้วย นอกจากนี้ยังมีคนเหนือมนุษย์หลายคนมาร่วมขุดเหมืองกับเขาอีก เจ้าของฐานทัพนี่มันเป็นลูกหลานใครกัน มันไม่มีเรื่องอื่นทำแล้วหรือไง?
ไม่ใช่ว่าคนเหนือมนุษย์นั้นสูงส่งกว่าคนธรรมดาหรอ? ทำไมพวกนี้ถึงได้มาขุดเหมืองร่วมกับคนธรรมดาอย่างพวกเขากัน?
ความคิดของนายน้อยคนนี้มันช่างพิสดารจริงๆ
ในวันแรก พวกเขานั้นก็ยอมอดทนต่อความอัปยศและรอโอกาสหลบหนี แต่เมื่อพวกเขาพบว่าอาหารที่พวกเขาได้รับนั้นเป็นเนื้อสัตว์กลายพันธุ์ซึ่งแม้แต่คนเหนือมนุษย์เองยังไม่ค่อยจะได้กิน พวกเขาจึงสาบานในทันทีว่าจะไม่ไปจากที่นี่แม้ว่าพวกเขาจะโดนทรมาณจนตายก็ตาม
เนื้อพวกนี้ทั้งหอมและอร่อย!!
แม้ว่าเหล่าทหารจะเป็นทหารชีวภาพ ซูเฉินก็ไม่ปล่อยให้พวกนั้นนอนพื้นกัน ด้วยความร่วมมือร่วมใจของเหล่าทหาร ในที่สุดพวกเขาก็ได้สร้างบ้านไม้หลายหลังขึ้นมาที่ด้านข้างซึ่งมันก็ไม่ได้แย่ไปกว่าบ้านไม้ในแหล่งรวมตัวเลย
สามวันต่อมา ซูเฉินนั้นก็ยืนอยู่ด้านนอก หลังจากรวมรวบพลังงานอยู่สามวัน พลังงานของเขานั้นก็เข้าใกล้50,000 หน่วยแล่วย
“ยินดีด้วย โฮสต์ ที่ได้เพิ่มระดับผู้บัญชาการ ตอนนี้โฮสต์สามารถเสริมแกร่งยูนิตได้วันละหนึ่งตน และยูนิตตนนั้นจะเพิ่มระดับหนึ่งขั้นแต่เงื่อนไขคือยูนิตนั้นจะต้องมีความแข็งแกร่งไม่เกินระดับสี่ดาว”
ในตอนแรกซูเฉินนั้นก็คิดว่าสิทธิประโยชน์เป็นเรื่องที่ดี เพราะเขาสามารถเสริมแกร่งความสามารถของทหารของเขาได้ แต่เมื่อเขาพบว่าไอ้ยูนิตที่ว่าก็คือ 1 เขาก็รู้สึกอยากจะซัดกับระบบเลย ทำไมไม่ใส่คำอธิบายให้มาชัดเจนกว่านี้?
ในตอนนี้ ซูยี่นั้นยังคงเป็นทหารที่แข็งแกร่งสุดในทหารท้งหมดของซูเฉินซึ่งถูกเสริมแกร่งถึงระดับสามดาวสูงสุด ดังนั้นซูเฉินจึงใช้สิทธิประโยชน์ของระดับผู้บัญชาการในปัจจุบันเสริมแกร่งซูยี่ไปเป็นระดับสี่ดาวสูงสุด!!
“ตรวจสอบพบว่าโฮสต์มีทหารที่มีความแข็งแกร่งอยู่ใสระดับสี่ดาวสูงสุด ภารกิจเลื่อนขั้นจึงถูกเปิดใช้งาน ถ้าหากทหารตนนี้สามาถจัดการสัตว์กลายพันธุ์หรือคนเหนือมนุษย์ที่อยู่ในระดับเดียวกันเพียงลำพัง คอขวดของทหารตนนี้ก็ถูกทำลายลงพร้อมกับที่พัฒนาเข้าสู่ระดับถัดไป ภารกิจนี้สามารถทำได้เพียงครั้งเดียว ถ้าหากล้มเหลว ทหารตนนี้จะไม่สามารถพัฒนาขั้นต่อไปได้อีกเลย”ระบบกล่าว
ซูเฉินก็ขมวดคิ้ว “ทำไมไม่ให้ทหารทั้งหมดพัฒนาพร้อมกัน? แล้วภารกิจนี้มันสำคัญตรงใหน?”
“ภารกิจจะเลือกทหารที่มีความแข็งแกร่งอยู่ในระดับผ่านเกณฑ์เท่านั้น ถ้าหากทหารตนนั้นไม่สามารถทำภารกิจสำเร็จได้ มันก็เท่ากับเสียพลังงานเปล่า”ระบบก็ตอบกลับอย่างเย็นชา
ซูเฉินนั้นก็คิดว่าระบบถูกต้องแล้วโดยไม่โต้แย้งเ ถ้าหาเขาทำภารกิจไม่ผ่าน ให้ฝึกต่อไปมันก็ไม่มีประโยชน์อะไร
ในอนาคต เขาก็คงจะมีทหารภายใต้บัญชามากขึ้นเรื่อยๆ และภารกิจแบบนี้ก็เป็นเครื่องมือดีๆที่ใช้คัดเลือกทหารที่มีศักยภาพ ทหารพวกที่สามารถทำภารกิจผ่านไปได้นั้นก็มีค่าที่จะฝึกต่อ ส่วนคนที่ไม่สามารถทำได้นั้นก็ต้องจบลงแค่เป็นตัวประกอบ
หลังจากสนทนากับระบบเสร็จ ซูเฉินก็หันไปมองดูซูยี่แล้วถามว่า “นายมั่นใจใหมว่าจะทำภารกิจนี้สำเร็จ?”
เมื่อระบบปล่อยภารกิจออกมา ซูยี่นั้นก็รู้เรื่องทันที เขาก็ทำหน้าจริงจังและก้มหัวทำความเคารพต่อซูเฉินพร้อมกับพูดว่า “โปรดวางใจได้ครับผู้บัญชาการ ซูยี่ผู้นี้เจะทำภารกิจให้สำเร็จลุล่วง!!”
“ตอบได้ดี งั้นเจ้าก็ออกไปทำภารกิจคนเดียวให้สำเร็จซะ หากภารกิจสำเร็จเมื่อไหร่ ก็กลับมาทันที”
“รับทราบครับ!!”
ซูยี่นั้นก็ออกจากฐานไปอย่างเพียงลำพังเพื่อเผชิญหน้ากับสัตว์กลายพันธุ์ระดับสี่ดาวขั้นสูงสุ ซูเฉินนั้นไม่รู้ว่ามันแข็งแกร่งขนาใดนเพราะสัตว์กลายพันธุ์ที่แข็งแกร่งที่สุดที่เขาเผชิญหน้านั้นก็คือระดับสามดาว ด้วยกลยุทธ์การระดมโจมตี แม้แต่สัตว์กลายพันธุ์ระดับสามดาวก็ไม่ใช่เรื่องยากเย็นนัก
ในหลายวันนี้ ซูเฉินนั้นก็ไม่ได้เสียเวลาเปล่า เขาพยายามท ความเข้าใจเกี่ยวกับโลกนี้ และแน่นอนว่าแหล่งข้อมูลของเขานั้นก็คือระบบ
อย่างไรก็ตาม ระบบนั้นก็บอกกับเขาแค่เหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นอย่างการเปลี่ยนแปลงโลก ซึ่งระบบนั้นไม่ได้รู้เรื่องเหตุการณ์เล็กๆเท่าไหร่นัก
ซูเฉินนั้นคาดว่าระบบรู้แต่มันไม่บอกเขา
“ช่างมันแล้วกัน ก่อนอื่นมาโฟกัสกับการพัฒนาตัวเองก่อน หากกองทัพรถถังแอพโพคาลิป(Apocalypse Tank)ของฉันออกมาได้เมื่อไหร่ ฉันจะขยี้สัตว์กลายพันธุ์รอบๆนี้ให้เละเลยคอยดู!!”ซูเฉินก็น้ำลายไหลเมื่อนึกถึงฉากในอนาคต
เขาพึ่งจะอัพระดับผู้บัญชาการไปเองและกว่าจะสร้างโรงรถถัง(WarFactory)ได้มันก็ใช้เวลาอยู่
“โอ้ เกือบลืมเลย มาสร้างเรดาห์ก่อนแล้วกัน พอสร้างเรดาห์เสร็จแล้ว ฉันก็จะสามารถสร้างป้อมขีปนาวุธต่อต้านอากาศยาน(Patriot Missiles)กับหอคอยปริซึม(Prism Tower) แล้วที่นี้จะได้รู้สักทีว่าไอ้สัตว์กลายพันธุ์บินได้มันจะกล้ามาบินเหนือหัวฉันหรือเปล่า!!”