ตอนที่ 14 ผลการต่อสู้
“เป้าหมายของฉันในวันนี้ไม่ใช่นาย ถ้ายังไม่อยากตายก็หลีกทางไปซะ”
เกะโทมองไปที่คาเอเดะที่อยู่ไม่ไกลและพูดพร้อมหัวเราะเบาๆ
“นายดูมั่นใจมากนะ คิดว่าจะเอาชนะฉันได้หรอ”
โกโจ คาเอเดะมองไปที่เกะโท สุงุรุอย่างสงบและพูดกลับ
“หึหึ ฉันรู้หรอกว่านายซ่อนพลังเอาไว้น่ะ แต่มันก็เป็นแค่พลังของผู้ใช้คุณไสยระดับแรก นายไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฉันหรอก”
ในขณะที่เขาพูด เกะโท สุงุรุก็โบกมือของเขาและปล่อยวิญญาณคาถาชั้นยอดจำนวนมากออกมา
โกโจ คาเอเดะก็หยิบดาบฟันวิญญาณของเขาออกมาเช่นกัน และพูดคำปลดปล่อยชิไคพร้อมแรงดันวิญญาณที่กระจายออกมา
"ดอกไม้โปรยปรายในสายลม เทพบุปผาร่ำร้อง สายลมแห่งสวรรค์ปั่นป่วน มารฟ้ากำสรวล"
หลังจากพูดจบ คาเอเดะก็โจมตีด้วยความสามารถแบบที่1ของดาบฟันวิญญาณ
“บุโชโกมะ!”
เขาโบกดาบทั้งสองเล่ม การโจมตีของเขาก่อให้เกิดพายุแล้วคร่าชีวิตพวกวิญญาณคำสาปนับไม่ถ้วน
“หึ่ม เป็นตัวปัญหาจริง”
เกะโท สุงุรุรู้สึกปวดหัวเมื่อเห็นโกโจ คาเอเดะสามารถจัดการวิญญาณคำสาปได้อย่างง่ายดาย
เพราะวิญญาณคำสาปทั้งหมดที่ต่ำกว่าเสมือนระดับแรกทั้งหมดถูกจัดการหมดแล้วด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว
และต่อให้เป็นระดับที่เหนือกว่านั้นพอโดนฟัน2ทีก็หายไปเลย กลายเป็นว่าคำสาปที่เขาพึ่งปล่อยออกมานั้นหายไปหมดแล้ว
“นายนี่ซ่อนความแข็งแกร่งไว้ได้ดีจริงนะ ไม่คิดเลยว่าจะอยู่ระดับพิเศษแล้ว ถ้าเป็นแบบนี้ฉันก็คงต้องจัดการด้วยตัวเองแล้ว”
ขณะที่เขาพูดอยู่ เกะโทก็นำกระบองสามท่อนที่เป็นอาวุธไสยเวทของเขาออกมา
จากนั้นเขาก็มาปรากฏตัวข้างหลังคาเอเดะอย่างฉับพลันแล้วโจมตีด้วยอาวุธไสยเวท
“ติ๊งง!” (เสียงดาบกระทบกระบอง)
โกโจ คาเอเดะซึ่งมีฮาคิสังเกตุระดับกลางสามารถรับมือการโจมตีอันรวดเร็วของเกะโทได้ ก่อนจะถอยไปสองสามก้าวและเว้นระยะห่างเหมือนเดิม
“ในที่สุดก็ลงมือเองแล้วหรอ?”
โกโจ คาเอเดะผู้ซึ่งได้ทักษะฟื้นฟูสามระดับทำให้ร่างกายของเขาแข็งแกร่งถึงระดับของเสมือนพิเศษแล้ว
และด้วยอาวุธอย่างกะเท็นคตสึ เขาสามารถฆ่าพวกที่ต่ำกว่าระดับพิเศษได้ในการโจมตีสามครั้ง
“ถ้าฉันไม่ลงมือเอง วิญญาณคำสาปของฉันคงจะโดนนายฆ่าหมด”
วิญญาณคำสาปของเกะโท อันที่จริงมีไว้เพื่อจัดการกับโอคตสึ ยูตะ
เพราะโอริโมโตะ ริกะเป็นวิญญาณคำสาประดับพิเศษที่ทรงพลังมาก
จากนั้นทั้งสองก็สู้กันแบบระยะประชิด
แม้ว่าเกะโทจะเป็นนักสาปแช่ง แต่ด้านกายภาพเขาก็ไม่ได้อ่อนแอ และสามารถต่อสู้ในระยะประชิดได้ดี
อย่างไรก็ตาม ในแง่ของทักษะทางกายภาพ เกะโท สุงุรุจะไม่มีทางได้เปรียบโกโจ คาเอเดะที่มีการฟื้นฟูสามระดับและหกรูปแบบโรคุชิกิ
ในช่วงเวลาสั้นๆ เขาก็แพ้โกโจ คาเอเดะ
“ทำไมร่างกายถึงได้แข็งแกร่งแบบนี้ หรือว่าเจ้านี่มีทักษะเสริมพลังกายหรอ?”
“เท้าวายุ!”
“ฟุ่บ!”
“พัฟ!”
ด้วยการเตะจากโกโจ คาเอเดะ เขาสังหารวิญญาณคำสาปที่เกะโทเรียกมาใช้ขวางการโจมตีทันที
เกะโทถอยหลังไปสองสามก้าว โดยรักษาระยะห่างที่ปลอดภัย
“ให้ตายเถอะ ฉันประเมินความแข็งแกร่งของเจ้าเด็กนี่ต่ำเกินไป!”
เกะโทที่ถอยออกมาขมวดคิ้วแน่น
เดิมทีเขาคิดว่าเขารู้ความแข็งแกร่งของโกโจ คาเอเดะดีแล้วตอนที่ย่านการค้า
แต่เขาไม่คิดมาก่อนเลยว่านั่นไม่ใช่พลังทั้งหมดของโกโจ คาเอเดะ
และในการต่อสู้นี่เองที่ทำให้เขาพบว่าทักษะโกโจ คาเอเดะนั้นมีความซับซ้อนมาก
นอกจากสู้ด้วยข้อผูกมัดกับตัวเองแล้วนั้น ยังมีทักษะทางกายภาพแปลกๆที่เขาไม่ทันได้ระวังจนโดนเล่นงาน (เกะโทน่าจะเข้าใจผิดเรื่องผนึกมั้งนะ คงคิดว่าเป็นข้อผูกมัดที่ทำกับตัวเอง ใครที่งงก็ลองนึกถึงนานามิ เคนโตะที่ทำข้อผูกมัดกับตัวเองครับ กรณีเดียวกัน เช่นถ้าเขาทำโอที พลังไสยเวทของเขาจะแรงขึ้น)
“ถ้าเป็นแบบนี้ ฉันก็คงต้องใส่สุดแล้วล่ะ”
หลังจากพึมพัมกับตัวเอง เกะโท สุงุรุก็เรียกวิญญาณคำสาปที่มีลักษณะคล้ายมนุษย์ออกมา
“นี่คือวิญญาณแค้นเสมือนระดับพิเศษที่แข็งแกร่งที่สุดที่ฉันมี อวาตารทามาโมะ โนะ มาเอะ”
ต่อให้จะไม่มีคำอธิบายของเกะโท แต่โกโจ คาเอเดะก็สัมผัสได้ถึงรัศมีอันน่าสะพรึงกว่าจากวิญญาณคำสาปที่พึ่งปรากฏตัว
“ฉันเองก็คงเอาจริงมั่งแล้ว”
โกโจ คาเอเดะพูดก่อนจะทำท่าประสานอิน
“เทคนิคปลดปล่อยผนึกสำรอง!” (เบียคุโกนี่แหละ ไปรีเสิร์ชเพิ่มเติมมา พูดงี้รู้สึกว่าเท่ดีเหมือนกัน)
หลังจากโกโจ คาเอเดะพูดจบ ก็มีลายสีดำกระจายไปทั่วร่างกายของเขาโดยมีเครื่องหมายที่หน้าผากเป็นศูนย์กลาง
นอกจากลายสีดำที่กระจายออกไปแล้ว เขายังได้รับพลังฉีมหาศาลอีกด้วย
มันกระจายไปตามแขน ขาและกระดูก ทำให้ความแข็งแกร่งของโกโจ คาเอเดะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า
เกะโทสัมผัสได้ถึงภัยคุกคามที่มาจากโกโจ คาเอเดะได้ เขาขมวดคิ้วแล้วใช้ท่าโจมตีที่เป็นท่าไม้ตายของเขาในทันที
“เทคนิคควบคุมวิญญาณขั้นสูง วังวน!”
จากนั้นคำสาปนับพันที่เขาถือครองก็รวมกันเป็นวังวนขนาดใหญ่
ตอนนี้เองที่เซนอิง มากิเริ่มรู้สึกตัวและค่อยๆลืมตาขึ้นมา
เนื่องจากแว่นเธอแตก ทำให้ตอนนี้เธอไม่สามารถมองเห็นวังวนขนาดใหญ่ของเกะโทได้
แต่พลังอันน่าสะพรึงกลัวของคำสาปนั้นสามารถสัมผัสได้โดยไม่ต้องพึ่งแว่นตา
“เป็นวิญญาณคำสาปที่เลวร้ายอะไรอย่างนี้”
มากิขมวดคิ้วและลุกขึ้นยืนช้าๆ
ทันใดนั้นเธอก็นึกถึงโกโจ คาเอเดะที่เคยปรากฏตัวข้างๆเธอมาก่อน และแสดงสีหน้ากังวลทันทีแล้วมองไปรอบๆ
ในไม่ช้าเธอก็เห็นโกโจ คาเอเดะกระโดดขึ้นไปในอากาศ
มือของเขาดูเหมือนจะจับอะไรบางอย่างอยู่ และจากนั้นก็ฟันลงมาอย่างดุเดือด
“บูม!”
ก่อนที่มากิจะทันได้ทำอะไร ก็มีเสียงระเบิดที่น่าสะพรึงกลัวดังขึ้น
ผลกระทบอันรุนแรงยังทำลายอาคารที่ใกล้ที่สุดด้วย
แม้แต่มากิที่พึ่งลุกขึ้นมายังล้มลงไปอีกรอบ
“หึหึ สมแล้วที่เป็นผู้ใช้คุณไสยระดับพิเศษ แข็งแกร่งจริงๆ”
ท่ามกลางฝุ่นควัน เป็นโกโจ คาเอเดะที่สภาพมอมแมมชุดขาดรุ่งริ่งและมีบาดแผลกับรอยเลือดเต็มไปหมดพูดออกมา
อย่างไรก็ตาม รอยแผลบนร่างของเขากลับฟื้นตัวอย่างรวดเร็วด้วยความเร็วที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า
แต่ก็ยังมีบาดแผลเล็กๆน้อยๆที่ยังไม่ได้รับการฟื้นฟู
นี่เป็นเพราะว่าพลังฉีที่โกโจสะสมไว้นั้นถูกใช้หมดไปแล้ว
แต่มันไม่สำคัญอีกต่อไป เพราะเกะโทเองก็ได้รับบาดเจ็บจากโกโจ คาเอเดะจนหมดสภาพการต่อสู้แล้ว
และได้หนีออกไปเรียบร้อย
“รีบกลับไปที่หอพักดีกว่า”
หลังจากสัมผัสได้ว่าเกะโทออกไปนอกระยะการรับรู้ของฮาคิสังเกตแล้ว โกโจ คาเอเดะก็ผ่อนคลายลงและเดินกลับหอพักตัวเอง
เมื่อมากิมาถึงจุดที่ทั้งสองสู้กันเมื่อครู่ สิ่งที่เธอเห็นมีเพียงคราบเลือด เศษซากอาคารและร่องรอยความเสียหายตามจุดต่างๆจากการต่อสู้เท่านั้น
“คนๆเมื่อกี้ต้องเป็นโกโจ คาเอเดะแน่ๆ! แต่ถ้าเขาแข็งแกร่งขนาดนั้นจะซ่อนความแข็งแกร่งของตัวเองไปทำไม?”
เมื่อมากิกำลังสับสน โอคตสึ ยูตะที่พึ่งมาถึงก็ถามมากิด้วยความประหลาดใจ
"คุณเซนอิง มันเกิดอะไรขึ้นที่นี่น่ะ?"
หลังจากคิดเรื่องที่โกโจ คาเอเดะชอบปิดซ่อนความแข็งแกร่งแล้ว มากิจึงตัดสินใจไม่พูดมันออกมา
"ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน พอฉันมาถึง มันก็เป็นแบบนี้แล้ว"