ตอนที่ 13 ยินดีต้อนรับสู้ฐานทัพของฉัน
“เอาคลิปมาสิ”ซูเฉินก็สั่งการ
ด้วยคำสั่งของเขา หน้าจออินเตอร์เฟสโปร่งใสก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าซึ่งมันแสดงให้เห็นถึงฉากของหมาล่าเนื้อที่กำลังจัดการกับผู้บุรุก
ในฐานะหมาล่าเนื้อ ระดับ 3 ดาว ต้น ความแข็งแกร่งของมันนั้นน่าเกรงขามมาก ซึ่งคนพวกนี้คงไม่มีทางรับมือพวกมันได้แน่ แค่เพียงมองดูหมาล่าเนื้อเล่นกับคนเหล่านี้ ซูเฉินนั้นก็ตระหนักได้ว่าทุกอย่างนั้นอยู่ในการควบคุมแล้ว
อย่างไรก็ตาม คนพวกนี้กลับพบเส้นทางมายังที่นี่ บางทีมันอาจจะเป็นเรื่องบังเอิญหรือ…?
“ถ้าหากฉันสามารถสร้างเรดาห์หรือท่าอากาศยาน(Airfield)ได้หล่ะก็ นี่ระบบ ด้วยระบบอนุญาตขั้น 3 สามารถสร้างเรดาห์ได้ใหม?”ซูเฉินก็ครุ่นคิด
“ได้ครับ โฮสต์ แล้วจะให้จัดการกับผู้บุกรุกนี่อย่างไรดี?”ระบบถาม
หลังจากครุ่นคิดไปมา ซูเฉินนั้นก็ตัดสินใจว่าไม่จำเป็นต้องฆ่าคนพวกนี้ในตอนนี้แต่ถ้าหากเขาปล่อยพวกนี้ไป ก็จะยิ่งมีคนมาที่นี่เยอะกว่าเดิมแน่ซึ่งมันจะน่ารำคาญเลย
“ส่งทหารสามนายไปจับกุมพวกนั้นซะ ฉันพึ่งนึกได้พอดีว่ารถขุดแร่(Chrono Miner) ไม่พอ ดังนั้นพวกเราจะใช้คนพวกนี้เป็นแรงงาน”ซูเฉินก็สั่งการ
ด้วยคำสั่งของซูเฉิน ชะตาของคนเหล่านี้ก็ได้ถูกกำหนดเรียบร้อยแล้ว
ในตอนแรก เหลิงหยูเหว่ยนั้นอยากจะออกไปช่วยคนเหล่านี้ ยังไงซะ พวกนั้นก็เป็นส่วนหนึ่งของสถานที่รวมตัวที่พวกเธออยู่และเห็นหน้าเห็นตากันบ่อยด้วย อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เธอจะได้ลงมือ เธอก็มองเห็นใบหน้าอันคุ้นเคยหลายคนวิ่งออกมาใช้มือและเท้าน็อคคนทั้งห้าให้หมดสติก่อนจะแบกออกไป
“พี่สาว ทำไมคนพวกนั้นดูเหมือนลูกน้องของซูเฉินจัง?”คำพูดของลั่วฮางนั้นก็ทำให้เหลิงหยูเหว่ยตระหนักอะไรขึ้นมาได้
ใช่แล้ว ทหารพวกนั้นแต่งตัวเหมือนกับลูกน้องของซูเฉินเป๊ะๆเลย แต่พวกนั้นไม่ใช่หนึ่งในเก้าคนที่เธอได้พบ
นั่นหมายความว่าซูเฉินหน่ะมีลูกน้องมากกว่าเก้าคน?
พอความคิดนี้ผุดขึ้นมา เหลิงหยูเหว่ยก็ตระหนักได้ว่าตัวตนของซูเฉินนั้นไม่ได้เรียบง่ายอย่างที่คิด จะมีคนธรรมดาที่ใหนกันมีลูกน้องเป็นคนเหนือมนุษย์หน่ะแถมยังมีมากกว่าเก้าคนด้วย?
“พวกเรามาหาซูเฉินก็เพื่อแจ้งข่าวคราวเกี่ยวกับสถานที่รวมตัวของพวกเรา หากเราตามทหารพวกนั้นไป บางทีเราอาจจะได้เจอเขา”จางเถาที่เป็นผู้อาวุโสประจำกลุ่มก็พูดออกมา
หลังจากครุ่นคิดสักครู่ เหลิงหยูเหว่ยก็พยักหน้า “เอาหล่ะตามพวกนั้นไปกัน”
ทั้งสามนั้นจึงแอบตามทหารพวกนั้นไปอย่างเงียบๆในขณะคอยระวังการเคลื่อนไหวของตัวเองทุกฝีก้าวแต่น่าเสียดายที่ทหารทั้งหมดนั้นรู้ตัวนานแล้ว
อย่างไรก็ตาม ภายใต้คำสั่งของซูเฉิน ทหารทั้งหมดจึงไม่ลงมือทำอะไรและทำราวกับว่าพวกเขานั้นยังไม่รู้ตัวในขณะเดินทางกันไปต่อ
หลังจากเดินไปสักครู่หนึ่ง เหลิงหยูเหว่ยก็สังเกตเห็นว่าทางที่พวกเขาเดินทางไปนั้นเป็นเส้นทางเดินทางไปยังเหมืองถ่านหิน หรือว่าซูเฉินนั้นอยู่อีกฝากของเหมือนถ่านหิน?
เธอนั้นไม่เข้าใจวิธีคิดของซูเฉินเลย ในตอนนี้เหมืองถ่านหินนั้นมันไม่มีค่าอะไรเลย แถมภายในก็มีสัตว์กลายพันธุ์เพ่นพ่านไปมาซึ่งนั่นทำให้เหมืองถ่านหินยังคงไม่มีผู้ใดเข้าไปยึดครอง
ในขณะที่พวกเขาเข้าใกล้เหมืองถ่านหินมากขึ้นเรื่องๆ ฉากอันน่าตกตะลึงก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าพวกเขา
ที่บริเวณขอบของเหมืองถ่านหินนั้นมีเครื่องจักรขนาดใหญ่มากมายตั้งอยู่ ซึ่งมันมีโครงสร้างเหมือนกับหอยคอยที่ส่องแสงสีฟ้าออกมาอย่างต่อเนื่องแถมมันยังแผ่ความร้อนอันน่าหวาดหวั่นออกมาด้วย
ส่วนที่ด้านบนสุดของตึกพวกนี้ก็มีหม้อน้ำขนาดใหญ่อยู่สองอันพร้อมกับมีถ่านหินถูกบดขยี้อยู่ด้านบนซึ่งทำให้เกิดควันอำออกมา
ส่วนอีกอันนั้นคือสิ่งก่อสร้างทรงสีเหลี่ยมแปลกๆที่มีรูปปั้นสูงมากกว่าสิบเมตรตั้งอยู่ ซึ่งสิ่งที่ทำให้ดวงตาของเหลิงหยูเหว่ยกระตุกไม่หยุดนั้นก็คือเจ้ารูปปั้นนี้ มันก็คือรูปปั้นของซูเฉินนั่นเอง
นอกจากนี้มันก็ยังมีสิ่งก่อสร้างหนึ่งที่ดูธรรมดาเหมือนกับอาคารสำนักงานอยู่ด้วย
ทันใดนั้นสีหน้าของเหลิงหยูเหว่ยก็เปลี่ยนไปทันทีเมื่อเธอตระหนักได้ถึงทหารหลายนายที่ปรากฏตัวขึ้นอยู่ข้างๆเธอ ทหารเหล่านี้ก็มองพวกเธอด้วยดวงตาอันเย็นชาซึ่งทั้งหมดนั้นก็ยืนเรียงกันโดยเปิดทางให้พวกเธอเดินไปยังเส้นทางหนึ่งซึ่งมันเป็นเส้นทางเดียวที่พวกเธอจะสามารถเดินไปได้
“นี่หมายความว่าพวกเราจะต้องเดินเข้าไปเองสินะ?”เหลิงหยูเหว่ยนั้นก็เข้าใจดีว่าพวกเธอนั้นไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเดินเข้าไป
เธอนั้นตกตะลึงมากๆในตอนนี้ แม้ว่าเธอนั้นจะไม่ได้อยู่ที่นี่มาเป็นปีแต่ก่อนหน้านี้มันไม่มีสิ่งก่อสร้างแบบนี้แน่นอน การจะสร้างสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่โตแบบนี้ได้นั้นจำเป็นต้องใช้กำลังคนและวัตถุดิบมากมาย นี่ซูเฉินเป็นคนสร้างพวกนี้งั้นหรอ?
ภายใต้การนำทางของเหล่าทหาร มีเพียงเหลิงหยูเหว่ยคนเดียวเท่านั้นที่ได้ก้าวเข้าไปในฐาน ส่วรนลั่วฮางและจางเถานั้นทำได่แค่รออยู่ด้านนอก
เมื่อเหลิงหยูเหว่ยเห็นร่างของซูเฉิน ในที่สุดเธอก็ยืนยันได้แล้วว่านี่เป็นฝีมือของซูเฉิน
“ยินดีต้อนรับสู่ฐานของฉัน”ซูเฉินก็ยิ้มให้เหลิงหยูเหว่ย
เขานั้นคิดเรื่องนี้มานานแล้วก่อนจะปล่อยให้พวกเธอเข้ามา เขานั้นรู้ดีว่าเขานั้นไม่ควรจะปล่อยให้ฐานของเขาถูกเปิดโปงเร็วแบบนี้ ดั้งนั้นวิธีที่ดีที่สุดก็คือการหาคนที่มาทำหน้าที่เป็นคนวงในเพื่อปกปิดข้อมูลของที่นี่และรวมไปถึงคอยสอดส่องส่งข้อมูลมาให้เขา
ภายในพื้นที่รวมตัว เขานั้นไม่ได้รู้จักคนมากเท่าไหร่ และเหลิงหยูเหว่นนั้นก็นับได้ว่าเป็นคนที่เขาคุ้นเคยที่สุด เขานั้นพอจะเข้าใจในนิสัยของผ็หญิงคนนี้ และเธอก็เป็นคนดีด้วย
การปล่อยให้อีกฝ่ายเข้ามานั้นไม่เพียงจะทำให้อีกฝ่ายหวาดกลัวแต่ยังเป็นการมอบผลประโยชน์ให้ด้วย
หากไม่มีของมาล่อ แล้วใครจะเต็มใจช่วยกัน?
“นี่นายใช่ซูเฉินที่ฉันรู้จักหรอ แล้วฐานนี่นายสร้างขึ้นมาเองหรือเปล่า?”เหลิงหยูเหว่ยนั้นก็มีคำถามมากมายที่อยากจะถาม
“ไม่ต้องห่วงไป ก่อนอื่นนั่งลงแล้วค่อยๆคุยกัน”ซูเฉินนั้นก็โบกมือสั่งให้ทหารนำเก้าอี้มาให้เหลิงหยูเหว่ยนั่ง
“ถ้าหากเธออยากจะรู้ ฉันก็พอจะตอบได้แต่ไม่ใช่ทั้งหมด”
คำพูดของซูเฉินนั้นชัดเจนมาก ถ้าหากมีสิ่งที่เขาตอบไม่ได้ ก็อย่าถาม
เหลิงหยูเหว่ยก็ถลึงตามอง แล้วจะถามไปเผื่อถ้าเขาไม่ตอบ?
เธอนั้นก็คิดสักครู่แล้วถามคำถามแรกขึ้น “ชื่อของนายเป็นชื่อปลอมงั้นหรอ?”
ซูเฉินก็หัวเราะ “ไม่ต้องห่วง นั่นชื่อจริงของฉัน รับประกันได้เลย”
เหลิงหยูเหว่ยก็ถอนหายใจอย่างโล่งอกแล้วถามต่อว่า “แล้วที่นี่มันเกิดอะไรขึ้นกัน? ก่อนหน้านี้ที่นี่มันไม่มีสิ่งก่อสร้างสี่อันนั้นนี่ แล้วทหารพวกนั้น ทั้งหมดเป็นคนเหนือมนุษย์หมดเลยหรอ?”
ตอนที่เธอเข้ามาเมื่อครู่ เหลิงหยูเหว่ยนั้นสังเกตเห็นว่าทหารทั้งหมดนั้นเป็นคนเหนือมนุษย์หมดเลย ถ้าหากเรื่องนี้ได้รับการรับรู้หล่ะก็ มันจะต้องทำให้ทั้งโลกสั่นสะท้านแน่
ทุกคนนั้นรู้ดีว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถกลายเป็นคนเหนือมนุษย์ได้ เพื่อจะกลายเป็นคนเหนือมนุษย์ คนผู้นั้นจะต้องมีโชคที่โครตดีหรือไม่ก็มีตระกูลคอยสนับสนุน เธอนั้นได้ยินมาว่าในเมืองบางแห่งมีเจ้าหน้าที่วิวัฒนาการ(Evolution Agent)ที่คอยเปลี่ยนคนธรรมดาให้กลายเป็นคนเหนือมนุษย์อยู่
อย่างไรก็ตาม ในที่ของซูเฉิน ทุกคนล้วนแล้วแต่เป็นคนเหนือมนุษย์ทั้งสิ้น มันเป็นสิ่งที่ไม่อยากจะเชื่อเลย และเธอนั้นก็ไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน
“ฉันคงไม่สามารถบอกทุกอย่างเกี่ยวกับสิ่งก่อนสร้างให้เธอได้หรอก แต่ฉันบอกได้เรื่องนึง นั่นก็คือ ในอนาคตจะมีสิ่งก่อสร้างแบบพวกนั้นเยอะมากกว่านี้อีก ฉันตัดสินใจว่าจะสร้างฐานทัพขนาดใหญ่ขึ้นที่นี่และเธอก็ไม่ต้องกังวลสิ่งก่อสร้างพวกนั้นด้วย แล้วก็ทหารทั้งหมดของฉันหน่ะเป็นอัจฉริยะระดับหนึ่งในล้านคนเลย รวมทั้งเป็นคนเหนือมนุษย์ทั้งหมดด้วย!”
ด้วยการตอบคำถามแต่ละอัน เหลิงหยูเหว่ยนั้นก็ตกตะลึงจนหัวชาเลย ถ้าหากคำพูดของซูเฉินถูกต้องหล่ะก็ สถานที่แห่งนี้ก็นับได้ว่าเป็นสถานที่ที่เทียบได้กับเมืองหนึ่งเลยก็ว่าได้