EP.19
“จะเข้าไปรอ...เหรอ”
“อืม”
“แต่ซิม ไม่อยู่นะ...”
“แล้วจะให้นั่งรอหน้าห้องไง” แอบหมั่นไส้สาวเจ้าที่เขาอุตส่าห์พาติดรถกลับคอนโด
พอมาถึงก็ยังจะไม่ให้เข้าไปรอด้านในอีก
“กลัวอะไร”
“ป เปล่า ไม่ ได้ ก กลัว...แต่!!” ไม่ได้กลัวแต่ไม่อยากอยู่กันสองคนในที่ที่ปิดมิดชิดกับผู้ชาย
แต่ทว่าไม่เป็นผลเพราะว่าโซ่แย่งคีย์การ์ดไปเปิดประตูห้อง ซ้ำแล้วยังเปิดตู้เย็นหยิบน้ำอัดลมมาแกะดื่มสบายใจเฉิบ ปล่อยให้แฟนเจ้าของห้องยืนมองตาปริบกับท่าทีสบายๆ ของแขกไม่ได้รับเชิญ
“ไม่เข้าห้องเหรอ”
“เฮอะ!” แก้มป่องพองลมกับค้อนวงใหญ่ที่ขิมมอบให้โซ่หนึ่งที หญิงสาวปิดประตูห้องเดินเข้าไปเก็บข้าวของตัวเอง
กำลังจะเคลียร์ซิงค์ที่เต็มไปด้วยกองจานสูงท่วมตัวแต่ก็ต้องสะดุ้ง เมื่อแขกที่ไม่ได้รับเชิญลุกเดินขึ้นมาประชิดตัว
“หิว”
“ล แล้ว...” จู่ๆ เดินมาบอกว่าหิวคนฟังก็รีบกรู่ถอยหลัง
“ทำอะไรให้กินหน่อยสิ เห็นไอ้ซิมมันชอบโม้ว่าทำกับข้าวอร่อย”
“ยังไม่ได้หุงข้าวเลย”
“อีกสักพักกว่าไอ้ซิมมันจะมา...นะ! หิวมาก ยังไม่ได้กินอะไรเลย”
แขกไม่ได้รับเชิญละสายตาจากแอพโซเชียลชื่อดังมองแม่บ้านตัวน้อยทำนั่นนี้ในครัวก็รู้สึกว่ามันเพลินตาดี
ปกติคนที่โซ่คุ้นชินว่าจะง่วนอยู่ในครัวแบบนี้เห็นจะมีแค่คุณนายแม่คนเดียวและเขาไม่เคยอินสักครั้ง
เวลาไหลผ่านไปแบบไม่รู้ตัว ข้าวผัดไข่ใส่ไส้กรอกก็วางให้บนโต๊ะทรงสูงส่งกลิ่นหอมเตะจมูก เชิญชวนให้ลุกขึ้นไปดู สีสันการจัดจานถือว่าดูดี
แต่...
“ไม่ใช่หมูกระเทียม?”
“เหม็นไม่ใช่เหรอ...”
“เออ! ก็จริง” เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่คนฟังประทับใจจนแอบยิ้มก่อนจะตักข้าวผัดใส่ปากและก็เคี้ยวไปยิ้มไป
โซ่ไม่ถูกกับกระเทียมเท่าไร ไม่เคยชอบกลิ่นมันและเขี่ยทิ้งทุกทีที่เจอ
“กว่าจะรับสายนะซิม...”
...
“อยู่ไหนแล้ว...”
...
“โซ่อยู่ที่ห้อง...”
ประโยคหลังขิมแอบกระซิบพูดเบาๆ แต่ลืมไปลืมเปล่าว่าคอนโดขนาดเท่าแมวดิ้น กระซิบยังไงคนในห้องก็ได้ยินอยู่ดีนั่นเอง
“อีกนานเลยเหรอ...”
...
“แล้วขิมล่ะ...”
...
“เดี๋ยวก่อนซิม!!”
เมื่อคนปลายสายติดธุระแล้วก็ไม่สนใจ ซิมวางสายจากไปส่วนขิมก็ย้ายร่างตัวเองเข้าไปในห้องนอนขนาดกระจิริด รอจนกว่าซิมจะกลับมา
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
“ขิม!”
...
“ทำไรอยู่เปิดประตูหน่อย”
ความเหนื่อยล้าพาร่างหญิงสาวผล็อยหลับขณะรอจนลืมเวลากระทั่งแฟนหนุ่มทุบประตูเรียก
“โอ๊ยซิม! มีอะไร”
“เรื่องที่เคยคุยกันวันนั้น โอเคใช่มั้ย”
“ฮะ” คนเพิ่งตื่นยังเมาขี้ตา
เรื่องสุดท้ายที่คุยก่อนจะงอนกันก็น่าจะเป็นเรื่องคืนคอนโด
“เรื่องย้ายที่อยู่ไง” แล้วมันก็ใช่ในความคิดของขิม “อืม! เราโอเค” เธอเองก็ไม่มีปัญหาที่จะต้องย้ายกลับบ้าน ต้องห้อยโหนรถเมล์วันละสามสี่ชั่วโมงก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่เพราะอีกแค่ไม่กี่เดือนก็เรียนจบแล้ว
“กูบอกแล้วว่าขิมโอเค” แฟนหนุ่มหันไปคุยกับอีกคน ซึ่งขิมลืมไปแล้วว่าโซ่ก็ยังอยู่ด้วย
“ก็ดี...” เพียงแต่ใบหน้าเรียบตึงจากแขกไม่ได้รับเชิญดูไม่สบอารมณ์นักแล้วโซ่เอ่ยกับขิมสั้นๆ
“ให้ช่างทำห้องใหม่อยู่รออีกสองสามวันแล้วกัน”
“ห้อง?”
“เอาเป็นว่ามึงพร้อมเมื่อไรบอกนะ ขอบใจมากมึง”
“เออ”
ขิมสะกิดแขนซิมยิกๆ เพราะจมูกมันได้กลิ่นผิดปกติ ต้องมีอะไรแน่นอน ดูเหมือนทั้งคู่เพิ่งตกลงอะไรบางอย่าง
.
.
.
“ว่าไงนะ”
“แค่ช่วงสั้นๆ”
“แล้วทำไมต้องเป็นเรา”
“เราสัญญากับป้าเพียงว่าจะดูแลขิมอย่างดี ถ้าแค่เช่าคอนโดเรายังไม่มีปัญญาจ่าย ต่อไปจะเอาหน้าที่ไปเจอแม่ขิมอีก”
“มันไม่ใช่เหตุผลเลยนะซิม”
“ไหว้ล่ะนะ”
ซิมแทบจะนั่งคุกเข่าพนมมือแล้วก้มกราบ
เพราะหนี้ห้าแสนที่ต้องเอาไปจ่ายให้เสี่ยเจ้าของบ่อนพนัน เขาจำต้องเอาแฟนสาวไปทำงาน (เป็นตัวประกัน) ที่ร้านโปรคลับระหว่างตัวเองวิ่งเต้นหาเงินมาคืนโซ่
“ไม่! ซิมเป็นคนสร้างหนี้ขึ้นมาเองไม่เกี่ยวอะไรกับเราเลยสักนิด” เนื้อไม่ได้กิน หนังไม่ได้รองนั่งและไม่เคยสนับสนุนยุยงส่งเสริมสักครั้ง เวลามีปัญหาแน่นอนว่าขิมไม่ให้แฟนชั้นเลิศที่ต้องยอมเอาตัวไปทำงานใช้หนี้
“ช่วยเราสักครั้งนะขิม”
...
“แค่ครั้งเดียว ขอได้มั้ย” แม้จะไม่ใช่ทางที่ถูกต้องแต่ในยามคับขันหนทางมันก็ไม่ได้มีให้เลือกมากมายนัก
แล้วยิ่งต้องไปลำบากคนอื่นอีก ก็ต้องขอร้องขอความกรุณาให้เขาช่วย
“ก็คิดซะว่าไปทำงานพิเศษที่ร้านไอ้โซ่พลางๆ พอเราหาเงินมาคืนมันได้ครบเมื่อไรขิมก็ค่อยย้ายกลับมา โอเคมั้ย”
“ไม่”
“เราขอร้องแค่ครั้งนี้ครั้งเดียว ต่อไปเราไม่เอาอีกแล้ว”
“...แน่นะ!”
“อือ! สัญญาลูกผู้ชาย”
คนฉลาดหัวไว ซิมรู้ตัวว่าต้องพูด ต้องขอร้อง ต้องทำตัวยังไงให้แฟนสาวผู้น้ำใจงาม ใจดีและขี้สงสารคนนี้ยอม
“เราขอคิดดูก่อน ยังไม่รับปาก”
“ทุกอย่างเตรียมไว้ให้แล้วขิม ที่พักปลอดภัยหายห่วงไอ้โซ่มันรับประกัน ขิมแค่ทำงานเป็นแคชเชียร์หน้าร้านเกมวันเสาร์อาทิตย์และหลังเลิกเรียน มีเงินเดือนและเงินพิเศษด้วย” คำโฆษณาอวดอ้างชุดใหญ่ สวัสดิการต่างๆ ที่ขิมได้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเขาเป็นฝ่ายขอให้เอง
“เสาร์อาทิตย์เราต้องกลับบ้าน”
“ช่วงนี้ไงขิม ถ้าทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ขิมก็กลับบ้านได้ทุกเมื่อที่ต้องการเลย”