ตอนที่แล้วบทที่ 13.1 ไกด์สู่นิยายแฟนตาซีตะวันออก (Xuanhuan)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 14 เทคนิคการคิดหัวข้อและขยายประโยค (1)

บทที่ 13.2 ไกด์สู่นิยายแฟนตาซีตะวันออก (Xuanhuan)


บทที่ 13.2 ไกด์สู่นิยายแฟนตาซีตะวันออก (Xuanhuan)

5. กรอบการทำงานอย่างง่ายและการวิเคราะห์นิยายแฟนตาซีตะวันออก

ในย่อหน้านี้จะพุ่งเป้าไปที่นักเขียนที่ไม่เคยเขียนนิยายแฟนตาซีตะวันออกมาก่อน แต่ต้องการจะลองฝีมือเขียนเรื่องประเภทนี้ หวังว่าบทความหัวข้อนี้จะมีประโยชน์ในกระบวนการทำงานเขียนของคุณไม่มากก็น้อย

ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม กรอบการทำงาน ไม่ใช่ตัวแทนของประสบการณ์การอ่านหนังสือ ในการที่จะเขียนนิยายแฟนตาซีตะวันออกได้ดีนั้น สิ่งสำคัญที่สุดคือได้อ่านนิยายแฟนตาซีตะวันออกจำนวนมาก

(1) ตัวละครแบบบริสุทธิ์เหมือนกระดาษว่างเปล่า

A) การเริ่มเรื่องจากคนไร้ค่าระดับล่าง ปกติแล้วพล็อตแบบนี้ก็เป็นที่นิยมเขียนโดยนักเขียนมือใหม่และนักเขียนที่ชำนาญแล้ว และมันยังเป็นวิธีที่ยังนิยมใช้กันอยู่ในปัจจุบัน ตัวละครหลักสามารถเป็นคนธรรมดาจากโลก ผู้ถอดวิญญาณไปเข้าร่างคนไม่ดีแต่มีฝีมือแก่กล้า ซึ่งจะทำให้ผู้อ่านเพิ่มความรู้สึกอารมณ์ร่วมไปด้วย หรือตัวละครหลักเป็นคนที่ฝึกวิชาแก่กล้ามาจากอีกโลกหนึ่ง และมาเข้าร่างคนไร้ค่าคนหนึ่งแทน ทำให้คนคนนี้โชคดีได้รับวิชาระดับสูงเป็นทรัพย์สมบัติประจำตัวในการเริ่มชะตาชีวิตที่ยิ่งใหญ่ข้างหน้าของเขา สองแบบนี้ไม่ได้มีความแตกต่างกันมาก ดังนั้นเราจะมาดูที่กรอบการทำงานสำหรับเรื่องแบบนี้ด้วยกันดังต่อไปนี้

การเริ่มเรื่อง: ก่อนหน้านั้นได้มีการกล่าวถึงขาลงและขาขึ้นในหัวข้อเกี่ยวกับจังหวะการเดินเรื่อง คุณสามารถเขียนให้ตัวละครหลักมีความสามารถค่อนข้างต่ำ และเริ่มเรื่องด้วยขาลง ในกรณีนั้น ตัวแปรที่สำคัญคือขาขึ้นแรก

เมื่อเรื่องเริ่มขึ้นแล้ว คำแนะนำสำหรับนักเขียนมือใหม่คือให้ตัวละครของคุณได้รับความได้เปรียบภายในสามบทแรกถ้าเป็นไปได้ นี่จะช่วยให้เขาเพิ่มความสามารถและศักยภาพที่จะพัฒนาตัวเขาเองไปพร้อมกับทำให้ผู้อ่านรู้สึกมีความคาดหวังมากขึ้น

(มีสิ่งจำเป็นสามข้อที่ต้องกล่าวก่อน ข้อแรก ตัวละครหลักถูกกดขี่มากแค่ไหน มันเป็นเรื่องปกติที่จะให้ผู้อ่านเข้าใจถึงข้อจำกัดตัวละครหลัก แต่คุณควรเลี่ยงการเขียนถึงความอ่อนแอและความสำเร็จอันเล็กน้อยที่ตัวละครหลักสามารถทำได้ อีกทั้งคุณจำเป็นต้องระวังการคิดพล็อตของตัวละครนำหญิงและตัวละครที่คล้ายกันในเหตุการณ์ถูกรังแกด้วย ยกตัวอย่าง ตัวละครนำหญิงถูกลักพาตัวไปโดยผู้ร้าย แค่นี้ก็สามารถสร้างอารมณ์ร่วมของผู้อ่านได้มากพอแล้ว ไม่ต้องถึงขั้นให้ตัวละครนำหญิงโดนข่มขืน เพราะนั่นดูจะเป็นการใส่เหตุการณ์เลวร้ายเกินจำเป็นให้ตัวละครนำของคุณ

ข้อสอง คุณควรดูแลตั้งค่าตัวแปรความได้เปรียบให้ดี มันเป็นความลับหรือไม่? มันมีเอกลักษณ์หรือไม่? มันสามารถเพิ่มระดับได้ไหม?

ข้อสาม ใช้ประโยชน์จากตัวแปรความได้เปรียบอย่างไร? ตัวแปรความได้เปรียบสามารถช่วยตัวละครหลักแก้ปัญหาได้เช่นเดียวกับสามารถเพิ่มระดับพลังให้ตัวละครหลัก อีกทั้งเหตุการณ์ปัญหาอาจเพิ่มตามมาจากความได้เปรียบหรือระดับพลังที่เพิ่มขึ้น ปัญหาใหม่นี้อาจแก้ได้ด้วยตัวแปรความได้เปรียบเช่นกัน และโดยการใช้วิธีดำเนินเรื่องวนแบบเดิม พล็อตเรื่องสามารถเดินหน้าต่อไปได้)

หลังจากได้รับตัวแปรความได้เปรียบแล้ว ระดับพลังและระดับสภาพเหตุการณ์ของตัวละครหลักจะพัฒนาขึ้น ถึงตอนนี้ มันเหมือนกับแผนผังการฝึกฝนวิชา ที่คู่ต่อสู้ระดับต่ำชุดแรกควรเริ่มเข้ามามีเรื่องกับตัวละครหลัก

คู่ต่อสู้ระดับต่ำชุดแรก ควรมีระดับพลังสูงกว่าตัวละครหลักของคุณ แต่ไม่ควรสูงเกินไป ตัวละครหลักควรเพิ่มระดับพลังได้รวดเร็วกว่าคนทั่วไปในเรื่องนิยายของคุณ

ทีนี้มาดูเรื่องการจัดการกับคู่ต่อสู้ในเรื่องกัน

เมื่อคู่ต่อสู้ระดับต่ำชุดแรกปรากฏ – ตัวละครหลักได้ทดสอบฝีมือที่ฝึกฝนมา – ตัวละครหลักเอาชนะคู่ต่อสู้ระดับต่ำ – คู่ต่อสู้ระดับกลางปรากฏ (โดยมากจะเป็นพวกรุ่นใหญ่ของคู่ต่อสู้ระดับต่ำชุดแรก) – ตัวละครหลักทดสอบฝีมืออีกที – ตัวละครหลักเอาชนะคู่ต่อสู้ระดับกลาง – คู่ต่อสู้ระดับสูงปรากฏ (พวกนี้โดยทั่วไปอาจเป็นยอดฝีมือบางคนในครอบครัวของคู่ต่อสู้ชุดแรก) – ตัวละครหลักทดสอบฝีมืออีกครั้งหนึ่ง – ตัวละครหลักเอาชนะคู่ต่อสู้ระดับสูงได้

ใช้การดำเนินเรื่องวนซ้ำแนวเดิมจะช่วยให้คุณเขียนโครงเรื่องช่วงเริ่มต้น ในขณะที่ตัวละครหลักของคุณยังอยู่ในช่วงอ่อนฝีมือในแผนผังการฝึกฝนวิชา

เมื่อพูดถึงแผนผังการฝึกวิชา เรามาดูที่แนวคิดของแผนผังในเรื่องของคุณ โดยทั่วไปแผนผังการฝึกวิชาก็เหมือนเมืองเล็กใหญ่ต่างๆ เมื่อถึงเวลาที่คุณออกจากแผนผังการฝึกวิชาแล้ว แผนผังเมืองหรือชุมชนต่อไปควรมีขนาดใหญ่ขึ้นไปตามสัดส่วน และตัวละครระดับพลังสูงสุดที่นี่ ควรจะมีระดับพลังทุกอย่างสูงกว่าในแผนผังการฝึกวิชามาก

พูดง่ายๆ ก็คือ แผนผังแต่ละที่ ควรจะมีระดับแตกต่างกันสัมพันธ์กับระดับพลังฝีมือของตัวละครหลัก เช่นหัวหน้าคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในแผนผังระดับสูงสุด ควรมีความแข็งแกร่งมากกว่าตัวละครหลัก แต่ไม่สูงกว่าหลายระดับเกินไป

ระบบระดับพลังและความยากง่ายของแต่ละแผนผัง ต้องสมดุลกัน

การเปลี่ยนสถานที่และย้ายไปสู่แผนผังใหม่ ตัวละครหลักจะพบกับคู่ต่อสู้ระดับต่ำ ระดับกลาง ระดับสูงของแผนผังนี้ ใช้สูตร ซัก ล้าง ทำซ้ำ แล้วก็ย้ายไปแผนผังใหม่

ถ้าหากคุณเชื่อว่านิยายแฟนตาซีตะวันออกเขียนได้ง่ายอย่างนั้น คุณกำลังเข้าใจผิดอย่างมาก

มันไม่มีสิ่งที่ผู้อ่านไม่เคยเห็นมาก่อน ผู้อ่านจะไม่อยากเห็นนิยายแฟนตาซีตะวันออกที่เขียนออกมาตามสูตรดื้อๆ กรอบการทำงานแบบนี้มีไว้เพื่อช่วยให้คุณเข้าใจเหตุผลพื้นฐานเบื้องหลังนิยายแฟนตาซีตะวันออกเท่านั้น

ถ้าคุณต้องการเขียนเรื่องที่ดี คุณจำเป็นต้องมีองค์ประกอบหลายอย่างสอดแทรกเข้าด้วยกัน เพื่อที่ผู้อ่านจะได้เกิดความคาดหวัง ใช้วิธีนี้เป็นวิธีที่ดีที่สุด

เราจำเป็นต้องเข้าใจวิธีการนำองค์ประกอบต่างๆ มารวมเข้าด้วยกัน เช่นเดียวกับการแยกส่วนมันออกจากกัน

อย่างในตัวอย่าง แค่ตัวละครหลักทดลองฝึกฝนวิชา ก็สามารถแยกส่วนออกมาได้หลายวิธี

ก่อนหน้าการฝึกฝนวิชา: คนร้ายปรากฏตัว และนักเขียนก็บรรยายความร้ายกาจและทรงพลังของคนร้ายไปพร้อมกับเหตุผลว่าทำไมตัวละครหลักถึงฝีมือด้อยกว่าคนร้าย แล้วก็เอ่ยถึงวิธีการบางอย่างที่ตัวละครหลักสามารถใช้ในการเอาชนะการต่อสู้ หลังจากนั้นตัวละครหลักก็ใช้วิธีนี้เพื่อให้ได้วัตถุดิบและทรัพยากรที่จำเป็นในการฝึกฝนวิชาของเขา และตัวละครหลักก็ออกเดินทางไปตะลุยหัวเมืองต่างๆ ผจญภัย ไปหมู่บ้านประมูลสินค้า หรือท้าประลองเพื่อแลกกับทรัพยากรที่ต้องการเหล่านี้

ระหว่างการฝึกฝนวิชา: การฝึกฝนวิชาสามารถทำที่ใดและเวลาใดก็ได้ คุณสามารถเขียนให้ตัวละครหลักฝึกฝนวิชาไปพร้อมกับได้รับทรัพยากรไปด้วยก็ได้ หรือพุ่งความสนใจไปที่การฝึกฝนวิชาอย่างเต็มที่ ระหว่างการซ่อนตัวในที่ปลอดภัยของเขา อีกทั้งยังมีวิธีมากมายที่ใช้สำหรับการฝึกฝนวิชา อย่างเช่นฝึกฝนร่างกายอย่างหนักและยาวนานให้แข็งแกร่ง รวบรวมพลังจิตวิญญาณ หรือเปิดศักยภาพพลังสูงสุดของตนเอง หรือแม้แต่การเพิ่มพลังวิญญาณ

หลังฝึกฝนวิชา: ส่วนที่สำคัญที่สุดคือการเอาชนะศัตรู ปิศาจ หรือแม้กระทั่งตัวละครนำหญิงที่ไม่เคยเอาชนะได้มาก่อน ตัวละครหลักต้องจบลงด้วยการได้รับทรัพย์สมบัติที่ไม่เคยได้รับมาก่อน สามารถฝึกฝนวิชาขั้นสูงที่ไม่เคยทำได้มาก่อน หรือสามารถจับสัตว์เลี้ยงบางอย่างที่ไม่เคยจับได้มาก่อน อะไรทำนองนี้

การฝึกฝนสำเร็จ และการต่อสู้เริ่มขึ้น: ตัวละครหลักใช้ความได้เปรียบที่รวบรวมมาได้ทั้งหมดก่อนหน้า และได้รับชัยชนะการต่อสู้ตามคาด

หลังจากการต่อสู้: พลังของตัวละครหลักและสถานะทางสังคมพร้อมกับฝีมือพัฒนาขึ้น และผลลัพธ์ของการต่อสู้ จะเป็นตัวทำนายอนาคตของไคลแมกซ์ใหญ่ครั้งต่อไป

B) ตัวละครหลักที่ต้นกำเนิดมาจากโลกแฟนตาซี: คุณสามารถใช้เรื่องของนักเขียนนิยายแฟนตาซีตะวันออกชื่อดัง “ฉันกินมะเขือเทศ” (I Eat Tomatoes) และเรื่องของเขาเป็นตัวอย่างได้ ในเรื่องประเภทนี้ จุดความคาดหวังหลายจุดคล้ายกับเมื่อตัวละครหลักช่วงเริ่มต้นที่ยังเป็นคนไร้ค่าอยู่ และระบบตัวแปรความได้เปรียบก็คล้ายกันด้วยเช่นกัน

ความแตกต่างหลักคือ ในเรื่องแนวจากคนไร้ค่ากลายเป็นฮีโร มีธรรมชาติของเส้นทางขาลงและขาขึ้นระหว่างดำเนินเรื่อง ขณะที่เรื่องราวของตัวละครหลักมีต้นกำเนิดมาจากโลกแฟนตาซี จะมีแนวโน้มที่จะเน้นความสนใจไปที่กระบวนการเติบโตแข็งแกร่งขึ้น และมีแนวโน้มที่จะเริ่มต้นในขณะที่ตัวละครยังเป็นเด็กอยู่มากกว่า

เรื่องประเภทนี้ต้องการความสามารถของนักเขียนเป็นพิเศษ สำหรับสภาพเหตุการณ์ในการดำเนินเรื่อง ส่วนใหญ่ก็คล้ายกับแบบที่ให้คนไร้ค่ากลายเป็นมีพลังแข็งแกร่งขึ้น

(2) ตัวละครที่มีพลังตั้งแต่เริ่มต้น:

A) ตัวละครหลักที่ทรงพลังกลับชาติไปเกิดเป็นตัวเขาเองในวัยเด็กในอดีต: สำหรับเรื่องแบบนี้ คุณอาจลองอ่านนิยายผลงานแฟนตาซีตะวันออกของนักเขียนชื่อดัง “สายลมใต้ฟ้า” (Feng Ling Tian Xia) และใช้เรื่องของเขาเป็นตัวอย่าง ในพล็อตเรื่องแบบนี้ โดยทั่วไปตัวละครหลักจะมีความรู้สึกผิดและเสียใจและเสียโอกาสกับสิ่งที่ผ่านมาของชีวิตในอดีต หรืออาจเป็นแค่ความผิดพลาดครั้งเดียว ทำให้ไม่สามารถฝึกฝนวิชาจนถึงขั้นสูงสุดได้ หรือบางทีมีบางคนที่พวกเขารัก แต่ไม่กล้าเอ่ยปากเพราะด้อยความสามารถ...

เรื่องแบบนี้จำเป็นต้องมีอารมณ์ของเรื่องที่ทรงพลังจนสามารถดึงให้พล็อตเรื่องไปด้วยกัน และสามารถดึงอารมณ์ผู้อ่านให้เข้าไปในเรื่องราวอย่างรวดเร็ว

สำหรับเรื่องที่ตัวละครหลักกลับชาติมาเกิดในอดีตของเขาเอง ส่วนมากจะให้มาเกิดในช่วงสำคัญที่ก่อนเขาจะล้มเหลวบางอย่าง และใช้ประสบการณ์และความรู้ที่มี ทำให้เขาสามารถก้าวข้ามผ่านความล้มเหลวที่เริ่มเกิดขึ้นได้

สำหรับตัวละครหลักที่กลับชาติมาเกิดในอดีตของตนเอง ตัวแปรความได้เปรียบของพวกเขาคือการรู้ล่วงหน้า หรือรู้ตำแหน่งของขุมทรัพย์หลายแห่ง หรือมีความรู้เรื่องเทคนิคการฝึกวิชามากมายที่ตัวเขาในวัยเด็กไม่รู้ หรืออย่างง่ายเลยคือมีความสามารถนำวัตถุโบราณที่ทรงพลังกลับมาด้วยเมื่อเขากลับมาเกิดใหม่

ในเวลาเช่นนั้น ผู้อ่านจะรอคอยให้ตัวละครหลักได้สะสางความเสียใจในอดีตให้หมดไปในโอกาสที่ได้ใช้ชีวิตรอบสองนี้ กระทืบพวกอันธพาลที่เคยรุมรังแกเขาให้หมอบใต้ฝ่าเท้า และไปหาและทำดีกับหญิงสาวคนที่เขาพลาดโอกาสในชีวิตที่แล้ว ในเรื่องทำนองนี้ เมื่อพูดถึงความซ้ำซาก ตอนเริ่มเรื่องจะเป็นเริ่มต้นฝึกฝนวิชาอีกตามเคย ขณะเดียวกันก็พยายามขจัดความเจ็บปวดใจในชาติที่แล้ว และช่วงไคลแมกซ์โดยทั่วไป จะแตกต่างระหว่างชีวิตนี้และชีวิตที่แล้ว สำหรับช่วงกลางเรื่อง ช่วงนี้แหละที่เป็นช่วงที่ควรเล่าย้อนถึงชีวิตช่วงสุดท้ายของเขาในชีวิตที่แล้ว หลังจากนั้น เมื่อถึงตอนนี้ตัวละครหลักของคุณควรจะมีระดับพลังล้ำหน้าชีวิตที่แล้ว และควรจะประสบความสำเร็จมากกว่าตัวเขาในชีวิตที่แล้วใฝ่ฝันไว้มากนัก การจบเรื่องของคุณ ควรจะเกี่ยวกับการเดินทางพร้อมกับภารกิจผจญภัยไปสู่อนาคต ในดินแดนโลกใหม่ที่ไม่มีอะไรแน่นอน

B) บุคคลที่มีวิชาแก่กล้าเข้าสิงร่างของคนไร้ค่า ยกตัวอย่างนิยายเรื่อง “ยอดฝีมือแห่งยุค” (The Ulimate of All Ages)

ในนวนิยายแบบนี้ ตัวละครหลักโดยทั่วไปจะเป็นยอดฝีมือผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน เช่นการปรุงยา หรือการทำเครื่องรางของขลัง

ถ้ามีสิบอาณาจักรสำหรับการเพิ่มระดับพลัง ตัวละครหลักควรจะมีระดับพลังใกล้ระดับสิบแล้ว ก่อนที่วิญญาณของเขาจะต้องเข้าไปสิงร่างคนไร้ค่าด้อยฝีมือคนหนึ่ง เพื่อให้ได้มีโอกาสในชีวิตที่สองอีกครั้ง

ส่วนที่สร้างอารมณ์ขันเวลาได้อ่านเรื่องแบบนี้คือ โดยทั่วไปจะมีความแตกต่างกันมหาศาลระหว่างสถานะความยิ่งใหญ่และทรงพลังของตัวละครหลัก ที่ตอนนี้กลายเป็นคนไร้ค่าในสายตาของทุกคน สถานะของคนที่ถูกตราหน้าว่าด้อยฝีมือ โดยธรรมชาติแล้วหมายความว่า ทุกคนจะพยายามจะกดหัวเขาไว้ ในขณะที่สถานะยอดฝีมือของเขาในอดีตจะทำให้เขาพยายามก้าวข้ามทะลุข้อจำกัดเสมอ สิ่งนี้จะกลายเป็นความสะดวกอย่างมากสำหรับตัวละครหลักที่จะแกล้งทำเป็นด้อยฝีมือกว่าความเป็นจริงเพื่อเป็นกับดักหลอกคู่ต่อสู้

C) ตัวละครหลักใช้ประโยชน์จากประสบการณ์ชีวิตในอดีตเพื่อเข้ายึดครองโลกใหม่ด้วยการเป็นคนใหม่ของเขา เขายังต้องหาทรัพยากรและฝึกฝนวิชาทันทีตั้งแต่เริ่มเรื่อง

เรื่องเกี่ยวกับวิญญาณของบุคคลทรงพลังเดินทางไปสิงร่างของอีกคนในโลกอีกมิติหนึ่ง คุณสามารถลองอ่านงานแฟนตาซีตะวันออกของนักเขียนชื่อ “กระดานชนวน” (Writing Tablet) และใช้เรื่องที่เขาเขียนเป็นตัวอย่าง ความสนุกของเรื่องแนวนี้ส่วนมากสร้างจากความสามารถที่ “ผิดที่ผิดทาง” ในเรื่อง

ความรู้ทั้งหมดที่ตัวละครหลักมีจากโลกก่อนหน้า จะไม่มีเลยในโลกใหม่ที่เขาอยู่นี้ สิ่งนี้จะทำให้ตัวละครหลักดูมีลักษณะพิเศษมาก

บางที ตัวละครหลักอาจนำเอาการเล่นเกมบางอย่างมาสู่โลกใหม่ หรือนำเอาการฝึกฝนวิชาแบบดั้งเดิมมาสู่โลกแฟนตาซี หรือนำเอาคณิตศาสตร์ระดับสูงมาสู่โลกที่เวทมนตร์ใช้คณิตศาสตร์เป็นพื้นฐานในการสร้าง

นักเขียนได้ใช้ประโยชน์จากความแตกต่างระหว่างวัฒนธรรมของทั้งสองโลก เอามาใช้ทำให้ความรู้ที่ตัวละครหลักมีอยู่ มีความสำคัญเกินจริงขึ้นไป

โดยทั่วไป ความสามารถหรือความรู้ของตัวละครหลักจำเป็นต้องดำเนินไปในทางตรงข้ามกับกฎธรรมชาติของโลกใหม่ เขาควรสามารถเข้ายึดครองระบบของโลกใหม่ ยกตัวอย่างเช่น ฝีมือศิลปะการต่อสู้ของเขามีพลังเกินหน้าเวทมนตร์ในโลกใหม่ หรือระบบการฝึกฝนวิธีแบบดั้งเดิมของเขาให้ผลดีกว่าวิธีฝึกวิชาในโลกแฟนตาซีมาก ตราบใดที่ผู้อ่านเชื่อในความรู้ความสามารถที่สูงส่งของตัวละครหลัก องค์ประกอบใหม่ที่ตัวละครหลักนำมาสู่โลกใหม่จะยังคงครอบงำโลกใหม่ต่อไป

6. บทสรุป

การสร้างสรรค์นิยายแฟนตาซีตะวันออกอาจเรียกได้ว่าเป็นงานเขียนระดับอุดมศึกษาโดยตัวมันเองแล้ว ในขณะที่นิยายที่เขียนขึ้นเพื่อการพาณิชย์และความบันเทิงพัฒนาคุณภาพขึ้นอย่างต่อเนื่อง นวนิยายยอดนิยมเหล่านี้มีแต่จะคุณภาพดีมากขึ้นเรื่อยๆ สำหรับเรื่องเกี่ยวกับวิธีการเขียนโครงเรื่องโดยรวม วิธีออกแบบคุณลักษณะพิเศษให้ตัวละคร วิธีพัฒนาพล็อต วิธีสร้างข้อขัดแย้งให้ศัตรู และอื่นๆ หัวข้อเหล่านี้เกี่ยวข้องกับนวนิยายในตลาดทั้งหมดไม่เพียงแค่นิยายออนไลน์ เนื่องจากข้อจำกัดเรื่องไม่ต้องการให้บทความยาวเกินไป ดังนั้นบทความนี้จึงไม่ได้กล่าวถึงหัวข้อที่กล่าวมาเหล่านั้นมากนัก

บทความไกด์สู่นิยายแฟนตาซีตะวันออกนี้ เขียนให้สำหรับนักเขียนระดับเริ่มต้นเป็นส่วนใหญ่ และหวังว่ามันจะมีประโยชน์สำหรับนักเขียนมือใหม่ที่อยากเขียนนิยายแฟนตาซีตะวันออก และหวังว่านักเขียนที่มีศักยภาพทุกคนจะได้รับแรงบันดาลใจไม่มากก็น้อยบ้างหลังจากได้อ่านบทความนี้ มันจะพาพวกคุณออกผจญภัยไปในโลกของการเขียนนิยายแฟนตาซีตะวันออก บางทีนักเขียนบางคนอาจกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่เพราะได้อ่านบทความนี้ก็เป็นได้ นั่นคงทำให้คณะผู้จัดทำบทความนี้มีความภาคภูมิใจเป็นอย่างมาก

..................................................................................

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด