ตอนที่ 8 การเช็คอินที่โคตรคุ้ม
“คำสาปในร่างกายเด็กนั่นช่างร้ายกาจ!”
ในวัดแห่งหนึ่งในโตเกียว เกะโท สุงุรุที่อยู่ในชุดพระที่ดูเหมือนพระ มองไปที่ฟ้าไกลและพึมพำกับตัวเอง
จากข้อมูลจากผู้ใต้บังคับบัญชาของเขา ทำให้เกะโทได้รับรู้การมีอยู่ของโอคตสึ ยูตะ
และเขาสนใจริกะในร่างกายของโอคตสึ ยูตะเป็นอย่างมาก
“ท่าเกะโท ฉันได้ยินมาว่าโอโตโกะ ยูตะจะไปที่ย่านการค้าฮาปิน่ากับอินุมากิ โทเกะและโกโจ คาเอเดะเพื่อปัดเป่าคำสาปในวันนี้”
มิมิโกะเข้ามาในเวลานี้และพูดด้วยความเคารพ
“ทันเวลาพอดี เราไปดูวิญญาณคำสาประดับพิเศษวันนี้กันดีกว่า!”
หลังจากได้ฟังการรายงานของมิมิโกะ เกะโทรก็ลุกขึ้นยืนและพูดด้วยรอยยิ้ม
หลังจากเดินไปได้เพียงสองก้าว เขาก็นึกอะไรขึ้นมาได้ จึงหันกลับมาแล้วสั่ง "สร้างเหตุการณ์ล่อโกโจ ซาโตรุไปที่อื่นไว้ด้วยนะ"
แม้ว่าเกะโท สุงุรุจะเป็นปรมาจารย์นักสาปแช่ง และเขาก็ยังเคยเป็น1ใน3บุคคลากรระดับพิเศษจากฝั่งมนุษย์
แน่นอนว่าหลังจากการมาถึงของโอคตสึ ยูตะ เขาก็กลายเป็นหนึ่งในสี่ระดับพิเศษแทน
และนั่นก็ทำให้เขารู้ดีว่าโกโจ ซาโตรุนั้นน่ากลัวขนาดไหน
ถ้ามีโกโจ ซาโตรุอยู่ด้วยคงมีปัญหาแน่
“รับทราบคุณเกะโท!”
หลังจากที่เกะโท สุงุรุออกจากวัดของเขา ภาพก็ตัดไปที่หน้าโรงเรียนไสยเวทในปัจจุบัน
โกโจ ซาโตรุมองไปที่โอคตสึ ยูตะและพูดว่า
"ขอโทษที่ครั้งนี้ฉันไปด้วยไม่ได้น้า แต่ไม่ต้องห่วงไปหรอก แต่แรกแล้วงานนี้ก็เป็นงานที่อินุมากิทำคนเดียวได้อยู่แล้ว เพราะงั้นนายกับคาเอเดะก็แค่เดินเล่นไปแล้วกัน!"
ภารกิจครั้งนี้เป็นแค่ภารกิจธรรมดา ไม่ได้มีคำสาปที่แข็งแกร่งเป็นพิเศษ เพราะงั้นเขาจึงไม่กังวลมาก
สิ่งเดียวที่ต้องให้ความสนใจคือการให้โอคตสึ ยูตะได้ฝึกการดึงพลังของริกะออกมาใช้
“จำไว้นะ ห้ามปล่อยริกะออกมาทั้งหมด แต่แค่ดึงพลังมาไส้ในดาบเท่าที่ได้แค่นั้นพอ”
โอโตโกะ ยูตะพยักหน้าและพูดว่า
“ผมจะพยายามทำให้ดีที่สุด!”
ส่วนโกโจ คาเอเดะตอนนี้เขาขึ้นมาบนรถกับอินุมากิ โทเกะได้สักพักแล้ว เมื่อเห็นว่าทั้งสองคนยังคงคุยกันอยู่ข้างนอกเปิดกระจกแล้วพูดอย่างอดไม่ไหว
"หยุดคุยกันแล้วขึ้นรถได้แล้วน่า!"
ตอนนี้โกโจ คาเอเดะก็อยู่ในโรงเรียนไสยเวทได้ประมาณสามเดือนแล้ว
เดิมที โกโจ คาเอเดะคิดว่าหลังจากเข้าร่วมโรงเรียนแล้ว เขาจะสามารถติดตามคนอื่นๆออกไปทำภารกิจปัดเป่าคำสาปได้บ่อยๆ
แต่ใครจะคิด ผ่านมาสามเดือนแล้วพึ่งจะมีภารกิจอีกครั้งคือภารกิจในวันนี้
ก็เลยทำให้กิจวัตรประจำวันของโกโจ คาเอเดะในตอนนี้คือการนอน แล้วก็พูดจากวนมากิ แล้วก็นอนอีกรอบ
ส่วนการเช็คอินนั้น หลังจากเช็คอินที่เดิมบ่อยเข้า รางวัลดีๆก็เลยน้องลงไปด้วย
ตลอดสามเดือนที่ผ่านมา โกโจ คาเอเดะเช็คอินไป7ครั้ง แต่ไม่มีรางวัลอะไรที่เป็นประโยชน์เลยสักนิดเดียว
มีแต่ความสามารถธรรมดาๆเช่น ความแข็งแกร่งทางกายภาพ ทักษะบาสเก็ตบอล และทักษะทางการแพทย์
และครั้งนี้เมื่อได้ยินว่าอินุมากิ โทเกะกับโอคตสึ ยูตะจะไปทำภารกิจร่วมกัน เขาเลยขอตามไปด้วย
เขาตั้งตารอคอยรางวัลการเช็คอินในครั้งนี้
“โกโจคุง ทำไมจู่ๆนายถึงอยากไปทำภารกิจล่ะ? คำสาปพวกนั้นอันตรายมากเลยนะ!”
ในช่วงสามเดือนที่ผ่านมา ยูตะฝึกฝนทุกวันร่วมกับเพื่อนร่วมชั้นคนอื่นๆ ทำให้ไม่เพียงแข็งแกร่งมากขึ้นเท่านั้น แต่ยังรวมถึงมีบุคลิกที่ร่าเริงและกล้าพูดมากขึ้นด้วย
หลังจากที่อินุมากิได้ยินคำถามของยูตะ เขาก็มองไปที่โกโจ คาเอเดะด้วยความอยากรู้อยากเห็นเช่นกัน
เพราะในช่วงสามเดือนนี้ โกโจ คาเอเดะเอาแต่นอนหลับทุกวัน
ไม่ว่าใครจะมาหรือพูดจายั่วยุหรือถากถางแค่ไหนเขาก็สามารถหลับไปได้อย่างสงบสุขไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน
นั่นเลยทำให้มันแปลก คนที่เอาแต่นอนอย่างขี้เกียจและไม่ฝึกซ้อมเลยคนนั้น กลับอาสาขอติิดตามไปในภารกิจปัดเป่าคำสาปซึ่งค่อนข้างอันตราย
ถ้าไม่ใช่เพราะภารกิจนี้มันง่ายแถมยังมีอินุมากิไปด้วย โกโจ ซาโตรุคงไม่ยินยอมปล่อยน้องตัวเองไปแน่นอน เพราะคาเอเดะไม่มีคุณสมบัติเลย
“อยู่แต่ในโรงเรียนมันน่าเบื่อน่ะ ฉันอยากทำอะไรที่มันน่าตื่นเต้นบ้าง!”
โกโจ คาเอเดะตอบอย่างเกียจคร้าน
หลังจากได้ยินคำตอบของโกโจ คาเอเดะ ทุกคนก็แสดงสีหน้าประมาณว่า ‘ก็สมกับเป็นนายดี’
คนไร้ค่าผู้กล้ายอมรับตัวเองที่อยู่ในโรงเรียนแบบไม่ทำอะไรนอกจากนอน และใช้ภารกิจปัดเป่าคำสาปเป็นตัวกระตุ้นความตื่นเต้น
คงมีแค่โกโจ คาเอเดะคนเดียวแล้วล่ะที่ทำอะไรแบบนี้ได้
“สมกับเป็นคาเอเดะซัง”
“แซลมอน”
อิจิจิ เจ้าหน้าที่ฝ่ายสนับสนุนของผู้ใช้คุณไสยที่กำลังขับรถอยู่ในเวลานี้ ก็ถอนหายใจเมื่อได้ยินคำตอบของโกโจ คาเอเดะ
“ถ้าไม่คำนึงถึงความสามารถที่แตกต่างกัน สองพี่น้องตระกูลโกโจชอบทำให้คนอื่นหนักใจเหมือนกันเลยจริงๆ”
จุดหมายนั้นไม่ไกล และเพียงไม่นานก็มาถึง อิจิจิจอดรถไว้หน้าถนนย่านการค้าที่ตอนนี้ ร้านค้าส่วนใหญ่ปิดตัวลงไปแล้ว
“ที่นี่แหละครับ”
หลังจากที่ทุกคนลงจากรถบัสแล้ว อิจิจิก็หยิบแท็บเล็ตออกมาแล้วรายงานข้อมูล
“ตอนนี้ย่านการค้าฮาปิน่า มีสภาพเกือบถูกปิดร้างแล้วครับ ก็เลยมีแผนที่จะรื้อถอนสถานที่แห่งนี้และเปลี่ยนเป็นห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่แทน และระหว่างการสำรวจพื้นที่ มีการตรวจพบฝูงคำสาประดับล่าง จึงอยากขอให้ผู้ใช้คำสาประดับสอง อย่างอินุมากิ โทเกะ ช่วยปัดเป่าคำสาป”
ระหว่างที่อิจิจิกำลังพูด อินุมากิก็เดินไปซื้อยาแก้เจ็บคอจากร้านเล็กๆที่อยู่ข้างมาแล้ว
“ถ้าเกิดว่าพร้อมแล้ว ผมจะกางม่านแล้วนะครับ ขอให้โชคดี”
เมื่ออิจิจิพูดจบ พวกเขาทั้งสามก็เดินเข้าไปในย่านการค้าร้างด้วยกัน
ทันทีที่เดินเข้าไป พวกเขาก็เห็นฝูงคำสาปปลาระดับต่ำอยู่รวมกันเป็นฝูงใหญ่
“ถึงจะบอกว่ายิ่งคำสาปอ่อนแอเท่าไหร่ ก็ยิ่งรวมตัวกันมาขึ้นเท่านั้น แต่นี่มันมากเกินไปแล้ว!”
หลังจากดูคำสาประดับต่ำนับไม่ถ้วนที่รวมตัวกันอยู่ไม่ไกล โอคตสึ ยูตะก็แสดงสีหน้ากังวล
“เมนไทโกะ” (ชื่อไข่ปลาพอลล็อก)
อินุมากิตอบกลับ จากนั้นดึงผ้าพันคอที่ปิดปากของเขาลง เผยให้เห็นบริเวณริมฝีปากของเขาที่มีรอยคำสาปอยู่
ส่วนโอคตสึ ยูตะก็นึกเรื่องที่เกิดขึ้นในโรงเรียนคราวก่อนที่คาเอเดะแยกไปคนเดียวได้จึงพูดเตือนโกโจ คาเอเดะ
"โกโจซัง นายต้องติดตามพวกเราแบบใกล้ชิดเลยนะ"
โกโจ คาเอเดะ เขาพยักหน้าและไม่พูดอะไรอีก
ในบรรดาสามคนนี้ นอกจากยูตะที่ปลดปล่อยริกะจังได้แล้ว ก็เป็นตัวเขานี่แหละที่แข็งแกร่งที่สุด
ดังนั้นเขาจึงไม่รู้สึกกลัวแม้แต่น้อยเมื่อต้องเผชิญหน้ากับคำสาปปลาระดับต่ำพวกนี้
เขาแค่อยากมาที่นี่เพราะเช็คอินเท่านั้นแหละ
"ติ๊ง - พบสถานที่เช็คอินใหม่แล้ว ต้องการเช็คอินไหม?"
"เช็คอินโล้ด!"
"ติ๊ง - ขอแสดงความยินดีกับโฮสต์ที่เช็คอินสำเร็จ รางวัลคือทักษะ ฝ่ามืออมตะ " (อันนี้ตั้งชื่อไทยเองนะ เป็นสกิลของซึนาเดะในนารูโตะอ่ะ ชื่อMystical Palm Technique แอดหาชื่อไทยไม่ได้)
"ติ๊ง - ขอแสดงความยินดีกับโฮสต์ที่เช็คอินสำเร็จ รางวัลคือทักษะ เบียคุโก "
เมื่อได้ยินระบบแจ้งเตือนถึงสองครั้งว่าเขาได้รับสองรางวัล โกโจ คาเอเดะก็แสดงสีหน้าประหลาดใจ
แต่ในไม่ช้า เขาก็จำกฎการเช็คอินของระบบได้
ยิ่งสถานที่อันตรายมากเท่าไหร่ รางวัลสำหรับการเช็คอินก็จะมากขึ้นเท่านั้น
“ดูเหมือนว่าภารกิจนี้จะไม่ง่ายขนาดนั้นนะ!”
ขณะที่โกโจ คาเอเดะกำลังพึมพำ จู่ๆ โอคตสึ ยูตะก็พูดด้วยความประหลาดใจว่า
“แปลกนะ ก็เห็นชัดๆแล้วว่าอินุมากิซังจัดการปัดเป่าวิญญาณคำสาปทั้งหมดแล้ว แต่ทำไมม่านยังไม่หายไปล่ะ?”
หลังจากได้ยินคำพูดของยูตะ โกโจ คาเอเดะก็ใช้พลังเต็มที่เพื่อตรวจจับอันตรายที่กำลังใกล้เข้ามา
"อันตราย หลบไปเร็ว!"