ตอนที่ 5 จับกลุ่มคาบปฏิบัติ
“บ้าจริงๆ ทำไมฉันต้องมาจับกลุ่มร่วมกับพวกนายสองคนด้วยเนี่ยห๊ะ! ฉันบอกไว้ก่อนเลยนะ อย่ามาถ่วงแข้งถ่วงขาฉันเด็ดขาดเลยนะ ไม่งั้นละก็ น่าดูแน่!”
จากการจัดกลุ่มของโกโจ ซาโตรุ ทำให้โกโจ คาเอเดะ โอคตสึ ยูตะ และเซนอิง มากิได้อยู่ทีมเดียวกัน
การที่ซาโตรุจัดกลุ่มแบบนี้เพราะเขาคิดดีแล้ว
เนื่องจากโอคตสึ ยูตะเป็นระดับพิเศษ ส่วนมากิที่แม้ตอนนี้จะอยู่ในระดับ4 แต่คำสาปสวรรค์ทำให้ร่างกายของเธอนั้นแข็งแกร่งและทรงพลังมากจนเทียบได้กับระดับ2เลยทีเดียว
แถมเขายังคิดว่ามากิเองก็ไม่เลว เธอก็เหมือนกับคาเอเดะ น้องชายของเขาที่ถูกคำสาปสวรรค์เหมือนกันทำให้น่าจะจับคู่กันได้
ท้ายที่สุดแล้วโกโจ ซาโตรุไม่คิดว่าน้องชายของเขาที่ถูกผูกมัดด้วยคำสาปสวรรค์จะสามารถหาภรรยาที่แข็งแกร่งไปกว่านี้ได้แล้ว
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ โกโจ ซาโตรุก็ถอนหายใจเงียบๆอยู่ในใจ
‘ไอเจ้าน้องชายเอ้ย ฉันละเป็นห่วงนายจริงๆ!’
ถ้าโกโจ คาเอเดะรู้ความคิดที่แท้จริงของโกโจ ซาโตรุ เขาจะต้องชักดาบฟันวิญญาณของเขาออกมาด้วยความโกรธอย่างแน่นอน
เป็นเรื่องปกติที่จะบอกว่าเขาเป็นตัวไร้ค่าของตระกูล แต่มาบอกว่าเขาจะหาภรรยาไม่ได้นี่มันหยามกันชัดๆ
มันเป็นการดูหมิ่นศักดิ์ศรีของเขา
"ฮ่าฮ่า ไม่ต้องกังวลนะเซนอิงซัง ฉันสัญญาว่าจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการต่อสู้ของเธอแน่นอน"
โกโจ คาเอเดะมาที่นี่เพื่อแค่เช็คอินอยู่แล้ว เขาไม่สนใจการปัดเป่าคำสาปหรอก
ปล่อยให้เรื่องน่าเบื่อแบบนั้นเป็นหน้าที่ของชายผู้มีรักอันบริสุทธิ์กับมากิดีกว่า
หลังจากที่เซนอิง มากิได้ยินคำพูดของโกโจ คาเอเดะ เธอก็จ้องมองเขาด้วยความไม่พอใจ
แต่การจ้องมองแบบนี้ทำอะไรหนังหน้าของโกโจ คาเอเดะที่ยังยิ้มแย้มอยู่ไม่ได้
เพื่อเป็นการตอบสนองต่อคำพูดเขา เซนอิง มากิทำได้เพียงส่งเสียง “หึ” และเพิกเฉยต่อโกโจ คาเอเดะ
“ภารกิจของนายในวันนี้คือช่วยเหลือเด็กสองคนที่หายตัวไปในโรงเรียนแห่งนี้ และปัดเป่าคำสาป ถ้าเกิดพวกเขาตายแล้วก็เอาศพของพวกเขาออกมาด้วยล่ะ”
โกโจ ซาโตรุพูดภารกิจของทั้งสามที่ต้องทำออกมา ก่อนจะทำมือร่าย
“จากความมืดมิดดำสนิทกว่ารัตติกาล จงกวาดล้างมลทินให้สิ้นสูญ”
หลังจากที่โกโจ ซาโตรุกาง “โทบาริ” แล้ว
จู่ๆ ม่านสีดำขนาดใหญ่ราวกับหมึกสาดก็ปรากฏขึ้นบนท้องฟ้าก่อนจะค่อยๆขยายครอบคลุมพื้นที่โดยรอบ
“เอ๋? ทำไมกลายเป็นกลางคืนแล้วล่ะ!”
โอคตสึ ยูตะพูดด้วยสีหน้าประหลาดใจ
ตอนนี้โกโจ คาเอเดะได้สวมแว่นตากรอบบางที่โกโจ ซาโตรุมอบให้เขา ผลที่ได้จะเหมือนกับแว่นตาที่เซนอิง มากิสวมใส่ทุกประการ
ดังนั้นต่อให้เขาจะไม่ได้ใช้ฮาคิสังเกตุก็ตาม แต่ก็ยังสามารถมองเห็น "ม่านสีดำ" ที่คนธรรมดาไม่สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนในขณะนี้
"นี่คือม่านที่ปิดกั้นการมองเห็นจากภายนอก มันถูกใช้เพื่อหลีกเลี่ยงการสร้างความตื่นตระหนกแก่ฝูงชน แถมยังช่วยล่อคำสาปให้โผล่ออกมาด้วย"
คาเอเดะพูดให้โอคตสึ ยูตะฟัง
ในฐานะลูกหลานของตระกูลใหญ่ ทำให้เขารู้เรื่องพื้นฐานพวกนี้ดี
โกโจ ซาโตรุพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม เดินหันหลังกลับและโบกมือให้พวกเขาทั้งสามคน
"ฝากที่เหลือด้วยล่ะ อย่าตายนะ!"
หลังจากพูดอย่างนั้นแล้ว โกโจ ซาโตรุก็หายตัวไป
หลังจากได้ยินคำพูดโกโจ ซาโตรุ โอคตสึ ยูตะก็กังวลมาก
ถึงเขาจะเป็นระดับพิเศษ แต่ตอนนี้เขาเป็นแค่นักเรียนระดับม.ปลายเท่านั้น เป็นเรื่องปกติที่จะต้องกลัว
"ชิ ชอบพูดอะไรให้คนอื่นตกใจอยู่นั่นแหละ!"
คาเอเดะ โกโจไม่ได้สนใจมากนัก เขายืดตัวอย่างเกียจคร้านและรอให้ระบบแจ้งให้ลงชื่อเข้าใช้มาถึง
“ฮึ่ม ท่าทางแบบนั้นเนี่ยนะคนตกใจ คนแบบนายนี่แหละมีโอกาสตายมากที่สุดแล้ว!”
เซนอิง มากิมองดูท่าทางเกียจคร้านและประมาทของโกโจ คาเอเดะแล้วรู้สึกไม่ชอบใจเลยจริงๆ
ดังนั้นหากมีโอกาสก็ต้องพูดอะไรสักหน่อย
“เอ่อ… คำสาป พวกคำสาปกำลังมาทางนี้แล้ว!”
ขณะที่มากิกำลังด่าคาเอเดะอยู่ ยูตะที่มองไปรอบๆก็พูดขึ้นมาด้วยความหวาดกลัว
เมื่อได้ยินแบบนั้นมากิก็เพิกเฉยต่อโกโจ คาเอเดะแล้วยกหอกในมือของเธอ มองดูพวกคำสาปปลาซิวปลาสร้อยสามตัวที่อยู่ไม่ไกล และพูดด้วยสีหน้าจริงจัง
"จำไว้ให้ดีนะ ยิ่งคำสาปอ่อนแอเท่าไหร่ พวกมันก็จะอยู่รวมกันมากเท่านั้น!"
แม้ว่ามากิจะชอบพูดอะไรรุนแรง แต่ใจของเธอก็ยังเป็นคนอ่อนโยนมาก
"เข้า - มา - ไหม? - เข้ามา - ไหม?"
คำสาปที่เป็นเหมือนปากแลบลิ้นแล้วพูดออกมาเป็นภาษามนุษย์
สำหรับคนธรรมดาที่ได้เห็นครั้งแรกแล้ว ถือว่าน่ากลัวอยู่ไม่น้อยเลย
มากิคุ้นเคยกับมันมานานแล้ว หลังจากที่เห็นคำสาปทั้งสามตัวเข้ามาในระยะการโจมตีของเธอ เธอก็ถือหอกพุ่งเข้าไปโจมตีพวกมัน
เธอจัดการผ่าครึ่งพวกมันทั้งสามได้อย่างง่ายดาย เพียงกระบวนท่าเดียวทั้งสามก็ถูกปัดเป่า
“น่าทึ่งมากเลย คุณเซนอิงกวาดล้างคำสาปทั้งหมดได้ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว”
โอคตสึ ยูตะยังไม่เคยถูกโจมตีจากเกะโท สุงุรุ
เพราะงั้นในตอนนี้เขาจึงยังไม่ใช่เทพสงครามผู้มีความรักอันบริสุทธิ์คนนั้น แต่เป็นเพียงนักเรียนมอปลายธรรมดาๆที่ยังไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้ก็เท่านั้น
ดังนั้น มากิจึงไม่แปลกใจกับปฏิกิริยาของโอคตสึ ยูตะเลย แต่รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยกับปฏิกิริยาที่ไม่แยแสของโกโจ คาเอเดะ
“นี่น่าจะเป็นครั้งแรกที่ผู้ชายคนนี้เห็นคำสาป แต่เขายังสามารถสงบสติอารมณ์ได้เหรอ? ดูเหมือนว่าแม้จะเป็นคนไร้ค่าของตระกูลโกโจ แต่ก็ยังเหนือกว่าคนธรรมดาทั่วไปอยู่ดี”
หลังจากพึมพำอย่างลับๆ มากิก็เดินนำทั้งสองเข้าไปอาคารเรียน
หลังจากที่โอคตสึ ยูตะเห็นมากิก้าวเข้าไปในอาคารเรียน เขาก็รีบเดินตามเธอไป
แม้ว่าโกโจ คาเอเดะจะเป็นแบบอย่างของเขาก็ตาม
แต่ในช่วงเวลาที่อันตรายนี้ เขารู้สึกว่าเซนอิง มากิมีความน่าเชื่อและอุ่นใจกว่า
โกโจ คาเอเดะไม่รีบร้อนเมื่อเห็นทั้งสองเดินเข้าไปในอาคารเรียน
เขาประสานมือไว้ที่หลังหัวก่อนจะเดินตามเข้าไปอย่างช้าๆ ไม่รีบไม่ร้อน
และเมื่อโกโจ คาเอเดะก้าวเข้าไปในห้องโถงของอาคารเรียน
ในที่สุดเสียงของระบบก็ดังขึ้น
"ติ๊ง พบสถานที่เช็คอินใหม่แล้ว ต้องการเช็คอินไหม?"
"เช็คอิน!"
"ติ๊ง - ขอแสดงความยินดีกับโฮสต์ที่ประสบความสำเร็จในการเช็คอินและได้รับรางวัลทักษะ 'วิชาแยกเงา' "
หลังจากได้ยินเสียงเตือนของระบบ โกโจ คาเอเดะก็ยิ้มด้วยความยินดี
"เป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยคำสาปนี่มันดีจริงๆ เช็คอินแล้วได้ของดีแบบนี้!"