Chapter 48 : มาดูกันว่าหมอนั่นจะอยู่ในถ้ำได้นานเท่าไหร่
ภายในถ้ำ หลินเซวียนกำลังเผชิญหน้ากับอสูรลิงยักษ์ขนาดมหึมาด้วยสีหน้างุนงง
“เมื่อกี้มีใครเรียกรึเปล่านะ?”
“ช่างมันเถอะ สู้กับราชันย์แดนลับมากประสบการณ์สำคัญกว่า”
หลินเซวียนใช้สกิลตรวจสอบและพบว่าแม้ว่าราชันย์อสูรลิงยักษ์จะมีพลังป้องกันกายภาพสูงลิบแต่ค่าต้านทานไฟกลับต่ำเตี้ยเลี่ยดิน
เขาหยิบเอาตำราเพลิงผลาญออกมาและเริ่มมหกรรมบอลเพลิงทันที
บอลเพลิงของนักสู้ทั่วไปนั้นจะล้วนเป็นเกรดสีขาวกันทั้งนั้น มีเพียงไม่กี่คนหรอกที่จะให้ความสนใจอัพเกรดสกิลอย่างบอลเพลิง
ยังไงก็ตามบอลเพลิงของหลินเซวียนเป็นถึงเกรดสีทอง ยิ่งไปกว่านั้นยังมีเลเวลเดียวกับเขาด้วย ตอนนี้มันเลเวลสูงถึงเลเวล9ขอบเขตที่5
บวกกับอุปกรณ์และรูนมากมายที่เพิ่มความเสียหายเวทย์มนตร์ธาตุไฟและลดอัตราการใช้มานา บอลเพลิงจำนวนมากปะทะลงบนร่างของราชันย์อสูรลิงยักษ์และเผาไหม้มันจนมันต้องกรีดร้องออกมา จิตวิญญาณในการต่อสู้ของมันลดลงอย่างมหาศาล
จนในที่สุดราชันย์อสูรลิงยักษ์ก็เข้าถึงตัวเขาและต่อยเข้าใส่หลินเซวียนแต่กลับถูกโล่ยักษ์ของเขารับเอาไว้ได้
ราชันย์อสูรลิงยักษ์แสดงสีหน้าตกตะลึง
มันเป็นถึงราชันย์แดนลับมากประสบการณ์เชียวนะ กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือตัวมันสู้มานับครั้งไม่ถ้วนแล้วและเคยจัดการกับนักสู้ไปก็มาก
มันรู้จุดอ่อนของพวกตัวแทงค์ นักดาบ จอมเวทย์ นักธนูและหมอดี
ไม่ใช่ว่าพวกจอมเวทย์แม้จะมีพลังโจมตีมหาศาลแต่กลับด้อยสามารถในด้านในการเอาตัวรอดรึไง?
แล้วทำไมหลังจากที่มันพยายามแทบเป็นแทบตายกว่าจะเข้าถึงตัวอีกฝ่ายแต่การโจมตีของมันถึงถูกหยุดเอาไว้ได้โดยโล่อันโคร่งนั่นเสียล่ะ?
หลินเซวียนกระแอมออกมาเบาๆ “ฉันเป็นจอมเวทย์ดังนั้นการเอาโล่อันใหญ่ๆออกมาป้องกันตัวเองก็ไม่มีอะไรผิดนี่จริงไหม?”
ราชันย์อสูรลิงยักษ์คำรามออกมาด้วยความโมโหและทุบหน้าอกของตัวเองดังสนั่นราวกับเสียงกลองรบอย่างบ้าคลั่ง
มันรู้สึกราวกับว่ากำลังถูกมนุษย์ผู้นี้ดูถูกอยู่อย่างไรอย่างนั้น
...
ด้านนอกถ้ำ
ลั่วหลี่สวีถอนหายใจยาวเหยียด พลังชีวิต พลังเวทย์และพลังงานของเขาฟื้นฟูกลับมาเต็มพิกัดแล้ว
สมาชิกทีมราชันย์ปิศาจอีกสามคนเองก็เช่นเดียวกัน
ได้เวลาที่พวกเขาต้องต่อสู้อีกรอบซักที
“แม้ว่าโล่วิญญาณจะแย่งไปตัวนึงก็ไม่เป็นไร ยังมีราชันย์แดนลับมากประสบการณ์ตัวอื่นรออยู่อีก ตามฉันมา...”
ก่อนที่เขาจะกล่าวจบเสียงแจ้งเตือนจากสถานีไร้ภัยก็ดังขึ้นอีกครั้ง
[ราชันย์แดนลับมากประสบการณ์ - ราชันย์อสูรลิงยักษ์ถูกสังหารลงแล้ว!]
จากนั้นลั่วหลี่สวีก็เห็นเงาร่างในชุดเกราะสีดำเดินออกมาจากถ้ำและเดินเข้าไปในถ้ำของราชันย์ถ้ำที่4โดยที่ไร้รอยขีดข่วนเหมือนเดิม!
“หยุดเดียวนี้!” ลั่วหลี่สวีทนไม่ไหวอีกต่อไปจึงตะโกนออกมาดังสนั่น
หลินเซวียนถามด้วยความสงสัย “มีอะไร?”
ลั่วหลี่สวีกล่าว “ราชันย์แดนลับมากประสบการณ์ตัวสุดท้ายนั้นเป็นของพวกเรา! อย่าได้เข้าไปเชียว!”
หลินเซวียนตอบ “จะเข้า”
กล่าวจบเขาก็หมนุตัวและเดินเข้าไปในถ้ำของราชันย์แดนลับมากประสบการณ์ตัวที่4
เนื่องจากลั่วหลี่สวีนั่งอยู่ห่างจากตัวถ้ำจึงทำได้เพียงแค่มองอีกฝ่ายเดินเข้าไป
ลั่วหลี่สวี “ไอ้เวร!”
ตอนนี้เขาหัวร้อนมากจริงๆ
เขาอุส่าห์เป็นฝ่ายออกปากบอกว่าแล้วว่าราชันย์แดนลับมากประสบการณ์พวกนั้นเป็นของทีมราชันย์ปิศาจของพวกเขาแต่โล่วิญญาณกลับไม่ไว้หน้า
ยิ่งไปกว่านั้นอีกฝ่ายยังปฏิเสธเขาต่อหน้านักสู้ขอบเขตที่5คนอื่นๆที่กำลังดูอยู่อีกด้วย!
ลั่วหลี่สวีปฏิญาณเลยว่าจะมอบบทเรียนให้กับเจ้านั่น!
เมื่อเห็นว่าโล่วิญญาณนั้นทรงพลังเพียงใด เหวินเซี่ยงจึงเกิดรู้สึกชื่นชมและกังวลในเวลาเดียวกัน
“คนจากทีมราชันย์ปิศาจพวกนั้นทรงพลังมาก แม้ว่าโล่วิญญาณะจทรงพลังแต่เขาน่าจะสู้กับคนสี่คนไม่ไหว”
“เราควรจะช่วยดีไหม?”
เหวินเซี่ยงขบคิดด้วยความหนักใจ
ลั่วหลี่สวี “ปิดล้อมถ้ำเอาไว้! ทันทีที่หมอนั่นโผล่หัวออกมาก็โจมตีได้เลย!”
“หมอนั่นท้าทายราชันย์แดนลับมากประสบการณ์มา3ตัวแล้วยังไงก็ไม่มีทางอยู่ในสภาพสมบูรณ์ พวกเรามีสี่คนแถมยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์พร้อม จัดการกับหมอนั่นไม่ใช่เรื่องยากหรอก!”
ลั่วหลี่สวีกัดฟัน “ก็แค่พวกขี้ขลาดที่มุดหัวหลบอยู่แต่ในเปลือก วันนี้ฉันจะฉีกหน้ากากตัวตนที่แท้จริงของแกออกมาเอง”
ครึ่งชั่วโมงต่อมา
ราชันย์อสูรงูเหลือมยาวกว่าสิบเมตรล้มลงสิ้นชีพและระเบิดกลายเป็นละอองแสงเกลื่อนฟ้า
[ท่านได้รับ100,000เหรียญทั่วไปและแต้มค่าประสบการณ์500,000แต้ม]
[ท่านได้รับหนังสือสกิลเกรดล้ำค่าสีม่วง [ร่างอสูร] ]
[ท่านได้รับพิมพ์เขียวเกรดหายากสีฟ้า [แหวนศิลาเพลิง] ]
[ท่านได้รับวัตถุดิบเลื่อนขั้นเกรดไร้ที่ติสีทอง [เขี้ยวสงครามของราชันย์อสูรงูเหลือม] ]
...
[ร่างอสูร]
[ระดับ : เลเวล9ขอบเขตที่5]
[คุณภาพ : ล้ำค่าสีม่วง]
[ข้อจำกัดในการเรียนรู้ : ความอดทน 130 , พลังจิต 69]
[ความสามารถ : ต้านทานไฟ+30% , ต้านทานเลือดออก+25%]
[ความสามารถที่2 : เมื่อได้รับบาดเจ็บจะเข้าสู่สภาวะ ‘แปลงอสูร’ ทำให้ความเสียหายทั้งหมดเพิ่มขึ้น15%]
...
ดวงตาของหลินเซวียนเปล่งประกายวิบวับ เขาได้หนังสือสกิลเกรดสีม่วงมาซะด้วย
ตอนนี้หากเขาได้รับบาดเจ็บเขาก็จะสร้างความเสียหายได้แรงขึ้นอีก แน่นอนว่าความเสียหายจากการสะท้อนเองก็เพิ่มขึ้นเหมือนกัน
เช่นนี้แล้วความสามารถในการโจมตีของเขาก็ทรงพลังขึ้นอีกระดับ
“สกิลนี้เป็นเกรดสีม่วง ในมิติส่วนตัวมีหนังสือสกิลชื่อเดียวกันที่เป็นเกรดสีขาวอยู่เพียบ น่าจะยกระดบัไปเป็นเกรดสีทองได้ทันทีเลย”
หลินเซวียนค้นดูภายในมิติส่วนตัวและพบกับหนังสือสกิลชื่อนี้เกรดสีขาว9เล่มดังคาด
หนังสือสกิลเกรดสีขาว8เล่มสามารถรวมกันเป็นหนังสือสกิลเกรดสีม่วงได้หนึ่งเล่ม
เช่นนี้แล้วหลังจากใช้เหรียญทั่วไปจำนวนมากสกิลนี้จึงยกระดับเป็นเกรดสีทองได้สำเร็จ
“สมบูรณ์แบบ! แถมตอนนี้ยังมีวัตถุดิบเลื่อนขั้นระดับสูงพอแล้วด้วย แถมยังได้สกิลเกรดสีทองมาอีกสองสกิลทั้ง ‘หนังแข็งของอสูรยักษ์’ และ ‘ร่างอสูร’ ถ้างั้นก็ได้เวลาจบเรื่องนี้ซักที!”
หลินเซวียนเดินออกจากถ้ำด้วยสีหน้ามีความสุข
จากนั้นเขาก็พบกับชายหนุ่มร่างใหญ่สี่คนนั่งยองๆอยู่ข้างๆ
เมื่อคนทั้งสี่เห็นโล่วิญญาณพวกเขาก็รีบเข้ามาล้อมเขาเอาไว้ทันที
“โล่วิญญาณ! นายแหกกฏ! ฉันจะให้โอกาสกับนาย ส่งวัตถุดิบเลื่อนขั้นที่นายได้มามาซะ ไม่อย่างนั้นวันนี้นายอาจจะไม่ได้ออกจากภูเขาอสูรชั้นต่ำก็ได้!” ลั่วหลี่สวีหัวหน้าทีมราชันย์ปิศาจกล่าวด้วยใบหน้ามืดมน
ริมฝีปากของจางเผิงที่อยู่ไม่ไกลออกไปนักแสยะยิ้มราวกับเขาเตรียมจะดูโชว์
นักสู้คนอื่นๆเองก็มีสีหน้าแตกต่างกันไป
เหวินเซี่ยงกำหมัดแน่นและเตรียมจะพุ่งออกไปช่วยทุกเวลา
หลินเซวียนยิ้มราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นและจากนั้น...ก็เดินกลับเข้าไปด้านในถ้ำ
ลั่วหลี่สวี “...แก!”
เขาไม่คิดเลยว่าโล่วิญญาณจะไร้ยางอายแบบนี้ เขากลับใช้กฏเกณฑ์พิเศษของแดนลับในการรับมือกับสถานการณ์ตอนนี้
เมื่อทีมใดทีมหนึ่งกำลังท้าทายราชันย์แดนลับ ทีมอื่นจะไม่สามารถเข้าไปด้านในได้และทำได้เพียงรออยู่ด้านนอกเท่านั้น
ในอดีตก็เคยมีบางคนใช้วิธีนี้เพื่อหลบเลี่ยงการไล่ล่าอยู่บ้าง หากแต่ราชันย์แดนลับนั้นไม่ได้อ่อนแอไปกว่าพวกคนที่ไล่ล่าพวกเขาแน่นอน
การจะอยู่ในถ้ำตลอดไปนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย
นั่นก็เพราะว่าทุกครั้งที่ราชันย์ตายจนถึงเกิดใหม่นั้นกินเวลาเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น หลังจากสังหารราชันย์แดนรับลงนักสู้คงไม่อาจฟื้นฟูกลับสู่สภาวะสมบูรณ์ได้
ยิ่งรั้งอยู่ในถ้ำนานเท่าไหร่ก็ยิ่งอ่อนแอลงมากเท่านั้น
ราชันย์แดนลับจะเกิดใหม่อย่างรวดเร็วและไม่ให้นักสู้มีโอกาสได้พักหายใจ
ท้ายที่สุดพวกเขาก็ต้องเลือกว่าจะหนีออกจากถ้ำหรือตกตายลงภายใต้คมเขี้ยวของราชันย์แดนลับ
ไม่ว่าทางไหนสุดท้ายก็ตายอยู่ดี
ลั่วหลี่สวีเลิกคิ้ว “รอ! ฉันอยากจะรู้เหมือนกันว่าหมอนั่นจะอยู่ในถ้ำได้นานแค่ไหน!”
“กัปตันพูดถูกแล้ว ต่อให้หมอนั่นลงค่าสถานะทั้งหมดไปกับการป้องกันก็เป็นไปไม่ได้ที่จะอยู่ในถ้ำของราชันย์แดนลับไปได้ตลอด!”
“อย่าได้ลืมด้วยล่ะว่าหมอนั่นโซโล่ราชันย์แดนลับมากประสบการณ์มาแล้ว3ตัว สภาพของมันยังไงก็ไม่ได้ดีนักหรอก”
“พวกเราจะรออยู่ด้านนอกนี่แหละ เจ้าหมอนั่นที่อยู่ด้านในไม่มีโอกาสแม้แต่จะได้พักด้วยซ้ำ! ยังไงก็ต้องออกมาแน่นอน!”
สมาชิกทั้งสามคนที่เหลือของทีมราชันย์ปิศาจพยักหน้าเห็นด้วย
ได้ยินเช่นนี้เหวินเซี่ยงก็เผยสีหน้าประหลาดๆออกมา
เขารู้ว่าคนพวกนี้น่าจะไม่รู้ว่าโล่วิญญาณคือคนที่จัดการกับราชันย์แดนลับมากประสบการณ์ของทุ่งเพลิงผลาญ9ตัวเพียงลำพัง
ยิ่งไปกว่านั้นข่าวนั้นที่เผยแพร่ออกไปยังไม่ได้มีรายละเอียดสำคัญๆถูกเปิดเผยออกไปแต่อย่างใด
เมื่อครั้งตอนที่โล่วิญญาณสังหารราชันย์แดนลับมากประสบการณ์ทั้ง9ตัวเพียงลำพังเขาไม่แม้แต่จะพักเหนื่อยด้วยซ้ำ! หลังจากสังหารตัวนึงเขาก็จะมุ่งตรงไปสังหารอีกตัวต่อทันที!
ถ้าการสังหารราชันย์แดนลับมากประสบการณ์เป็นเรื่องง่ายสำหรับเขา เช่นนี้ไม่ใช่ว่าการรับมือกับราชันย์แดนลับทั่วๆไปจะง่ายดายไม่ต่างอะไรจากเอาไข่ไปกระทบหินรึไง?
คิดได้เช่นนี้เหวินเซี่ยงก็เริ่มผ่อนคลาย สายตาของเขาที่มองไปยังลั่วหลี่สวีและคนอื่นๆอีกสามคนนั้นเจือแววเยาะเย้ยถากถาง
รอหรอ?
เขาก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าเจ้าพวกนี้จะรอได้นานแค่ไหน