Chapter 35 : แดนลับแห่งใหม่ปรากฏ
โม่หยวนสูดลมหายใจเข้าลึกก่อนจะสวมใส่หมวกขนสัตว์ใบใหญ่ หน้ากากปักษาและชุดคลุมลินินก่อนจะเดินออกจากห้องพักเดี่ยวของเขา
ช่วงที่ผ่านมาในที่สุดเขาก็รวบรวมแต้มค่าประสบการณ์ได้มากพอ ไม่เพียงแต่เพิ่มระดับนักสู้เป็นเลเวล9ขอบเขตที่3แล้วเท่านั้นแต่ยังเพิ่มระดับของสกิลที่ใช้ประจำกับอุปกรณ์สวมใส่เป็นเลเวล9ขอบเขตที่3ด้วยเช่นกัน
เช่นนี้แล้วความแข็งแกร่งของเขาจึงเพิ่มขึ้นมาอย่างมหาศาล
วันนี้เขาจะท้าทายราชันย์แดนลับมากประสบการณ์เพื่อหาวัตถุดิบสำหรับเลื่อนขั้น
เขารอวันนี้มานานเหลือเกิน!
เขาเดินออกจากห้องส่วนตัวตรงไปยังหอประชุมและเดินผ่านประตูแสงเข้าไปด้านในเพื่อไปยังบึงยุงพิษและรีบมุ่งหน้าตรงไปยังถ้ำของราชันย์แดนลับมากประสบการณ์
ที่นี่ยังคงมีนักสู้จำนวนมากต่อแถวกันตามปกติ
เขามองไปที่สุดขอบและก็พบว่าสหายสามคนของเขารอเขาอยู่ดังคาด
คนทั้งสามนี้เป็นสหายสามคนที่ร่วมทีมกับเขามานานมากแล้ว พวกเขาเข้าใจกันและกันดีกว่าทีมอื่นๆเสียด้วยซ้ำ
โม่หยวนหัวเราะออกมาสุดเสียงและเดินเข้าไปหาคนทั้งสาม “พี่น้อง! ฉันมาแล้ว!”
น้ำเสียงของเขาดังสนั่นแต่คนทั้งสามกลับนิ่งงันไม่ตอบสนองราวกับไม่ได้ยิน
โม่หยวนกระแอมออกมาเบาๆและหันไปมองนักสู้คนอื่นๆก่อนจะประกาศออกมาเสียงดังสนั่น “วันนี้พวกเราจะท้าทายราชันย์แดนลับมากประสบการณ์!”
ทันทีที่เขากล่าวจบนักสู้ที่ต่อแถวกันเพื่อรอท้าทายบอสอยู่ก็หันมาทางเขา แววตาของคนเหล่านั้นอัดแน่นไปด้วยความตกตะลึง
นี่ทำให้โม่หยวนรู้สึกพึงพอใจยิ่งนัก
เพราะว่านี่แหละคือความรู้สึกที่เขาถวิลย์หา
นอกจากนี้เขายังเห็นโลลิใบหน้าเย็นชาในชุดรัดรูปตัวจิ๋วซึ่งอยู่ไม่ไกลออกไปนักมองมาที่เขาด้วยสีหน้าเช่นเดียวกันคนอื่นๆด้วย
ลู่หลัว!
โม่หยวนยิ่งรู้สึกตื่นเต้นขึ้นไปอีก
ลู่หลัวนั้นสามารถเลื่อนขั้นเป็นนักสู้ขอบเขตที่4ได้นานแล้วแต่เจ้าหล่อนกลับยังคงออกล่าไอเทมค่าสถานะและปฏิญาณเอาไว้ว่าจะกินพวกมันให้หมดก่อน
ในความเป็นจริงแล้วความแข็งแกร่งของลู่หลัวเหนือกว่านักสู้ขอบเขตที่3ไปไกลโข กระทั่งนักสู้ขอบเขตที่4บางคนก็อาจจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเธอเช่นหยางเว่ยผู้ดูแลเขตB
การที่ได้เห็นอารมณ์เช่นนี้ในแววตาของลู่หลัวยิ่งทำให้เขารู้สึกว่าเขาถูกจดจำ!
โม่หยวนโบกมือไปมา “พวกเราแลกเปลี่ยนคริสตัลพิษรุนแรงมาไม่น้อยและเพิ่มค่าต้านทานพิษมาแล้ว พวกเราฟาร์มอุปกรณ์มากว่าครึ่งเดือนและในที่สุดก็รวบรวมเซ็ตหมอพิษมาได้ ทั้งหมดก็เพื่อวันนี้!”
“พวกนายสามคนตามฉันมา!”
เขาเดินนำไปยังถ้ำหนึ่งที่ไม่มีคนรอต่อคิว
เพื่อนร่วมทีมทั้งสามคนหยุดเขาเอาไว้พร้อมๆกัน “พี่โม่...”
หากแต่ก่อนที่อีกฝ่ายจะเอ่ยจบเสียงประกาศกลับดังกึกก้องไปทั่วสถานีไร้ภัยทั่วทั้งบึงยุงพิษเสียก่อน
[ราชันย์แดนลับมากประสบการณ์ - ราชันย์ยุงพิษรุนแรงถูกสังหารลงแล้ว!]
พริบตาต่อมาเงาร่างในชุดเกราะสีดำก็เดินเชิดหน้าออกมา
โม่หยวนตอนแรกก็มึนงงอยู่บ้างแต่ไม่นานก็ยิ้มและเอ่ยออกมา “อะไรเล่า? ก็แค่โล่วิญญาณฆ่าราชันย์แดนลับมากประสบการณ์ไปตัวนึงไม่ใช่รึไง? โล่วิญญาณทรงพลังมากจริงๆนั่นแหละ ฉันมั่นใจเลยว่า...”
“ไม่..เขาฆ่าไปห้าตัวแล้ว” หนึ่งในสหายของโม่หยวนละล่ำละลักเอ่ย
โม่หยวนชะงักไป “หะ...ห้า?”
“พี่ดูสัญลักษณ์ด้านบนถ้ำสิ รูปของราชันย์แดนลับมากประสบการณ์และราชันย์แดนลับปกติมันต่างกันอยู่แล้ว...” สหายอีกคนกระซิบบอก
โม่หยวนกวาดสายตามองและพบว่าภาพของราชันย์แดนลับมากประสบการณ์ทั้งหมดมันเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ
ซึ่งนี่ก็หมายความว่าราชันย์แดนลับมากประสบการณ์ถูกสังหารลงแล้วและตอนนี้พวกมันก็ถูกแทนที่ด้วยราชันย์แดนลับทั่วๆไป
เขาต้องรออีกอย่างน้อยครึ่งปีกว่าที่ราชันย์แดนลับมากประสบการณ์ตนใหม่จะถือกำเนิด
โม่หยวน “...”
เชี่ย...ฉันเตรียมตัวมาเป็นอย่างดีตั้งครึ่งค่อนปีแต่กลับมาบอกฉันว่าราชันย์แดนลับมากประสบการณ์ทั้งหมดหายหัวไปแล้วเนี่ยนะ?!
ใครมันจะยังประคองสติอยู่ได้?!
“โล่วิญญาณแก...” โม่หยวนตะโกนใส่อีกฝ่ายอย่างอดไม่ได้
น้ำเสียงแหบแห้งดังตอบกลับจากใต้ชุดเกราะ “มีอะไร?”
โม่หยวนเงยหน้าขึ้นและหมายจะด่าอีกฝ่ายแต่เมื่อเผชิญหน้ากับชุดเกราะที่เปล่งประกายกลิ่นอายเย็นเยียบ พริบตานั้นความสำเร็จมากมายของโล่วิญญาณก็แว่บเข้ามาในหัวของเขา
ความคิดที่จะด่าอีกฝ่ายมลายหายไปในพริบตา
“ไม่..ไม่มีอะไรฉันแค่อยากจะถามว่านายได้รับบาดเจ็บรึเปล่า” โม่หยวนฝืนยิ้มและเอ่ยออกมา
“ขอบคุณที่เป็นห่วงแต่ฉันสบายดี นายนี่ก็ไม่ใช่คนเลวนะเนี่ย” หลินเซวียนหวนนึกไปถึงเหตุการณ์กวาดล้างยุงพิษครั้งที่ผ่านมา โม่หยวนผู้นี้นี่แหละที่เป็นคนเอ่ยเตือนเขาว่ายุงพิษรุนแรงจะปรากฏตัวตั้งแต่เขตที่7เป็นต้นไป ดูเหมือนเจ้าหมอนี่จะเป็นคนดีเหมือนกัน
โม่หยวนจ้องมองแผ่นหลังของโล่วิญญาณที่กำลังเดินจากไปและรู้สึกพูดไม่ออกขึ้นมาดื้อๆ
เขาควรจะรออีกครึ่งปีดีหรือควรจะใช้วัตถุดิบเลื่อนขั้นจากราชันย์แดนลับทั่วๆไปเพื่อเลื่อนขั้นดี?
ความยินดีและความเสียหายของคนอื่นไม่เกี่ยวข้องกับหลินเซวียนแต่อย่างใด ในตอนนี้เขาได้กลับมายังห้องพักของตนและเตรียมการสำหรับการเลื่อนขั้นแล้ว
“เลื่อนขั้น!”
ปีกราชันย์สงครามของราชันย์ยุงพิษรุนแรงทั้งห้าคู่ที่เรียงรายอยู่ในมิติส่วนตัวของเขาอย่างว่าง่ายพริบตานั้นพลันแปรเปลี่ยนเป็นสะเก็ดแสงและผสานเข้าไปในร่างกายของเขา
พริบตาต่อมาค่าสถานะของเขาก็พุ่งทะยานอย่างรวดเร็ว!
เมื่อเวลาผ่านไปหลินเซวียนก็ลองดูหน้าต่างค่าสถานะของตนอีกครั้งและพบว่าเขาได้เลื่อนขั้นเป็นนักสู้ขอบเขตที่4แล้ว
ค่าสถานะของเขาตอนนี้คือ - ความอดทน207 , พละกำลัง77 , พลังจิต78 , ความเร็ว73
“ความรู้สึกเวลาแข็งแกร่งขึ้นนี่มันรู้สึกดีจริงๆ”
หลินเซวียนฉีกยิ้มกว้าง
จากนั้นเขาก็หยิบพิมพ์เขียวที่ได้จากลู่หลัวออกมา
“วัตถุดิบที่ต้องการคือ...แท่งไมก้า30แท่งและแท่งทองแดงภูเขาอีก60แท่ง พวกนี้มีอยู่เยอะซะด้วยสิถ้างั้นก็เริ่มเลยแล้วกัน!”
โต๊ะสร้างอุปกรณ์ที่อยู่ในมิติส่วนตัวของเขาเมื่อได้รับคำสั่งจากหลินเซวียนมันก็เริ่มทำการหลอมสร้างอุปกรณ์ในทันที
ครึ่งชั่วโมงต่อมาบนโต๊ะสร้างอุปกรณ์ก็พลันเปล่งประกายแสงสีทองเจิดจ้าออกมา
เมื่อแสงสีทองจางหายแหวนๆหนึ่งก็ปรากฏขึ้นเบื้องหน้าของเขา
“แหวนจาร์เวียเพิ่มความจุในการแบกของ20%และเพิ่มพลังงานสูงสุดอีก10% ของดีนี่!”
หลินเซวียนมีความสุขยิ่งนักและทำการสวมใส่แหวนวงนี้ทันที
...
วันต่อมา เขากำลังเตรียมจะมุ่งหน้าไปยังแดนลับขอบเขตที่4ซึ่งอยู่ในการควบคุมขององค์กรเจอร์มินอลอย่าง – ถ้ำด้ายขดด้วยตัวตนของโล่วิญญาณ
ฉับพลันนั้นเองเสียงประกาศของผู้จัดการหมายเลข1พลันดังขึ้นมาให้ได้ยิน
“นักสู้ขอบเขตที่4ทุกคนเตรียมตัวให้พร้อมและมารวมตัวกันที่หอประชุมเดี๋ยวนี้!”
หลินเซวียนที่แม้จะสับสนงุนงงแต่ขาของเขากลับไม่ขยับแม้แต่นิดเดียว
เรื่องขององค์กรเจอร์มินอลมันเกี่ยวอะไรกับฉันล่ะ?!
“นักสู้ขอบเขตที่4ทุกคนโปรดฟัง! มารวมตัวกันที่หอประชุมเดี๋ยวนี้! แดนลับแห่งใหม่ได้ปรากฏขึ้นในพื้นที่ทางตอนเหนือของเมืองทะเลตะวันออก!”
หลินเซวียนยืนขึ้นทันที
“เรื่องขององค์กรคือเรื่องของฉัน! การสำรวจแดนลับคือความรับผิดชอบของฉัน!”
เขารีบเปลี่ยนมาสวมใส่อุปกรณ์ของโล่วิญญาณและพุ่งไปที่หอประชุมในทันที
นักสู้ขอบเขตที่4จำนวนมากมารออยู่ก่อนแล้วโดยมีจำนวนรวมๆกันราวเกือบๆ40คน ถ้าไม่มีอะไรผิดคาดเกิดขึ้นคนเหล่านี้น่าจะเป็นนักสู้ขอบเขตที่4ทั้งหมดในองค์กรแล้ว
หลินเซวียนสังเกตเห็นลู่หลัว โม่หยวนและคนอื่นๆอยู่ในบรรดาคนเหล่านี้ด้วย เห็นได้ชัดเลยว่าพวกเขาเองก็เลื่อนขั้นเป็นขอบเขตที่4แล้วเช่นกัน
เมื่อผู้จัดการหมายเลข2เห็นโล่วิญญาณเขาก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกและเดินเข้ามาหาก่อนจะกระซิบเบาๆว่า “ฉันกำลังคิดจะให้หลินเซวียนไปตามตัวนายพอดี”
หลินเซวียนพยักหน้ารับ
“ฉันจะเล่าให้ฟังคร่าวๆระหว่างมุ่งหน้าไปที่ประตูแสงแล้วกัน ทุกๆคนตามมา!”
ผู้จัดการหมายเลข2เดินออกไปหยุดด้านหน้าคนอื่นๆและโบกมือก่อนจะเดินนำออกไป
นักสู้ขอบเขตที่4คนอื่นๆตามเขาไปอย่างใกล้ชิด
คนนับสิบพุ่งตัวออกจากฐานและมุ่งตรงไปยังเขตเหนือของเมืองทะเลตะวันออกอย่างรวดเร็ว
ระหว่างทางพวกเขาสังหารอสูรที่เดินเตร่ไปมาไปหลายสิบตัวและไม่นานนักพวกเขาก็มาถึงพื้นที่เขตเหนือ
ประตูแสงที่มีความสูงราวสี่เมตรจู่ๆก็ปรากฏขึ้นที่นี่ ประตูแสงนี้กระพริบวาบอยู่ตลอดเวลาและมีเงาบางอย่างปรากฏให้เห็นอยู่ด้านในราวกับว่ามีอสูรจำนวนมากกำลังจะหลั่งไหลออกมา
“ประตูแสงนี้กำลังจะก่อตัวสมบูรณ์แล้ว เมื่อถึงเวลานั้นแดนลับก็จะเชื่อมต่อกับโลกใบนี้อย่างเป็นทางการ!”
“ฉันต้องการให้พวกนายรีบทำการสร้างแนวป้องกันล้อมรอบประตูแสงเอาไว้และอย่าปล่อยให้มีอสูรตนใดหลุดรอดออกจากบริเวณนี้ไปได้โดยเด็ดขาด!”
ผู้จัดการหมายเลข2ตะโกนบอกด้วยออร่าของผู้นำ
เหล่านักสู้เหล่านี้ถูกฝึกและตระเตรียมแผนมาเป็นอย่างดี พวกเขาขยับซากปรักหักพักที่อยู่รอบๆมาใช้เป็นที่กำบัง
ในเวลาไม่ถึงสิบนาทีที่กำบังก็เสร็จสมบูรณ์
นักสู้หลบอยู่หลังที่กำแพงและจ้องเขม็งมองไปยังประตูแสงที่กระพริบไหวตลอดเวลา