Chapter 33 : การต่อสู้ระหว่างราชันย์แดนลับมากประสบการณ์
หลินเซวียนพยักหน้าเล็กน้อยและไม่ได้หยุดที่ตรงนี้
ผู้จัดการหมายเลข2ประหลาดใจยิ่งนัก วัตถุดิบเลื่อนขั้นจากราชันย์แดนลับมากประสบการณ์เหล่านี้ไม่อาจดึงดูดใจของโล่วิญญาณได้เลยงั้นหรอ?
เขายิ่งอยากรู้จักโล่วิญญาณมากขึ้นไปอีก
หลินเซวียนเดินวนไปวนมาอยู่หลายครั้งก่อนที่สุดท้ายจะหยุดที่โซนรูน
“เอานี่แล้วกัน”
เขาหยิบรูนปฐพีปกปักษ์ขึ้นมา
ผู้จัดการหมายเลข2พยักหน้าเล็กน้อย “ได้สิเอามันไปได้เลย”
อุปกรณ์สวมใส่ของโล่วิญญาณนั้นเห็นได้ชัดว่าทั้งพลังป้องกันและพลังชีวิตล้วนสูงล้ำ ยิ่งไปกว่านั้นรูนปฐพีปกปักษ์ยังมอบค่าต้านทานกายภาพและพลังชีวิตเพิ่มให้อีกด้วยซึ่งเหมาะกับเขายิ่งนัก
หลังจากรับของมาหลินเซวียนก็หมุนตัวและเตรียมจะเดินออกจากแผนกโลจิสติก
แต่จู่ๆผู้จัดการหมายเลข2กลับเอ่ยขึ้นมา “ความสัมพันธ์ระหว่างนายกับหลินเซวียนจากเขตCคนนั้นเป็นยังไงกันแน่?”
หัวใจของหลินเซวียนสั่นสะท้าน
หรือว่าผู้จัดการหมายเลข2จะคาดเดาตัวตนที่แท้จริงของเขาได้แล้ว?
ยังไงก็ตามเมื่อลองคิดดูอีกครั้งเขาก็พบว่าการกระทำของเขานั้นไม่เคยเกิดจุดบอด ไม่มีใครสามารถเชื่อมโยงระหว่างดาวรุ่งคนใหม่กับหลินเซวียนนักกู้ซากทั่วๆไปจากเขตCได้แน่นอน
หลังจากคิดเล็กน้อยน้ำเสียงแหบแห้งก็ดังออกมาจากชุดเกราะสีดำ “คุณอยากจะใช้เขาควบคุมผมหรือไง?”
ผู้จัดการหมายเลข2หัวเราะ “ไม่ๆ นายเข้าใจผิดแล้ว”
“ถ้าหลินเซวียนกับนายมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งฉันจะได้คอยดูแลเขาให้”
น้ำเสียงแหบแห้งเอ่ยต่อ “ผมแค่รู้สึกว่าหลินเซวียนคนนั้นถูกชะตาก็เท่านั้น แน่นอนว่าในองค์กรเจอร์มินอลมีคนไม่มากหรอกที่ผมรู้สึกถูกชะตาด้วย”
ผู้จัดการหมายเลข2ยิ้มและพยักหน้ารับ “เข้าใจแล้ว”
หลินเซวียนเดินต่อ หนนี้ผู้จัดการหมายเลข2ไม่ได้เอ่ยปากหยุดเขาอีกต่อไป
“ดูเหมือนเราจะเริ่มที่หลินเซวียนคนนั้นได้จริงๆด้วยสินะ ตราบใดที่ได้ชนะใจของหลินเซวียนได้ก็มีโอกาสที่จะชนะใจโล่วิญญาณด้วย” ผู้จัดการหมายเลข2หัวเราะ
“เวลาอยู่ด้านนอกนายชอบแสดงตัวเหมือนคุณลุงวัยกลางคนท่าทางใจดีแต่พอไม่มีคนอื่นๆอยู่ด้วยนี่หัวเราะได้ชั่วร้ายมากนะ”
เสียงหนึ่งจู่ๆก็ดังขึ้นมาจากด้านหลังของเขา
สีหน้าของผู้จัดการหมายเลข2แข็งค้าง เขหันหน้าไปมองและพบว่าอีกฝ่ายคือแบล็คที่กำลังดื่มเบียร์เหมือนปกติดังคาด
“ความเร็วของนายเท่าไหร่กันเนี่ย? ทำไมถึงไปมาเหมือนผีแบบนี้?” ผู้จัดการหมายเลข2เอ่ยอย่างกระอักกระอ่วน
แบล็คตอบด้วยน้ำเสียงแปลกๆ “ไม่คิดบ้างหรอว่าเป็นเพราะความเร็วของนายมันต่ำเองน่ะ?”
หมายเลข2หมดคำจะพูดในทันใด
...
เวลาผ่านไปอย่างเงียบงัน เพียงเสี้ยวพริบตาเดียวเวลาก็ผ่านไปแล้วถึงสองอาทิตย์ หลินเซวียนเองก็แข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆอย่างเงียบเชียบ
“เราได้ทุกอย่างที่ควรได้จากถ้ำหินยักษ์ รังมดอสูรและทะเลราชันย์พฤกษาแล้ว สกิล อุปกรณ์และรูนทั้งหมดที่สามารถดรอปได้ก็ดรอปมาหมดแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นพวกมันยังถูกอัพเกรดจนกลายเป็นเกรดไร้ที่ติสีทองจนหมดแล้วด้วย ตอนนี้ต่อให้ใช้ร่างอวตารพวกนี้ไปก็คงไร้ประโยชน์แล้ว”
“ไม่สิ ร่างอวตารฝึกฝนในถ้ำหินยักษ์ยังมีประโยชน์อยู่ ฉันยังจำเป็นต้องใช้แร่จากถ้ำหินยักษ์เพื่อหลอมสร้างอุปกรณ์ เว้นเสียแต่ว่าจะเจอแดนลับที่มีแร่ระดับสูงกว่านี้ไม่อย่างนั้นก็ยังยกเลิกร่างอวตารนั้นไม่ได้”
หลินเซวียนวางแผนในหัว
“ตอนนี้ระดับนักสู้ ระดับอุปกรณ์และระดับสกิลกับระดับรูนล้วนอัพเกรดจนเป็นเลเวล9ขอบเขตที่3จนหมดแล้ว ได้เวลาท้าทายราชันย์แดนลับมากประสบการณ์ของบึงยุงพิษซักที”
หลินเซวียนมองไปรอบๆเพื่อหาสถานที่เปลี่ยนชุด
อย่างแรกที่เขาทำคือสวมใส่เซ็ตหมดพิษซึ่งประกอบไปด้วยหมวกส่วนบน หน้ากาปักษาและชุดคลุมลินิน จากนั้นเขาก็ใส่เซ็ตโล่ปราการยักษ์อีกเซ็ตหนึ่ง
มีเพียงเขาที่ทำเช่นนี้ได้เพราะค่าความอดทนอันสูงลิ่วทำให้เขาแบกน้ำหนักได้มากพอ
หลินเซวียนเดิมายังโถงหลักของฐานองค์กร ผู้จัดการหมายเลข2ได้แจ้งพนักงานเอาไว้แล้วจึงไม่มีใครเข้ามาห้ามเขา เขาจึงเข้าสู่บึงยุงพิษได้อย่างง่ายดาย
หลังจากมาถึงเขาก็พุ่งตรงไปยังเขตที่9และมาหยุดอยู่ด้านหน้าถ้ำของเหล่าราชันย์แดนลับอย่างรวดเร็ว
บึงยุงพิษแห่งนี้มีถ้ำของราชันย์อยู่สิบถ้ำ
ยังไงก็ตามเนื่องจากพลังต่อสู้ของยุงพิษรุนแรงนั้นทรงพลังมาก เหล่านักสู้จึงมีค่าต้านทานพิษไม่สูงพอจะต้านทานพิษธรรมดา พิษร้ายและพิษรุนแรงได้ หรือบางคนก็อาจจะนำยาแก้พิษมาไม่มากพอทำให้ยากนักที่จะมีนักสู้กล้าเข้ามาที่นี่
เช่นนี้แล้วสถานการณ์ในบึงยุงพิษจึงค่อนข้างเงียบสงบ
ในบรรดาถ้ำทั้งสิบ ห้าในสิบนั้นเป็นถ้ำของราชันย์แดนลับมากประสบการณ์...
หลินเซวียนมีความสุขยิ่งนัก ในที่สุดเขาก็จะได้ฆ่าราชันย์แดนลับมากประสบการณ์ติดๆกันในครั้งเดียวซักที!
เมื่อเขามาถึงปรากฏว่าเขาพบกับเงาร่างเล็กๆร่างหนึ่งยืนอยู่หน้าถ้ำ
อีกฝ่ายสวมใส่ชุดเดรสตัวจิ๋ว ทำผมทรงหางม้าและมีแก้มดุจลูกพลัม...เป็นลู่หลัวนั่นเอง
“ลู่หลัว พี่สาวลู่ไม่ใช่ว่าพวกเราไม่อยากเข้าทีมของคุณนะแต่พวกเรามีทีมระยะยาวอยู่ก่อนแล้ว”
“พี่สาวลู่คุณทรงพลังมากก็จริงแต่พวกเราคงร่วมมือกันไม่ได้หรอก ลืมมันเถอะ”
นักสู้ทุกคนต่างปฏิเสธคำเชิญของลู่หลัวแต่ก็ไม่กล้ายั่วยุเจ้าหล่อนแบบเปิดเผย พวกเขาทำได้เพียงยิ้มและปฏิเสธอ้อมๆเท่านั้น
ชื่อของลู่หลัวแพร่กระจายไปในหมู่นักสู้ตั้งแต่เมื่อนานมาแล้ว สตรีผู้นี้โด่งดังยิ่งนักเรื่องยากจะร่วมมือด้วย
เจ้าหล่อนชอบพุ่งไปโดยไม่สนใคร หมอประจำทีมไม่อาจฮีลเจ้าหล่อนได้และตัวแทงค์เองก็ตามไม่ทัน
ทีมที่เข้าท้าทายราชันย์แดนลับมากประสบการณ์ส่วนใหญ่จะประกอบไปด้วยนักสู้4คน ดังนั้นพวกเขาจึงต้องร่วมมือกันให้ดี วิธีต่อสู้แบบไม่คิดหน้าคิดหลังของลู่หลัวนั้นไม่เลวหากเป็นการต่อสู้กับราชันย์แดนลับมากประสบการณ์ตัวอื่นแต่มันกลับเลวร้ายมากเวลาเผชิญหน้ากับราชันย์ยุงพิษรุนแรง
ราชันย์ยุงพิษรุนแรงมีลูกน้องตามมาด้วยเป็นโขยง ยิ่งไปกว่านั้นมันยังสามารถเรียกลูกน้องเพิ่มได้เรื่อยๆด้วย
ต่อให้ไม่นับเรื่องพิษรุนแรงแต่พวกเขาก็ยังตายอยู่ดีถ้าถูกยุงพิษรุนแรงขนาดนั้นรุมโจมตี
แน่นอนว่าด้วยความแข็งแกร่งของลู่หลัวมีโอกาสเป็นไปได้สูงมากที่เจ้าหล่อนจะไม่ตายต่อให้ถูกแยกจากสมาชิกทีมอีก3คนก็ตาม...
เพื่อความปลอดภัยในชีวิตของพวกเขาพวกเขาจึงเลือกที่จะปฏิเสธลู่หลัว
ลู่หลัวขมวดคิ้วด้วยความโกรธ
ในเวลานี้เองเจ้าหล่อนก็สังเกตเห็นเงาร่างในชุดเกราะสีดำเดินเข้ามา พริบตานั้นใบหน้าของเจ้าหล่อนก็พลันเต็มไปด้วยความดีอกดีใจ
“โล่วิญญาณ! เข้าร่วมทีมกับฉันซะ ฉันยังขาดวัตถุดิบเลื่อนขั้นจากราชันย์แดนลับมากประสบการณ์อีกชิ้นนึง”
“ไม่”
สิ่งแรกที่หลินเซวียนทำคือปฏิเสธ ตลกเถอะ! จะให้เขาแบ่งวัตถุดิบเลื่อนขั้นจากราชันย์แดนลับมากประสบการณ์กับคนอื่นเนี่ยนะ? พวกมันทั้งหมดต้องถูกเขาครอบครองเพียงผู้เดียว!
ยังไงก็ตามเพียงชั่วครู่เขาก็นึกได้ ในบึงยุงพิษแห่งนี้มีราชันย์แดนลับมากประสบการณ์อยู่ตั้ง5ตัว
ต่อให้คำนวณด้วยอัตราการดรอปต่ำสุดเขาก็ยังสามารถเก็บวัตถุดิบเลื่อนขั้นได้ครบอยู่ดี
ลู่หลัวย่นจมุก
เจ้าหล่อนเองก็รู้ว่าโล่วิญญาณนั้นโดดเด่นมากในการต่อสู้กับยุงพิษที่ผ่านมา ยิ่งไปกว่านั้นค่าต้านทานพิษของเขาต้องสูงมากแน่ๆ ต่อให้ไม่มีใครช่วยเขาก็ยังมีโอกาสสูงมากที่จะสังหารราชันย์แดนลับมากประสบการณ์ลงได้เพียงลำพัง
ลู่หลัวกัดฟันเอ่ย “ก่อนหน้านี้ฉันได้พิมพ์เขียวของแหวนเกรดสีทองมาแต่ฉันยังขาดวัตถุดิบอีกเยอะมาก ยิ่งไปกว่านั้นฉันยังไม่มี...”
หลินเซวีรนโพล่งออกมา “ตกลง”
ลู่หลัว “...”
นักสู้คนอื่นๆ “...”
ท่าทีของเขาเปลี่ยนจากหลังเท้าเป็นหน้ามืออย่างรวดเร็ว
ยังไงก็ตามการที่ลู่หลัวเอาพิมพ์เขียวเกรดสีทองมาเสนอนี่ดูจะสิ้นเปลืองเกินไปหน่อย
โดยเฉพาะพิมพ์เขียวของแหวน
ในหลายๆเกมผู้เล่นจะสามารถใส่แหวนและสร้อยคอได้อย่างละหนึ่งเท่านั้น
ยังไงก็ตามเมื่อโลกแห่งความจริงเปลี่ยนเป็นเกม มนุษย์ที่มีสิบนิ้วก็ย่อมสามารถสวมใส่แหวนได้สิบวง!
ถ้าเกิดมามีสิบสองนิ้วก็ใส่ได้สิบสองวง!
เขาเคยได้ยินมาว่ามีบางคนถึงขั้นเอาแหวนไปใส่ที่นิ้วเท้าเลยด้วยซ้ำ
แน่นอนว่าการสวมแหวนหลายๆวงย่อมส่งผลตต่อมือและเท้า นักสู้บางคนที่จำเป็นต้องลงมือให้ได้อย่างแม่นยำจึงค่อนข้างได้รับผลกระทบไม่น้อย
ดังนั้นจึงมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่สวมแหวนจำนวนมาก
ลู่หลัวเอ่ย “นายต้องจ่ายค่าวัตถุดิบในการสร้างและค่าจ้างช่างฝีมือเอาเอง เรื่องนี้ฉันไม่ช่วย”
แหวนขอบเขตที่3เกรดสีทองจำเป็นต้องใช้วัตถุดิบจำนวนมากและใช้เงินอย่างน้อยถึง300,000เหรียญ
หลินเซวียนพยักหน้ารับคำ
ทำไมต้องจ้างช่างฝีมือ? ตัวเขามีโต๊ะสร้างอุปกรณ์อยู่แล้วโว้ย!
ลู่หลัวเงยหน้าขึ้นเอ่ยถาม “เรามาวางแผนโจมตีราชันย์ยุงพิษรุนแรงเลยดีไหม?”
หลินเซวียนตอบ “แผนของฉันคือเดินเข้าไป สู้แล้วก็เดินออกมา สามขั้นตอนง่ายๆและได้ใจความ”
ลู่หลัว “...เป็นแผนที่ละเอียดดี”