Chapter 28 : เข้าสู่แดนลับขอบเขตที่3 - บึงยุงพิษ
กลางคืนคืนนั้น
หลินเซวียนเปลี่ยนมาใส่ชุดของโล่วิญญาณและปรากฏกายยังซากบ้านที่เคยมาเมื่อกลางวัน
เช่นเดียวกับครั้งก่อน นักสู้ชุดดำดื่มรอเขาอยู่นานแล้ว
“ผมมาแล้ว” เสียงแหบแห้งดังออกมาจากภายใต้ชุดเกราะสีดำ
ชายนักสู้ชุดดำหัวเราะในลำคอ “ฉันบอกแล้วว่าเดี๋ยวพวกเราก็ได้เจอกันอีก”
“ผมยังไม่รู้ชื่อคุณเลย”
“แบล็ค”
“เข้าใจแล้ว”
ชายนักสู้ชุดดำยิ้มและกล่าว “หลินเซวียนน่าจะบอกสถานการณ์คร่าวๆให้นายฟังแล้ว หมายเลข2มีคนอยู่ในมือน้อยมาก พวกเราสามารถอนุญาติให้นายเข้าสู่บึงยุงพิษได้เป็นกรณีพิเศษโดยพวกเราจะไม่ขอรับไอเทมใดๆก็ตามที่นายหาได้ คิดว่ายังไง?”
นักสู้และผู้ดูแลนั้นแตกต่างจากนักกู้ซากแดนรกร้างอย่างสิ้นเชิง พวกเขาจะไม่ถูกสวมปลอกคอและไม่ถูกทางองค์กรจับตามอง อย่างไรก็ตามทุกๆครั้งที่พวกเขาเข้าสู่แดนลับก็จำเป็นต้องทำภารกิจที่กำหนดให้ลุล่วงอยู่ดี
ยิ่งไปกว่านั้นถ้าเป็นนักกู้ซากเมื่อได้รับไอเทมเกรดหายากสีฟ้าหรือล้ำค่าสีม่วงก็จำเป็นต้องส่งมอบให้กับองค์กร
หากแต่นักสู้และผู้ดูแลนั้นไม่จำเป็นต้องทำเช่นนั้น พวกเขาเพียงแค่ต้องทำภารกิจที่กำหนดให้ลุล่วงเท่านั้น ส่วนของที่ได้มาตราบใดที่ภารกิจเสร็จสิ้นก็สามารถเก็บเอาไว้เองได้
“ข้อแม้ล่ะ?” หลินเซวียนเอ่ยเสียงเรียบ
บนโลกใบนี้ไม่มีอาหารฟรีแน่นอน
อีกฝ่ายไม่ร้องขอให้เขามอบอะไรให้ ถ้าอิงจากตรงนี้ก็เดาได้เลยว่าอีกฝ่ายน่าจะมีข้อแม้
แบล็คยิ้มและเอ่ยตอบ “หมายเลข2กับหมายเลข3มักจะแข่งขันกันอยู่ตลอด เนื่องจากหมายเลข2เข้าร่วมกับองค์กรทีหลัง ฝ่ายเขาจึงอ่อนแอกว่าหมายเลข3มากนัก”
“ถ้าฝ่ายเขาอ่อนแอจำนวนคนก็จะลดลงตาม ถ้าจำนวนลดลงผลประโยชน์ก็จะลดลงด้วยเช่นกันและถ้าผลประโยชน์ลดลงก็ยากนักที่จะหาคนเข้าร่วม นักสู้คนแล้วคนเล่าเลือกที่เอนเอียงเข้าร่วมกับฝ่ายของหมายเลข3”
“ผู้ดูแลมีทั้งหมด4คนและสามคนในนั้นเลือกฝั่งของหมายเลข3”
พอเอ่ยถึงตรงนี้แบล็คก็หยุดพูดและมองมาที่เขาอย่างเงียบเชียบ
หลินเซวียนเข้าใจสิ่งที่เขาอยากจะสื่อได้ในทันที
การต่อสู้ในบึงยุงพิษนี้แท้จริงแล้วเป็นการแข่งขันระหว่างหมายเลข2กับหมายเลข3
หมายเลข2อยากจะใช้การแข่งขันครั้งนี้สำแดงความแข็งแกร่งของฝั่งตัวเอง
ส่วนหมายเลข3ก็อยากจะใช้การแข่งขันครั้งนี้รวบรวมความได้เปรียบทางฝั่งตัวเอง
แม้จะเป็นเพียงการแข่งขันของกลุ่มอิทธิพลขนาดเล็กแต่ไม่ว่าฝ่ายไหนชนะก็ย่อมทำให้อีกฝ่ายดูไร้ประโยชน์อยู่ดี
เมื่อนักสู้เลือกข้างพวกเขามักจะมองตรงจุดนี้ด้วย
“ผมมีข้อเสนอ” หลินเซวียนเอ่ย
“บอกมาเถอะ”
“ถ้าครั้งนี้ผมฆ่ายุงพิษได้มากที่สุดผมต้องการสิทธิในการเข้าถึงแดนลับขอบเขตที่3 4และ5”
แบล็คมองมาที่หลินเซวียนด้วยสายตาสนอกสนใจ “ย่อมได้”
หลินเซวียนสับสนยิ่งนัก “คุณตกลงแทนผู้จัดการหมายเลข2ได้เลยงั้นหรอ?”
แบล็คยิ้มและตอบ “ฉันเป็นคนคุ้มกันของเขา ถ้าเขาไม่ฟังฉันฉันก็จะไม่คุ้มครองเขา”
หลินเซวียน “....”
ความสัมพันธ์ของผู้จ้างกับบอร์ดี้การ์ดคู่นี้มันสลับกันรึไง?
หลินเซวียนถามต่อ “เวลาล่ะ?”
แบล็ค “8โมงเช้าพรุ่งนี้ที่หอประชุมฐานองค์กร”
หลินเซวียนพยักหน้ารับและหมุนกายจากไป
แบล็คมองแผ่นหลังของเขาและเดาะลิ้นด้วยความประหลาดใจ
“เจ้าหนูนี่ทะเยอทะยานดีจริงๆ พึ่งจะเป็นนักสู้ขอบเขตที่3แท้ๆแต่กลับคิดถึงแดนลับขอบเขตที่4กับ5แล้ว”
...
เช้าวันถัดมาเวลา8โมงเช้า หลินเซวียนได้มาถึงหอประชุมตรงเวลา
นักกู้ซากที่เดินผ่านเขาไปต่างประหลาดใจ
ไม่ใช่พวกเขาได้ยินมาว่าโล่วิญญาณกับองค์กรเจอร์มินัลมีเรื่องไม่พอใจกันรึไง? ทำไมหมอนี่ถึงกล้ามายืนอยู่ในหอประชุมขององค์กรอย่างสบายๆแบบนี้?
ไม่นานนักกลุ่มนักสู้ขอบเขตที่3กลุ่มเล็กๆก็มาถึงและพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน
ลักษณะที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังนั่นทำให้นักกู้ซากหลายคนอยากจะเป็นเหมือนพวกเขา
ถ้าเพียงแค่พวกเขาสามารถเลื่อนขั้นขึ้นไปเป็นขอบเขตที่3และกลายเป็นนักสู้ได้เหมือกันล่ะก็...
โชคร้ายนักที่นักกู้ซากส่วนใหญ่นั้นกระทั่งขอบเขตที่2ก็ยังไปไม่ถึงดังนั้นไม่ต้องกล่าวถึงขอบเขตที่3เลย
นักสู้เหล่านี้เองก็ประหลาดใจยิ่งนักที่เห็นโล่วิญญาณ
ทำไมหมาป่าเดียวดายถึงมายืนหัวโด่อยู่ที่นี่ได้ล่ะเนี่ย?
นักสู้ชุดขาวจู่ๆก็พูดขึ้นว่า “ฉันค่อนข้างประทับใจคนๆนี้อยู่นะ เขามีชื่อเล่นว่าโล่วิญญาณ ไม่นานมานี้ก็พึ่งจะกระทืบหยางเว่ยจนเละที่ทะเลราชันย์พฤกษา”
“หยางเว่ย? ไม่ใช่ว่าเขาเลื่อนขั้นเป็นขอบเขตที่4แล้วหรอกหรอ? แล้วไปไงมาไงถึงถูกหมาป่าเดียวดายซัดซะได้?” นักสู้คนอื่นๆพูดขึ้นด้วยความประหลาดใจ
“พวกเราต่างก็รู้ระดับของหยางเว่ยดี แม้ว่าอีกฝ่ายจะรวบรวมวัตถุดิบเลื่อนขั้นได้ห้าชิ้นแต่ก็ไม่มีชิ้นใดเลยที่ดรอปมาจากราชันย์แดนลับมากประสบการณ์ แม้ว่าหมอนั่นจะเป็นขอบเขตที่4เลเวล1แต่ค่าสถานะกลับด้อยกว่าฉันที่เป็นผู้เชี่ยวชาญขอบเขตที่3เลเวล7ซะอีก” นักสู้ชุดขาวหัวเราะและเอ่ยต่อ “ยังไงก็ตามในเมื่อโล่วิญญาณผู้นี้สามารถจัดการหยางเว่ยได้ก็หมายความว่าอีกฝ่ายน่าจะมีความสามารถอยู่บ้าง เมื่อพวกเราเข้าไปยังบึงยุงพิษก็คอยจับตามองเขาเอาไว้หน่อยแล้วกัน”
“เข้าใจแล้ว โม่หยวนนายหมายความว่าโล่วิญญาณคนนี้จะเข้าไปในบึงยุงพิษกับเราสินะ?” นักสู้คนอื่นๆเริ่มคิดตาม
“ไม่งั้นเขาจะมายืนอยู่ที่นี่ทำไมล่ะ? คงเป็นผู้จัดการหมายเลข2ชวนเขามานั่นแหละ” โม่หยวนกล่าวยิ้มๆ
ไม่นานนักผู้จัดการหมายเลข2และหมายเลข3ก็ปรากฏตัวพร้อมกัน
นี่เป็นครั้งแรกเลยที่หลินเซวียนได้เห็นหน้าตาของผู้จัดการหมายเลข2
เขากลับดูเด็กอย่างไม่น่าเชื่อ
ดูจากลักษณะภายนอกแล้วดูเหมือนอีกฝ่ายจะมีอายุไม่ถึง30ปีด้วยซ้ำ
ใบหน้าของเขาซีดขาวจนน่าหวาดกลัวราวกับไม่เคยเจอแสงอาทิตย์มาก่อน
ส่วนผู้จัดการหมายเลข3นั้นทั้งหล่อเหลา ปราดเปรียวและดูมีท่าทีเย็นชายิ่งนัก ด้วยรอยยิ้มพิมพ์ใจของอีกฝ่ายย่อมสามารถคว้าหัวใจของสาวน้อยได้อย่างไม่ยากเย็น
ผู้จัดการหมายเลข2ส่งยิ้มให้หมายเลข3และหมายเลข3ก็พยักหน้ารับเล็กน้อย ฉากหน้าแล้วดูไม่ออกเลยว่าทั้งสองฝ่ายมีความขัดแย้งกัน
“นายจะพูดก่อนหรือจะให้ฉันเปิด?” ผู้จัดการหมายเลข2เปิดปากพูดคนแรก
ผู้จัดการหมายเลข3ตอบ “นายเอาเลยฉันไม่ค่อยชอบพูดซักเท่าไหร่”
หมายเลข2พยักหน้าและหันมาหาเหล่านักสู้ “พวกนายเองก็น่าจะรู้ข้อมูลคร่าวๆอยู่แล้ว น้ำภายในบึงยุงพิษจู่ๆก็เสื่อมสภาพลงและยุงพิษเองก็ขยายจำนวนขึ้นหลายเท่า ผลลัพธ์ของมันทำให้ไปแย่งพื้นที่การปรากฏของดอกบัวไร้มลทิลและไอเทมค่าสถานะชิ้นอื่นๆ สิ่งที่พวกนายจำเป็นต้องทำก็คือกำจัดยุงพิษและทำลายรังของพวกมันซะ”
“เพื่อการแข่งขันภายในขององค์กรฉันจะแจกกำไลให้กับพวกนายทุกคน กำไลข้อมือนี้จะบันทึกว่าพวกนายกำจัดยุงพิษไปกี่ตัวและทำลายรังไปแล้วกี่รัง ไม่ต้องกังวลเพราะกำไลนี้แตกต่างจากปลอกคอ มันจะไม่มีการบันทึกของภายในอุปกรณ์เก็บของ”
ประโยคสุดท้ายนั้นเอ่ยขึ้นเพื่อให้โล่วิญญาณได้สบายใจ
ผู้จัดการหมายเลข2พูดต่อ “เนื่องจากหนนี้มียุงพิษอยู่เป็นจำนวนมากแต่นักสู้ขอบเขตที่3ขององค์กรกลับมีไม่เยอะฉันเลยชวนโล่วิญญาณเข้าร่วมปฏิบัติการด้วยเป็นกรณีพิเศษ ทุกๆคนปรบมือต้อนรับเขาหน่อย”
แปะ แปะ แปะ
เหล่านักสู้ตบมือ
“ไปกันเถอะฉันไม่อยากจะเสียเวลาแล้ว” ผู้จัดการหมายเลข3ขัดคอ
โม่หยวนเป็นคนแรกที่เดินนำเข้าประตูแสงโดยมีนักสู้คนอื่นๆตามไปติดๆ หลินเซวียนคือคนสุดท้ายที่เข้าสู่แดนลับ
ทันทีที่เขาเข้าสู่บึงยุงพิษ หลินเซวียนก็พลันได้กลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ลอยมาแตะจมูก
“เชี่ย...ฉันไม่ได้มาที่นี่ไม่ถึงวันด้วยซ้ำแต่น้ำในบึงกลับเลวร้ายลงถึงขั้นนี้แล้ว”
“ไม่แปลกใจเลยที่พวกระดับสูงถึงรีบจัดแจงคนมาทำความสะอาดยุงพิษพวกนั้น ด้วยอัตราการเพิ่มจำนวนของพวกมันไอเทมค่าสถานะอย่างดอกบัวไร้มลทิลคงอยู่ได้ไม่นานหรอก”
“ได้เวลาเริ่มงานแล้ว!”
นักสู้หลายต่อหลายคนกระจายตัวกันไปในทันที
แม้ว่าหน้าฉากแล้วจะไม่มีรางวัลมอบให้แต่ทุกๆคนรู้ดีว่าคนที่กำจัดยุงพิษได้เยอะที่สุดจะเป็นที่จับตาของผู้จัดการ
เช่นนี้แล้วพวกเขาจึงแยกย้ายกันไปเพราะไม่อยากให้คนอื่นแย่งชิงผลงาน
หลินเซวียนปรายตามองพวกเขาและพบว่านักสู้ส่วนใหญ่นั้นเลาะขอบบึงอย่างระมัดระวังไม่กล้าเข้าไปตรงๆ
เขามองไปรอบๆด้วยสกิลตรวจสอบและพบว่านักสู้ส่วนใหญ่เหล่านี้ล้วนมีระดับต่ำกว่าเลเวล3หรือ4ขอบเขตที่3ทั้งนั้น มีเพียงไม่กี่คนที่นำหน้าเท่านั้นที่เป็นเลเวล6หรือ7แต่ไม่มีใครเลยที่มีระดับพลังสูงกว่าเลเวล7ขอบเขตที่3
คนที่เลเวลสูงๆแม้จะก้าวเข้าสู่บึงยุงพิษแต่ก็ไม่กล้าเข้าไปลึกนัก
หลินเซวียนยักไหล่และเดินทอดน่องเข้าไปสู่ส่วนลึกของบึงยุงพิษ
ยุงพิษด้านนอกนั้นไม่พอมือเขาหรอก เขาวางแผนว่าจะหายุงพิษที่มีค่าสถานะสูงที่สุดในส่วนลึกเพื่อที่เขาจะได้มีร่างอวตารที่ทรงพลังเพิ่มอีกร่าง