Chapter 27 : คำเชิญจากผู้จัดการหมายเลข2
หลินเซวียนเปลี่ยนรูปแบบของโล่ค้อนราชันย์มังกรดินให้กลายเป็นรูปแบบค้อนและฟาดมันลงไปเต็มแรง
ปัง!
ร่างของหยางเว่ยถูกส่งปลิวออกไปราวกับตุ๊กตาผ้าป่าน
การโจมตีก่อนหน้านี้ของเขาที่โถมเข้าใส่หลินเซวียนก็ทำให้เขาได้รับความเสียหายจากการสะท้อนมาพอสมควรทำให้พลังชีวิตของเขาลดลงไปเยอะพอตัวแล้ว
การโจมตีหนนี้ของหลินเซวียนเลยทำให้หยางเว่ยได้รับบาดเจ็บพอสมควร
เมื่อร่างของหยางเว่ยถูกฟาดปลิวออกไป เหล่านักกู้ซากทุกคนต่างพากันเหม่อมองด้วยสายตาโง่งม
หยางเว่ยเป็นถึงนักสู้ขอบเขตที่4แต่กลับถูกค้อนของโล่วิญญาณฟาดเพียงหนเดียวก็ปลิวกระเด็นออกไปแล้ว หรือว่าโล่วิญญาณเองก็เป็นนักสู้ขอบเขตที่4เหมือนกัน?
ไม่ถูกต้องสิ ทำไมนักสู้ขอบเขตที่4ต้องมาหาวัตถุดิบเลื่อนขั้นสำหรับขอบเขตที่2ด้วยเล่า? สรุปแล้วเลเวลของโล่วิญญาณมันเท่าไหร่กันแน่?
หยางเว่ยกระอักเลือดออกมาคำโต สายตาของเขาจ้องเขม็งไปที่เงาร่างในชุดเกราะเต็มตัวด้วยสายตาหวาดผวา
ตอนนี้ยิ่งโล่วิญญาณค่อยๆย่างเท้าเข้ามาหาเขาเรื่อยๆเขาก็ยิ่งรู้สึกกลัวขึ้นมาแล้วจริงๆ
วิญญาณร้ายชัดๆ! เจ้าหมอนี่มันเป็นวิญญาณร้าย!
จากนั้นโล่วิญญาณก็เดินผ่านเขาไปไม่ได้โจมตีต่อแต่อย่างใด
หลินเซวียนรู้ดีว่าการทำให้หยางเว่ยได้รับบาดเจ็บกับการสังหารหยางเว่ยนั้นสิ่งที่ตามมาย่อมแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
เมื่อใดที่ผู้ดูแลถูกสังหารเรื่องนี้จะส่งผลต่อชื่อเสียงขององค์กรเจอร์มินัลอย่างรุนแรง ผู้จัดการทุกคนย่อมต้องออกคำสั่งล่าตัวเขาอย่างเร่งด่วน ต่อให้ผู้จัดการหมายเลข2จะค่อนข้างชื่นชอบในตัวเขาแต่ก็ยากนักที่อีกฝ่ายจะยื่นมือเข้ามายุ่ง
เมื่อถึงตอนนั้นหลินเซวียนคงไม่พ้นถูกจับตัวเป็นแน่
เขารู้ดีว่าตัวเองยังไม่แข็งแกร่งพอจะต้านทานผู้จัดการที่เป็นนักสู้ขอบเขตที่6ได้ ยิ่งไปกว่านั้นใครเล่าจะรู้ว่าในองค์กรจะยังมีนักสู้ที่ทรงพลังหลบซ่อนอยู่อีกเท่าไหร่?
ความหวาดกลัวในใจของหยางเว่ยค่อยๆเลือนหายเมื่อโล่วิญญาณเดินจากไป
“โชคดีจริงๆ ขอบคุณพระเจ้าที่ฉันยังรอดอยู่...” หัวใจของหยางเว่ยเต้นไม่เป็นส่ำ “โล่วิญญาณคนนี้ทรงพลังยิ่งนัก ถ้าเขามีเวลาให้เติบโตมากกว่านี้ฉันคงรับการโจมตีจากอีกฝ่ายไม่ได้แม้แต่ครั้งเดียวด้วยซ้ำ”
“โล่วิญญาณรอก่อน”
จู่ๆลู่หลัวก็เอ่ยออกมา
หลินเซวียนชะงัก กระทั่งผู้ดูแลเขตCเองก็ยังคิดจะหยุดเขางั้นหรอ?
“ฉันยังขาดแกนอสูรธาตุไฟอยู่อีก4ก้อนและแกนอสูรธาตุสายฟ้าอีก1ก้อน นายมีรึเปล่า? หยางเว่ยกับฉันมีแค้นต้องชำระกันอยู่แล้ว ฉันจะช่วยนายทุบตีหยางเว่ยอีกหนก็ได้” ลู่หลัวเอ่ยเสียงเรียบ
หยางเว่ย “...ลู่หลัว..ไม่สิพี่สาวลู่ พวกเราเป็นพวกเดียวกันนะ คุณคงไม่ใจร้ายขนาดนั้นหรอกจริงไหม?”
หลินเซวียนหยิบไอเทมเพิ่มค่าสถานะที่อีกฝ่ายต้องการออกมาจากมิติส่วนตัวและโยนออกไป “ฉันรับข้อเสนอนั้น”
กล่าวจบเขาก็เดินออกจากทะเลราชันย์พฤกษาไป
ลู่หลัวรับไอเทมเหล่านี้และนำเอาแส้ยาวออกมากระชับไว้ในมือ
แส้ยาวนี้เป็นเพียงอาวุธเกรดทั่วไปสีขาวเท่านั้นและความเสียหายเองก็ต่ำมาก มันเหมาะสำหรับทุบตีผู้คนเท่านั้น
เพี๊ยะ! เพี๊ยะ!
ลู่หลัวสะบัดแส้ฟาดใส่ก้นของหยางเว่ยอย่างดุเดือด
“อั่ก! อั่กอั่กอั่ก!”
ทุกๆแส้ที่หวดลงไปทำให้หยางเว่ยต้องกรีดร้องออกมาอย่างน่าสังเวช
นักกู้ซากที่อยู่รอบๆจ้อมไปที่เขาและหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่งภายในใจ หลายๆคนในนั้นถึงขั้นทนไม่ไหวระเบิดเสียงหัวเราะออกมาดังสนั่น
“เฮ้ย! พวกแกหัวเราะอะไร! หยุดมองได้แล้วพวกแกทั้งหมดไสหัวไปซะ!” หยางเว่ยก่นด่าออกมาขณะคร่ำครวญ
หลินเซวียนที่อยู่อีกด้านหนึ่งก็ได้เปลี่ยนอุปกรณ์สวมใส่และกลับมายังหอพักเดี่ยวของตัวเองเป็นที่เรียบร้อย
หลังจากโล่วิญญาณจัดการผู้ดูแลเขตBลงเรื่องนี้จะเท่ากับว่าหมาป่าเดียวดายได้โจมตีผู้ดูแลขององค์กรเจอร์มินัล ผู้ดูแลคนอื่นๆอาจจะมาสร้างปัญหาให้กับโล่วิญญาณก็เป็นได้ แม้ว่าโล่วิญญาณจะตอบโต้เพราะโดนโจมตีก่อนแต่พวกเขาก็ยังอาจจะเชื่อว่าเรื่องนี้ย่อมส่งผลต่อชื่อเสียงขององค์กรจึงคิดจะเอาคืนเขาเป็นแน่
หากแต่เมื่อลู่หลัวยื่นมือเข้ามามีเอี่ยวและกล่าวว่าตัวเองก็มีหนี้แค้นส่วนตัวกับหยางเว่ย สถานการณ์จึงเปลี่ยนไปกลายเป็นเรื่องระหว่างผู้ดูแลกับผู้ดูแลด้วยกันทันที ความตึงเครียดที่ควรจะเกิดพลันมลายหายสิ้น
ต่อให้ผู้จัดการ ‘บางคน’ อยากจะใช้โอกาสนี้สร้างความวุ่นวายอีกฝ่ายก็จำเป็นต้องคาดโทษทั้งลู่หลัวและโล่วิญญาณ
หากแต่ลู่หลัวนั้นหาใช่ผู้ดูแลทั่วๆไป เธอที่มีระดับเพียงเลเวล9ขอบเขตที่3กลับสามารถข่มนักสู้ขอบเขตที่4ได้หลายต่อหลายคน ยิ่งไปกว่านั้นเธอยังสร้างผลงานเอาไว้อย่างใหญ่หลวงในศึกป้องกันกำแพงเมืองทิศตะวันตกที่เพิ่งจะผ่านมาไม่นานอีกด้วย ชื่อเสียงของเจ้าหล่อนในเวลานี้จึงพึ่งทะยานสูงสุด ใครเล่าจะกล้าคาดโทษคนเช่นนี้? มีแต่จะอยากดึงมาเป็นพวกนั่นแหละ
ท้ายที่สุดเรื่องนี้ย่อมถูกปล่อยผ่านไปแน่นอน
แล้วความจริงก็เป็นดังที่หลินเซวียนคาดเดา เรื่องราวนั้นถูกปล่อยผ่านไปจริงๆ ยังไงก็ตามเรื่องนี้กลับกลายเป็นเรื่องขบขันที่นักกู้ซากบอกเล่าต่อๆกันอย่างสนุกปาก
ถัดจากนี้สิ่งที่เขาต้องคิดก็คือเขาจะเข้าไปในแดนลับขอบเขตที่3ได้ยังไง ยังไงเสียนั่นก็ไม่ใช่อะไรที่นักกู้ซากสามารถเข้าไปได้ หลินเซวียนเดินไปเดินมาในห้องพักขนาดเล็กของตัวเองและใช้สมองขบคิดอย่างหนัก
มีเพียงผู้บริหารระดับสูงสุดขององค์กรเจอร์มินัลเท่านั้นที่ทราบว่าทางองค์กรมีแดนลับอยู่มากมายเพียงใด
หลินเซวียนในเวลานี้รู้เพียงว่าทางองค์กรนั้นได้ขอบครองแดนลับขอบเขตที่0อย่างถ้ำหินยักษ์ ขอบเขตที่1 - รังมดอสูร ขอบเขตที่2 – ทะเลราชันย์พฤกษาและขอบเขตที่3อย่างบึงยุงพิษ นอกจากนี้ยังมีแดนลับขอบเขตที่4อย่างถ้ำด้ายขดและแดนลับขอบเขตที่5อย่างภูเขาอสูรชั้นเลวอีกด้วย
บึงยุงพิษ ถ้ำด้ายขดและภูเขาอสูรชั้นเลวนั้นมีเพียงผู้ดูและนักสู้เท่านั้นที่มีสิทธิเข้าไปได้
เมื่อนักกู้ซากเติบโตจนกลายเป็นนักสู้ขอบเขตที่3แล้วพวกเขาจะถูกองค์กรดูดกลืนเข้ามาเป็นส่วนหนึ่ง พวกเขาสามารถเลือกได้ว่าจะเป็นผู้ดูแลคอยควบคุมนักกู้ซากคนอื่นๆหรือจะเป็นนักสู้เข้าสำรวจแดนลับระดับสูง
แดนลับทั้งสามนี้เองก็เป็นสิ่งที่หลินเซวียนได้ยินมาจากซุนจื่อเกาอีกที
“ดูเหมือนคงทำได้เพียงมองหาความช่วยเหลือแล้ว” หลินเซวียนหวนนึกไปถึงนักสู้ชุดดำ
นักสู้ชุดดำไปมาราวกับสายลม ยังไงก็ตามทุกครั้งที่เขาเข้าสู่แดนลับในฐานะโล่วิญญาณเขาก็มักจะเห็นนักสู้ชุดดำผู้นี้นั่งดื่มเบียร์ปะปนอยู่กับฝูงชนเสมอๆ
ขณะที่หลินเซวียนกำลังคิดอยู่นั้นเขาก็พลันได้ยินเสียงฝีเท้าดังมาจากที่ไหนซักแห่ง
ในเวลานี้เองใครบางคนก็ได้มาเคาะประตูห้องของเขา
“ตามมามีคนอยากจะเจอนาย” กล่าวจบลู่หลัวก็เดินนำเขาออกไปทันที
หลินเซวียนพยักหน้าและเดินตามไปแต่โดยดี
ลู่หลัวเป็นคนตรงไปตรงมาย่อมไม่คิดจะลงมือกับเขาอยู่แล้ว
หลังจากเดินมาซักพักพวกเขาก็มาถึงบ้านพังๆหลังหนึ่งด้านนอกฐานองค์กรเจอร์มินัล หลินเซวียนพบว่านักสู้ชุดดำเองก็อยู่ที่นี่ด้วย
เช่นเดียวกับครั้งก่อน ร่างของอีกฝ่ายมีชุดคลุมสีดำคลุมเอาไว้จนมิดและใบหน้าเองก็มองเห็นได้ไม่ชัดเจนนัก
หนนี้เขาก็ยังคงดื่มเบียร์อยู่เหมือนเช่นเคย หนนี้เขากำลังดื่มเบียร์ไป๋เว่ยอยู่
เมื่อเห็นหลินเซวียนมาถึงเขาก็เอ่ยออกมายิ้มๆ “เจ้าหนูไม่ต้องกลัวไป ฉันเป็นคนคุ้มกันของผู้จัดการหมายเลข2 ได้ยินมาว่านายมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับโล่วิญญาณเลยอยากจะขอให้นายช่วยส่งข้อความให้อีกฝ่ายหน่อย”
หลินเซวียนกล่าวตอบ “บอกมาได้เลยครับ”
นักสู้ชุดดำเอ่ย “โล่วิญญาณน่าจะเลื่อนขั้นเป็นขอบเขตที่3แล้วสินะ? เขาย่อมไม่สามารถเข้าสู่แดนลับขอบเขตที่3ได้แน่แต่ผู้จัดการหมายเลข2สามารถช่วยเขาได้”
“ตอนนี้แดนลับขอบเขตที่3อย่างบึงยุงพิษนั้นมีปัญหาเล็กน้อยเกิดขึ้น น้ำในบึงมันแย่ลงทำให้ยุงพิษจำนวนมากเกิดขึ้นมา ถ้ายุงพิษเกิดขึ้นมามากเกินไปผลของมันจะทำให้ดอกบัวไร้มลทิล ใบใสกระจ่างและไอเทมค่าสถานะอื่นๆเติบโตได้ยากขึ้น พวกเราต้องการส่งนักสู้ขอบเขตที่3จำนวนมากเข้าไปยังบึงยุงพิษและทำลายรังของยุงพิษที่ขยายตัวเร็วเกินไปเพื่อเป็นการสังหารยุงพิษจำนวนมาก”
หลังกล่าวจบนักสู้ชุดดำก็ยิ้มและเอ่ย “โล่วิญญาณคงไม่ปฏิเสธคำเชิญนิ้แน่นอน”
หลินเซวียนยินดียิ่งนัก
ราวกับมีคนยื่นหมอนให้ในตอนที่เขากำลังจะหลับ ยอดเยี่ยมอะไรอย่างนี้!
ยังไงก็ตามสีหน้าของเขากลับสงบนิ่งและพยักหน้ารับด้วยท่าที ‘สับสนมึนงง’ “ผมไม่ค่อยรู้เกี่ยวกับยุงพิษอะไรนั่นหรอก อีกอย่างผมเป็นแค่สหายกับโล่วิญญาณเท่านั้น เขาแค่เชื่อใจผมมากกว่าคนอื่นๆก็เท่านั้นเอง ให้ผมพาโล่วิญญาณมาที่นี่คืนนี้และให้เขาคุยกับพวกคุณเองดีกว่าไหม?”
นักสู้ชุดดำตอบ “ย่อมได้”