Chapter 18 : แดนลับขอบเขตที่2 – ทะเลราชันย์พฤกษา
ทันทีที่รุ่งอรุณมาเยือนหลินเซวียนก็เปลี่ยนไปใส่อุปกรณ์เซ็ตใหม่ของเขาและเตรียมจะเข้าสู่ถ้ำหินยักษ์ผ่านทางประตูแสง
แผนการของเขาคือการใช้ประตูแสงไปยังถ้ำหินยักษ์เพื่อมุ่งหน้าไปยังแดนลับประจำขอบเขตที่2อย่าง - ทะเลราชันย์พฤกษา
ทะเลราชันย์พฤกษาเองก็เป็นแดนลับที่ถูกทางองค์กรเจอร์มินัลควบคุมเอาไว้อย่างสมบูรณ์เช่นเดียวกัน อสูรปิศาจที่มีเลเวลสูงที่สุดนั้นมีระดับเพียงเลเวล9ขอบเขตที่2เท่านั้น
ยังไงก็ตามในตอนที่เขากำลังจะเดินเข้าประตูแสงนั้นเขาก็สังเกตเห็นร่างของลู่หลัวที่พุ่งผ่านประตูแสงเข้าไปเช่นเดียวกัน
เจ้าหล่อนเองก็กำลังจะมุ่งหน้าไปยังแดนลับขอบเขตที่2อย่างทะเลราชันย์พฤกษาเช่นเดียวกับเขา
หลังจากคิดอยู่ซักพักหลินเซวียนก็เข้าใจได้ ลู่หลัวหมายจะทานไอเทมเพิ่มค่าสถานะทั้งหมดที่มีในแดนลับขอบเขตที่0 ขอบเขตที่1 ขอบเขตที่2และขอบเขตที่3ก่อนที่จะเลื่อนขั้นไปเป็นนักสู้ขอบเขตที่4
ยังไงก็ตาม ณ ปัจจุบันเขตCมีนักกู้ซากที่มีระดับนักสู้ขอบเขตที่2เพียงแค่สามคนเท่านั้น ยังไงก็ตามเห็นได้ชัดเลยว่าสิ่งที่พวกเขาได้มาช่วงนี้ไม่ค่อยดีนัก ลู่หลัวจึงทนไม่ไหวอีกต่อไปและหมายจะเข้าไปตามล่าสิ่งที่ต้องการด้วยตัวเอง
นักสู้ขอบเขตที่3อย่างลู่หลัวน่าจะมีอัตราดรอปไอเทมเท่าๆกับเขาเมื่อสังหารอสูรทั่วๆไปในแดนลับขอบเขตที่2 ยังไงก็ตามอัตราการดรอปของเหรียญทั่วไปและค่าประสบการณ์นั้นจะถูกลดลงเหลือแค่1ไม่ผิดแน่ ยิ่งไปกว่านั้นถ้าเจ้าหล่อนเข้าท้าทายราชันย์แดนลับหรือราชันย์แดนลับมากประสบการณ์ก็จะไม่ได้อะไรเลย
นี่เป็นกฏจำเพาะของแดนลับ นักสู้ที่ทรงพลังจะไม่ได้รับอนุญาติให้รั้งอยู่ในแดนลับที่อ่อนแอกว่าระดับของตนเองหรือแข่งขันกับนักสู้ที่อ่อนแอกว่าได้
หลินเซวียนยักไหล่ จากนั้นเขาก็ปรากฏตัวขึ้นมาที่ถ้ำหินยักษ์ตัวสถานะของตัวเขาเอง จากนั้นเมื่อไปยังที่ซ่อนเขาก็เปลี่ยนไปใส่ชุดของโล่วิญญาณและมุ่งหน้าตรงไปยังทะเลราชันย์พฤกษา
แดนลับขอบเขตที่2ทะเลราชันย์พฤกษา
นี่คือแดนลับอันเขียวขจี มันถูกแบ่งออกเป็น9เขตวงแหวนจากด้านนอกจนถึงด้านในและระดับความอันตรายเองก็จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆจากหนึ่งถึงเก้า
แน่นอนว่ามันไม่ได้ธรรมดาและดูสงบเหมือนที่เห็น
อสูรปิศาจที่นี่มีชื่อเรียกว่า ‘พฤกษาอสูร’ ซึ่งก็เป็นดั่งชื่อของพวกมัน พวกมันทั้งหมดล้วนเป็นต้นไม้
ถ้าหนึ่งในพวกมันเจอศัตรูในระยะเข้ามันก็จะส่งเสียงหวีดร้องแหลมสูงเพื่อดึงดูดพฤกษาอสูรตนอื่นเข้ามา
ในบรรดาพวกมันแยกย่อยออกเป็นพฤกษาปืนใหญ่ที่ยิงบอลเพลิงได้ พฤกษาพลาสม่าที่ปล่อยสายฟ้าได้ พฤกษาถุงพิษที่พ่นพิษได้และพฤกษาเปลือกเหมันต์ที่สร้างเปลือกน้ำแข็งหุ้มกายได้
นอกจากนี้ยังมีพวกที่อันตรายน้อยกว่าอย่างพฤกษาผลไม้และพฤกษาไอวี่อยู่ด้วย...
ต้นไม้อันตรายทุกรูปแบบยืนต้นก่อเกิดเป็นทะเลพฤกษาอันแสนกว้างใหญ่ไร้ขอบเขต
“เรื่องที่สำคัญที่สุดสำหรับร่างอวตารฝึกฝนก็คือต้องตายยากๆ ถ้างั้นก็คงต้องเลือกตัวที่เหมาะสมที่สุดอย่างพฤกษาเปลือกเหมันต์”
หลินเซวียนพยักหน้าเบาๆ หลังจากยืนยันทิศทางได้แล้วเขาก็เริ่มออกตามหาพฤกษาเปลือกเหมันต์ในทันที
ไม่นานนักเขาก็พบเข้ากับพฤกษาเปลือกเหมันต์ที่เหมาะสมที่สุด
อีกฝ่ายที่สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของมนุษย์จึงทำการดึงรากของมันขึ้นจากดินในทันที ใบไม้บนต้นบิดพุ่งเข้าใส่หลินเซวียนพร้อมด้วยสว่านน้ำแข็งแท่งเล็กๆจำนวนมากที่พุ่งเข้ามาพร้อมๆกัน
เคล้ง! เคล้ง! เคล้ง!
สว่านน้ำแข็งปะทะลงบนร่างของหลินเซวียนแต่กลับไม่มีเลือดหยดลงมาซักหยด
หลินเซวียนเดินตรงเข้าหาอีกฝ่ายราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นและยกค้อนโล่ราชันย์มังกรดินขึ้นฟาดเข้าใส่มัน
ไม่นานนักพฤกษาเปลือกเหมันต์ก็ถูกสังหาร
ในเวลานี้เองเสียงอันคุ้นเคยก็ดังขึ้นในหัวของเขา
[ตัวพบเป้าหมายที่เสียชีวิตแล้ว ทำการวิเคราะห์...]
[พฤกษาเปลือกเหมันต์
อสูรเลเวล2ขอบเขตที่2
ค่าสถานะ : ความอดทน 41 , พละกำลัง 38 , ความเร็ว 16 , พลังจิต 9
สกิล : พลิกเหมันต์ , สว่านน้ำแข็ง]
[สาเหตุการตาย : ถูกฟาดอย่างรุนแรงจนถึงแก่ชีวิต...]
[ท่านมีสล็อตว่างสำหรับร่างอวตาร ต้องการยึดครองร่างของพฤกษาเปลือกเหมันต์และใช้มันเป็นร่างอวตารฝึกฝนร่างที่สามหรือไม่?]
[หมายเหตุ : เป้าหมายที่เสียชีวิตนี้จะฟื้นคืนชีพด้วยพลังชีวิตเต็มพิกัด]
หลินเซวียนพึมพำ “ตกลง”
พริบตาต่อมาร่างของพฤกษาเปลือกเหมันต์ก็พลันลุกขึ้นยืน
หลังจากปรับแผนการฝึกฝนของร่างอวตารเป็น ‘โจมตีและป้องกันพร้อมๆกัน’ แล้ว หลินเซวียนก็มองส่งจนเงาร่างของพฤกษาเปลือกเหมันต์หายไปลับตา ไม่นานนักอีกฝ่ายก็เริ่มเข้าต่อสู้กับพฤกษาปืนโตที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลนัก
[พื้นที่ปัจจุบัน : ทะเลราชันย์พฤกษาเขตแรก (เหรียญทั่วไป300เหรียญ/นาที , ค่าประสบการณ์1,500แต้ม/นาที]
[พฤกษาเปลือกเหมันต์ได้ฝึกฝนมาแล้ว1นาที ต้องการรวบรวมหรือไม่?]
หลินเซวียนปรายตามองไปยังมิติส่วนตัวของเขาอีกครั้ง
เหรียญทั่วไปของเขามีเกิน8ล้านเหรียญไปแล้วแค่ยิ่งอุปกรณ์และรูนของเขาเลเวลเพิ่มขึ้นมากเท่าไหร่ ค่าใช้จ่ายในการยกระดับก็ยิ่งเพิ่มตาม
“อัพมิติส่วนตัวเป็นเลเวล4ก่อนดีกว่า อยากรู้เหมือนกันว่ารอบนี้จะปลดล็อคอะไร? น่าตื่นเต้นดีเหมือนกัน”
หลินเซวียนตรวจสอบดูและพบว่ามิติส่วนตัวเลเวล3ของเขาสามารถอัพเกรดเป็นเลเวล4ได้ มันจำเป็นต้องใช้เหรียญทั่วไป50,000เหรียญและพื้นที่ของมันจะกลายเป็น100ลูกบาศก์เมตร
มิติส่วนตัวเลเวล4ต้องใช้500,000เหรียญทั่วไปเพื่ออัพเป็นเลเวล5 หลังจากอัพเกรดแล้วพื้นที่จะขยายเป็น200ลูกบาศก์เมตร
ส่วนมิติส่วนตัวเลเวล5ต้องใช้5ล้านเหรียญทั่วไปเพื่อยกระดับเป็นเลเวล6 พื้นที่เองก็จะเพิ่มขึ้นเป็น400ลูกบาศก์เมตร
“อัพเป็นเลเวล5ก่อนแล้วกัน”
หลังจากใช้เงินไป550,000เหรียญและอัพเกรดมิติส่วนตัวจากเลเวล3ไปเป็นเลเวล5ในครั้งเดียวแล้ว เขาก็พบว่ามีพื้นที่ทำงานใหม่ปรากฏขึ้นมาในมิติส่วนตัวของเขา
เป็นโต๊ะสังเคราะห์ที่สามารถผสานสกิลเกรดสีทองระดับต่ำเข้าด้วยกันให้กลายเป็นสกิลเกรดสีทองระดับสูงได้ นอกจากนี้ยังสามารถผสานเซ็ตไอเทมแบบเดียวกันให้กลายเป็นเซ็ตที่ทรงพลังขึ้นได้ด้วย
หลินเซวียนปลดล็อคโต๊ะสังเคราะห์โต๊ะแรกและเห็นรายการสังเคราะห์ที่สามารถสังเคราะห์ได้บนรายการ
ตอนนี้มีสองตัวเลือกที่มีไฟสว่างอยู่
บรรทัดแรกคือ ‘ป้องกันธาตุพื้นฐาน = ป้องกันไฟขั้นพื้นฐาน+ป้องกันสายฟ้าขั้นพื้นฐาน+ป้องกันพิษขั้นพื้นฐาน+ป้องกันน้ำแข็งขั้นพื้นฐาน’
ป้องกันไฟขั้นพื้นฐานเพียงอย่างเดียวเพิ่มค่าป้องกันไฟได้เพียง20%เท่านั้น
ในทางกลับกัน ป้องกันธาตุขั้นพื้นฐานจะเพิ่มได้ถึง30%
“การสังเคราะห์จำเป็นต้องใช้เงิน100,000เหรียญ...นี่มันเริ่มจะแพงแล้วสิ” หลินเซวียนหัวเราะด้วยท่าทีขุ่นเคือง ยังไงก็ตามตัวเขามีเงินอยู่เป็นจำนวนมากและไม่ได้ขาดแคลนเงินเพียงเท่านี้
เขาคลิ๊กที่ปุ่มสังเคราะห์พร้อมๆกับที่สกิลทั้งสี่พุ่งออกจากมิติส่วนตัวของเขาด้วยตัวมันเอง พวกมันเปลี่ยนกลายเป็นจุดแสงและแตกกระจัดกระจายออกไปจากนั้นก็ค่อยๆเข้ามารวมด้วยกันแปรเปลี่ยนเป็นหนังสือสกิลเล่มใหม่ - ต้านทานธาตุขั้นพื้นฐาน
ส่วนบรรทัดที่สองนั้นคือ ‘เซ็ตปราการยักษ์ = ปราการโลหะ+ปราการเปลวเพลิง+ปราการอัสนี+ปราการเหมันต์+ปราการพิษ’
“กระทั่งชุดเซ็ตก็ยังสังเคราะห์ได้? นี่เริ่มจะเอาเรื่องแล้วสิ!”
หลินเซวียนจ่ายไปอีก500,000เหรียญเพื่อทำการสังเคราะห์ในทันที
เซ็ตทั้งห้าบินออกมาจากมิติส่วนตัวของเขา เช่นเดียวกับสกิลก่อนหน้านี้ พวกมันแตกสลายกระจัดกระจายและลอยมารวมตัวกันอีกครั้งก่อเกิดเป็นเซ็ตใหม่ในชั่วพริบตา
ชุดเซ็ตเกรดสีทอง! เซ็ตปราการยักษ์!
[เอ็ฟต์เฟ็คที่1 : ป้องกันกายภาพเพิ่มขึ้น50% , ป้องกันทุกธาตุเพิ่มขึ้น60%]
[เอ็ฟต์เฟ็คที่2 : ท่านสามารถต้านทานความเสียหายถึงตายได้อย่างสมบูรณ์ - ชุดเซ็ตนี้จะแตกสลายเมื่อช่วยเหลือชีวิตท่านแล้ว]
เอ็ฟต์เฟ็คทั้งสองนั้นดูธรรมดาแต่กลับทรงพลังจนน่าเหลือเชื่อ
“ถึงเซ็ตปราการเปลวเพลิงก่อนหน้านี้จะเพิ่มค่าป้องกันไฟถึง60%แต่ค่าป้องกันธาตุอื่นกลับติดลบทั้งหมด ในทางกลับกันเซ็ตนี้กลับดีมาก มันเพิ่มค่าป้องกันทุกธาตุถึง60%!”
“ส่วนเรื่องต้านทานความเสียหายถึงตายนี่คงไม่จำเป็นกับเรา ยังไงซะเมื่อตอนที่สู้กับพวกอสูรพลังชีวิตเราก็ลดไม่เยอะอยู่แล้ว ยังไงก็ตามในอนาคตก็อาจจะมีโอกาสได้ใช้ก็ได้”
หลินเซวียนพยักหน้าด้วยความพอใจและเก็บเซ็ตปราการยักษ์เอาไว้ในมิติส่วนตัว
ในอนาคตเซ็ตปราการยักษ์และเซ็ตจ้าวเหนือหัวจะเป็นสองเซ็ตที่เขาใช้บ่อยมากที่สุด
“นอกจากนี้ยังมีโต๊ะยาอีกด้วย ด้วยโต๊ะนี่เราน่าจะทำยาได้สินะ?”
หลินเซวียนปรายตามองดูและเห็นสูตรยาจำนวนมากเด้งขึ้นมา
‘โพชั่นเพิ่มความเร็วขั้นต้น – ถุงน้ำดีของอสรพิษเกล็ดดำ1ชิ้น , วารีหายาก3ขวด’
‘โพชั่นเพิ่มพละกำลังขั้นต้น – เขาของวัวคล่อง1ชิ้น , วารีหายาก3ขวด’
‘…’
‘โพชั่นต้านไฟขั้นต้น - ดอกเปลวเพลิง1ดอก , วารีหายาก3ขวด’
เขาพยักหน้าเล็กน้อย
โพชั่นพวกนี้เป็นไอเทมใช้แล้วหมดไปและสามารถใช้เพื่อเพิ่มค่าสถานะหรือเสริมแกร่งได้ช่วงสั้นๆ พวกมันถือได้ว่ามีประโยชน์มาก
“จำได้ว่าปลดล็อคอย่างอื่นด้วยนี่...”
หลินเซวียนลองค้นดูและก็พบเข้าจริงๆ
ตอนนี้เขาสามารถใช้เหรียญทั่วไปเพื่อเสริมแกร่งโต๊ะหลอม โต๊ะสร้าง โต๊ะสังเคราะห์และโต๊ะยาได้แล้ว
โต๊ะทำงานพวกนี้ทั้งหมดล้วนมีเลเวล1ทั้งนั้น เมื่อใช้100,000เหรียญในการอัพเกรดพวกมันเป็นเลเวล2ประสิทธิภาพของพวกมันก็จะเพิ่มขึ้น20%
ถ้าจ่าย1ล้านเหรียญเพื่ออัพเป็นเลเวล3ผลผลิตก็จะเพิ่มขึ้น40%
ถ้าใช้10ล้านเหรียญเพื่ออัพเป็นเลเวล4 ประสิทธิภาพจะเพิ่มขึ้น100%และมีโอกาส10%ที่สิ่งที่หลอม , สร้าง , สังเคราะห์จะกลายเป็นไอเทมเกรดสูง
หลินเซวียนมองดูทุนทรัพย์ของตนที่ลดลงอย่างมีนัยยะก็อดยิ้มแหยไม่ได้ “เดิมทีคิดว่าตัวฉันน่าจะรวยมากแล้วถ้าเทียบกับคนในประเทศ ไม่คิดเลยว่าเพียงแค่พริบตาเดียวเงินที่มีจะหายเกลี้ยงไปกับมิติส่วนตัวแบบนี้”