Chapter 16 : โล่วิญญาณตำนานเทพสังหารลุยเดี่ยวเริ่มลงมือ
“แหวนตราโล่มีความสามารถที่ค่อนข้างทรงพลัง มันเพิ่มค่าความป้องกันจากความเสียหายกายภาพได้เมื่อมีพลังชีวิตเต็ม”
“กระโหลกโลหะเป็นเซ็ตไอเทมที่ดรอปมาหลังจากสังหารราชินีมดโลหะลงได้ ได้ยินมาว่าโอกาสดรอปของมันค่อนข้างต่ำมาก ไม่คิดเลยว่าจะได้มาง่ายๆแบบนี้”
...
[ชื่อ : แหวนตราโล่]
[เลเวล : เลเวล1ขอบเขต1]
[เกรด : สีม่วง(ล้ำค่า)]
[ข้อจำกัดในการสวมใส่ : ความอดทน 30]
[ความสามารถ : ความอดทน+5 , ความอดทน+1%]
[ความสามารถที่2 : เมื่อพลังชีวิตเต็มค่าป้องกันความเสียหายทางกายภาพจะเพิ่มขึ้น30%]
…
…
[ชื่อ : กระโหลกโลหะ]
[เลเวล : เลเวล1ขอบเขต1]
[เกรด : สีม่วง(ล้ำค่า)]
[ข้อจำกัดในการสวมใส่ : ความอดทน 35 , พละกำลัง 23]
[ความสามารถ : ความอดทน+4 , พละกำลัง+9]
[ความสามารถที่2 : ความเสียหายจากการสะท้อน+15%]
[เซ็ตเอ็ฟเฟ็คต์ : ค่าป้องกันทุกชนิด+30%]
[เซ็ตเอ็ฟเฟ็คต์2 : (ปลดล็อคหลังจากได้รับชิ้นส่วนที่สองของเซ็ต ‘จ้าวเหนือหัว’)]
[เซ็ตเอ็ฟเฟ็คต์3 : (ปลดล็อคหลังจากได้รับชิ้นส่วนที่สามของเซ็ต ‘จ้าวเหนือหัว’)]
[เซ็ตเอ็ฟเฟ็คต์4 : (ปลดล็อคหลังจากได้รับชิ้นส่วนที่สี่ของเซ็ต ‘จ้าวเหนือหัว’)]
[เซ็ตเอ็ฟเฟ็คต์5 : (ปลดล็อคหลังจากได้รับชิ้นส่วนที่ห้าของเซ็ต ‘จ้าวเหนือหัว’)]
...
“ไอเทมอีกสี่อย่างน่าจะดรอปหลังจากฆ่าราชินีมดแดงเพลิง ราชินีมดอัสนีม่วง ราชินีมดพิษวารีและราชินีมดเหมันต์ เซ็ตจ้าวเหนือหัวนี่น่าจะเป็นเซ็ตไอเทมที่ทรงพลังที่สุดของรังมดอสูรแล้ว”
แววตาของหลินเซวียนเปล่งประกายระยิบระยับ ถ้าเขาสวมใส่เซ็ตนี้บวกกับค่าสถานะและสกิลที่มี ต่อให้เขายังเป็นเพียงนักสู้เลเวล9ขอบเขตที่1ก็ยังสามารถต่อกรกับนักสู้ที่ระดับต่ำกว่าเลเวล7ขอบเขตที่2ได้อย่างสูสี
ยิ่งไปกว่านั้นเขายังได้วัตถุดิบสำหรับเลื่อนขั้นไปสู่ขอบเขตที่2มาอีกด้วย
ในเวลานี้เสียงแจ้งเตือนก็ได้ดังไปทั่วสถานีไร้ภัยทุกแห่งภายในรังมดอสูร
“ราชันย์แดนลับมากประสบการณ์ ราชินีมดโลหะได้ถูกสังหารลงแล้ว! ราชินีมดโลหะได้ถูกสังหารลงแล้ว!”
นักสู้จำนวนมากที่กำลังทานอาหาร พักผ่อนและพูดคุยต่างพากันลุกพรวดขึ้นทันที
“เชี่ยราชินีมดถูกสังหารแล้วงั้นหรอ? ฉันคิดว่าพรุ่งนี้จะลองไปลุยกับมันดูซักหน่อยแท้ๆ”
“เพ้อเจ้อ..ที่นายกล้าพูดแบบนั้นก็เพราะมันตายไปแล้วมากกว่า ใครที่ไม่รู้บ้างว่าทีมของนายเข้าไปในถ้ำของมันด้วยท่าทีเย่อหยิ่งขนาดไหนแต่ดันหนีกลับออกมาแบบดูไม่ได้น่ะ?”
“ไปดูกันเถอะ ฉันอยากจะรู้ว่าเป็นมหาเทพกลุ่มไหนที่ฆ่ามันลงได้”
เหล่านักสู้พากันวิ่งไปอออยู่ด้านหน้าถ้ำของราชินีมดโลหะ
นักสู้ชุดดำเองก็ยังคงนั่งอยู่ที่นี่ ข้างกายของเขามีกระป๋องเบียร์ที่ถูกบี้จนเละอยู่มากมาย
ยังไงก็ตามในวินาทีที่เสียงประกาศแจ้งเตือนว่าราชินีมดถูกสังหารดังขึ้น เขาก็หยุดดื่มไปชั่วขณะ
“เจ้านั่นจัดการราชันย์แดนลับมากประสบการณ์ลงได้เพียงลำพังจริงๆ...เจ้าหมอนี่ไม่ใช่พวกต้มตุ๋น เป็นผู้เชี่ยวชาญของแท้!”
นักสู้ชุดดำเองก็ตกตะลึงเช่นกัน
เสียงประกาศที่จะดังขึ้นในสถานีไร้ภัยนั้นจะดังขึ้นก็ต่อเมื่อมีนักสู้สามารถสังหารราชันย์แดนลับมากประสบการณ์ในขอบเขตเดียวกันลงได้เท่านั้น
ถ้าเป็นนักสู้ขอบเขตที่2หรือ3วิ่งมาสังหารราชินีมดโลหะเสียงประกาศนั้นก็จะไม่ดังขึ้นแน่นอน
ดังนั้นเขาจึงอนุมานได้ทันทีว่าโล่วิญญาณจะต้องเป็นนักสู้เลเวล9ขอบเขตที่1ที่มีค่าสถานะสูงโดด สกิลอันทรงพลังและอุปกรณ์อันยอดเยี่ยม
ไม่อย่างนั้นแล้วคงเป็นไปไม่ได้ที่อีกฝ่ายจะจัดการกับราชินีมดโลหะลงได้เพียงลำพัง
นักสู้ชุดดำยิ้มและส่ายหัว เขาหยิบเครื่องมือสื่อสารที่ทางองค์กรเจอร์มินัลพัฒนาขึ้นมาและส่งข้อความสั้นๆไปยังผู้จัดการหมายเลข2 “กระทั่งฉันเองตอนที่เป็นนักสู้เลเวล9ขอบเขตที่1ก็ยังทำไม่ได้ เจ้าเด็กสารเลวโจวเฟิงนั่นเจอแบบอย่างชั้นเลิศเข้าแล้ว”
‘เป็นผู้เชี่ยวชาญ’ เขาส่งข้อความไปเพียงเท่านี้
ผู้จัดการหมายเลข2ที่เห็นข้อความนี้พลันเลิกคิ้วขึ้น
เขาและนักสู้ชุดดำเป็นสหายที่ดีต่อกัน เจ้าสหายที่ดีผู้นี้ของเขามักจะมีมาตราฐานที่สูงลิบอยู่เสมอ ไม่คิดเลยว่าเจ้าหมอนี่จะใช้คำว่า ‘ผู้เชี่ยวชาญ’ ในการอธิบายถึงความสามารถของนักสู้ผู้นี้จริงๆ
“พอจะดึงเขามาได้ไหม?” เขาตอบกลับ
“ยาก” นักสู้ชุดดำตอบกลับ
“ช่วยตอบให้ยาวกว่านี้ได้ไหม?”
“ยาก ยาก”
ผู้จัดการหมายเลข2 “...”
เขาวางเครื่องมือสื่อสารลงและลุกขึ้นไพล่หลังมองไปนอกหน้าต่าง “ต่อให้เขาเป็นหมาป่าเดียวดายก็ไม่เป็นไร รอบกายฉันมันมีคนที่มีความสามารถอยู่ไม่มาก ถ้าได้โล่วิญญาณคนนี้มาคงเป็นเรื่องดี”
ยังไงก็ตามไม่ว่าโล่วิญญาณจะแข็งแกร่งเพียงใดก็ยังห่างจากเกินกว่ามาตราฐานที่จะสามารถทำลายสมดุลย์ลงได้ เขาเป็นแค่ไพ่ตายที่มีศักยภาพจำต้องพัฒนาเท่านั้น สิ่งที่เขาต้องการในตอนนี้ก็คือกำลังรบที่สามารถใช้การได้ทันที...
...
หลังจากสังหารราชินีมดโลหะลงได้หลินเซวียนก็เดินทอดน่องออกมานอกถ้ำ ภายใต้สายชื่นชมของเหล่านักสู้ ร่างของเขาก็มุ่งหน้าตรงไปยังรังของพวกมดแดงเพลิงอย่างรวดเร็ว
ระยะห่างระหว่างรังของมดโลหะและมดแดงเพลิงนั้นค่อนข้างไกลกันและมีแผ่นดินแห้งแล้งแตกระแหงกั้นกลาง
หลินเซวียนวิ่งไปโดยไม่หยุด
โจวเฟิงเองก็ตามไปอย่างไม่ลดละ ตัวเขาหอบหายใจอย่างหนักและอาจตกอยู่ในอันตรายได้ทุกเมื่อ
หลินเซวียนปรายตามองด้วยสีหน้าหมดคำจะพูด
นี่อ่ะนะที่อีกฝ่ายบอกจะตามเขาให้ทัน? หมายถึงตามให้ทันในด้านกายภาพงี้หรอ?
หลินเซวียนไม่อยากจะมีปฏิสัมพันธ์กับคนผู้นี้มากนัก เขาสลัดทิ้งห่างอีกฝ่ายออกไปและมุ่งหน้าตรงไปยังถ้ำของราชินีมดแดงเพลิง
เช่นเดียวกับก่อนหน้าที่ด้านหน้าถ้ำของราชินีมดโลหะ ด้านหน้าถ้ำของราชินีมดแดงเพลิงเองก็ไม่มีคิวเช่นกัน นักสู้จำนวนมากต่อแถวอยู่ที่หน้าถ้ำของมดสืบพันธ์ตัวอื่นๆ
พลังป้องกันของราชินีมดโลหะนั้นสูงล้ำและยากจะสังหาร
ส่วนราชินีมดแดงเพลิงมีสกิลธาตุไฟอยู่หลากชนิด ดังนั้นหากปราศจากค่าป้องกันไฟที่สูงลิบย่อมไม่มีผู้ใดกล้าท้าทายมัน
หากแต่ในเวลานั้นเองร่างของหลินเซวียนกลับเดินเข้าไปด้านในต่อหน้าต่อตาสายตาสับสนงุนงงของเหล่านักสู้ “นั่นโล่วิญญาณงั้นหรอ?”
“เชี่ย เขาเพิ่งจะฆ่าราชินีมดโลหะไป ตอนนี้ก็วิ่งมาฆ่าราชินีมดแดงเพลิงต่อเลยเนี่ยนะ?”
“อะไรนะ? เขาคือคนที่ฆ่าราชินีมดโลหะงั้นหรอ?”
“ใช่สิ ฉันมีเพื่อนคนหนึ่งที่อยู่ที่รังของมดโลหะ อีกฝ่ายเห็นโล่วิญญาณคนนี้เดินเข้าไปท้าทายราชินีมดโลหะด้วยตาเลยแถมยังเห็นอีกฝ่ายเดินกลับออกมาด้วย”
“เช๊ด”
เหล่านักสู้ต่างพากันชื่นชมระคนอิจฉา ถ้าพวกเขาทรงพลังอย่างโล่วิญญาณล่ะก็...
ด้านหลังกลุ่มนักสู้เหล่านี้ ชายนักสู้ชุดดำได้ปรากฏกายขึ้นมาอีกครั้ง หนนี้ในมือของเขาถือเบียร์ปักกิ่งแทน
ชายนักสู้ชุดดำหัวเราะออกมาสุดเสียง หลังจากนั้นเขาก็ทอดถอนใจและเอ่ยออกมา “ดูเหมือนโล่วิญญาณจะเป็นคนที่ทะเยอทะยานไม่น้อย เขาคิดจะเก็บเซ็ตจ้าวเหนือหัวให้ครบเลยรึไง?”
“โชคไม่ดีนักที่อัตราการดรอปของมันค่อนข้างต่ำ ฉันเคยพยายามรวบรวมมาแล้วหกครั้งในอดีตแต่ก็ล้มเหลว สงสัยจริงๆว่าเจ้าหมอนี่จะทำได้ไหม”
ในขณะเดียวกันโจวเฟิงก็วิ่งเข้ามาพร้อมหอบหายใจอย่างหนักหน่วง
“เวรเอ๊ย...ไอดอลของเราเขาไม่คิดจะพักแถมยังมาท้าทายราชินีมดแดงเพลิงต่อในทันทีเลย ยอดเยี่ยมอะไรขนาดนี้...”
ภายในถ้ำ
หลินเซวียนที่เปลี่ยนไปใส่อุปกรณ์อีกเซ็ตหนึ่งกำลังห้ำหั่นอยู่กับราชินีมดแดงเพลิงที่มีร่างกายขนาดมหึมา
อุณหภูมิภายในถ้ำของราชินีมดแดงเพลิงตอนนี้สูงล้ำจนน่าหวาดหวั่น กระทั่งยืนอยู่เฉยๆก็เสียพลังชีวิตเรื่อยๆแล้ว
ส่วนตัวของราชินีมดแดงเพลิงเองก็มีวงแหวนเปลวไฟรอบตัวที่จะสร้างความเสียหายเผาไหม้ให้กับศัตรูตลอดเวลา
ปราศจากค่าป้องกันไฟที่สูงพอจากอุปกรณ์หรือสกิล พลังชีวิตของคนผู้นั้นย่อมลดลงจนตายอย่างรวดเร็ว
แน่นอนว่านั่นมันสำหรับนักสู้ทั่วไปเท่านั้น หลินเซวียนสามารถหาอุปกรณ์ที่มีค่าป้องกันไฟสูงลิบมาได้อย่างไม่ยากเย็น
ด้วยร่างฝึกฝนที่สองของเขาอย่างมดทหารโลหะที่คอยโจมตีรังของมดแดงเพลิงอยู่บ่อยๆ มันสังหารพวกมดแดงเพลิงไปเป็นจำนวนมากและสั่งสมอุปกรณ์สวมใส่มาได้ไม่น้อย
มดทหารแดงเพลิงนั้นมีโอกาสเล็กน้อยที่จะดรอป ‘ปราการเปลวเพลิง’ ซึ่งเป็นเซ็ตสี่ชิ้นซึ่งจะให้ค่าป้องกันไฟสูงถึง60%แต่ค่าป้องกันธาตุอื่นจะติดลบแทน
นักสู้ทั่วไปจำเป็นต้องใช้เวลาอย่างน้อยสามถึงห้าเดือนในการรวบรวมเซ็ตอุปกรณ์นี้
หลังจากสวมใส่เซ็ตปราการเปลวเพลิงแล้วบวกกับค่าสถานะและสกิล [ต้านทานไฟขั้นพื้นฐาน] ของเขา หลินเซวียนจึงสามารถยืนอยู่ในทะเลเพลิงที่ราชินีมดแดงเพลิงสร้างขึ้นมาได้อย่างสบายๆ
ยังไงก็ตามในทุกครั้งที่เปลวเพลิงเผาไหม้หลินเซวียนอีกฝ่ายก็จะได้รับความเสียหายจริงจากการสะท้อนไป50หน่วย
พลังชีวิตของราชินีมดแดงเพลิงจึงลดลงไม่ต่างอะไรจากน้ำแข็งที่กำลังละลาย
11นาทีกับอีก49วินาทีให้หลังราชินีมดแดงเพลิงก็หมดสภาพ!
สถานีไร้ภัยทั่วรังมดอสูรต่างพากันออกประกาศอีกครั้ง
“ราชันย์แดนลับมากประสบการณ์ราชินีมดแดงเพลิงถูกสังหารลงแล้ว!”
เหล่านักสู้ที่พึ่งสงบจิตสงบใจลงได้พากันลุกพรวดขึ้นอีกครั้ง
“ห่านจิก! ราชินีมดโลหะกับราชินีมดแดงเพลิงโดนเก็บไปทั้งสองตัวเลยเนี่ยนะ?”
“หรือจะเป็นโล่วิญญาณอีกแล้ว? ฉันขอถามเพื่อนที่อยู่ที่รังของมดแดงเพลิงก่อน”
“ไม่ต้องถามแล้ว เป็นโล่วิญญาณนั่นแหละ! เขายังคงบ้าบิ่นเหมือนเดิม! เจ้าหมอนี่มันทรงพลังเหมือนตัวประหลาดเลยจริงๆ!”
นักสู้จากทีมฟายอิ้งคุนเผิง วินด์เชสซิ่งและบิ๊กเบิร์ดโลเทชั่นนั้นตกตะลึงยิ่งกว่า
พวกเขาในตอนนี้ยังเก็บเลเวลอยู่ที่รอบนอกของรังมดอัสนีม่วงอยู่เลยและต้องพยายามอย่างหนักกว่าจะสังหารมดงานอัสนีม่วงหรือมดทหารอัสนีม่วงลงให้ได้ซักตัว
แต่ตอนนี้ทั้งราชินีมดโลหะและราชินีมดแดงเพลิงกลับถูกโล่วิญญาณกวาดเรียบไปแล้ว
“ในบรรดาพวกเราคนที่เลเวลเยอะที่สุดคือเลเวล3ขอบเขตที่1เองแต่อีกฝ่ายกลับทรงพลังจนสามารถสังหารราชินีมดได้แล้ว!” กัปตันของฟายอิ้งคุนเผิงถอนหายใจออกมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า
“บ้าบอจริงๆ! เจ้าหมอนี่มันเกินจะจินตนาการไปแล้ว!” หัวหน้าทีมวินด์เชสซิ่งหมดคำจะพูด
กัปตันของทีมบิ๊กเบิร์ดโลเทชั่นยกมือขึ้นแตะขนหน้าอกอุยๆของตนและจีบปากจีบคอเอ่ย “พวกนายคิดว่าโล่วิญญาณชอบผู้ชายไหม? ฉันหล่อมากนะ ถ้าฉันไปขอร้องให้เขาเป็นพ่อเลี้ยงคิดว่าเขาจะยอมไหม?”
สมาชิกทีมสามคนที่เหลือพากันกรอกตา
กัปตันขนหน้าอกยุบยับส่ายหัวอย่างเสียดาย “ช่างมันเถอะ ฉันขอไปหาผู้หญิงรวยๆมาเป็นแม่เลี้ยงดีกว่า ผู้ชายทุกคนมันก็คือหมูนั่นแหละ ฉันไม่เชื่อใจพวกมันเลยซักนิดเดียว”