Chapter 14 : ฝึกฝนหนึ่งเดือน - นักสู้เลเวล9ขอบเขตที่1
จ้าวหย่งบ่นออกมาอย่างอดไม่อยู่ “ในตอนแรกพวกเราไปปล้นคนอื่นแต่ตอนหลัง...พวกเราถูกปล้นแทน พวกเราเกือบจะได้ดอกบำรุงวิญญาณพวกนั้นมาแล้วแท้ๆหลังจากพยายามอย่างหนัก...”
หยางเว่ยโมโหขึ้นมาทันควัน “ขยะ! โง่เง่า!”
จ้าวหย่งกล่าวต่อด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “เดิมทีพวกเราคิดว่าตัวเองโชคดีมากและน่าจะรวบรวมไอเทมได้มากกว่า600ชิ้น ยังไงก็ตามพวกเรากลับไปเจอกิ้งก่ากลืนทองทุบตีเข้า หลังจากมันทุบตีพวกเราเสร็จมันก็จากไป หลังจากนั้นพวกซุนจื่อเกาและคนอื่นๆก็โผล่เข้ามาแย่งของจากเราไป”
“พี่หยางเชื่อผมเถอะ กิ้งก่ากลืนทองตัวนั้นมันผิดปกติจริงๆ มันมีเลเวล9ขอบเขตที่0และค่าสถานะเองก็เทียบได้กับพวกราชันย์แดนลับมากประสบการณ์....”
หยางเว่ยตบหน้าจ้าวหย่งด้วยความโมโหจนทำให้ร่างของเขาปลิวกระเด็นออกไป360องศา
“ไร้สาระ! กิ้งก่ากลืนทองอย่างมากก็เติบโตได้แค่เลเวล6ขอบเขต0เท่านั้นแต่แกเป็นถึงเลเวล9ขอบเขต0 ต่อให้กิ้งก่ากลืนทองมันจะฆ่ายากแต่ก็ยังไล่ไปได้นี่! พวกแกคิดคำโกหกโง่ๆแบบนี้ออกมาได้ยังไง?! แกคิดว่าฉันโง่เรอะ!?”
จ้าวหย่งกุมใบหน้าที่ถูกตบและไม่ตอบคำ
เขารู้สึกเหมือนกันว่าเรื่องนี้มันบ้าบอชัดๆ
ยังไงก็ตามกิ้งก่ากลืนทองตัวนั้นมันเลเวล9ขอบเขต0จริงๆ ค่าสถานะเองก็โดดเด่นยิ่งกว่าพวกราชันย์แดนลับเหล่านั้นเสียอีก
“ฮ่าๆๆๆ! หยางเว่ยนักกู้ซากคนนี้ของนายนี่รู้จักเล่นมุกดีนี่หว่า” ผู้จัดการหมายเลข2หัวเราะออกมาอย่างอดไม่อยู่
หยางเว่ยหันไปยิ้มขออภัยอีกฝ่าย “ทำให้ท่านอับอายแล้วต้องขออภัยด้วยครับ”
หมายเลข2หัวเราะจนพอใจแล้วเอ่ยต่อ “ฉันไม่สนหรอกว่าเรื่องนี้เรื่องจริงหรือเป็นเรื่องโกหก ถ้าพวกนายทำภารกิจไม่สำเร็จทุกๆคนจากเขตBรวมไปถึงนายก็ต้องได้รับโทษ”
หยางเว่ยพยักหน้ารัวๆและเอ่ย “ไม่ต้องห่วงครับ นอกจากจ้าวหย่งพวกนี้แล้วผมยังมีนักกู้ซากคนอื่นอยู่อีก พวกนั้นต้องหามาได้มากพอแน่นอน!”
จ้าวหย่งเองก็เร่งร้อนกล่าวออกมา “ใช่แล้วครับใช่แล้ว ผมมั่นใจว่าพวกนั้นจะต้องทำภารกิจลุล่วงได้แน่นอน สายตาที่พวกนั้นมองมาที่ผมดูมั่นใจมาก! พี่หยางไม่ต้องกังวล”
นักกู้ซากคนอื่นๆที่ได้ยินก็พลันเกิดความรู้สึกกังวลขึ้นมาทันใด “จ้าวหย่ง! พวกเราเห็นสายตามั่นใจของนายก็เลยคิดไปว่านายหามาได้มากพอต่างหากล่ะ!”
หัวใจของหยางเว่ยเต้นไม่เป็นส่ำและโมโหจนเกือบเป็นลม
เขาคำรามออกมา “เอาของออกมาเอาออกมาให้หมด!”
นักกู้ซากเหล่านี้ทำได้เพียงเอาไอเทมที่ได้มาออกมาส่งมอบอย่างเชื่อฟัง
หยางเว่ยลองนับดูและพบว่าจำนวนโดยรวมทั้งหมดของไอเทมที่นักกู้ซากภายใต้เขานำมาได้มีเพียง205ชิ้นเท่านั้น! ยังห่างไกลจากที่ต้องการเยอะ!
เวลานี้เขาโมโหจนสั่นสะท้านไปทั้งร่าง “พวกแก! พวกแกไปเจอปัญหาห่าเหวอะไรกันมาอีก!?”
นักกู้ซากสบตากัน สุดท้ายก็มีคนทนไม่ไหวกล่าวออกไป “พี่หยางทั้งหมดนั่นเป็นเพราะกิ้งก่ากลืนทอง...”
จ้าวหย่งตกตะลึง “เอ๋? พวกนายก็เจอมันด้วยงั้นหรอ?”
หยางเว่ยตบนักกู้ซากคนนั้นจนปลิว
“ปัญญาอ่อน! อย่างน้อยก็หาข้อแก้ตัวอย่างอื่นกันบ้างสิวะ! พวกแกคิดว่าฉันโง่จริงๆใช่ไหม?”
ผู้จัดการหมายเลข2เอ่ยออกมาเสียงแผ่ว “เป็นกิ้งก่ากลืนทองอีกแล้ว หรือจะเป็นเรื่องจริง?”
เมื่อเห็นสีหน้าโมโหสุดตัวของหยางเว่ยหลินเซวียนก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้
หลังจากกิ้งก่ากลืนทองทุบตีจ้าวหย่งกับพวกเสร็จมันก็ไปโจมตีนักกู้ซากจากเขตBคนอื่นๆทันทีภายใต้การควบคุมของหลินเซวียน มันทุบตีคนเหล่านั้นจนร้องหาบิดามารดา จากนั้นคนเหล่านี้ก็ไม่มีปัญหาหาอะไรได้อีกเลย
“หยุดหัวเราะซะ!” หยางเว่ยสบถ
ร่างของลู่หลัวกระพริบวาบและปรากฏตัวขึ้นเบื้องหน้าหลินเซวียน เจ้าหล่อนขมวดคิ้วและเอ่ยออกมา “ดูเหมือนนายจะคันจริงๆ หลังจากนี้ไปรอฉันที่เวทีประลองแล้วกัน ฉันการันตีให้เลยว่าหลังจากนั้นโรคคันตามเนื้อตามตัวของนายจะหายเป็นปลิดทิ้ง”
หยางเว่ยโมโหจนใบหน้าและลำคอเปลี่ยนเป็นสีแดง “...ฉันบ่นกับตัวเองเว้ย! ไม่ได้รึไง?!”
หยางเว่ยขบฟันแน่น
หมายเลข2จ้องไปบนหน้าจอขนาดใหญ่อีกครั้ง จำนวนไอเทมภายในช่องเก็บของของนักกู้ซากจากเขตAกับDกำลังถูกนับ
เขตA558และเขตD538
มีเพียงเขตCเท่านั้นที่ยังนับไม่เสร็จ ยังไงก็ตามในปัจจุบันพวกเขานับได้เพียง100ชิ้นเท่านั้น ยกเว้นหลินเซวียนและซุนจื่อเกากับอีก11คนเท่านั้นที่ยังไม่ได้ส่งมอบไอเทม
ภายใต้สถานการณ์ปกติโอกาสนั้นลิบหรี่ยิ่งนัก
ใบหน้าของลู่หลัวไร้อารมณ์แต่ข้อนิ้วของเจ้าหล่อนทีกำแน่นกลับขาวซีดเผยให้เห็นอารมณ์ปั่นป่วนภายใน
หลินเซวียนสังเกตเห็นเช่นนี้จึงเอ่ยออกมายิ้มๆ “พี่สาวลู่ไม่ต้องกังวล อันดับหนึ่งของภารกิจแดนลับหนนี้เป็นของเขตCของเราแน่นอน ไม่มีใครหน้าไหนแย่งได้ทั้งนั้น”
ลู่หลัวชะงัก เจ้าหมอนี่ที่ชื่อหลิน...หลินอะไรนะ?
ทำไมถึงได้มั่นใจขนาดนั้น?
หยางเว่ยเองก็มีสีหน้าสับสนเช่นกันแต่เขาระมัดระวังตัวมากและไม่ได้เอ่ยอะไรไร้สาระออกไป ถ้าพูดออกไปแล้วย้อนกลับมาตบหน้าตัวเองจะทำยังไงเล่า?
วันนี้โดนตบไปสองรอบแล้ว ถ้าโดนตอบอีกเขาคงรับไม่ไหวแน่
หลินเซวียน ซุนจื่อเกาและคนอื่นๆสบตากันและส่งมอบไอเทมบนร่างกายออกมา
ปัง
บนหน้าจอขนาดใหญ่ตัวเลขของเขตCพุ่งทะยานอย่างบ้าคลั่ง เพียงพริบตาเดียวก็แซงเขตAและเขตDไปแล้วด้วยตัวเลขที่สูงจนน่าตกใจถึง748
ลู่หลัวประหลาดใจยิ่งนักและใช้เวลาซักพักใหญ่ๆเลยกว่าเจ้าหล่อนจะสงบสติอารมณ์ลงได้ “พวกนายทำได้ยังไง?”
ซุนจื่อเกาปรายตามองไปที่จ้าวหย่งกับพวกและยิ้ม “พี่ลู่ทีแรกพวกเราถูกพวกจ้าวหย่งปล้นแต่สุดท้ายพวกเราก็ปล้นพวกมันกลับมาได้”
“หลินเซวียนบังเอิญไปได้ยินมาว่าจ้าวหย่งกับพวกรู้ว่ามีที่ที่หนึ่งที่มีดอกกระเพาะหินเติบโตอยู่มากมาย พวกเราจึงแอบตามไปและเก็บเกี่ยวผลประโยชน์มาได้สำเร็จ”
นักสู้คนอิ่นๆเองก็พยักหน้ายืนยัน “ใช่แล้วหลินเซวียนยอดเยี่ยมที่สุด ไม่อย่างนั้นเขตCของพวกเราคงจะได้อันดับสุดท้ายไปแล้ว”
หนนี้ในที่สุดลู่หลัวก็มองไปที่หลินเซวียนด้วยสายตาจริงจัง “หลินเซวียนฉันจะจำชื่อนายเอาไว้ ไม่เลวเลย”
หลินเซวียนยิ้ม
เขาได้รับความไว้วางใจจากผู้ดูแลแล้ว ด้วยการนี้ในอนาคตเขามีอะไรให้ลู่หลัวช่วยก็พอจะไปหาได้
ผู้จัดการหมายเลข2เองก็มองไปที่หลินเซวียนด้วยสายตาสนใจเช่นกัน
“ไม่คิดเลยว่าสุดท้ายแล้วเขตCจะได้อันดับที่หนึ่ง ดีมาก!”
“รางวัลจะถูกส่งมอบให้อย่างช้าสุดอีกหนึ่งชั่วโมงข้างหน้า ส่วนลู่หลัวเธอสามารถเลือกอุปกรณ์เกรดสีม่วงสองชิ้นจากแผนกอุปกรณ์ได้เลย”
ลู่หลัวพยักหน้าให้กับผู้จัดการหมายเลข2เล็กน้อย “เข้าใจแล้ว”
ภารกิจแดนลับจบลงด้วยการที่เขตCได้อันดับที่หนึ่งและเขตBเป็นอันดับบ๊วย ผลลัพธ์ของมันทำให้นักกู้ซากจากเขตนี้รวมไปถึงผู้ดูแลถูกลดขั้นและได้รับโทษ
ระดับของหลินเซวียนภายในองค์กรเพิ่มขึ้นจากนักกู้ซาก4ดาวเป็นนักกู้ซาก5ดาว
...
หลังจากสนุกมาร่วมเดือนหลินเซวียนก็ได้ค่าประสบการณ์มามากมายจากมดทหารโลหะที่อยู่ในรังมดอสูรและยกระดับพลังฝึกฝนจากเลเวล4เป็นเลเวล9ขอบเขตที่1ได้สำเร็จ
นักสู้ขอบเขตทที่1จะได้ค่าสถานะ3แต้มทุกครั้งที่เลเวลอัพ แน่นอนว่าเขาย่อมลงพวกมันทั้งหมดไปที่ค่าความอดทน เช่นนี้แล้วค่าความอดทนของเขาจึงเพิ่มขึ้นมาถึง27แต้ม! จาก51แต้มเป็น78แต้มไปแล้ว!
ในช่วงหนึ่งเดือนแห่งการฝึกฝนนี้เขายังบังเอิญได้เซ็ตไอเทมมาด้วย
เซ็ตนี้มีชื่อว่า ‘เซ็ตปราการเหล็ก’ ซึ่งประกอบไปด้วยสี่ชิ้นส่วนไล่ตั้งแต่หัว เกราะส่วนบน เข็มขัดและแขนซึ่งมันเป็นเซ็ตที่ดรอปมาหลังจากมดทหารโลหะตาย
ความสามารถของเซ็ตสี่ชิ้นคือทุกๆครั้งที่โดนโจมตีจะเพิ่มค่าต้านทายกายภาพ5% ความสามารถนี้สามารถซ้อนทับได้เป็นเวลา5นาที
เซ็ตอุปกรณ์นี้ถูกหลินเซวียนอัพเกรดเป็นเลเวล9ขอบเขตที่1ในลมหายใจเดียว ยังไงซะเขาก็มีแก่นอุปกรณ์ให้ใช้เพียบ
โล่นักล่ามังกรและโล่ค้อนราชันย์มังกรดินเองก็ผลาญแก่นอุปกรณ์ไปไม่น้อยจนอัพเกรดเป็นเลเวล9ขอบเขตที่1เช่นกัน
ท้ายที่สุดเขาได้รับไอเทมเพิ่มค่าสถานะจากรังมดอสูรมากอีกมากมาย
[ดอกเปลวเพลิง – ความเสียหายธาตุไฟ+1%]
[ดอกอัสนี – ความเสียหายธาตุสายฟ้า+1%]
[ดอกถุงพิษ – ความเสียหายธาตุพิษ+1%]
[เมล็ดหญ้าเหมันต์ - ความเสียหายธาตุน้ำแข็ง+1%]
[เห็ดเรืองแสง – อัตราการฟื้นฟูพลังชีวิต+1%]
[ผลเนตรเข็ม – อัตรการโจมตีติดคริติคอล+0.2%]
[ผลระเบิด – ความเสียหายจากการโจมตีคริติคอล+1%]
[หญ้าแสงจันทร์ – พลังเวทย์มนตร์สูงสุด+1%]
[รากกระพริบ – พลังชีวิตสูงสุด+1%]
หลินเซวียนกินไอเทมค่าสถานะเหล่านี้ไปจนครบแล้วแต่ถึงกระนั้นพวกมันก็ยังเหลืออยู่อีกเยอะภายในมิติส่วนตัวของเขา
“ได้เวลาไปลองของกับราชันย์แดนลับของรังมดอสูรแล้ว” หลินเซวียนพึงพอใจยิ่งนัก เขาเปลี่ยนไปใส่อุปกรณ์ที่ ‘โล่วิญญาณ’ เคยสวมใส่ก่อนจะออกเดินทางไปยังถ้ำหินยักษ์ จากนั้นก็มาถึงยังรังมดอสูรโดยผ่านประตูเคลื่อนย้ายจากถ้ำหินยักษ์อีกที