Chapter 11 : ร่างอวตารฝึกฝนร่างที่สอง!
หลินเซวียนเริ่มลงมือ
แต่ละย่างก้าวของเขาทั้งเบาและการเคลื่อนไหวก็เล็กน้อยยิ่งนัก คนธรรมดาทั่วไปแทบจะดูไม่ออกเลย
หลังจากเดินไปได้ช่วงสั้นๆเขาก็เข้าใกล้ลู่หลัวมากขึ้น
ถ้าเขาตกอยู่ในอันตรายลู่หลัวจะลงมือช่วยในทันที
นิสัยของลู่หลัวทำให้เขารู้ว่าผู้ดูแลคนนี้ไม่ใช่คนเลือดเย็นเหมือนผู้ดูแลคนอื่น แม้หน้าฉากจะดูเย็นชาแต่เจ้าหล่อนกลับคุ้มครองผู้ใต้บังคับบัญชาเป็นอย่างดี
หลินเซวียนรอโอกาสเหมาะๆ เขาจับจ้องมองดูคลื่นมดโลหะคลื่นแล้วคลื่นเล่าถูกสังหารลงและกำลังจะถูกดันกลับไปยังประตูแสง
ในเวลานี้เองโอกาสที่ว่าก็มาถึง
ข้างๆหลินเซวียนมีนักกู้ซากอยู่คนหนึ่งซึ่งยืนอยู่ใกล้แถวหน้าเกินไป ในช่วงเวลานี้จิตใจของเขามีแต่เรื่องการฆ่าจึงค่อยๆแยกตัวห่างออกไปจากกลุ่มหลักของนักกู้ซากโดยไม่รู้ตัว
มดทหารโลหะที่ใช้ขากรรไกรขนาดใหญ่บดร่างของนักกู้ซากมาแล้วหลายคนเองก็พุ่งเข้ามาหาอีกฝ่ายอย่างรวดเร็วและมันก็คือตัวที่มีค่าสถานะสูงที่สุดที่หลินเซวียนเห็น!
ฟ่อ! ฟ่อ!
มดทหารโลหะกระโจนเข้ามาราวกับลูกกระสุน ขากรรไกรขนาดมหึมาเองก็กำลังจะบดร่างของนักกู้ซากให้ขาดครึ่ง
นักกู้ซากคนนั้นไม่ได้รู้ตัวเลยว่าตนกำลังจะตาย
นักกู้ซากที่อยู่รอบๆต่างพากันอ้าปากค้างและตะโกนออกมา “หลบเร็ว!”
หลินเซวียนลงมือไวยิ่งกว่า เขากระโดดเข้าไปผลักร่างของนักกู้ซากคนนี้ด้วยความจังใจ “ระวัง!”
สีหน้าและการกระทำของเขาแสดงออกมาได้อย่างไร้ที่ติ เขาดูเหมือนทำไปตามจิตใต้สำนึกและสัญชาตญาณโดยแท้
ตึง
นักกู้ซากที่ถูกหลินเซวียนผลักทำให้เขาหลุดออกมาจากระยะการโจมตีของขากรรไกรอันมหึมาของมหทหารโลหะมาได้
แต่ตรงจุดที่เขาอยู่นั้นถูกแทนที่ด้วยหลินเซวียนแทน
หลินเซวียนแสดงสีหน้าหวาดกลัวและยกแขนขึ้นมาบังเอาไว้ตาม ‘จิตใต้สำนึก’
นักกู้ซากที่อยู่รอบๆต่างพากันถอนหายใจและรู้สึกหดหู่ใจขึ้นมา มีบางคนถึงขั้นทนดูไม่ไหวตนต้องหลับตาลงเลยทีเดียว
ผู้ดูแลเขตBหยางเว่ยเองก็สังเกตเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น แรกเริ่มเดิมทีเขาก็งุนงงก่อนจะหัวเราะออกมาเสียงเย็น “โง่มาก เพียงเพื่อจะช่วยคนอื่นสุดท้ายแกกลับต้องเป็นฝ่ายจากไป...”
ก่อนที่เขาจะทันได้กล่าวจบประโยค มดทหารโลหะตัวนั้นก็ถูกเคียวขนาดมหึมาตัดร่างออกเป็นสองส่วนเสียก่อน
แรงกระแทกมหาศาลที่เกิดขึ้นนั้นถึงขั้นส่งร่างทั้งสองส่วนของมดทหารโลหะรอยออกไปจนเกือบถึงประตูแสง
“ถ้าไม่มีความสามารถก็อย่าคิดจะยื่นมือมาช่วยคนอื่น!”
ลู่หลัวจ้องเขม็งมาที่หลินเซวียนหากแต่ในแววตานั้นกลับมีประกายชื่นชมลางๆ
นักกู้ซากส่วนใหญ่นั้นเป็นประเภทที่มักจะปล่อยให้คนอื่นตายดีกว่าให้ตนเองไปเสี่ยง ยังไงก็ตามหลิน....คนนี้ชื่ออะไรนะ? เขาค่อนข้างพิเศษ
หลินเซวียนรีบผุดลุกขึ้นยืนและวิ่งไปหลบอยู่ด้านหลังลู่หลัวด้วยใบหน้าหวาดกลัว “ขอบคุณพี่สาวลู่! สวรรค์ยังอุส่าห์ปล่อยให้ฉันรอดมาได้ด้วย!”
ในเวลาเพียงเสี้ยวพริบตาเมื่อครู่มือของเขาได้สัมผัสกับศพของมดทหารโลหะอย่างรวดเร็วและทำการชิงร่างของมันได้สำเร็จ
นักกู้ซากที่รอดมาได้เพราะหลินเซวียนผลักเขาออกมาเองก็ร้องไห้จับจ้องมาที่หลินเซวียนอย่างขอบคุณ “น้องชายไม่รู้จักกับฉันแท้ๆแต่ยังยินดีจะช่วยเหลือฉัน ฉันประทับใจมากจริงๆ!”
หลินเซวียนเกาหัวด้วยท่าทีโง่งม “พี่ใหญ่ผมแค่ลงมือไปตามจิตใต้สำนึกเท่านั้น ผมรู้สึกว่าผมทนมองดูคนอื่นตายไปต่อหน้าต่อตาไม่ได้”
นักกู้ซากของเขตCต่างมีความสุขและกลมเกลียวกัน
หยางเว่ยที่อยู่ไม่ไกลออกไปนักรู้สึกราวกับมีอะไรอยู่ในคอจนพูดอะไรไม่ออก
“เชี่ยเอ๊ยแมร่งยังจะรอดมาได้อีกหรอเนี่ย!?” หยางเว่ยสบถด่าออกมา
“โฮ่?” ลู่หลัวมองไปด้านหน้า
มดทหารที่ถูกเธอฟันออกเป็นสองส่วนจู่ๆร่างก็ประกบเข้าด้วยกันและพุ่งตรงเข้าไปในประตูแสงราวกับสายฟ้าสีดำ!
“แปลก...มันควรจะถูกฉันฆ่าไปแล้วสิ” ลู่หลัวขมวดคิ้ว “แล้วนี่ฉันเห็นอะไรอยู่? หรือว่าเคียวเมื่อครู่นี้ฆ่ามันตายได้ไม่สนิท?”
เป็นที่รู้กันดีว่าถ้าอสูรปิศาจถูกฆ่าพวกมันก็จะตายลง
หลังจากขบคิดอย่างระมัดระวังแล้วลู่หลัวก็คิดไปว่าการโจมตีเมื่อครู่นี้น่าจะไม่ทรงพลังพอที่จะสังหารอีกฝ่ายได้ในพริบตา
เมื่อปราศจากมดทหาร มดงานโลหะที่เหลือจึงไม่อาจต้านทานการรุมโจมตีอย่างดุดันของกลุ่มนักกู้ซากได้ พวกมันบ้างก็ตายบ้างก็หลบหนีกลับไป หลังจากกลายเป็นศพนอนเกลื่อนจำนวนมากแล้วพวกที่เหลือก็พากันหนีกลับเข้าไปในประตูแสงจนหมด
ลู่หลัวชี้ไปที่นักกู้ซากหลายคนและเอ่ยออกมา “นาย นาย พวกนายทำผลงานได้ดี ตำแหน่งในองค์กรของพวกนายเพิ่มขึ้นหนึ่งดาว ถ้าอยากได้อุปกรณ์หรือหนังสือสกิลก็ไปเลือกเอาเอง”
เมื่อนิ้วสีขาวผ่องนวลนั้นเลื่อนผ่านหลินเซวียนเธอก็ชี้มาที่เขาด้วย
แม้ว่าผลงานของหลินเซวียนจะด้อยกว่านักกู้ซากที่ทรงพลังแต่ลู่หลัวประทับใจที่เขายอมเสียสละตนเองเพื่อช่วยคนอื่น
ลู่หลัวสะบัดมือก่อนจะเดินจากไปยังห้องพักเดี่ยวของเธอเพียงลำพัง “ทำความสะอาดสนามรบด้วย หลังจากเสร็จงานแล้วก็ไปพักกันได้ พรุ่งนี้ฉันจะให้รางวัล”
หลินเซวียนและนักกู้ซากของเขตCทำการเก็บกวาดความยุ่งเหยิงที่เกิดขึ้นและกลับไปยังเตียงของพวกเขาหลังจากทำเสร็จ
คนอื่นๆที่เหนื่อยล้าจากการต่อสู้พากันหลับใหลไปทีละคน
หลินเซวียนเองก็ดูเหมือนจะหลับไปแล้วแต่ในความเป็นจริงเขายังเต็มไปด้วยกำลังวังชาและเปลี่ยนไปดูมุมมองของมดทหารโลหะแทน
ตอนนี้เท่ากับเขามีสามมุมมองแล้ว หนึ่งคือร่างหลัก สองคือกิ้งก่ากลืนทองและสามคือมดทหารโลหะ
หลินเซวียนรู้สึกว่าการมองมุมมองการมองเห็นของร่างอวตารฝึกฝนนั้นให้ความรู้สึกไม่ต่างอะไรไปจากการกำลังดูหนังซักเท่าไหร่
ยกตัวอย่างเช่นตอนนี้มดทหารโลหะกำลังเดินไปมาท่ามกลางเส้นทางคดเคี้ยวภายในรังมด มดทหารทุกตัวที่เขาพบระหว่างทางและมดทหารโลหะที่มีขนาดเล็กกว่าจะยื่นหนวดบนหัวของพวกมันออกมาแตะที่เขาเพื่อแสดงความเคารพ
หลายนาทีให้หลังมดทหารโลหะก็นำมดทหารตัวอื่นบุกเข้าโจมตีรังมดอื่นและเริ่มสู้กับมดอสูรภายในรังมดอสูรรังอื่น
ใช่แล้ว ภายในรังมดอสูรนั้นมีมดอสูรอยู่มากกว่าหนึ่งชนิด มดอสูรที่แตกต่างกันเหล่านี้จะสู้กันเองจนตายในทุกวันโดยปรารถนาที่จะทำลายอีกฝ่ายให้ได้อย่างราบคาบ
หลินเซวียนมองดูด้วยความสนใจและผล็อยหลับไป
หลังจากเขาตื่นขึ้นมาเขาก็รีบทำการตรวจสอบสิ่งที่ได้มาจากร่างอวตารฝึกฝนในทันที
[พื้นที่ปัจจุบัน : รังมดอสูร – ส่วนนอกของรังมดแดงเพลิง (50เหรียญทั่วไป/นาที , ค่าประสบการณ์ 250 แต้ม/นาที]
[มดทหารโลหะได้ฝึกฝนมาแล้ว8ชั่วโมง ได้รับเหรียญฝึกฝนจำนวน 24,000เหรียญ ค่าประสบการณ์120,000แต้ม , ดอกเปลวเพลิง 4 ดอก , เห็ดเรืองแสง 6 ดอก , หนังสือสกิลขอบเขตที่1เก้าเล่ม , อุปกรณ์สวมใส่ขอบเขตที่1สิบสี่ชิ้น , รูนขอบเขตที่1สี่ก้อน...ท่านต้องการรวบรวมหรือไม่?]
หลินเซวียนพึมพำอย่างแผ่วเบา “รวบรวม”
วิ้ง
ไอเทมจำนวนมหาศาลปรากฏขึ้นมาในมิติส่วนตัวของเขา
ในบรรดาหนังสือสกิลทั้ง9เล่ม สี่เล่มนั้นคือ [ต้านทานไฟขั้นพื้นฐาน] และอีกห้าเล่มคือ [บอลเพลิงระดับต่ำ]
ดอกเปลวเพลิงเป็นไอเทมพิเศษประจำรังของมดแดงเพลิงและสามารถเพิ่มความเสียหายธาตุไฟได้1%อย่างถาวร
ส่วนเห็ดเรืองแสงเป็นไอเทมพิเศษที่มีเฉพาะพื้นที่หลักของรังมดโลหะ มันสามารถเพิ่มความเร็วการฟื้นฟูได้1%อย่างถาวร
ไอเทมทั้งสองชิ้นนี้คล้ายกับถุงน้ำดีของอสรพิษเกล็ดดำและดอกบำรุงวิญญาณภายในถ้ำหินยักษ์ คนหนึ่งสามารถกินได้มากที่สุดอย่างละ10ชิ้น ยิ่งไปกว่านั้นจะไร้ผลทันทีหากถูกใช้หลังจากเลื่อนขั้นเป็นขอบเขตที่4
หลินเซวียนรู้สึกพอใจยิ่งนัก เขาใช้ไอเทมเหล่านี้ในทันทำให้ค่าความเสียหายธาตุไฟเพิ่มมา4% นอกจากนี้ความเร็วในการฟื้นฟูพลังชีวิตยังเพิ่มมาถึง6%อีกด้วย
แม้ว่าเขาจะยังใช้ไฟไม่ได้ในตอนนี้แต่ก็ยังดีกว่าไม่ได้อะไรเลย
ส่วนรูนนั้นพวกมันเป็นไอเทมที่ค่อนข้างพิเศษซึ่งใช้ในการฝังลงไปบนอุปกรณ์ทำให้อุปกรณ์ได้รับความสามารถใหม่
รูนสามารถหลอมและทำลายเพื่อเปลี่ยนให้เป็นเศษรูนได้
หลังจากหลอมรูนเกรดสีขาว(ทั่วไป) จะได้เศษรูน10ชิ้น ยังไงก็ตามการสร้างรูนเกรดสีขาวนั้นจำเป็นต้องใช้เศษรูน20ชิ้น
หากหลอมรูนเกรดสีเขียว(ไม่ธรรมดา) จะได้เศษรูน20ชิ้น แต่ก็เช่นเดียวกันการสร้างรูนเกรดสีเขียวนั้นจำเป็นต้องใช้เศษรูน40ชิ้น
ส่วนสีฟ้า ม่วงและทองนั้นจะได้ 50 150และ500ตามลำดับ หากแต่การสร้างพวกมันอีกครั้งจำเป็นต้องใช้ถึง100 300และ1000
การหลอมและสร้างซ้ำไปซ้ำมามีเพียงแต่จะทำให้จำนวนเศษรูนลดลงก็เท่านั้น
กระบวนการทั้งสองจำเป็นต้องได้รับการช่วยเหลือจากช่างทำรูน
รูนสามารถฝังลงบนอุปกรณ์เพื่อเพิ่มความสามารถของอุปกรณ์ได้ แน่นอนว่าการทำเช่นนี้เองก็จำเป็นต้องทำโดยช่างทำรูนเช่นกัน
ยังไงก็ตามตัวหลินเซวียนนั้นไม่จำเป็นต้องมีช่างทำรูนเลยซักนิดเพราะเขามีมิติส่วนตัว
[มิติส่วนตัว : เลเวล3]
[ความจุ : 40 ลูกบากศ์เมตร]
[โต๊ะหลอม : โต๊ะ1(ปัจจุบันกำลังหลอมแร่) , โต๊ะ2(ปัจจุบันกำลังหลอมอุปกรณ์) , โต๊ะ3(ต้องใช้เหรียญทั่วไป10,000เหรียญเพื่อปลดล็อค)]
[โต๊ะสร้าง : โต๊ะ1(ไม่ได้ใช้งาน) , โต๊ะ2 (จำเป็นต้องใช้เหรียญทั่วไป10,000เหรียญเพื่อเปิดใช้งาน) , โต๊ะ3 (จำเป็นต้องใช้เหรียญทั่วไป50,000เหรียญเพื่อเปิดใช้งาน)]
เหรียญทั่วไป10,000เหรียญนั้นไม่ได้นับว่าเป็นอะไรสำหรับหลินเซวียน เขาทำการปลดล็อคโต๊ะหลอมตัวที่3และโต๊ะสร้างตัวที่2ซึ่งจะถูกใช้สำหรับหลอมและสร้างรูนโดยเฉพาะในทันที
[โต๊ะหลอมที่3ถูกตั้งค่าให้หลอมรูนที่มีระดับต่ำกว่าเกรดสีทอง(ไร้ที่ติ)]
[โต๊ะสร้างที่2ถูกตั้งค่าให้ใช้สร้างได้เพียงรูนระดับเกรดสีทอง(ไร้ที่ติ)]
หลังจากตั้งค่าเหล่านี้แล้วหลินเซวียนก็พยักหน้าด้วยความพึงพอใจ
เขาไม่ต้องการรูนเกรดสีขาว เขียว ฟ้าหรือม่วง
ในเมื่อเขาสามารถสร้างรูนเกรดสีทองได้ก็สร้างเถอะ ยังไงซะมันก็ดีที่สุดแล้ว!