บทที่ 17 : การแต่งงาน (1)
บทที่ 17 : การแต่งงาน (1)
“คุณหนูเนอร์ สวยมากเลยค่ะ”
เนอร์มองภาพสะท้อนของเธอในกระจก
อย่างที่สาวใช้พูด นี่เป็นครั้งแรกที่เธอแต่งตัวดูดีขนาดนี้ เป็นครั้งแรกจริงๆ
เธอสวมชุดเดรสสีขาวบริสุทธิ์ที่เข้ากันกับรูปร่างของเธอ และผมของเธอก็ถูกปิ่นปักผมไว้อย่างประณีต
การแต่งหน้าแบบบางเบาช่วยเสริมบุคลิกของเธอ และยังมีการทาน้ำมันแวววาวเล็กน้อยที่หางของเธอ ทำให้หางของเธอดูเปล่งประกาย
ส่วนประกอบของชุดนี้คือสร้อยคอเรียบง่ายและต่างหูอันวิจิตรงดงาม ที่ช่วยเพิ่มความหรูหราให้กับรูปลักษณ์โดยรวมของเธอ
อย่างไรก็ตาม ความสวยงามทั้งหมดนี้ไม่สามารถลบความเศร้าบนใบหน้าของเนอร์ได้
ในไม่ช้าเธอก็ถูกกำหนดให้ไปรับประทานอาหารร่วมกับคู่หมั้นของเธอ 'เบิร์ก' ผู้เป็นเป็นทหารรับจ้าง
เธอต้องระงับความไม่เต็มใจของเธอ แม้ว่าจะยากแทบตายก็ตาม
เนอร์คิดถึงเงื่อนไขของข้อตกลงกับกิ้บสัน พ่อของเธอ
สักวันหนึ่งเรื่องนี้คงจะจบลง เธอพยายามเข้าใจว่าการเริ่มต้นนั้นยากเสมอ
เธอพยายามไม่ลืมด้วยว่าการแต่งงานครั้งนี้จะช่วยชีวิตคนจำนวนมากในดินแดนของเธอ
ด้วยการเสียสละของเธอเอง เผ่าของเธอจะรอดพ้นจากการสูญพันธุ์
ถ้าวันหนึ่งเรื่องทั้งหมดนี้จบลงแล้วเธอกลับมา พี่น้องของเธอจะยอมรับเธอหรือเปล่านะ?
อย่างน้อยที่สุดก็ชัดเจนว่าพวกเขาคงจะไม่เพิกเฉยต่อเธอเหมือนเมื่อก่อน
เกียรติยศในการปกป้องดินแดนทั้งหมดจะไม่หายไป
เห็นได้ชัดจากการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยในท่าทีของกิ้บสันที่มีต่อเธอ
ไม่มีท่าทีแบบห่ามๆ เหมือนพี่น้องเธอจากครั้งแต่ก่อน
แม้แต่คนที่นิสัยเสียที่สุดอย่างกิดอนหรือพี่น้องคนอื่นๆ ของเธอก็เปลี่ยนไป
เมื่อนึกได้เช่นนี้ เนอร์ก็หัวเราะเยาะตัวเอง เพราะถึงแม้จะทำทุกอย่างแล้ว ลึกๆ ในใจของเธอยังคงรู้สึกโหยหาความรักพี่น้องของเธอมาอย่างยาวนาน
หัวใจของเธอเองที่อยากยอมแพ้ แต่ลึกๆ ก็ยังคงคิดถึงความต้องการที่จะได้รับความรักจากพี่น้อง
อาจเป็นเพราะคนรู้จักที่สำคัญของเธอก็มีเพียงพวกพี่น้องของเธอนั้นเอง
“…”
ขณะที่เนอร์ยังคงเงียบ บรรยากาศที่น่าอึดอัดก็ปกคลุมทั่วทั้งห้อง
สาวใช้ยังคงเงียบ พวกเธอไม่สามารถอ่านสีหน้าของเนอร์ได้เลย
สาวใช้มองหน้ากันสักพักแล้วค่อยๆ กอดเนอร์เอาไว้
อ้อมกอดของบรรดาสาวใช้ทำให้เนอร์มีกำลังใจขึ้นเล็กน้อย เธอพยักหน้าและควบคุมอารมณ์ของเธอได้อีกครั้ง
หลังจากการกอดและการปลอบใจสิ้นสุดลง สาวใช้คนหนึ่งพยายามทำให้อารมณ์สงบลงและพูดออกมาว่า
“ท่านเนอร์ ได้โปรดยิ้มด้วยสิค่ะ วันนี้แต่งตัวได้สวยมากเลยค่ะ”
“…”
เนอร์ยกมุมปากขึ้นตามคำพูดของสาวใช้
ดวงตาของเธอมีน้ำตา แต่ริมฝีปากของเธอโค้งงอ เผยให้เห็นรอยยิ้มที่แปลกประหลาดเกิดขึ้น
“…”
เนอร์เองก็รู้เรื่องนี้อยู่ในหัวของเธอเช่นกัน
แม้ว่าเธอเกลียดการแต่งงานครั้งนี้ แต่ก็มีหลายส่วนที่เธอต้องพยายามทำ
ถึงความรู้สึกของเธอจะเป็นอีกอย่าง แต่การแต่งงานก็ต้องเกิดขึ้น
ตอนนี้เธอเข้าใจแล้ว
หากเธอปฏิเสธการแต่งงานและลงความเกลียดชังของเธอใส่ทหารรับจ้างที่เป็นมนุษย์ ไม่เพียงแต่ตระกูลแบล็ควูดเท่านั้นที่จะสูญพันธุ์ แต่ชีวิตมนุษย์หมาป่านับไม่ถ้วนก็จะสูญเสียไปด้วย
เนอร์รู้ดีว่าเธอต้องแบกรับความรับผิดชอบนั้น
ดังนั้นแม้ว่าเธอจะไม่ชอบมัน แต่เธอก็จำเป็นต้องตอบสนองความต้องการของทหารรับจ้างที่เป็นมนุษย์
โชคดีที่พวกเขาต่างอยู่ในจุดที่ค่อนข้างคล้ายกัน
ทหารรับจ้างที่เป็นมนุษย์ยังต้องระมัดระวังในการติดต่อกับขุนนาง และเนอร์ก็ต้องยอมรับคู่แต่งงานของพวกเธอเพื่อประโยชน์ของผู้คนในดินแดน
หากเธอถูกขายให้กับกลุ่มทหารรับจ้าง เธอคงไม่สามารถหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่น่าหดหู่ใจไปกว่านี้ได้
เนอร์ยังคงปลอบใจตัวเองด้วยความจริงข้อนี้ พยายามอดกลั้นฝืนใจ
ตึ้ก…! ตึ้ก…! ตึ้ก!
ยามนั้นเอง พวกเธอก็ได้ยินเสียงคนกำลังวิ่งอยู่
“ท่านเนอร์! แฮ่ก…แฮ่ก…!”
"…ที่นั่น"
เนอร์คิดว่าโชคดีที่ไลลาปรากฏตัวก่อนมื้ออาหาร
เนอร์มั่นใจว่าไลลาได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับ 'เบิร์ก' มาแล้ว
คนรับใช้คนอื่นๆ ที่ได้ยินคำสั่งที่ทำให้ไลลาต้องทำในตอนเช้า ก็รีบวิ่งไปหาเธอขณะที่เธอกำลังหอบหายใจหนัก
สาวใช้เป็นคนแรกที่ถาม
“ไลลา! เธอรู้เรื่อง…คุณเบิร์กหรือเปล่า?”
“เธอไหวไหมไลลา? เอาน้ำไหม?”
ถึงสาวใช้ที่ถามคำถามแรกไลลาพยักหน้า สำหรับคำถามที่สองเธอส่ายหัวตอบ
ไลลาซึ่งมีหางสีขี้เถ้าแกว่งไปมา รีบเข้าไปหาเนอร์อย่างรวดเร็ว
เธอวางมือลงบนเข่าของเนอร์เบา ๆ แล้วคุกเข่าลง
“ท่านเนอร์แฮ่ก…แฮ่ก… ฉันรู้เรื่องคุณเบิร์กแล้วค่ะ”
“เธอไม่จำเป็นต้องวิ่งมาเร็วขนาดนี้เลย วันนี้เป็นแค่อาหารเย็น…และยังมีเวลาจนกว่าถึงพิธีแต่งงาน…”
“แต่มันเป็นคำขอของคุณเนอร์…ฉันจะต้อง…”
เนอร์หัวเราะเบาๆ
“…ขอบคุณนะไลลา”
เมื่อกล่าวขอบคุณแล้ว ไลลาก็ยิ้มเล็กน้อยแล้วพยักหน้าแล้วจึงเปิดปากพูด
"….คือ…"
อย่างไรก็ตาม ไลลาลังเลก่อนจะพูด
"…คือ…"
รู้สึกเหมือนเธอกำลังดิ้นรนเพื่อจะพูดออกมา
“ฉัน…ได้ยินมาว่าเขาใจดีมาก และ…เก่งในการต่อสู้”
“…”
“แล้วก็…เอ่อ…”
เนอร์หยุดไลลาที่กำลังพูด
"ไลลาเรื่องนั้น"
"คะ?"
ไหล่ของไลลาสั่นไหวเมื่อได้ยินเสียงเรียกของเนอร์
เนอร์พยายามทำให้เธอสงบลงและพูดอย่างจริงใจ
“ฉันก็บอกเมื่อเช้าไปแล้ว…มันเพื่อเตรียมหัวใจของฉัน”
“…”
“ฉันอยากได้ยินมันอย่างจริงใจ ฉันไม่อยากตกใจกับสิ่งที่ฉันไม่ได้เตรียมใจไว้ เธอบอกมาสิว่าเธอได้ยินอะไรมาบ้าง”
ดวงตาของไลลาเริ่มเลิ่กลั่ก
“แต่… สมาชิกของกลุ่มทหารรับจ้างบอกว่า… เขามีบุคลิกที่หยาบกระด้างและแข็งแกร่ง… ฉันไม่รู้ว่าพวกเขาล้อเล่นหรือจริงจัง…”
“เล่าให้ฟังตรงๆ หน่อยสิ”
ไลลาลังเลอีกครั้ง หายใจเข้าลึกๆ และตัดสินใจพูดออกมา
“…เขาเข้มงวด”
แม้ว่าเธอจะเลือกฟังเรื่องราวเหล่านี้ด้วยตัวเอง แต่ใจของเนอร์ก็จมอยู่กับความจริงนั้น
“ที่จริงแล้ว…เขาฝึกพวกทหารอย่างหนักในระหว่างการฝึกฝน…และไม่แสดงความเมตตาใดๆ เลย…พวกเขาบอกว่าเขาเป็นคนไร้ความปรานี…”
เป็นคนเข้มงวดและไร้ความปราณี เนอร์จดจำความจริงนั้นไว้ในใจ
“…อะไรอีก?”
“…พวกทหารบอกว่าเขาเย็นชา เพราะพูดน้อยจึงยากที่จะเข้าใจว่าเขาคิดอะไรอยู่”
เป็นคนเย็นชาและแข็งทื่อ เห็นได้ชัดว่าเขาตรงกันข้ามกับคู่ครองในคำทำนายของเธออย่างสิ้นเชิง
“…มีอะไรอีกไหม?”
“เขาเป็นทหารรับจ้าง ดังนั้นเขาจึงโหดร้ายและน่ากลัวมากในสนามรบ…แม้แต่สหายของเขาก็ยังหวาดกลัว… พูดตามตรงมีสมาชิกไม่มากนักที่อยากเข้าร่วมหน่วยของคุณเบิร์ก…”
บุคคลที่เรียกได้ว่าโหดร้ายและน่าเกรงขามแม้กระทั่งกับเผ่าพันธุ์ของเขาเอง มันกดลงบนหัวใจของเธอราวกับว่ามีบางอย่างนั่งทับมันอยู่ เธอจะต้องแต่งงานกับคนแบบนี้ในอนาคตงั้นเหรอ?
“…”
“…และ…ท่านเนอร์?”
“…อะไรอีก?”
ราวกับว่าไลลาเห็นว่าเนอร์สับสน เธอเริ่มลังเลที่จะเปิดปากพูด
“บอกฉันมาไลลา”
แต่เนอร์กดดันไลลา และท้ายที่สุด ไลลาก็ไม่มีทางเลือกนอกจากต้องบอกเธอ
“พวกทหารบอกว่า… …เขา…เกลียดผู้หญิง…เป็นอย่างมาก…มากถึงมาที่สุด พวกทหารบอกว่ามันน่าอึดอัดใจเมื่อเห็นเขาเป็นแบบนั้น… นั่น… อ่า…ไม่มีผู้หญิงคนไหนเข้าใกล้เขาได้เลย…”
“…”
“ท่านเนอร์…ไหวไหมคะ?”
"…พอแล้ว"
เนอร์ระงับความรู้สึกต่อหน้าสาวใช้ของเธอ
คำพูดของไลลาโดยเฉพาะคำพูดสุดท้าย ทำให้เนอร์สั่นสะท้านอย่างมาก
คนที่แม้กระทั่งเผ่าพันธุ์เดียวกันกับเขาเองก็ยังโหดร้าย แถมยังเกลียดผู้หญิงอีก
เธอจะมาอยู่กับคนแบบนี้ได้อย่างไร?
เนอร์คิดว่าชะตากรรมของเธอเองนั้นแปลกเกินไป
เธอกลัวว่าจะถูกปฏิบัติเหมือนเป็นแค่ของเล่น
พ่อของเธอบอกว่าทหารรับจ้างจะไม่ปฏิบัติต่อเธออย่างนั้น แต่เธอไม่รู้ว่าในความเป็นจริงแล้วมันจะเป็นอย่างไร การได้ยินเรื่องราวเช่นนี้รังแต่เพิ่มความสงสัยของเธอมากขึ้นเท่านั้น
ทหารรับจ้างที่มีชีวิตอยู่ไปวันๆ จะคิดถึงอนาคตของตัวเองด้วยงั้นเหรอ?
บางทีเธอกับเบิร์กอาจไม่อยู่ในสถานการณ์ที่จะต้องไว้หน้ากันด้วยซ้ำ
มันอาจเป็นสถานการณ์ที่เธอต้องทำให้อีกฝ่ายพอใจเท่านั้น
บางทีการแต่งงานครั้งนี้อาจเป็นเพียงช่องทางให้ทหารรับจ้างผู้มั่งคั่งได้หาขุนนางมาเล่นด้วย
นอกจากการถูกดูหมิ่นแล้ว บางที่เธอคงต้องเผชิญกับความรุนแรงทางร่างกายคง ถูกใช้เพื่อระบายความโกรธ...
เนอร์ยังคงเงียบอยู่นาน
สาวใช้ก็เงียบเช่นกัน
เป็นอีกครั้งที่ความเงียบงันน่าอึดอัดปกคลุมทั่วทั้งห้อง
เนอร์พยายามกลั้นน้ำตาของเธอเอาไว้
เธอแต่งหน้าเสร็จแล้ว ดังนั้นเธอจึงไม่ควรหลั่งน้ำตาออกมา
ทันใดนั้นเสียงฝีเท้าอันหนักหน่วงก็ทำลายความเงียบ
เนอร์สัมผัสได้ว่าเวลาของเธอหมดลงแล้ว
เธอหายใจเข้าลึกๆ แล้วลุกขึ้นจากที่นั่ง
ไลลาผู้มีสีหน้ากังวลก็ติดตามเธอไป
พ่อบ้านคนหนึ่งเรียกผ่านประตูที่เปิดอยู่
“คุณหญิงเนอร์”
"…อืม"
"พร้อมหรือยังครับ?"
ภายนอกเธอพร้อมแล้ว แต่ภายในเธอไม่ได้เตรียมพร้อมเลย
แต่เนอร์ไม่มีทางเลือกอื่น
เธอแค่พยักหน้า
****
เนอร์ซึ่งมาถึงโต๊ะอาหารก็เห็นพ่อและพี่ชายของเธอรอเธออยู่
"…พ่อ พี่ชาย"
“มาแล้วเหรอ?”
ไม่มีใครอีกเลยในห้องอาหาร
ดูเหมือนว่าพวกเขาไม่ได้วางแผนที่จะเชิญพี่น้องหรือคนอื่นมารับประทานอาหารด้วย
เนอร์รู้อยู่แล้วว่าความหรูหราดังกล่าวย่อมไม่เป็นปัญหาในสถานการณ์ปัจจุบัน
แม้ว่ามันจะเรียบง่าย แต่ทั้งโต๊ะก็เต็มไปด้วยอาหารที่จัดเตรียมอย่างประณีตเพื่อปกปิดความเรียบง่ายนั้น
กิ้บสันจ้องไปที่เนอร์อย่างตั้งใจ
เนอร์รู้สึกได้ถึงคำขอโทษเล็กๆ ที่ซ่อนอยู่ในสีหน้าเคร่งเครียดของเขา
หลังจากการสนทนาเมื่อวันก่อนนี้ มันก็ง่ายยิ่งขึ้นสำหรับเธอที่จะอ่านอารมณ์ที่ซ่อนอยู่ของเขา
กิดอนมองดูเนอร์ด้วยสีหน้าเย็นชาแล้วพูดขึ้น
"…อย่าทำตัวหยาบคายล่ะ"
“…”
“จากที่เราได้พบกันมาวันนี้ เขาก็ดูเหมือนเป็นคนที่ค่อนข้างนิสัยดี”
เนอร์ได้แต่หัวเราะออกมาในใจอย่างเงียบๆ
คำพูดของของกิดอนราวกับว่ามันเป็นน้ำมันราดลงไฟ
"…ถ้าพี่บอกว่าเป็นเช่นนั้นก็ดีค่ะ"
“…”
ครั้งนี้กิดอนไม่ได้ตำหนิอะไรในท่าทีของเนอร์
เนอร์รู้สึกยินดีอย่างประหลาดกับกิดอนที่ดูไม่สบอารมณ์กับคำพูดของเธอ
มันเป็นความรู้สึกที่แม้แต่เธอก็ไม่สามารถเข้าใจได้
เธอต้องการให้กิดอนยอมรับ แต่ในขณะเดียวกันก็เกลียดเขาด้วย
เธอนั้นต้องการระบายความโกรธของเธอออกมา แม้จะเพียงเล็กน้อยก็ตาม
น้ำหนักของอนาคตที่เธอต้องแบกรับนั้นหนักเกินไป และเธอไม่รู้เลยว่าจะระบายความคับข้องใจนี้ได้อย่างไร
กิ้บสันคลายคอเสื้อของเขาเบาๆ
เมื่อได้รับสัญญาณนั้น เนอร์และกิดอนก็หยุดสงครามประสาทกันอย่างเงียบๆ
ด้วยการเคลื่อนไหวตามธรรมชาติ ทุกคนนั่งลงที่โต๊ะของตน
กิ้บสันนั่งเก้าอี้หลัก เนอร์อยู่ทางซ้าย และกิดอนอยู่เคียงข้างเธอ
ที่นั่งที่เหลืออีกสองที่นั่งทางขวานั้นว่างเปล่าโดยสิ้นเชิง
“กัปตันแห่งเปลวเพลิงสีชาตและรองกัปตันคนที่จะกลายเป็นสามีของเธอ เป็นเพียงสองคนที่ได้รับเชิญ”
“…”
“นี่เป็นสิ่งสำคัญ… แม้ว่ามันจะยาก แต่เรามาพยายามกันหน่อยได้ไหม?”
กิ้บสันมองดูเนอร์ขณะที่เขาพูด
เนอร์ยังพยักหน้า แสดงว่าเธอจะทำตามคำพูดของพ่อเธอ
พ่อบ้านเข้ามาผ่านประตูบานใหญ่ที่นำไปสู่ห้องอาหาร
“นายท่านกิ้บสัน กัปตันแห่งเปลวเพลิงสีชาต คุณอดัม และรองกัปตัน คุณเบิร์ก มาถึงแล้ว”
กิ้บสันพยักหน้าและลุกขึ้นจากที่นั่ง
กิดอนก็ลุกขึ้นยืนเช่นกัน และเนอร์ก็ยืนขึ้นเพื่อปลอบใจที่สั่นเทาของเธอให้สงบลงไป
ขณะเดียวกัน ประตูห้องก็เปิดออกกว้าง
ชายสองคนจากเผ่าพันธุ์มนุษย์เดินเข้ามา
คนที่ยืนอยู่ข้างหน้ามีรูปร่างสูงและมีใบหน้าที่ยิ้มแย้ม เขาเดินเข้ามาอย่างมั่นใจด้วยรอยยิ้ม
“ท่านนายเหนือแห่งแบล็ควูด ขอบคุณที่เชิญผมมาในวันนี้”
และมีชายร่างสูงเดินตามเขาเข้ามา
ผมสีดำและดวงตาสีเข้ม
ร่างกายที่ดูแข็งแรง…
…และหน้าตาหล่อเหลา
รอยแผลเป็นมากมายบนแขนของเขา...
…และมือที่หยาบกร้าน
สีหน้าที่หนักแน่น…
…และบรรยากาศที่เย็นยะเยือก
เนอร์สามารถบอกได้ทันทีว่าใครคือ 'เบิร์ก'
อาจจะเป็นเพราะเธอกลัวอยู่แล้ว หัวใจของเธอจึงเต้นแรงอย่างเจ็บปวดและขาของเธอก็สั่นไหว
เธอกลัว เธอไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเธอจะต้องแต่งงานกับคนแบบนั้น
หางของเธอขดงอ
ชายทั้งสองเดินเข้ามาจับมือกับกิ้บสันก่อน
มันเป็นวิธีการทักทายของมนุษย์ การจับมือกัน
“อดัม เบิร์ก ขอบคุณที่มา”
ผู้ชายที่ชื่อเบิร์กไม่ได้มองเธอ ดวงตาของพวกเขาสามารถสบตากันได้ แต่เขาไม่แม้แต่จะมองเธอ
'...เขา... เกลียดผู้หญิง... มากถึงมากที่สุด...'
คำพูดของไลลายังคงดังก้องอยู่ในหัวของเธอ
เนอร์ได้เพียงกัดฟันและปกปิดความกลัวของเธอ
จากนั้นพวกเขาก็จับมือกับกิดอน
“คุณอดัม คุณเบิร์ก คุณต้องรักษาสัญญา”
“เรื่องภารกิจเหรอ? ได้แน่นอน”
ในที่สุดก็ถึงตาของเนอร์เป็นตัวเอก
อดัมก้าวถอยหลังเพื่อเว้นระยะ
เบิร์กที่ไม่เคยจ้องมองเธอมาก่อนจึงหันหน้าไปทางเนอร์
เนอร์รวบรวมความกล้าและเงยหน้าขึ้น
ดวงตาทั้งสองประสานกัน
เนอร์มองคนที่จะกลายเป็นสามีของเธอในอนาคต
“…”
“…”
เพื่อทำลายความเงียบ เบิร์กจึงยื่นมือออกก่อน
แต่มันแตกต่างจากการจับมือของคนอื่นๆ มือของเบิร์กแบขึ้น
เนอร์ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นบิดมือของเธอเล็กน้อยและวางมันลงบนมือของเบิร์ก
ขณะที่เธอครุ่นคิดว่าจะจับมืออย่างไรในสถานการณ์เช่นนี้ เบิร์กก็จับมือของเนอร์เบาๆ และจ้องมองมา
'อา...!'
เนอร์ส่งเสียงครวญครางอยู่ภายในใจ
ในไม่ช้า เบิร์กก็ดึงมือของเธอมาวางบนริมฝีปากของเขาด้วยการเคลื่อนไหวอย่างเป็นธรรมชาติ
เนอร์รีบดึงมือของเธอกลับด้วยความตกใจกับความรู้สึกอันนุ่มนวลบนริมฝีปากของเขา
จากนั้นเธอก็เริ่มแก้ตัวด้วยความไม่สบายใจ
"อา…! ฉัน…ฉัน…”
อย่างไรก็ตาม เป็นเบิร์กที่พูดขึ้นมาก่อน
"ผมขอโทษด้วย เป็นผมที่ควรจะต้องบอกคุณเรื่องวัฒนธรรมของเผ่าพันธุ์มนุษย์ก่อน”
“…”
เนอร์รู้สึกประหลาดใจกับน้ำเสียงที่สุภาพมากกว่าที่คาดไว้ของเบิร์ก แต่เธอไม่สามารถพูดอะไรได้ออกไปได้อีก
ระหว่างนั้นอีกฝ่ายก็แนะนำตัวเอง
“ผมชื่อเบิร์กครับ”