บทที่ 16 : หมาป่าเดี่ยวดาย (4)
บทที่ 16 : หมาป่าเดี่ยวดาย (4)
วันรุ่งขึ้นเนอร์ก็เริ่มดูแลตัวเองมากกว่าเดิม
เธอล้างหน้าและเช็ดคราบน้ำตา เธอทำความสะอาดร่างกายของเธออย่างพิถีพิถัน
และเธอยังแปรงหางของเธอ ทำให้แห้งด้วยความระมัดระวัง
เธอกำลังเตรียมงานแต่งงานของเธอทีละขั้นตอน
เธอไม่ได้ออกไปข้างนอกโดยไม่จำเป็น
ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเรื่องมนุษย์ที่เป็นสมาชิกของเปลวเพลิงสีชาต และส่วนหนึ่งเป็นเพราะเธอกลัวที่จะพบกับ 'เบิร์ก'
เธอต้องการหลีกเลี่ยงเขาให้มากที่สุด
เนอร์ใช้เวลาช่วงบ่ายในการให้สาวใช้เข้านวดตัว
เป็นขั้นตอนการเตรียมการเพื่อลดอาการบวมตามร่างกายและทำให้เธอสวยยิ่งขึ้น
ทว่าเธอตัวซูบและอ่อนแรงมาก เพราะไม่ได้กินอะไรเมื่อเร็วๆ นี้เลย
ระหว่างที่ทำเช่นนั้นเนอร์ได้สนทนากับไลลาสาวใช้ของเธอที่ดูแลเธออย่างดี
“ไม่เจ็บใช่ไหมคะ?”
"…ใช่ทำไมเหรอ มีอะไรหรือเปล่า?"
“ก็… ไม่ ไม่มีอะไรค่ะ”
“…”
มันเป็นเรื่องธรรมดาเลยที่เนอร์จะรู้สึกว่าไลลากำลังระมัดระวังคำพูดของตัวเธอเอง
แต่เมื่อตระหนักได้ว่าตัวเธอเป็นคนที่อ่อนไหวเพียงใดจนทำให้เสียน้ำตามาหลายวันแล้ว มันก็ย่อมเป็นเรื่องเข้าใจได้ที่ไลลาจะระมัดระวังคำพูดถึงเพียงนี้
แม้ว่าเนอร์ยังคงไม่สามารถสลัดความรู้สึกเศร้าหมองของเธอออกไปได้ แต่เธอก็หวังว่าไลลาผู้เป็นห่วงเธอจะไม่รู้สึกอึดอัดเกินไป
“…ไลลา ถ้ามีอะไรอยากจะพูดก็บอกฉันได้นะ”
“…”
“ตอนนี้ฉันก็พร้อมแล้วเหมือนกัน”
ไลลากระพริบตาและกลืนน้ำลายของเธอ
จากนั้นเธอก็เผยสีหน้าสดใส เธอเปลี่ยนบรรยากาศอย่างสนุกสนานเพื่อให้กำลังใจเนอร์และจิ้มร่างกายของเธอเล่น
“ท่านเนอร์! เมื่อวันก่อนท่านอาจไม่สามารถพบท่านเบิร์กได้เพราะป่วย แต่เขาหล่อจริงๆ นะคะ!”
เนอร์ไม่คิดหรอกว่ารูปลักษณ์ภายนอกเป็นสิ่งสำคัญ
ในฐานะสมาชิกของเผ่าพันธุ์มนุษย์หมาป่า ตัวเธอเองมีสีหางที่ไม่น่าประทับใจนัก ดังนั้นเธอจึงไม่เคยตัดสินคนอื่นจากรูปลักษณ์ของพวกเขา
อย่างไรก็ตาม เมื่อเธอเข้าใจเจตนาของไลลา เนอร์ก็พยายามรวบรวมรอยยิ้ม แม้ว่าจะไม่เต็มใจก็ตาม
"…งั้นเหรอ?"
"ใช่ค่ะ! เขาสูงและเขาก็หุ่นดีอีกด้วย!”
“…เป็นเช่นนั้นเหรอ?”
“และก็…และก็…”
ไม่นานเนอร์ก็หยุดฟังคำพูดของไลลา
เธอกำลังคิดว่าเธอจะอดทนไปอีกหลายปีได้อย่างไร
เธอควรทำยังไง เธอจะอยู่รอดด้วยความอัปยศน้อยที่สุดได้อย่างไร?
มันเป็นงานที่ยากมาก
ในการจะหาข้อมูลที่สำคัญของเปลวเพลิงสีชาต เธอคงต้องเข้าใกล้ชิดมาก แต่เธอไม่รู้เลยว่าจะรักษาระยะห่างนั้นได้ยังไง
เนอร์มองไปที่ไลลาที่กำลังพูดถึงเบิร์ก และคำขอบางอย่างก็เข้ามาในใจเธอ
"…นี่"
“…คะท่านเนอร์?”
เนอร์ที่กำลังรับการนวดอยู่นั้น ค่อยๆ ยืดร่างกายส่วนบนขึ้นและลุกขึ้นจากที่นั่ง
“…ไลลา ฉันมีเรื่องอยากจะถามหน่อย”
เมื่อมองเนอร์แบบนั้น ไลลาก็รู้สึกกระตือรือร้นขึ้นมาทันที
"อา…! ด-ได้เลยค่ะ! ไม่ว่าจะอะไรก็ถามมาได้เลยค่ะ!"
ท่าทางของเธอดูน่ารักยิ่ง
“ถ้างั้น…เธอพอจะรวบรวมข้อมูลของคนที่ชื่อเบิร์กได้เปล่า? ถามสมาชิกคนอื่นในเผ่าดู…ฉันอยากรู้ว่าปกติเขาจะเป็นคนยังไง”
“…”
“ไลลา ค้นหาข้อมูลทุกอย่างตั้งแต่พฤติกรรมปกติของเขา รวมถึงด้านที่ไม่ดีของเขาด้วย ช่วยหน่อยนะ”
“…ท่านเนอร์…”
“เพราะว่าฉันต้องเตรียมจิตใจ…”
ถ้าจะต้องแต่งงาน เนอร์อยากรู้ว่าเบิร์กคือใคร เป็นคนแบบไหน
บางทีเธออาจจะหาวิธีใช้เขาได้
หากเธอรู้ถึงนิสัยธรรมชาติที่แท้จริงของเขาล่วงหน้า เธอก็จะเจ็บปวดน้อยลงเมื่อมันมีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้น
บางทีเธอคงจะปวดใจน้อยลง
การรู้ล่วงหน้า ย่อมเสริมสร้างการป้องกันทางอารมณ์ของเธอ
ไลลามองไปที่เนอร์แล้วพยักหน้า
"…ได้ ได้แน่นอนค่ะ ท่านเนอร์”
“ทำทันทีเลยนะ เธอทำได้ไหม?”
"ได้ค่ะ ฉันจะมารายงานในช่วงเย็น”
เนอร์พยักหน้าและเอนตัวลง
มือของสาวใช้ยกเว้นไลลา ค่อยๆ กลับมานวดต่อที่เนอร์อีกครั้ง
“…ท่านเนอร์?”
ขณะที่เนอร์ให้เหล่าสาวใช้นวดอยู่นั้น เสียงของไลลาก็ดังขึ้น
"…อืม?"
“อืม… ฉันขอโทษและ…ขอบคุณ สำหรับทุกอย่างนะคะ”
พอพูดเสร็จ ไลลาก็ออกจากห้องไป
เนอร์เข้าใจทันทีว่าทำไมไลลาจึงแสดงความขอบคุณและขอโทษ
เพราะว่าสมาชิกทุกคนของชนเผ่ามนุษย์หมาป่าภายในดินแดนของตระกูลแบล็ควูดล้วนเป็นหนี้เนอร์ มีตัวเธอแค่คนเดียวที่ต้องเสียสละให้กลุ่มทหารรับจ้างกลุ่มนี้
****
พี่อดัมและฉันออกไปนอกอาณาเขตของแบล็ควูดเพื่อตรวจสอบร่องรอยที่ทีมลาดตระเวนค้นพบ
“…มันร้ายแรงมาก”
เมื่อมองไปที่ป่าที่ได้รับความเสียหาย พี่อดัมก็บ่นพึมพำ
ฉันมีความคิดเห็นแบบเดียวกัน
ต้นไม้หักและงอ ที่ดินเสื่อมโทรม และส่งกลิ่นเหม็น…
อาณาเขตที่ถูกทำลายล้างมีปริมาณมหาศาล สภาพหนักกว่าที่อื่นๆ ที่เราเคยเห็นมาเมื่อเร็วๆ นี้
ต้นไม้ไม่เพียงแค่หักและล้มลงเท่านั้น พวกมันถูกบดขยี้และฝังลึกลงไปในดิน
มันไม่ได้เป็นเพียงความหายนะ มันเหมือนมีบางสิ่งกำลังอาละวาดในป่า
ขนาดอันใหญ่โตของผู้นำสัตว์ประหลาดที่เราต้องเผชิญสามารถเห็นได้จากร่องรอยที่มันโจมตี
ตามที่คาดไว้ จำนวนผู้นำสัตว์ประหลาดไม่ใช่แค่หนึ่งหรือสองตัว
อย่างน้อยที่สุดเราอาจต้องเผชิญหน้าอย่างน้อยสี่ตัว ซึ่งหมายถึงการเผชิญหน้ากับสัตว์ประหลาดสี่กลุ่ม
บางครั้งเมื่อฉันพักผ่อนในคฤหาสน์ตระกูลแบล็ควูด ฉันก็ได้ยินเสียงร้องของผู้นำสัตว์ประหลาดจากที่ไกลๆ
แม้แต่สมาชิกหน่วยลาดตระเวนของเปลวเพลิงสีชาตที่เคยจัดการสัตว์ประหลาดมามากมายก็ต้องประหลาดใจกับขนาดของมัน พวกเขาบอกว่าไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อนเลย
การต่อสู้อันดุเดือดรอเราอยู่
ขณะที่เราค้นหาทุกอย่าง กิดอน แบล็ควูด ลูกชายคนโตของตระกูลแบล็ควูดก็เข้ามาหาพี่อดัมกับฉัน
“…นี่เป็นเพียงการโหมโรงเท่านั้น…”
"ไม่ต้องกังวล เราจะฆ่าพวกมันทั้งหมดเอง” พี่อดัมตอบและเตะหินที่กลิ้งลงบนพื้น
"ผมเชื่อพวกคุณ…ว่าแต่รองกัปตันจะร่วมต่อสู้ครั้งนี้หรือเปล่า?”
กิดอนถามขณะมองมาทางฉัน
ซึ่งในทำนองเดียวกัน บารอนที่ติดตามเราอยู่ก็เริ่มรู้สึกสนใจเรื่องนี้
“ถึงมันอาจจะไม่ใช่ปัญหา แต่หากว่าที่เจ้าบ่าวได้รับบาดเจ็บ…”
“ผมซาบซึ้งที่คุณกังวลใจเรื่องนี้ แต่ผมจะไม่ถอนตัวจากการต่อสู้ เพราะผมต้องเป็นผู้นำกลุ่มของผม”
ฉันตอบกิดอนไป
ความประหลาดใจเล็กน้อยปรากฏขึ้นมาในดวงตาของกิดอนขณะมองมาที่ฉัน
“…กล้าหาญมาก ด้วยเกียรติเช่นนี้ น้องสาวของฉันย่อมยินดีที่จะแต่งงานกับนาย”
แท้จริงแล้วมนุษย์หมาป่าเป็นเผ่าพันธุ์ที่เคารพในเกียรติยศและการต่อสู้
อันที่จริงคำถามก่อนหน้าของเขาก็มีจุดประสงค์เพื่อทดสอบฉันกระมัง
ถ้าฉันพูดออกไปว่าจะหลีกเลี่ยงการต่อสู้ ฉันอาจถูกดูถูกไปแล้ว
ซึ่งมันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร แต่กิดอนมองมาที่ฉันและจู่ๆ กลับยื่นข้อเสนอออกมาด้วยความกระตือรือร้น
“…จะเป็นไรไหมถ้าฉันจะมีส่วนร่วมในการต่อสู้ครั้งนี้ด้วย?”
"ขอโทษที ว่าไงนะ?" พี่อดัมถามพร้อมกับเอียงหัว
“เพราะมีว่าที่เจ้าบ่าวคนใหม่เข้าร่วมด้วย ฉันก็ไม่สามารถนั่งเฉยๆ ได้หรอก ฉันจะทุ่มตัวเองเพื่อปกป้องดินแดนของตระกูลเราด้วย อันที่จริงในช่วงเจ็ดปีที่ผ่านมา ฉันฆ่าผู้นำสัตว์ประหลาดไปหลายคนด้วยตัวเอง ตอนนี้เรากำลังขาดแคลนทหาร ดังนั้นเราจึงขอความช่วยเหลือจากวพกนาย”
กิดอนยืดอกของเขาอย่างภาคภูมิใจ
ฉันได้แต่ลอบถอนหายใจเบาๆ
ไม่ใช่เพราะฉันไม่ชอบข้อเสนอของเขาเป็นพิเศษ…ทว่าที่เขาทำเช่นนี้มันเป็นเพราะความปรารถนาของมนุษย์หมาป่าที่จะได้รับเกียรติและคำชื่นชมในการต่อสู้ต่างหาก
ฉันเคยเห็นมนุษย์หมาป่าที่ตายแบบนั้นในกลุ่มทหารรับจ้างก่อนหน้านี้
หากบังเอิญกิดอนเข้าร่วมกับเราในการต่อสู้และจบลงด้วยการตาย…ฉันแน่ใจว่าเราจะต้องเข้าไปพัวพันกับเรื่องยุ่งยากที่ฉันไม่อยากจินตนาการเลย
บางทีพี่อดัมอาจมีความรู้สึกแบบเดียวกับฉัน เขาจึงส่ายหัวตอบไป
“ไม่เป็นไรครับ เรานำเปลวเพลิงสีชาตทั้งหมดมาที่นี่ตั้งแต่แรกก็เพื่อจุดประสงค์เดียว ดังนั้นอย่าห่วงไปเลย คุณกิดอนพักผ่อนเถอะครับ”
อย่างไรก็ตาม กิดอนเองกลับไม่เข้าใจ
“อดัม ความแข็งแกร่งของตระกูลแบล็ควูดจะช่วยคุณได้มากเลยนะ”
พี่อดัมมองกลับมาที่ฉันครู่หนึ่ง
ฉันไม่ได้สนใจเขาเลย
มันเป็นความตั้งใจของฉันที่จะปล่อยให้ทุกอย่างขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของพี่อดัม
กิดอนมองไปที่พี่อดัมอย่างลังเลและถาม
“ว่าแต่จัดการผู้นำสัตว์ประหลาดมากี่ตัวแล้วล่ะ คุณอดัม?”
พี่อดัมเงียบไปสักพักก่อนจะตอบด้วยเสียงถอนหายใจ
“…14”
พี่อดัมสังหารผู้นำสัตว์ประหลาดเพียง 14 คนด้วยตัวคนเดียว มันไม่ใช่ตัวเลขที่ต่ำเลย
แม้จะอยู่ในกลุ่มทหารรับจ้างมาเป็นเวลานาน แต่ก็มีสมาชิกจำนวนมากที่ไม่เคยปราบปรามผู้นำสัตว์ประหลาดได้แม้แต่ครั้งเดียว
“สถิติของกัปตันน่าประทับใจ แต่…ฉันฆ่าได้ 26”
อดัมรู้สึกชื่นชมผลงานของกิดอนมาก
"…ผมประหลาดใจจริงๆ ผมไม่ได้คิดเลยว่าคุณจะปราบผู้นำสัตว์ประหลาดได้มากมายขนาดนั้น… ดูเหมือนว่าดินแดนของตระกูลแบล็ควูดได้รับความเดือดร้อนจากการโจมตีของสัตว์ประหลาดค่อนข้างมากเลยสินะครับ”
“ฮ่าฮ่า…เราพยายามอย่างเต็มที่เท่าที่จะทำได้ มันก็ปกติอยู่แล้วที่ไม่ได้มีเพียงแค่ทหารรับจ้างเท่านั้นที่รู้วิธีจัดการผู้นำสัตว์ประหลาด”
พี่อดัมค่อยๆ ลูบคางของเขา
หลังจากได้ยินสถิติการจัดการนผู้นำสัตว์ประหลาดของกิดอน ความรู้สึกโล่งใจปรากฏออกมาอย่างชัดเจน
การที่เขาพูดเช่นนี้ ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้พยายามอวดเบ่ง
ยิ่งกว่านั้น ถ้าเขาจับได้มากมายขนาดนั้น การมีเขาไปด้วยก็คงจะไม่แย่
26 ตัวไม่ใช่ตัวเลขที่สามารถทำได้ด้วยการพึ่งพาโชคเพียงอย่างเดียวอย่างแน่นอน
แต่พี่อดัมก็ยังปฏิเสธอย่างแน่วแน่
เพราะเขายังคงระมัดระวังตัว
“คุณต้องเข้าใจจุดยืนของเราด้วย ถ้าคุณออกไปด้วยและ...ก็... ถ้าคุณตาย สถานการณ์ของเราคงจะค่อนข้างยากลำบากมาก”
“สำหรับพวกเรามนุษย์หมาป่า การตายในสนามรบถือเป็นเรื่องที่น่ายกย่อง ไม่ต้องกังวล ตระกูลแบล็ควูดจะไม่ให้คุณต้องรับผิดชอบเรื่องนั้น”
“…ตราบใดที่คุณเข้าร่วมกลุ่มทหารรับจ้างของเรา คุณต้องปฏิบัติตามกฎของเรา ถ้าอย่างนั้นคุณสามารถเชื่อฟังคำสั่งได้หรือเปล่า?”
"ฉันเข้าใจ ฉันจะทำตามคำสั่งอย่างแน่นอน และฉันจะไม่สร้างปัญหาใดๆ ด้วย”
ขณะที่กิดอนพยักหน้ากับคำขอทั้งหมด พี่อดัมก็ได้ตัดสินใจแล้ว
"ใช้ได้ งั้นก็ไปด้วยกัน"
กิดอนเองก็ยิ้มออกมาอย่างเย็นชา
“กล่าวด้วยความสัตย์จริง…ฉันแค่ปรารถนาที่จะล้างแค้นให้กับทหารที่เสียชีวิตด้วยน้ำมือของสัตว์ประหลาดเหล่านั้น…”
เมื่อได้ยินคำพูดที่ตรงไปตรงมาของเขา พี่อดัมจึงตอบด้วยน้ำเสียงที่ผ่อนคลายมากขึ้น
"ผมเข้าใจแล้วครับ"
เราลาดตระเวนเสร็จแล้วก็กลับไป
ในไม่ช้าเวลาอาหารค่ำกับเนอร์ แบล็ควูดก็ถูกกำหนดไว้
ขณะที่ฉันกำลังเตรียมจะกลับเช่นนั้น จู่ๆ ก็มีคำถามดังมาจากด้านหลัง
“เอ่อ รองกัปตัน”
เป็นเสียงของกิดอน
“รองกัปตัน แล้วสถิติการจัดการพวกผู้นำสัตว์ประหลาดของคุณคือกี่ตัว?”
รู้สึกเหมือนถูกหาเรื่องเลยแฮะ
ทว่าดูเหมือนจะไม่มีเจตนาร้าย แต่ความตั้งใจของเขาค่อนข้างชัดเจน
“…”
พี่อดัมได้เพียงแต่กลอกตาแล้วมองมาที่ฉัน
บารอนเองก็ยังมองฉันจากด้านข้างอีกด้วย
ความเงียบปกคลุมไปทั่วบริเวณ
หลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง ฉันก็ตอบไป
“…ผมเหรอ? ประมาณ 20 เองกระมัง”
กิดอนเลิกคิ้วแล้วพูดว่า
“นั่นมันช่างน่าประทับใจจริงๆ”
อย่างไรก็ตาม เขาไม่สามารถซ่อนรอยยิ้มบนริมฝีปากของเขาได้เลย
ก็เหมือนกับที่คิดไว้ไม่มีผิด มนุษย์หมาป่าทุกตนล้วนมีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะได้รับเกียรติและความชื่นชมในการต่อสู้
จากนั้นเราก็ได้ออกไป
กิดอนกลับไปหาทหารมนุษย์หมาป่าของเขา
ทุกคนกลับไปยังตำแหน่งของตนและเริ่มกลับไปยังคฤหาสน์ตระกูลแบล็ควูด
ขณะที่เราเดินกันอย่างเงียบๆ พี่อดัมก็แตะไหล่ฉันอย่างแผ่วเบาแล้วหัวเราะ
“กลั้นใจไว้ได้เก่งมากเลยนะ”
บารอนยิ้มออกมาเช่นกัน
“รองกัปตันน่าจะเพิ่มจำนวนไปอีกหน่อยนะครับ”
ฉันเองก็อดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้เหมือนกัน
"เอาน่า ก็เราต้องคิดถึงความรู้สึกของมนุษย์หมาป่าพวกนั้นด้วยสิ”