ตอนที่แล้วบทที่ 8 สัญชาตญาณเป็นกลลวง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 10 ผู้แทนพระองค์ ได้โปรด

บทที่ 9 ผู้แทนพระองค์


บทที่ 9

ผู้แทนพระองค์

นางสำรวจมองรอบด้าน เป็นสวนแห่งหนึ่ง เพาะปลูกดอกไม้ไว้มากมาย ขณะนี้เป็นฤดูใบไม้ร่วง ในสวนมีดอกเบญจมาศมากมาย นางครุ่นคิดว่าควรสอบถามทางจากผู้อื่น ทันใดนี้เองที่เสียงบุรุษไร้อารมณ์ดังขึ้น “ผู้ใดให้เจ้าเข้ามาที่นี่?”

น้ำเสียงนี้ ช่างคุ้นหู

ชั่วขณะนางตระหนักทราบถึงเจ้าของเสียงนี้ นางเร่งรีบวิ่งเข้าหาเซียวเยี่ยน ผู้ที่เพิ่งกลับจากการชำระกาย กลิ่นหอมปรากฏ เส้นผมเปียกชุ่มถูกมัดเอาไว้ สวมใส่ชุดคลุมสีน้ำเงินตราราชวงศ์ เรือนร่างอันยั่วยวนเกินต้านทาน หลิงอวี่จื้อร้องพล่ามอยู่ในใจ ถึงความงดงามอันเป็นเอกลักษณ์หาได้มีผู้ใดเหมือน

นางเผยยิ้มกระจ่างให้เซียวเยี่ยน “ผู้แทนพระองค์ ขอประทานอภัย ข้าหลงทาง”

“แล้วคุณหนูใหญ่มาพบเปิ่นหวางทำอะไรที่นี่?”

*เปิ่นหวาง เป็นคำเรียกหาตนเองของผู้มีบรรดาศักดิ์อ๋องหรือราชา*

เซียวเยี่ยนยังคงเฉยชา รวมถึงท่าทีห่างเหิน

“ท่านพี่ต้องการเข้าพบผู้แทนพระองค์ ข้าจึงร่วมทางมาพบ แต่แล้วขณะเร่งรีบ กลายเป็นหลงทางมาที่นี่ ผู้แทนพระองค์ ข้าไม่ได้มีเจตนาเข้ามายังที่ส่วนตัวของท่าน”

หลิงอวี่จื้อก้มศีรษะงุด แสดงท่าทีอันไร้เดียงสา รวมกับหน้าน่ารักน่าชัง พร้อมด้วยสีหน้าท่าทาง นางเชื่อว่าเซียวเยี่ยนย่อมไม่อาจทนดุว่านางเพิ่มเติม

นับว่าน่าเสียดายที่เซียวเยี่ยนไม่คล้อยตาม

“สตรีไม่ควรเพ่นพ่าน คุณหนูใหญ่ไม่ทราบเลยงั้นหรือ? ที่คฤหาสน์อัครมหาเสนาบดีไม่ได้สั่งสอนหรือไร?”

หากว่าเป็นผู้อื่น เซียวเยี่ยนกล่าวถ้อยคำเหล่านี้ออกมาด้วยสีหน้าขึงขัง ผู้นั้นคงคุกเข่าลงด้วยความหวาดเกรง ทว่าสำหรับหลิงอวี่จื้อผู้อยู่ในวงการมายานับได้ว่าเป็นเรื่องอันเล็กน้อย นางหาได้หวาดเกรงเซียวเยี่ยนไม่

นางส่ายศีรษะไปมา “ข้าเคยไร้ปัญญา เพิ่งหายดีได้เพียงไม่กี่วัน ที่คฤหาสน์จึงไม่มีเวลาได้สั่งสอน ข้าน้อยจึงเป็นมนุษย์ บุรุษออกมาจากรังไข่ของสตรี  เหตุใดข้าจึงไม่อาจพบเจอผู้อื่น?”

เพียงคำถามจากเด็กสาวตรงหน้าเซียวเยี่ยนถึงกับพูดกล่าวตอบไม่เป็น ดวงตาของนางใสซื่อ ประหนึ่งไม่อาจเข้าใจต่อคำถามดังกล่าว ยามนึกคิดว่านางเคยไร้ซึ่งปัญญา เซียวเยี่ยนจึงคร้านโต้เถียง สตรีเช่นนี้จึงแตกต่างไปจากสตรีผู้อื่น

“เช่นนั้นมากับเปิ่นหวาง”

เซียวเยี่ยนคร้านจะกล่าวคำใดต่อหลิงอวี่จื้อ ฝีเท้านั้นเดินมุ่งตรง หลิงอวี่จื้อเร่งร้อนตามติด ตราบเท่าที่ทำให้นางได้รับดอกบัวหิมะพันปี นางสัญญากับตนเองว่าจะไม่มายุ่งกับอีกฝ่าย

หลิงจื่อเชิ่งที่รอคอยอย่างร้อนรนภายในห้องโถงใหญ่ ขณะพบเห็นเซียวเยี่ยนและหลิงอวี่จื้อมาพร้อมกัน เขาจึงโล่งใจ อย่างน้อยนางก็กลับมาแล้ว หากไม่เขาคงร้อนใจจนตายตก

“จื่อเชิ่ง ให้เจ้ารอนานแล้ว”

“ข้าไม่ได้มาเสียนาน ทั้งยังมาโดยไม่ได้รับเชิญ หวังว่าผู้แทนพระองค์จะอภัยให้” หลิงจื่อเชิ่งเร่งรีบตอบรับ พร้อมลุกขึ้นแสดงความเคารพ

เซียวเยี่ยนพยักหน้ารับ โบกมือกล่าวบอกให้ทั้งสองนั่งลง ก่อนจะกล่าวคำ “จื่อเชิ่งมาพบถึงที่นี่มีเรื่องราวอันใดหรือ?”

หลิงจื่อเชิ่งเกิดกระดากใจ “คือ...”

การคิดถ้อยคำก่อนจึงกล่าว พบเห็นหลิงจื่อเชิ่งตะกุกตะกักไป หลิงอวี่จื้อจึงเอ่ยคำขึ้น “ผู้แทนพระองค์ ท่านพี่มาวันนี้ก็เพราะเรื่องของข้า ตัวข้าถูกพิษเล่นงาน ได้ทราบมาว่าวังผู้แทนพระองค์มีดอกบัวหิมะพันปี

“คุณหนูใหญ่ถูกพิษเล่นงานแล้วเกี่ยวข้องใดกับ            เปิ่นหวาง?”

เซียวเยี่ยนถามกลับ

“ผู้แทนพระองค์ พวกเราอับจนหนทางแล้ว ดังนั้นจึงมาเยือนเพื่อขอความช่วยเหลือ ผู้แทนพระองค์พอจะช่วยอวี่จื้อได้หรือไม่ หากว่าผู้แทนพระองค์ยินดี ข้ายินดีทำทุกสิ่งอย่างตอบแทน”

หลิงจื่อเชิ่งมองยังเซียวเยี่ยนด้วยสายตาจริงจัง

“จื่อเชิ่ง ไม่ใช่เปิ่นหวางไม่อยากช่วย ดอกบัวหิมะนั้น   เปิ่นหวางคิดนำไปใช้ทางอื่น”

เซียวเยี่ยนยังคงไม่ไหวติง ปฏิเสธคำขอของหลิงจื่อเชิ่ง

หลิงอวี่จื้อส่ายศีรษะ ผู้แทนพระองค์รับมือด้วยยาก     นางทราบดีว่าการขอร้องย่อมไม่ได้ผล พี่ชายแสนดีของนางไร้เล่ห์เหลี่ยม นับเป็นโชคดีที่นางเตรียมพร้อมมาก่อนแล้ว