บทที่ 56 ประกาศสงครามกับแดนมังกร
บทที่ 56 ประกาศสงครามกับแดนมังกร
หลังจากที่เห็นประโยคนี้ในกล่องแชท ตัวแทนจากทั่วทุกมุมโลก ก็เริ่มฉุกคิดได้
จริงด้วย!
ในสายตาของพวกเขา ชูเฟิงเหมือนภูเขาลูกใหญ่เสมอมา!
มันยิ่งใหญ่ ยิ่งใหญ่ซะจนพวกเขารู้สึกว่าทั้งชีวิตนี้คงไม่อาจก้าวข้าม!
มันจึงยากที่จะจินตนาการ ว่าบุคคลเช่นนี้ จะมีวันตกต่ำ!
อย่างไรก็ตาม ต้องบอกเลยว่าสถิติของชูเฟิงในหอคอยบาเบล ของชูเฟิงเป็นเรื่องไม่น่าเชื่อมากจริงๆ
ไม่เพียงแต่ล้าหลัง แต่อัตราเร็วในการผ่านด่านยังเชื่องช้ามาก!
มันทำให้พวกเขาอดสงสัยไม่ได้ ว่าเกิดอะไรขึ้นกับชูเฟิงตัวแทนจากแดนมังกรกันแน่?
“พวกนายว่า ... ที่เขาทำผลงานได้ไม่ดี เป็นเพราะได้รับบาดเจ็บรึเปล่า?”
“การคาดเดาของนายค่อนข้างน่าสนใจ ตามหลักเหตุผลแล้ว ตัวแทนแดนมังกรคนนี้ จะดีจะร้าย เขาไม่น่าติดแหง็กอยู่ที่ชั้นสิบกว่าๆ”
“แต่ถ้าเขาได้รับบาดเจ็บจริงๆ แสดงว่าสัตว์ประหลาดที่ทำร้ายเขา อย่างน้อยต้องอยู่ในระดับ A ขึ้นไปถูกไหม?”
“เหอ เหอ สมรภูมิแห่งโชคชะตาคือที่ๆเต็มไปด้วยอันตราย ใครจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขา”
“ถูกต้อง ภายในสมรภูมิแห่งโชคชะตา ทุกที่คือโอกาส และคืออันตรายเช่นกัน ตราบใดที่มีโชคและแข็งแกร่ง ก็สามารถแซงหน้าคนอื่นๆได้!”
ระหว่างที่ตัวแทนกำลังคุยกันเรื่องนี้ เสียงของคุโรคาวะ จินโซจู่ๆ ก็ดังขึ้น
“ไม่ว่าตัวแทนแดนมังกรจะได้รับบาดเจ็บหรือไม่ก็ตาม ฉันก็จะก้าวข้ามเขา”
“ชูเฟิง ตั้งใจฟังให้ดี ถ้านายได้ยินฉัน จงรู้ไว้ว่าฉันคุโรคาวะ จินโซขอท้าประลองกับนาย!”
“รู้ไว้ซะว่าที่นี่คือสมรภูมิแห่งโชคชะตา!”
“นั่นหมายความว่าพวกเราคือตัวแทนของชาติ!”
“ดังนั้น การประลองระหว่างนายกับฉัน ก็ถือเป็นสงครามระหว่างแดนปลาดิบกับแดนมังกร!”
“หรือง่ายๆ นี่คือการประลองเพื่อประเทศชาติ!”
คุโรคาวะ จินโซสูดหายใจเข้าลึกๆ พูดด้วยน้ำเสียงทุ้ม “ฉะนั้น ฉันหวังว่านายจะกล้าแบกรับความรับผิดชอบนี้ไว้อย่างลูกผู้ชาย แล้วยอมรับคำท้าทายของฉัน!”
“ถ้านายขี้ขลาดกล้าปฏิเสธการท้าทาย ถ้าอย่างนั้นฉันจะประกาศสงครามกับแดนมังกร!!”
“นี่หมายความว่า จากนี้ไป ภายในสมรภูมิแห่งโชคชะตา แดนปลาดิบและแดนมังกร จะเข้าสู่สภาวะเป็นศัตรูอย่างเป็นทางการ!!”
ได้ยินประโยคเหล่านี้จากปากคุโรคาวะ จินโซ ตัวแทนจากทุกประเทศที่เข้าร่วมในสมรภูมิ ต่างพากันสูดหายใจเย็นเยียบ
ชัดเจนว่าพวกเขานึกไม่ถึง ว่าคุโรคาวะ จินโซ จะตัดสินใจอย่างเด็ดขาดแล้วใช้วิธีบ้าๆ บอๆ แบบนี้ท้าทายชูเฟิง!!
หากชูเฟิงไม่ยอมรับการท้าทาย เขาก็จะประกาศสงครามกับแดนมังกรตรงๆ!!
วิธีการของคุโรคาวะ จินโซ พูดได้ว่าแทบไม่เหลือทางถอยให้ชูเฟิง
อย่างไรก็ตาม ในสายตาของตัวแทนเหล่านี้ คุโรคาวะ จินโซในวันนี้ มีทุนพอที่จะท้าทายชูเฟิงจริงๆ!!
เพราะถึงอย่างไร ตัวจินโซในตอนนี้ เขาอยู่อันดับหนึ่งของกระดานจัดอันดับ!
จำนวนชั้นที่ผ่าน มากถึง 37 ชั้น!!
ขณะที่ตัวแทนส่วนใหญ่ยังวนเวียนอยู่ที่ชั้น10 หรือ 20 เท่านั้นเอง
สามารถจินตนาการได้ว่า พลังรบของจินโซในตอนนี้ แข็งแกร่งขนาดไหน!!
มันไม่ใช่เรื่องเกินจริงเลยที่จะพูดว่า คุโรคาวะ จินโซ คนปัจจุบัน ในสายตาของเหล่าตัวแทน เขาก็เป็นบุคคลที่ยิ่งใหญ่ดั่งขุนเขาเช่นกัน!
และในวันนี้ คุโรคาวะ จินโซท้าดวลชูเฟิง
นี่หมายความว่า ระหว่างเทพองค์ใหม่กับเทพองค์เก่า ในที่สุดก็เกิดการต่อสู้กัน!!
ชั่วขณะนี้ ตัวแทนที่เข้าร่วมสมรภูมิ ต่างรอคอยคำตอบของชูเฟิงอย่างเงียบๆ
พวกเขาต้องการที่จะรู้ ว่าชูเฟิงจะเลือกรับการท้าทายจากคุโรคาวะ จินโซหรือไม่
แล้วถ้าตอบรับ ด้วยพลังของชูเฟิงในปัจจุบัน จะสามารถรับมือกับคุโรคาวะ จินโซะ ที่กำลังมาแรงได้จริงหรือ?
แล้วถ้าปฏิเสธ ไม่เพียงแต่ชูเฟิงจะถูกตราหน้าว่าเป็นคนขี้ขลาด แต่กระทั่งแดนมังกร ยามเมื่ออยู่ต่อหน้าแดนปลาดิบ ก็จะไม่อาจเงยหัวขึ้นได้เช่นกัน!
คุโรคาวะ จินโซพูดถูก นี่คือสมรภูมิแห่งโชคชะตา และยังเป็นการต่อสู้เพื่อประเทศชาติอีกด้วย!
ทุกการเคลื่อนไหวในสมรภูมิ ล้วนเกี่ยวข้องกับทิศทางของประเทศ!
อย่างไรก็ตาม เวลาผ่านไปวินาทีแล้ววินาทีเล่า ชูเฟิงยังไม่ออกมาตอบโต้
อเล็กซ์หัวเราะเยาะ “ไม่ต้องรอแล้ว เขาไม่ตอบนายหรอก”
“ดูจำนวนชั้นที่น่าสมเพชนั่นสิ แค่นี้ก็บอกได้แล้วว่าเขาอ่อนแอแค่ไหน”
“แล้วคนแบบนี้ นายยังหวังให้เขายอมรับคำท้าทายอีกเรอะ?”
ปาร์ค ซึงยอล ตัวแทนจากแดนโสมก็ผสมโรงเช่นกัน “ชูเฟิงช่วยพูดอะไรหน่อยสิ หรือพวกแดนมังกรมีแต่คนขี้ขลาด?”
“ไม่ต้องพูดถึงเรื่องรับคำท้า แค่จะออกมาพูดอะไรซักอย่างเขายังไม่กล้าด้วยซ้ำ”
“ไม่เข้าใจจริงๆ ทำไมการบุกทั้งสองระลอกของสัตว์ประหลาด เขาถึงได้ระดับ S!”
พอได้ยินแบบนั้น วิลเลียมจากเมืองผู้ดีก็เอ่ยเสียงราบเรียบว่า “มีสำนวนที่ว่าคนล้มอย่าข้าม ไม่แน่ใจพวกนายเคยได้ยินกันไหม”
“ที่อยากจะบอกก็คือ ... เวลาคนล้มอย่าไปซ้ำ นั่นไม่ใช่การกระทําของสุภาพบุรุษ”
แม้แต่อีวานอฟก็อดพูดไม่ได้ “ใช่แล้วบางทีเขาอาจจะแค่ได้รับบาดเจ็บ”
“รอจนหายจากอาการบาดเจ็บ พลังรบเขาก็ต้องฟื้นตัวกลับมาเป็นปกติ”
“บอกตามตรงนะ ฉันล่ะดูแคลนพวกนายจริงๆ”
“ตอนชูเฟิงได้รับการประเมินระดับ S ไม่เห็นมีซักคนกล้าแม้แต่ผายลม”
“ตอนนี้พอเก่งเข้าหน่อย แล้วเห็นคนอื่นอ่อนแอลง ก็กรูกันเข้ามาซ้ำเหมือนฝูงหมาบ้า!”
หลังจากถูกอีวานอฟด่าด้วยคำพูดนี้ ตัวแทนจากแดนโสมก็โกรธขึ้นมาทันที “อีวานอฟ แกด่าใครว่าหมาบ้า?”
“รอฉันก่อนเถอะ นับแต่นี้ไป แดนโสมของฉันกับแดนหมีขาวของแกขอไม่อยู่ร่วมโลกกัน!”
อีวานอฟเยาะเย้ย “บอกให้รอใช่ไหม? แล้วฉันจะรอวันนั้น!”
“อยากเห็นเหมือนกัน ว่าถึงตอนนั้นแกจะทำอะไรได้!”
วิลเลียมเอ่ยอย่างช่วยไม่ได้ “ฉันแนะนำให้พวกนายหยุดพล่าม ชูเฟิงยังไม่ทันพูดอะไร พวกนายก็เถียงกันจะเป็นจะตายแล้ว”
อเล็กซ์พูดอย่างเหยียดหยาม “ช่างเหอะ! ที่แน่ๆแค่นี้ก็รู้แล้วว่าเจ้าชูเฟิงมันเป็นแค่คนขี้ขลาด!”
“คุโรคาวะ จินโซ ไม่ต้องรอแล้ว เขาไม่มีทางยอมรับคำท้าของนายหรอก!”
คุโรคาวะ จินโซพูดด้วยสีหน้าอึมครึม “ถ้าอย่างนั้น ... ก็อย่าตำหนิฉันที่ประกาศสงครามกับแดนมังกร!”