บทที่ 45 นับวันแม่บังเกิดเกล้ายิ่งดูเหมือนแม่เลี้ยง
บทที่ 45
นับวันแม่บังเกิดเกล้ายิ่งดูเหมือนแม่เลี้ยง
หลิงอวี่จื้อเองก็ไม่ได้ต้องการมาหา เดิมทีนางไม่ชอบแม่บังเกิดเกล้าผู้นี้นัก แต่เมื่อเห็นนางฉูปั้นหน้าดุสั่งสอนตนเอง นางก็ทำเป็นไม่เห็นและเอ่ยอย่างร่าเริง “ท่านแม่ จริงอยู่ที่ข้ามารบกวนท่านยามดึก ลูกผิดไปแล้ว แต่ข้าเพียงรู้เรื่องใหญ่มา หากไม่มารายงานให้ท่านทราบคงไม่สบายใจ”
“เรื่องอะไรหรือ?”
น้ำเสียงนางฉูฟังดูเหลืออดเล็กน้อย
“คืนนี้น้องสามมาคุยกับข้าที่ห้องเสียนาน ภายหลังไม่รู้ว่านางง่วงหรืออย่างไร อยู่ ๆ ก็ผล็อยหลับไปในห้องข้า ตอนที่ข้าจะช่วยพานางขึ้นไปนอนบนเตียงก็เห็นว่าจุดแดงพรหมจรรย์ของนางหายไปแล้ว ข้าคิดว่าตนเองตาฝาดจึงดูที่แขนทั้งสองข้างของนางหลายครั้ง แต่จุดแดงของนางได้หายไปจริง ๆ”
เมื่อได้ยินข่าวนี้ ความหงุดหงิดของนางฉูจางหายไปสิ้น นางถามขึ้นทันที “เมื่อครู่เจ้าบอกว่าอะไรกัน?”
“อยู่ ๆ จุดแดงพรหมจรรย์ของน้องสามก็หายไป”
หลิงอวี่จื้อมองหน้ามารดาและบอกเสียงค่อยอีกครั้ง นางเห็นแววตื่นเต้นบนใบหน้าอีกฝ่ายได้ชัดเจน อย่างที่รู้กันว่านางฉูและอนุเหลียนเป็นคู่ปรับในจวนอัครเสนาบดีแห่งนี้ เรื่องนี้ไม่ใช่ความลับแต่อย่างใด
อนุเหลียนมาจากในตระกูลใหญ่ แม้จะเป็นอนุและพื้นเพก็ต่ำต้อย แต่นางเป็นคนฉลาดหลักแหลม งานบัญชีภายในบ้านจึงถูกมอบหมายให้อนุเหลียน
เรื่องนี้ทำให้นางฉูไม่พอใจเป็นอย่างมาก หากแต่เพราะเป็นการมอบหมายโดยฮูหยินเฒ่า นางจึงไม่สามารถทัดทานได้ พวกนางเป็นปรปักษ์กันตลอดหลายปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ อนุเหลียนยังไม้ไว้หน้านางฉูในที่ลับ ทั้งยังไม่เห็นอยู่ในสายตา ทำให้นางฉูเกลียดชังนางเข้ากระดูกดำ
นางฉูให้กำเนิดลูกชายและลูกสาว ลูกชายต้องครอบแก้วรักษาเพราะคลอดก่อนกำหนด กินยาต้มอยู่เป็นปี เขาตัวผอมอย่างกับลำไผ่ เกือบขวบหนึ่งแล้วยังตัวเล็กจนคาดว่าลมพัดแรงเข้าหน่อยคงปลิวลอยไป ทำให้ตอนนั้นนางแทบไม่มีตัวตนในจวนอัครเสนาบดี
นางฉูย่อมไม่เห็นลูกของอนุเหลียนในสายตา แต่ ฮูหยินเฒ่ากลับโปรดปรานหลิงอวี่หรงมาก และมักนำมาเปรียบเทียบกับหลิงอวี่จื้ออยู่บ่อยครั้ง บอกว่านางฉูไม่มีทางสั่งสอนลูกสาวได้ เมื่อมีโอกาสนางฉูจึงไม่อาจปล่อยให้หลุดมือไปได้
“เจ้าแน่ใจเรื่องนี้ไหม?”
นางฉูยังคงไม่เชื่อในสติปัญญาของลูกสาว นางถามด้วยความหวาดระแวง
“ท่านแม่ ข้าจะกล้าพูดเรื่องแบบนี้พล่อย ๆ ได้อย่างไร ข้าว่าเป็นเรื่องจริง น้องสามไม่น่าเป็นคนพรรค์นั้น ข้าไม่รู้จริง ๆ ว่าจุดแดงพรหมจรรย์ของนางหายไปได้อย่างไร”
หลิงอวี่จื้อทำทีเอ่ยด้วยความสงสัย
“ข้าจะจัดการเรื่องนี้เอง อวี่จื้อ เจ้ากลับไปก่อน ตอนนี้เจ้ากลับมาเป็นปกติแล้ว ต้องทำตามกฎอย่างเคร่งครัด อย่าทำให้ข้ากับจื่อเชิ่งขายหน้า”
“รับทราบ ท่านแม่ ลูกจะกลับเดี๋ยวนี้”
หลังจากบอกลานางก็ออกมาจากเรือนปี้เซวี่ย เมื่อมาถึงทางเข้าหลิงอวี่จื้อก็เม้มปาก สิ่งที่นางฉูเป็นกังวลที่สุดคือนางจะกีดขวางอนาคตของลูกชายหรือไม่ ทำอย่างกับเก็บนางมาเลี้ยง เป็นลูกเหมือนกัน เหตุใดถึงได้ปฏิบัติต่างกันเช่นนี้?
แม่บังเกิดเกล้าผู้นี้ดูเหมือนแม่เลี้ยงเสียมากกว่า
นางคงไม่มีอะไรต้องลงมือต่อ นางฉูย่อมจัดการได้อย่างอยู่หมัด ดึกมากแล้ว นางควรกลับไปนอนเสียที คิดแล้วก็หาวออกมาหลายครั้ง
ง่วงเหลือเกิน
คืนนั้นหลิงอวี่จื้อนอนหลับสนิท
นางหลับยาวและตื่นขึ้นมาในวันรุ่งขึ้นก่อนบิดขี้เกียจ หลูเยี่ยนกับหนานเยี่ยนนำอุปกรณ์ชำระร่างกายเข้ามาในห้อง หลังทำความสะอาดเสร็จสิ้น หลิงอวี่จื้อก็ถามขึ้น “เมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น ไหนบอกข้ามา”