บทที่ 38 ความคิดร้ายกาจ
บทที่ 38
ความคิดร้ายกาจ
หลิงอวี่ซิวกล่าวเสียงค่อย “มีคนมากมายในบ้านที่รู้เรื่องฉาวของพี่ใหญ่ แม้ท่านพ่อและท่านแม่จะปิดข่าวเอาไว้ก็อาจจะหลุดออกไปได้อยู่ดี หากเรื่องพวกนี้แพร่งพรายออกไป ฉางผิวโหวคงเสียหน้า ต่อให้ซื่อจื่อจูไม่ต้องการล้มเลิกการแต่งงาน แต่ฉางผิวโหวคงไม่ยอมแน่”
“แต่จุดแดงพรหมจรรย์ของนางยังอยู่ หากมีข่าวลือว่านางมีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับผู้อื่น เรื่องพวกนี้ก็สามารถสยบลงได้อย่างง่ายดาย”
หลิงอวี่ซิวช้อนตามองและเอ่ยพร้อมส่งยิ้ม “เรื่องนี้จัดการง่ายมาก น้องสามก็ย่ำยีร่างกายนางเสียสิ”
“ด้านหลังจวนมีคนเฝ้ายามเยอะแยะ การจะทำแบบนั้นโดยให้คนเข้ามาแทบเป็นไปไม่ได้เลย”
หลิงอวี่หรงส่ายหน้า
“ใครบอกว่ามีเพียงบุรุษที่ทำลายพรหมจรรย์ได้ ขอแค่... ล่วงเกินส่วนนั้นได้ก็พอมิใช่หรือ?” หลิงอวี่ซิวเอ่ยออกมาอย่างหน้าตาเฉย น้ำเสียงดูเป็นปกติสอดคล้องกับแววตาของนาง ก่อนเอ่ยกระซิบข้างหูหลิงอวี่หรง
ไม่ทันที่หลิงอวี่หรงซึ่งนิ่งอึ้งไปจะตอบสนอง หลิงอวี่ซิวก็ลุกขึ้นและกล่าวสำทับ “ขอแค่จุดแดงพรหมจรรย์หายไปก็ไม่มีใครช่วยนางได้ ไม่เพียงแต่การแต่งงานจะถูกล้มเลิก แม้แต่ทางจวนอัครเสนาบดียังไม่สามารถปล่อยให้นางอยู่ต่อไปได้ แล้วท่านพ่อก็จะโทษแม่ของนาง เจ้ากับอนุเหลียนจะได้หมดเสี้ยนหนามตำใจ”
หลิงอวี่หรงครุ่นคิดตาม จริงอยู่ที่หากหลิงอวี่จื้อเสีย บริสุทธิ์แล้วจะไม่มีใครช่วยนางได้ ฉางผิวโหวคงไม่ต้องการนางอีก อีกทั้งฮูหยินเฒ่าที่แสนจะหัวโบราณย่อมไม่อาจทนเก็บหลานสาวแบบนี้เอาไว้ได้ ไม่ให้ไปนอนในคอกหมูก็คงส่งไปสำนักชี แต่ไม่ว่าอย่างไรมันก็เพียงพอให้หลิงอวี่จื้อทุกข์ทรมานแล้ว
เมื่อนึกได้เช่นนั้น หลิงอวี่หรงอดอารมณ์ดีและหัวเราะออกมาไม่ได้ “พี่รองนี่เจ้าแผนการจริง ๆ”
“ข้าต้องช่วยเจ้าอยู่แล้ว”
หลิงอวี่ซิวยกยิ้มอ่อนโยนไร้พิษภัย หากไม่มาได้ยินคงไม่มีใครเชื่อว่าคำพูดเหล่านี้จะมาจากปากของนาง ในจวนอัครเสนาบดี ทุกคนต่างรู้กันว่าหลิงอวี่ซิวจิตใจดีเหมือนพระโพธิสัตว์ แม้แต่มดยังไม่คิดจะเหยียบตาย
จุดประสงค์ของนางเรียบง่าย เพียงต้องการใช้หลิงอวี่จื้อในการเอาชนะนางฉูและหลิงจื่อเชิ่ง ทุกคนรู้ว่าหลิงจื่อเชิ่งรักน้องสาวคนนี้ หากเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นเขาต้องช่วยเหลือ หลิงอวี่จื้ออย่างแน่นอน ถึงตอนนั้นมันมีแต่จะทำให้หลิงไส้เทียนผิดหวังในตัวลูกชาย และน้องชายของนางจะได้มีหวังสืบทอดทรัพย์สมบัติของตระกูล
“ขอบคุณพี่รอง”
“น้องข้ากิริยามารยาทงดงาม ข้าเองก็หวังให้เจ้าได้แต่งงานเข้าบ้านฉางผิงโหวตามที่ต้องการ”
ในขณะที่ทั้งสองวางแผนกัน หลิงอวี่จื้อยังคงนอนหลับสนิทในห้องโดยไม่รู้ตัวว่ามีคนวางแผนแทงข้างหลังอยู่ อีกสองวันนางต้องเข้าวังไปสอนซูจู้ให้เฉินโม่ชี เพราะฉะนั้นช่วงนี้นางจะเอาแต่กินนอนอยู่ในห้องไม่ไปไหนทั้งนั้น
วันหนึ่งขณะนางกำลังนอนเอกเขนกอยู่บนเก้าอี้ หนานเยี่ยนลนลานรีบเข้ามา “คุณหนูเจ้าคะ แย่แล้ว... ข้างนอก...”
หลิงอวี่จื้อเปลี่ยนอิริยาบถอย่างเอื่อยเฉื่อยพลางหาวหวอด “เจ้าหายใจหายคอก่อนพูดก็ได้ ข้างนอกฟ้าถล่มหรืออย่างไร?”
“แย่ยิ่งกว่าฟ้าถล่มอีกเจ้าค่ะ”
“ร้ายแรงขนาดนั้นเชียว?” หลูเยี่ยนถามขึ้นอย่างเป็นกังวลและสัมผัสได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ
หนานเยี่ยนอ้าปากหอบหายใจครู่หนึ่ง เมื่ออาการดีขึ้นแล้วจึงบอก “ไม่รู้ว่าใครปากสว่าง แต่ข่าวลือเกี่ยวกับคุณหนูแพร่สะพัดไปทั่วแล้วเจ้าค่ะ”
“อะไรกัน หรือเพราะว่าข้าไปแก้ผ้าจูจิ่น?”
หนานเยี่ยนรู้สึกกระดากอายเล็กน้อย และเอ่ยขึ้นหลังจากทำใจอยู่นาน “เป็นเรื่องของคุณหนูกับผู้ชายก่อนหน้านี้เจ้าค่ะ”