บทที่ 34 ท่านซื่อจื่อเป็นสตรีจริงๆ
บทที่ 34
ท่านซื่อจื่อเป็นสตรีจริงๆ
“พี่ชาย อย่าพูดให้มากความเลย ท่านกับมารดาท่านสมเป็นแม่ลูกกันจริงๆ พูดยืดยาวกันทั้งคู่ รีบช่วยประคองเขาขึ้นนั่งเร็ว”
“ไม่ใช่แม่เจ้าด้วยหรือ”
มีที่ให้พักผ่อนอยู่ทุกมุมของห้องส่วนตัว หลิงจื่อเชิ่งและหนานเยี่ยนช่วยกันประคองจูจิ่นไปนั่งเก้าอี้ หนานเยี่ยนไม่รู้ว่า หลิงอวี่จื้อจะทำอะไรจึงถามขึ้นด้วยความสงสัย “คุณหนู ให้ข้าทำอะไรต่อไปเจ้าคะ? แล้วต้องทำอย่างไร?”
“ข้าจะลงมือขั้นต่อไปเอง พี่ชาย ท่านไปรอข้าที่ห้องส่วนตัวข้าง ๆ เถิด”
หากนางเป็นสตรีจริงคงไม่เหมาะจะให้หลิงจื่อเชิ่งเห็น ไว้ถึงตอนนั้นค่อยบอกให้เขารู้แล้วกัน
“เจ้า...” หลิงจื่อเชิ่งเป็นกังวลมากทีเดียว และสัมผัสได้ว่าบางอย่างกำลังจะเกิดขึ้น
หลิงอวี่จื้อผลักพี่ชายออกนอกประตู “ข้าจะข่มเหงรังแกเขาได้อย่างไร พี่ชายแสนดีของข้า ออกไปรอด้านนอกเสีย ไม่อย่างนั้นข้าจะทำให้ท่านตกใจเอาได้”
สุดท้ายเขาก็ยอมมาอยู่ในห้องส่วนตัวข้าง ๆ ทว่าก็เงี่ยหูฟังเสียงความเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา
หลิงอวี่จื้อก้าวไปข้างกายจูจิ่น และพยักหน้าให้หนานเยี่ยน “แก้ผ้าเขาเลย”
“หา... คุณหนู แบบนี้ไม่เหมาะ!”
“อย่างนั้นก็หลบไปซะ ส่งเสียงรบกวนอยู่ได้ เจ้าไปเฝ้าประตูเอาไว้ ข้าจะจัดการเอง”
หลิงอวี่จื้อนั่งลงข้างเก้าอี้ หนานเยี่ยนตกอยู่ในอาการงุนงง ตอนแรกนางคิดว่าคุณหนูของตนเสียสติไปแล้ว เมื่อนางลงมือเปลื้องเสื้อผ้าของจูจิ่น นี่มันเกิดเรื่องบ้าอะไรกัน?
หลิงอวี่จื้อไม่สนใจหนานเยี่ยน นางรีบปลดเสื้อจูจิ่นและเห็นกระดูกไหปลาร้างาม หลิงอวี่จื้ออึ้งไปเล็กน้อย กระดูกไหปลาร้าสวยขนาดนี้กล้าเรียกตนเองว่าบุรุษได้อย่างไร
เมื่อเห็นผ้าสีขาวที่พันเอาไว้นางจึงรู้ได้ทันที ก่อนเอื้อมมือออกไปแตะผ้าที่พันเอาไว้ ตอนนี้นางมั่นใจเต็มที่แล้วว่าจูจิ่นเป็นสตรีจริงๆ
โชคดีที่นางรู้เรื่องนี้เร็ว ไม่อย่างนั้นแต่งงานกับผู้หญิงไปจะไม่แย่หรอกหรือ
ในขณะเดียวกันจูจิ่นก็ถือว่าใจกล้าไม่น้อย พันเอาไว้เสียแน่นขนาดนี้แต่ยังไม่กลัวจะถูกรัดจนแบน
“เจ้าทำอะไรอยู่?”
ไม่ทันหลิงอวี่จื้อจะได้ผละมือที่วางบนหน้าอกของจูจิ่น เสียงของเซียวเยี่ยนก็พลันดังขึ้น ทำให้นางสะดุ้งและปล่อยมือออกโดยเร็ว
ก่อนรีบสวมเสื้อของจูจิ่นอย่างลวก ๆ น่าอับอายยิ่งนัก ไม่รู้ว่าทำไมตนถึงได้กำลังทำเรื่องไม่สมควรทุกครั้งที่ได้พบ เซียวเยี่ยน ครั้งแรกที่ได้พบเขานางก็สภาพดูไม่จืด คราวนี้เขายังมาเห็นนางทำเรื่องแบบนี้อีก แม้จะทำคนละอย่างกันอยู่แต่ก็ดูเหมือนคนโง่เขลามากเหลือเกิน
“ไม่มีอะไร ข้าตรวจดูจะได้รู้ว่าซื่อจื่อจูไม่ได้บาดเจ็บ... บาดแผล...”
หลิงอวี่จื้อกล่าวอธิบายตะกุกตะกัก
“คุณหนูหลิงเอาใจใส่อาจิ่นจริง ๆ เป็นห่วงตรวจดูบาดแผลที่หายดีแล้วของเขา อีกอย่างบาดแผลของอาจิ่นก็ไม่ได้อยู่ที่อกด้วย”
เซียวเยี่ยนมองจับผิดหลิงอวี่จื้อ เขาอยากจะเห็นว่าเด็กสาวคนนี้จะพูดอะไรได้อีก
หลิงอวี่จื้ออับอายแทบมุดแผ่นดินหนี สายตาของ เซียวเยี่ยนเฉียบแหลมจนนางลืมแสดงละครตบตา ทำได้เพียงกัดกระสุนบอกออกไป “ผู้แทนพระองค์ ซื่อจื่อจูเป็นคู่หมั้นของข้า ไม่ช้าก็เร็วข้าก็ต้องได้เห็นอยู่ดี ข้าจะตรวจดูก่อนก็ไม่เป็นการเกินไป!”
คำตอบนี้ทำให้เซียวเยี่ยนกระตุกยิ้มมุมปาก หลิงจื่อเชิ่งซึ่งได้ยินเสียงรีบโผล่พรวดเข้ามาและเห็นจูจิ่นนอนอยู่บนเก้าอี้ในเสื้อผ้าหลุดลุ่ย โดยมีเซียวเยี่ยนอยู่ในห้องด้วย สีหน้าของเจ้าตัวอ่านไม่ออก อีกไม่นานเขาคงได้ถูกกำจัดทิ้งเพราะน้องสาวคนนี้
“ผู้แทนพระองค์ ทำไมท่านถึงมาอยู่ที่นี่ได้?”
“อาจิ่นเชิญข้ามาดื่ม นึกไม่ถึงว่าเปิ่นหวางจะมาผิดเวลา ดูเหมือนคุณหนูหลิงจะมีธุระติดพันกับอาจิ่นอยู่”