บทที่ 24 ข้าคิดว่าท่านซื่อจื่ออาจเป็นสตรี
บทที่ 24
ข้าคิดว่าท่านซื่อจื่ออาจเป็นสตรี
“เจ้าคิดว่าตนฉลาดนักไม่ใช่หรือ? หากไม่เข้าใจคำถามง่าย ๆ เจ้าก็โง่แล้ว ข้าจะบอกเจ้าให้ว่าพี่สาวคนนี้ไม่กลัวหมาอีกแล้ว และต่อไปข้าจะยิ่งชอบมากขึ้นไปอีก ข้าจะเลี้ยงพวกมันเอาไว้ หรงหรงหนึ่ง หรงหรงสอง...”
“เจ้า...”
หลิงอวี่จื้อยิ้มร่า “น้องหญิง อย่าโกรธไปเลย เดี๋ยวมันจะไม่ดีต่อตับเอา น่าสงสารตับน้อย ๆ ของเจ้าที่ต้องโดนทำร้ายทุกวี่วัน ข้าขอตัวละ วันนี้ขอบใจเจ้ามาก”
สิ้นคำนางก็หันหลังเดินหนีไป หลิงอวี่หรงไม่เคยคิดว่า หลิงอวี่จื้อที่กลับมาหายเป็นปกติจะเป็นคนเช่นนี้ ไม่ใช่เพียงเฉลียวฉลาดขึ้น แต่รสนิยมยังเปลี่ยนไปด้วย เกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นกัน
หลูเยี่ยนอดขำและกล่าวขึ้นไม่ได้เมื่อเดินพ้นมาไกลแล้ว “เดี๋ยวนี้คุณหนูปากคอเราะร้ายจนทำให้คุณหนูสามพูดไม่ออก ข้าน้อยขอคารวะ คุณหนูทำสิ่งเหล่านี้เป็นได้อย่างไรกันเจ้าคะ”
หลิงอวี่จื้อเหม่อลอยถึงบางอย่าง นางไม่ได้ฟังคำพูดของหลูเยี่ยนแม้แต่น้อย เอาแต่นึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่
เมื่อเห็นหลิงอวี่จื้อไม่ตอบ หลูเยี่ยนจึงถามขึ้นด้วยความสงสัย “คุณหนูเจ้าคะ ท่านเป็นอะไรไป? คิดอะไรอยู่หรือเจ้าคะ”
“เมื่อครู่ข้าบังเอิญแตะหน้าอกของท่านซื่อจื่อ”
หลูเยี่ยนไม่เข้าใจความหมายของคำพูดเจ้านายจึงถามสำทับ “แล้วมันมีอะไรหรือเจ้าคะ?”
“หน้าอกของบุรุษมักเต็มไปด้วยกล้ามอก หากนอนลงก็จะสัมผัสได้แต่กล้ามเนื้อและกระดูก แต่ของท่านซื่อจื่อนั้นต่างออกไป”
หลูเยี่ยนแทบสำลักน้ำลาย ความคิดของเจ้านายนางต่างจากคนทั่วไปจริง ๆ นางถามขึ้นหลังผ่านไปนาน “คุณหนูเจ้าคะ ข้าน้อยไม่เข้าใจว่าท่านหมายความอย่างไร”
“หากไม่เข้าใจ หลังจากกลับไปเจ้าก็ถอดเสื้อผ้าและให้ข้าลองจับสิ”
“หา...”
เมื่อเห็นหลูเยี่ยนลำบากใจ หลิงอวี่จื้อยกยิ้มบอก “ผู้หญิงด้วยกันทั้งนั้น เจ้าจะกลัวอะไร ใช่ว่าข้าจะล่วงเกินเจ้าสักหน่อย”
“ข้าน้อยไม่ได้หมายความแบบนั้นเจ้าค่ะ เพียงแค่...”
“อย่างนั้นข้าจะไม่ปิดบังเจ้าแล้วกัน ข้าคิดว่าท่านซื่อจื่อเป็นสตรี ข้าเคยสัมผัสแผงอกบุรุษมานับไม่ถ้วนแล้ว แต่ไม่มีชายคนใดมีหน้าอกเหมือนผู้หญิงที่พันผ้าเอาไว้แบบนี้ แม้จะบาดเจ็บอยู่และข้าคิดว่าเป็นผ้าพันแผล แต่ภายใต้ผ้าพันแผลก็ยังสัมผัสได้ว่าไม่ใช่หน้าอกของผู้ชาย”
หลิงอวี่จื้อสาธยายออกมามากมาย แต่สิ่งที่หลูเยี่ยนจับใจความได้คือประโยคที่ไม่ได้เกี่ยวข้อง “คุณหนูเจ้าคะ ท่านไปสัมผัสหน้าอกบุรุษมาจากที่ไหนเจ้าคะ”
“เอ่อ ข้าสัมผัสในความฝันน่ะ” หลิงอวี่จื้อยิ้มเจื่อน ก่อนพึมพำขึ้น “หากเป็นอย่างนั้นข้าก็ช่างโชคดีอย่างไม่ต้องสงสัย ไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องที่ถูกบอกว่าเป็นคนไม่สมประกอบ ยังมีสามีเป็นผู้หญิงเหมือนกันอีกต่างหาก”
“คุณหนูเจ้าคะ ข้าน้อยคิดว่าไม่มีทางเป็นไปได้ คนต่างรู้กันทั่วว่าท่านซื่อจื่อเป็นบุรุษ”
“อย่างนั้นก็หมายความว่าฉางผิงโหวปิดบังความจริงเอาไว้ ซึ่งใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ หากนางเป็นสตรีจริงก็เป็นเหตุที่อธิบายได้ว่าทำไมนางถึงต้องการแต่งงานกับข้า ถ้าแต่งงานกับคนโง่ก็จะทำให้ยากจะถูกจับได้ เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับความสุขทั้งชีวิตข้า และข้าต้องรู้ให้กระจ่าง”
หลูเยี่ยนรู้สึกเหลือเชื่อ หลิงอวี่จื้อคงคิดมากเกินไปอย่างแน่นอน ท่านซื่อจื่อทายาทฉางผิงโหวจะเป็นสตรีได้อย่างไร? หากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไป คงนับได้ว่าทำผิดโทษฐานหลอกลวงเชื้อพระวงศ์
หลังหลิงอวี่จื้อกลับมาถึงห้อง นางลองแตะหน้าอก หลูเยี่ยนและยิ่งมั่นใจว่าจูจิ่นเป็นผู้หญิง หากแต่ต้องหาโอกาสพิสูจน์เรื่องนี้อีกครั้ง หากเป็นสตรีจริง จูจิ่นต้องยอมล้มเลิกงานแต่งงานเพราะข้อมูลการต่อรองนี้ที่นางรู้แน่
นางต้องอาศัยความช่วยเหลือจากหลิงจื่อเชิ่ง แต่ช่วงนี้ไม่รู้ว่าเขาทำอะไรถึงได้ไม่ค่อยเห็นหน้าค่าตานัก
ไม่กี่วันต่อมา หลิงอวี่จื้อยังคงไม่พบพี่ชาย ทว่า ไทเฮามู่หรงได้เรียกนางเข้าเฝ้า ซึ่งคงเป็นการจัดการของ เซียวเยี่ยน