บทที่ 23 ท่านซื่อจื่อผู้โชคร้าย
บทที่ 23
ท่านซื่อจื่อผู้โชคร้าย
“หรงหรง ต่อจากนี้มาอยู่กับข้านะ ขอโทษ ข้าขอโทษด้วย น้องสาม ข้าลืมตัวอีกแล้ว ชื่อนี้มันเรียกง่ายดีน่ะ”
หลิงอวี่หรงทำให้หลิงอวี่จื้อนึกกล้าดี นางอยากเห็นว่า หลิงอวี่หรงจะอดทนไปได้สักกี่น้ำ
สีหน้าของหลิงอวี่หรงออกจะบูดบึ้งแล้ว หากแต่ยังฝืนทนเอาไว้ หากเป็นนางคงเดินจากไปนานแล้ว แต่อีกฝ่ายกลับหยิ่งในศักดิ์ศรีและสามารถรักษาท่าทีไว้ได้ ความอดทนของหลิงอวี่หรงช่างน่าทึ่งนัก
หลิงอวี่จื้อกอดสุนัข จูจิ่นที่เดิมทียืนข้างนางถอยห่างไปโดยไม่รู้ตัว จูจิ่นเองก็กลัวสุนัขมานานแล้วเช่นกัน นางจึงเกิดความคิดบางอย่างและจงใจอุ้มลูกสุนัขเข้าหาเขา “ท่านซื่อจื่อ ไว้เราแต่งงานกันแล้วเลี้ยงหมาเพิ่มอีกดีหรือไม่ ข้าชอบลูกสุนัขมากเลย ต้องเข้านอนกับพวกมันด้วยไหมนะ?”
จูจิ่นถอยไปหลายก้าวพลางนิ่วหน้า “อวี่จื้อ พาไปเข้านอนด้วยไม่เหมาะ ตัวมันสกปรกเกินไป”
“อาบน้ำให้มันก่อนก็เหมือนกัน แต่คนเราแค่ไม่มีขนยาวแบบนี้ก็เท่านั้น”
จูจิ่นพูดไม่ออกและทำได้เพียงขยับออกห่าง เขารักสะอาดและไม่ชอบให้สัตว์ขนปุยพวกนี้เข้าใกล้ตนเอง
หลิงอวี่หรงว่าถากถาง “พี่หญิงใหญ่ อย่าทำให้ท่านซื่อจื่อตกใจเลย ท่านซื่อจื่อ ความคิดของพี่หญิงต่างจากผู้อื่น ท่านคงต้องทำใจให้ชิน”
หลิงอวี่จื้อจงใจขยับเข้าใกล้ พยายามทำให้จูจิ่นเข็ดหลาบจนไม่กล้ามาหาตนเองอีก
หลิงอวี่หรงยื่นเท้าไปขัดขาหลิงอวี่จื้อ นางถลาไปข้างหน้าทั้งยังอุ้มสุนัขเอาไว้ ก่อนทั้งร่างจะโผเข้าสู่อ้อมแขนของจูจิ่น ทำให้ลูกสุนัขในวงแขนจุมพิตเข้ากับริมฝีปากของเขาโดยบังเอิญ จูจิ่นตะลึงงันไปในจังหวะนั้นเอง
ในขณะที่จูจิ่นตกใจตัวแข็งทื่อ หลิงอวี่จื้อก็อึ้งไปเช่นกันแต่ไม่ใช่เพราะเรื่องนี้ ทว่าเพราะตอนนี้มือของนางวางอยู่บนแผงอกของจู่จิน และหน้าอกของเขาก็ดูผิดปกติ
หลิงอวี่จื้อปล่อยมือออกโดยสัญชาตญาณ ลูกสุนัขในอ้อมแขนวิ่งหนีไปแล้ว นางนึกได้ว่าตนเองบาดเจ็บที่หน้าอกอยู่ อุบัติเหตุคาดไม่ถึงที่เกิดขึ้นทำให้ลืมความเจ็บไป ก่อนหลูเยี่ยนจะรีบเข้ามาพยุงนางขึ้น
“ท่านซื่อจื่อ ท่านเป็นอะไรหรือไม่!”
หลิงอวี่หรงนึกไม่ถึงว่าจะเกิดเรื่องเช่นนี้ และพลันนึกเสียใจที่ทำแบบนั้นลงไป
จูจิ่นลุกขึ้นและเห็นหลิงอวี่จื้อมองตนเองด้วยความงุนงง ความกังวลเล็ก ๆ ผุดขึ้นในใจเขาขณะยกมือเช็ดปากตนเอง “ข้ามีธุระต้องไปทำ ต้องขอตัวก่อน ไว้คราวหน้าจะมาหาเจ้าอีก”
ว่าจบจูจิ่นก็รีบร้อนจากไป หลิงอวี่หรงเห็นเขากลับไปและไม่คิดจะไล่ตาม นางจึงทำเพียงมองเขาก้าวออกไป
“หลิงอวี่จื้อ คนอย่างเจ้าจะคู่ควรกับท่านซื่อจื่อได้อย่างไร”
ท่าทีแบบนั้นราวกับจะบอกว่าผักกาดดีกลับต้องตกเป็นอาหารของหมู
หลิงอวี่จื้อได้สติและกล่าวอย่างไม่สบอารมณ์ “อย่างนั้นเจ้าก็ควรทำให้ท่านซื่อจื่อแต่งงานกับเจ้าโดยเร็วสิ ทำให้เขาล้มเลิกการแต่งงานก็ได้ มีหรือข้าจะไม่ซาบซึ้งในน้ำใจเจ้า?”
“น้องหญิง ข้ารู้ว่าเจ้ามีใจให้ท่านซื่อจื่อ เดิมทีมันก็ถูกต้องแต่เจ้าจะมาโทษข้าไม่ได้ ไม่ใช่ว่าข้าอยากแต่งงานกับท่านซื่อจื่อเสียหน่อย เป็นคนอื่นที่ริเริ่มการแต่งงานนี้ขึ้น ข้าไม่มีแม้แต่โอกาสจะปฏิเสธด้วยซ้ำ”
“เจ้าสามารถโทษเขาหรือจะโทษท่านพ่อที่น่าจะเป็นต้นคิดเรื่องนี้ก็ยังได้ ทำไมต้องมาโยนความผิดให้ข้าด้วย”
“เหตุใดถึงคิดว่าหากไม่มีข้าแล้วเจ้าจะได้แต่งงานกับท่านซื่อจื่อ เจ้าจะเสนอตนเองหรืออย่างไรกัน?”
“หากต้องการแต่งงานกับเขานักก็คิดหาทางทำให้เขาตกหลุมรักเจ้าและรีบทอดทิ้งข้าเสีย มันเป็นเรื่องของความสามารถของเจ้าแล้ว หากเจ้าเอาแต่มาแข่งขันกับข้า ต่อให้เจ้าลงโลงไปท่านซื่อจื่อก็ไม่สนใจเจ้าหรอก”
“พักนี้เจ้าชักปากกล้าขึ้นทุกที”
หลิงอวี่หรงโกรธเสียจนพูดอะไรไม่ออก