บทที่ 181 : เนลม์ไฮมฟ์ (6-1)
บทที่ 181 : เนลม์ไฮมฟ์ (6-1)
ฉันเปรียบเทียบระหว่างยูเน็ตและเอเคลต์ดู
ในเนลม์ไฮมฟ์ อันดับของพวกเธออยู่ที่ 2 และ 9 ตามลำดับ และทั้งคู่ก็เป็นฮีโร่ระดับ 6 ดาว
เมื่อมองแวบแรก ช่องว่างดูเหมือนจะไม่ค่อยมีอะไรสำคัญ ทว่าความแตกต่างในความสามารถในการต่อสู้ของพวกเธอนั้นเกินกว่าจะจินตนาการได้ พูดตรงๆ แม้ว่าสมาชิกทั้งหมดของชั้น 12 ที่มีอันดับสูงถึง 100 จะเข้ามารุมโจมตี พวกเขาก็คงไม่สามารถเอาชนะทั้งห้าคนนี้ได้
'เป็นความแข็งแกร่งที่ผ่านการฝึกฝนมานับครั้งไม่ถ้วนถึงทำให้แตกต่างออกไปสินะ' ฉันพึมพำ
“แม้จะจะเป็นฮีโร่ระดับ 6 ดาวเหมือนกันทั้งคู่ แต่ก็คงไม่อาจเทียบกันได้เลยสินะ”
“ถูกต้องแล้วค่ะ เพราะนายท่านทุ่มเทความพยายามเป็นพิเศษเพื่อพวกเราทั้งห้าคน ด้วยเหตุนี้เราจึงสามารถทำเช่นนี้ได้”
ยูเน็ตแบมือของเธออกมา
ฉันเบิกตากว้าง เพราะภาพโฮโลแกรมได้ปรากฏขึ้นในขอบเขตการมองเห็นของฉัน
[แบบนี้ค่ะนายท่าน]
'ระบบ'
ฉันเคยเห็นตัวละครเหล่านี้มาหลายร้อยครั้ง แต่ตัวละครที่ใช้ระบบนั้นแตกต่างออกไป
ขณะที่ยูเน็ตชักมือออก ข้อความก็หายไป
“นายท่านรู้หรือไม่? ฮีโร่จะใกล้ชิดกับนายท่านมากขึ้นในขณะที่นายท่านทุ่มเทความพยายามและความสนใจให้กับพวกเรามากขึ้น ทำให้พวกเราได้รับผลกระทบโดยตรงจากพลังแห่งการรบกวน”
ฉันจำคำอธิบายของไอเซลล์ถึงพลังแห่งการแทรกแซงหรือเรียกอีกอย่างว่าพลังแห่งรบกวนได้ดี
'ต้นกำเนิดที่บิดเบี้ยว ความเป็นเหตุเป็นผลของโลกใบนี้ และพลังที่สามารถปรับเปลี่ยนกฎต่างๆ'
การแทรกแซงจะถูกสะสมโดยอัตโนมัติเมื่อนายท่านเข้าสู่ระบบเมื่อนายท่านดูห้องรอหรือกระทำอะไรบางอย่าง
ตามคำอธิบายของไอเซลล์ ยิ่งชั้นสูงขึ้นเท่าไร การสะสมพลังแห่งการแทรกแซงก็ดูเหมือนจะมีประสิทธิภาพมากขึ้น ดูเหมือนว่าจะสามารถได้รับผ่านการเติมเงินได้เช่นกัน ซึ่งเจ้าสิ่งนี้ดูเหมือนจะถูกใช้เพื่ออัญเชิญฮีโร่ สร้างภารกิจ และสร้างสิ่งอำนวยความสะดวก
“เธอคงไม่ใช่แค่ฮีโร่ธรรมดาสินะ”
“ถ้าหากให้ฉันจำแนกตามเกรด ฉันคงจะอยู่ที่ประมาณ 6.5 ดาว พูดให้กว้างๆ ก็คือเราอยู่ในโมเบียสและเท้าอีกข้างของเราก็อยู่บนโลกด้วย”
ข้อความของระบบพลันปรากฏขึ้น
[ต้องขอบคุณความเอาใจใส่ของนายท่าน]
“ฉันไม่ยักรู้ว่าจะทำได้ถึงขนาดนี้เลยนะ”
[แน่นอนค่ะ เพราะมิติที่สูงกว่านั้นยิ่งใหญ่มากสำหรับเรา]
“แล้วฉันมาอยู่ในที่แบบนี้ได้ยังไงกัน?”
ยูเน็ตหลับตาลงช้าๆ
รอยยิ้มที่มุมปากของเธอได้เลือนหายไป
“ฉันตรวจสอบแล้ว แต่ไม่พบคำตอบ”
ยูเน็ตบอกฉันเกี่ยวกับสถานการณ์หลังจากที่ฉันหายตัวไป
ทั้งห้าคนทราบเกี่ยวกับการหายตัวไปของฉัน และก็เริ่มสืบสวนสาเหตุทันที
ฉันเข้ามาได้ยังไงและทำไม ด้วยเหตุนี้จึงมีการว่าจ้างเรือบินหลายสิบลำอย่างลับๆ แต่สุดท้ายแล้วพวกเขาไม่สามารถหาคำตอบได้ ยูเน็ตเองก็ได้แต่ถอนหายใจออกมา
"ฉันขอโทษด้วยค่ะ"
“…ไม่เป็นไร”
“แต่ฉันสามารถบอกนายท่านได้สิ่งหนึ่ง”
ยูเน็ตลืมตาขึ้นมา
“เมื่อฮีโร่เข้าใกล้นายท่านมากขึ้น นายท่านก็จะใกล้ชิดกับฮีโร่มากขึ้นเช่นกัน นั่นจะต้องเป็นเงื่อนไขประการหนึ่งสำหรับโมเบียสที่จำเป็นต่อการดำรงอยู่ของนายท่าน แต่แน่นอนว่ามันยังมีเหตุผลอื่นอีก”
นิสเลดเทชาลงในถ้วยของฉัน
ฉันคิดต่อไปเรื่อยๆ
สาเหตุที่ฉันถูกดึงเขามาที่นี่คือดันเจี้ยนที่มีความยากสุดขีด
แต่ยูเน็ตไม่ได้พูดถึงอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย มีความเป็นไปได้สูงที่เธอไม่รู้ ฉันลังเลว่าจะบอกเธอหรือไม่ เพราะมันมีความลึกลับมากเกินไป ทว่าสิ่งที่เธอพูดมาก็ทำให้ฉันได้คำตอบเรื่องหนึ่งที่ฉันสงสัยมาตลอด
“ถ้าสิ่งที่เธออธิบายจนถึงตอนนี้เป็นความจริง งั้นฮีโร่ 7 ดาวก็แตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากฮีโร่ทั่วไปสินะ”
"ใช่ค่ะ"
ยูเน็ตพยักหน้า
“พวกเขาคือผู้ที่อยู่เหนือข้อจำกัดของระบบ ครึ่งฮีโร่ ครึ่งนายท่าน”
ในอดีตเมื่อขอบเขตของเซิร์ฟเวอร์ถูกละเมิดระหว่างกิจกรรม
ฉันได้เผชิญหน้าโดยตรงกับฮีโร่ 7 ดาว ระดับของเขาคือ 315 แต่ฉันสามารถเอาชนะเขาได้ อีกฝ่ายมีระดับสูงมาก ทั้งที่ขีดจำกัดเลเวลของระบบคือ 99
ฉันสรุปคำอธิบายของยูเน็ต
เกรดคือการจำแนกของฮีโร่ เมื่อเกรดสูงขึ้น ฮีโร่ก็จะสามารถเข้าใกล้นายท่านและระบบของเกมได้มากขึ้น ซึ่งมันก็เป็นในกรณีเดียวกับยูเน็ตด้วย สมาชิกทั้งห้าคนได้กลายมาเป็นคล้ายสิ่งมีชีวิตดังกล่าวแล้ว ทั้งห้าสามารถใช้พลังงานหลักของเกมและพลังแห่งการแทรกแซงได้
ระดับที่สูงกว่านี้คือฮีโร่ระดับ 7 ดาว ซึ่งเป็นครึ่งฮีโร่ ครึ่งนายท่าน
นี่คือ…
'เหมือนกับเป็นฉันเลย'
ฉันเห็นหน้าต่างการจัดการสำหรับนายท่าน
สำหรับฮีโร่คนอื่นๆ ไม่ว่าพวกเขาจะมีระดับการวิจัยสูงแค่ไหนก็ตาม มันก็คงเป็นไปไม่ได้เลยที่หน้าต่างนี้จะปรากฏขึ้นมา
ด้วยความช่วยเหลือของไอเซลล์ ฉันจึงสามารถควบคุมหน้าต่างการจัดการได้
“นายท่านคงรู้อยู่แล้วสินะคะว่านายท่านไม่ได้สูญเสียพลังของท่านไปหมด”
“สิ่งที่เธอพูดมาก็ถูก”
ถ้าฉันเป็นเพียงฮีโร่ปกติ ทั้งห้าคนคงจะจำฉันไม่ได้
“จากการประมาณการของฉัน แม้ว่าจะไม่มีคัมภีร์สวรรค์ นายท่านก็อาจจะสามารถไปถึงระดับ 7 ดาวได้…”
“ตอนนี้ฉันยังเป็นแค่มือใหม่อยู่นะ”
ฉันหัวเราะและจิบชาไป
ฉันไม่สามารถลิ้มรสมันได้เลย ความคิดของฉันกำลังจมอยู่ในห้วงภวังค์
เหตุผลที่ฉันมาที่นี่ก็คือดันเจี้ยนผจญภัย จากนั้นฉันก็เจอบางอย่างระหว่างเลื่อนขั้นเป็นฮีโร่ระดับ 1 ดาว และสุดท้ายคือคัมภีร์สวรรค์ที่เป็นไอเท็มสำคัญสำหรับฮีโร่ 7 ดาว ทุกอย่างนั้นมันคล้ายกำลังเชื่อมโยงกัน
'...'
ฉันวางถ้วยชาลงแล้วพูดว่า “เซริสไปหาฉันใช่ไหม?”
"ใช่ค่ะ หลังจากที่นายท่านหายตัวไป เธอก็ออกไปหาสาเหตุที่แท้จริง”
“มันเป็นเหตุผลเดียวกันกับที่ฉันไม่เห็นนางฟ้าที่รับผิดชอบเนลม์ไฮมฟ์หรือเปล่า?”
“ฉันอาจต้องบอกอย่างหนึ่งให้นายท่านเข้าใจก่อน แท้จริงแล้วบทบาทของนางฟ้าได้ถูกดำเนินการโดยฉันเองค่ะ”
ยูเน็ตได้ตอบกลับ
รองหัวหน้าของเนลม์ไฮมฟ์ และนางฟ้าไม่ได้อยู่ที่นี่
ทั้งสองต่างจากสมาชิกอีกสองคนในปาร์ตี้หลักที่มีภาระหน้าที่ ดังนั้นที่จริงเขาควรจะพบกับรองหัวหน้าและนางฟ้าของเนลม์ไฮมฟ์สิ
แสดงว่ามันต้องมีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นแน่
“ให้ฉันลองติดต่อพวกเขาดูไหมคะ?”
"ไม่ต้อง"
น่าเสียดายที่เราไม่สามารถพบกันได้ แต่ก็ไม่จำเป็นต้องไปบังคับ
คงจะมีโอกาสอีกในอนาคต ฉันสรุปข้อมูลที่รวบรวมได้จากการสนทนากับยูเน็ต และยกถ้วยน้ำชาดื่มหลายครั้ง หลังจากดื่มถ้วยที่สามหมดแล้ว ฉันก็ดำเนินการอย่างอื่นต่อ
"คำถามต่อไป"
"ค่ะ"
“เนลม์ไฮมฟ์สามารถอดทนได้นานแค่ไหน?”
ยูร์เน็ตที่กำลังฟังอย่างตั้งใจก็หัวเราะ
“นายท่านกังวลเรื่องการลบบัญชีงั้นเหรอคะ?”
“หากผ่านไปหกเดือนตามเวลาโลก บัญชีอาจถูกลบได้นั่นคือกฎของพิกมีอัพ”
มาถึงขนาดนี้แล้ว มันคงลำบากน่าดูถ้าบัญชีหายไป
ฉันไม่ได้คิดจะยอมแพ้จนกว่าฉันจะเคลียร์ชั้นที่ 100 ของเนลม์ไฮมฟ์ได้ เพราะจุดประสงค์ในการเล่นเกมของฉันมันมีมากกว่าแค่ความเพลิดเพลิน
ยูเน็ตกล่าวว่า “อย่ากังวลไปเลยค่ะ เนลม์ไฮมฟ์เต็มไปด้วยพลังแห่งการแทรกแซงมากกว่าอาณาจักรอื่นๆ นั้นจึงทำให้ไม่มีทางที่บัญชีจะถูกลบหลังจากหกเดือนผ่านพ้นไป หากมีการแทรกแซงมากพอ มันคงจะอยู่ได้เป็นเวลาอย่างน้อยสิบปี”
“ได้ยินแค่นี้ฉันก็โล่งใจแล้ว”
มีเวลาอีกมากมาย
สิบปีคงมีเวลาเพียงพอในการเตรียมการ
'ฉันถามเกือบทุกอย่างไปแล้ว'
คำถามหลักก็ได้รับคำตอบแล้ว
เกิดอะไรขึ้นหลังจากที่ฉันหายไป เหตุผลที่พวกเขาทั้งห้าคนหาฉันเจอ
มีอีกหลายสิ่งที่ฉันอยากรู้ แต่การจัดระเบียบข้อมูลปัจจุบันเป็นสิ่งจำเป็น หากยังคงฟังต่อไปในคราวเดียว มันอาจทำให้เกิดความสับสนได้
“คำถามของนายท่านได้รับคำตอบแล้วหรือยังคะ?”
“ได้ในระดับหนึ่ง”
“‘งั้นฉันขอพูดบางอย่างตอนนี้ได้ไหมคะ?”
ฉันยิ้ม
ดูเหมือนเธอมีอะไรจะพูดมากมายเช่นกัน ฉันพยักหน้า
'ฉันเดาได้อยู่แล้วว่าเธออยากจะพูดอะไร'