บทที่ 19 ย้อนแผน
บทที่ 19
ย้อนแผน
หลังจากนั้นฮูหยินเฒ่าก็เริ่มต่อว่านางฉู ทำให้อนุเหลียนเผยท่าทีสะใจ ในขณะที่หลิงอวี่หรงลอบนึกกระหยิ่ม วันนี้ช่างเป็นวันที่มีความสุขจริง ๆ
หลิงอวี่จื้อทนมองมามากเกินพอแล้ว นางค่อย ๆ กล่าวขึ้นพร้อมท่าทีเศร้าสลด
“ท่านย่า ท่านเข้าใจข้าผิดแล้ว ข้ารู้ว่าท่านชอบกินไก่ต้มสับร้านไท่ไป๋ ข้าจึงตั้งใจจะไปซื้อมาให้ท่าน ใครเล่าจะรู้ว่ายังไม่ทันเสร็จเรียบร้อยก็มาเจอกับคนร้ายลอบฆ่าผู้แทนพระองค์”
“ท่านย่าคงได้ยินเรื่องนี้มาแล้ว ตอนนั้นผู้แทนพระองค์เกือบถูกศรยิงเพื่อช่วยชีวิตซื่อจื่อจูเอาไว้ ข้าจึงเจ้าไปรับศรแทนเป็นการตอบแทนที่เขาช่วยซื่อจื่อเอาไว้”
“ผู้แทนพระองค์ถึงได้อุ้มข้าขึ้นรถม้าไป ซื่อจื่อจูเองก็บาดเจ็บเช่นกัน เขาจึงไหว้วานให้ผู้แทนพระองค์ทำเรื่องนี้ ข้าเพิ่งหายเป็นปกติแต่ก็มีมารยาทและคุณธรรม รู้จักรักษาเกียรติของตน ไม่มีทางคิดทำเรื่องที่ทำให้จวนอัครเสนาบดีเสื่อมเสียเด็ดขาด”
เห็นได้ชัดว่าเป็นเหตุที่คาดไม่ถึง ฮูหยินเฒ่าสีหน้าอ่อนลงมากก่อนถามขึ้น “เจ้ารับศรแทนผู้แทนพระองค์จริงหรือ?”
ถึงอย่างไรที่นี่ก็ไม่มีบุรุษอยู่ หลิงอวี่จื้อปลดเสื้อตัวนอกของตนออกเพื่อพิสูจน์ว่าพูดเรื่องจริง มีผ้าพันแผลบริเวณหน้าอกของนาง ทั้งยังมีเลือดซิบออกมา ยามนี้พวกนางไร้ข้อกังขาแล้ว
“ผู้แทนพระองค์เองก็บอกว่าข้าเป็นผู้ช่วยชีวิตเอาไว้และต้องการขอบคุณข้า ท่านย่า ข้าไม่ได้ทำเรื่องแย่ ๆ พวกนั้นจริง ๆ นะ” หลิงอวี่จื้อเงยหน้าพร้อมดวงตาแดงก่ำคล้ายจะร้องไห้เต็มที
ฮูหยินเฒ่าก้าวมาหาและพยุงหลิงอวี่จื้อขึ้นจากพื้น “เด็กดี อย่าร้องไห้ไปเลย คราวนี้เป็นความผิดย่าที่โทษเจ้า แล้วบาดเจ็บร้ายแรงหรือไม่?”
“ข้าไม่เป็นไรแล้ว ท่านย่า ข้าเสียใจมาก ต้องการกลับมาบอกเรื่องนี้ให้ท่านรู้ ใครจะรู้ว่ามีบางคนปากไวกว่าข้า ทั้งยังพูดให้บิดเบือนไปอีกด้วย”
ฮูหยินเฒ่าเหลือบมองอนุเหลียน ทำให้เจ้าตัวและ หลิงอวี่หรงหน้าเสีย โดยเฉพาะอนุเหลียน นางรีบเข้ามาขอโทษ หลิงอวี่จื้อ “คุณหนูใหญ่ ทั้งหมดเป็นความผิดข้าที่ไม่สืบสาวเรื่องราวให้ดีก่อน ดูปากข้าสิ น่าตีเสียจริง”
“ข้าต้องขอโทษพี่หญิงใหญ่ด้วย อย่าโทษท่านแม่ข้าเลย นางไม่ได้ตั้งใจทำแบบนี้”
หลิงอวี่หรงทำทีเป็นขอโทษ หากแต่ความจริงแล้วใกล้บันดาลโทสะออกมาเต็มที
“อนุเหลียน ความสามารถในการพูดไม่ยั้งคิดของท่านเพิ่มขึ้นทุกที โชคดีที่ตอนนี้อวี่จื้อรู้ความชัดเจนดีแล้ว ไม่อย่างนั้นคงยังไม่รู้ตัวว่าถูกท่านใส่ความอย่างไรบ้าง ท่านแม่ ท่านต้องปกป้องข้า”
ฮูหยินเฒ่าลูบหลังหลิงอวี่จื้อ ในใจนึกรู้สึกผิด ตอนนี้ หลิงอวี่จื้อกลายเป็นผู้ช่วยชีวิตผู้แทนพระองค์ พวกนางไม่อาจเมินเฉยต่อหลิงอวี่จื้อได้อีกต่อไป นางจึงเอ่ยขึ้น “อนุเหลียน ต่อไปจงระวังปากให้ดี เห็นไหมว่าอวี่จื้อเสียใจแค่ไหน ชีวิตของนางลำบากอยู่แล้ว เจ้ายกเงินรายเดือนตลอดหนึ่งปีนี้ให้นางทั้งหมดเป็นการขอโทษนางเสีย”
“ตลอดหนึ่งปี...” อนุเหลียนอึ้งไปครู่หนึ่ง ในขณะที่ตั้งท่าจะกล่าวประท้วงก็เห็นสีหน้าไม่สบอารมณ์ของฮูหยินเฒ่า นางจึงปิดปากเงียบและขานรับ “ข้าจะทำตามฮูหยินเฒ่าสั่ง ข้าสมควรถูกลงโทษแล้ว”
หลิงอวี่จื้อลอบยินดีในใจ ไม่ว่าจะยุคสมัยไหนเงินย่อมเป็นสิ่งที่ดี ค่ำคืนนี้ถือว่าคุ้มค่าแล้ว การแย่งเงินรายเดือนทั้งปีของอนุเหลียนช่างง่ายดายนัก
เท่านี้ยังไม่พอ ฮูหยินเฒ่ายังมอบเครื่องเพชรพลอยเพื่อปลอบใจหลิงอวี่จื้อด้วย
การลงทุนครั้งนี้ได้ผลตอบแทนมากทีเดียว
หลิงอวี่จื้อนอนลงบนเตียงหลังจากกลับมา พลางชื่นชมเครื่องเพชรพลอยที่ฮูหยินเฒ่ามอบให้ ไม่ว่าจะเป็นสร้อยข้อมือ ปิ่นปักผม และหวีปักผม นางเคยถ่ายละครย้อนยุคมามาก ของพวกนี้ถือว่าเป็นสมบัติทั้งนั้น
เพื่อสร้างความมั่นคงในจวนอัครเสนาบดี ต้องหาทางใกล้ชิดกับคนสำคัญของไทเฮามู่หรง แม้เซียวเยี่ยนกับนางจะต่างเพศกัน แต่นางก็มีคู่หมั้นคู่หมายของตนเองอยู่