บทที่ 187 : เนลม์ไฮมฟ์ (9-1)
บทที่ 187 : เนลม์ไฮมฟ์ (9-1)
ฉันมองไปที่รีเจียน
ท่าทางของเขามั่นคงมาก ขณะที่ฉันพิงก้อนหินและกลั้นหายใจ
'ความแตกต่างระหว่างรีเจียนกับฉันนั้น...'
ฉันไตร่ตรอง
เห็นได้ชัดว่าความสามารถทางกายภาพของฉันเหนือกว่า เมื่อฉันเคลื่อนไหวไปได้สองครั้ง แต่รีเจียนกลับเคลื่อนไหวได้เพียงครั้งเดียว เมื่อฉันใส่กำลังเต็ม 10 รีเจียนใช้เกำลังพียง 5 เท่านั้น
ผลลัพธ์ที่ได้นั้นกลับตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง ดาบของรีเจียนเร็วกว่าและทรงพลังกว่าฉัน
“แค่เพิ่มความแข็งแกร่งไม่ได้ทำให้ดาบแข็งแกร่งขึ้น เช่นเดียวกับความเร็ว”
รีเจียนสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วพูดอออกมา
“แม้ว่านายท่านจะแกว่งดาบด้วยพลังเต็ม 10 แต่มันก็ไม่สามารถถ่ายโอนพลังไปยังดาบได้เต็มที่”
“นั่นก็อาจจะเป็นเรื่องจริง”
รีเจียนยื่นขวดน้ำให้ฉัน
ขณะที่น้ำไหลลงคอของฉัน ความมีชีวิตชีวาก็พุ่งไปทั่วร่างกายของฉัน
“มันไม่ได้ถ่ายโอนพลังใส่ทั้งหมดสินะ”
มันเป็นเรื่องง่ายๆ
การเคลื่อนไหวร่างกายโดยตรงและการใช้มันเพื่อควบคุมอาวุธนั้นแตกต่างกัน
การเคลื่อนไหวทุกรูปแบบมักจะมีการสูญเสียพลังงานอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเล็กน้อยหรือมากก็ตาม
“ตอนนี้ฉันพอจะเข้าใจถึงความสามารถวิญญาณดาบสวรรค์ (ร่างกายและดาบผสาน) แล้วล่ะ”
ตอนที่ฉันเป็นนายท่าน ฉันรู้แค่ว่ามันเป็นทักษะที่ปรับเปลี่ยนทักษะการใช้ดาบ แต่ตอนนี้ฉันได้สัมผัสมันโดยตรงแล้ว ทำให้ฉันเหมือนตกผลึกความรึ้ก ฉันเทน้ำจนหยดสุดท้ายแล้วก็ถามว่า
“ดาบของฉันมีพลังมากแค่ไหน?”
“ประมาณ 80% ของนายท่านเอง”
"และนายล่ะ?"
“ประมาณสามเท่าของพลังผม”
แต่ฉันก็เข้าใจบ้างแล้ว หากไม่อยู่ในระดับนั้น รีเจียนคงไม่สามารถเอาชนะสัตว์ประหลาดที่ใหญ่กว่าและแข็งแกร่งกว่าตัวเขามากด้วยการแกว่งดาบเพียงครั้งเดียว
'เมื่อเขาเหวี่ยงดาบด้วยพลังแค่ 10 ดาบจะมีพลังถึง 30 สินะ'
ทว่าช่องว่างด้านความสามารถระหว่างรีเจียนและฉันก็ยังไม่อาจต่อกรกันได้
จากจุดเริ่มต้น เราดูเหมือนแตกต่างกันเกินไปเกือบห้า มันอาจจะเป็นเพราะเรื่องหนึ่งที่ฉันคิดมาโดยตลอด…ฉันจึงถามเขาออกไป
“การเคลื่อนไหวของฉันมันสิ้นเปลืองพลังงานมากไป ถูกต้องหรือเปล่า?”
“จากมุมมองของผมก็ใช่ครับ แต่มันก็ช่วยไม่ได้ เพราะนายท่านเพิ่งมาถึงที่นี่ได้ไม่นานนัก”
ประสิทธิภาพของการเคลื่อนไหวแตกต่างกัน
ฉันรู้สึกถึงความจริงข้อนี้เมื่อเราปะทะกัน เมื่อฉันโจมตีสองครั้ง เขาก็ป้องกันการโจมตีเพียงหนึ่งครั้ง เมื่อเขาเหวี่ยงดาบครั้งหนึ่ง ฉันต้องป้องกันสองครั้ง
ทันทีที่เขาขยับนิ้วเดียว เขาก็เจาะทะลุทุกสิ่งไปแล้ว
เขารู้ว่าฉันจะโจมตีที่ไหนและจะโจมตียังไง ไม่เพียงเท่านั้น เขายังใช้ประโยชน์จากช่องเปิดเล็กๆ ของฉันได้อย่างสมบูรณ์แบบ ฉันก็เคยรู้สึกคล้ายๆ กันนี้ในการดวลกับเวคิสและเจนน่า
“รีเจียน”
"ครับ"
“นายแข็งแกร่ง”
“เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับการยกย่องนี้จากนายท่าน”
รีเจียนโค้งคำนับอีกครั้ง
ฉันค่อยๆ มองดูเขาอย่างช้าๆ นอกเหนือจากใบหน้าอันไร้อารมณ์ของเขาแล้ว เขาก็ยังมีรูปลักษณ์ที่ธรรมดาอีกด้วย ร่างกายของเขาไม่มีกล้ามเนื้อมากเกินไป ฉันไม่สามารถบอกได้เลยว่าพลังอันยิ่งใหญ่ที่เขาได้ใช้ในตอนปีนหอคอยมันมาจากไหน
“ก็สมกับเป็นปรมาจารย์ดี”
อาชีพของเขาคือปรมาจารย์ผู้เชี่ยวชาญอาวุธ
เขาแตกต่างจากสมาชิกคนอื่นๆ แม้หลังเปลี่ยนเป็นฮีโร่ระดับ 6 ดาว เขาก็ยังคงมีอาชีพเช่นเดิม
ข้อกำหนดพื้นฐานคือการมีเลเวล 20 หรือเป็นฮีโร่ระดับ 3 ดาว
และหากคุณสมบัติตรงตามเงื่อนไขบางประการ ความสามารถด้านการใช้อาวุธก็จะเพิ่มขึ้นอีก
ความสามารถที่แข็งแกร่งที่สุดของอาชีพนี้คือความชำนาญในการใช้อาวุธ
เมื่อได้รับทักษะพิเศษอย่าง “ชำนาญทุกวิถี” แล้ว ก็จะสามารถใช้อาวุธอื่นๆ ได้มีประสิทธิภาพเช่นเดียวกับอาวุธหลักได้ กล่าวอีกนัยหนึ่งคือเราสามารถใช้อาวุธได้อย่างไม่จำกัดจำนวน
ทว่า…
'มันไม่ใช่เส้นทางของฉัน'
วิธีการก้าวไปสู่อาชีพปรมาจารย์นั้นเป็นความลับ แต่แน่นอนว่าฉันรู้ดี
ฉันคือคนที่สร้างรีเจียนขึ้น ฉันจึงรู้ว่ามันไม่เหมาะกับวิธีการต่อสู้ของฉัน
'ยังมีอะไรอีกมากมายที่ต้องเรียนรู้'
ฉันยืนขึ้น
ความร้อนในร่างกายของฉันลดลงเล็กน้อย
“นายท่านจะอยู่ที่นี่เพียงเดือนเดียวเท่านั้นเหรอครับ?”
"ใช่"
“ถ้าอย่างนั้นก็มีเวลาไม่มาก”
ความเสียใจปรากฏขึ้นในดวงตาของรีเจียน
“ถ้านายท่านยู่ที่นี้สักหนึ่งปีหรือหกเดือน…”
“นายจะทำอะไร?”
“นายท่านจะแข็งแกร่งยิ่งกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้”
“นั่นเป็นสิ่งที่นายจะมอบให้ฉันเหรอ?”
ฉันหัวเราะและหมุนดาบของฉัน
จากนั้นฉันก็รีบวิ่งไปหารีเจียน
เขาสกัดกั้นราวกับว่าเขารู้อยู่แล้วฉันจะโจมตีหน้าผากของเขา
“วิธีการต่อสู้ของนายท่านแตกต่างจากของผม”
เคล้ง! กริ๊ง กริ๊ง!
ดาบของเราปะทะกัน ทำให้เกิดประกายไฟปลิวว่อน ฉันไม่หยุดและกวัดแกว่งดาบต่อไป เสียงของใบมีดที่ตัดผ่านอากาศและการเสียดสีของโลหะดังก้องอยู่ในหูของฉัน
“โดยพื้นฐานแล้ว มันเป็นทักษะดาบที่ยอดเยี่ยมที่ได้รับการสนับสนุนจากทักษะต่างๆ นายท่านเป็นคนรอบรู้ที่สามารถใช้ความสามารถได้ในทุกสถานการณ์”
“เป็นแบบนั้นเหรอ?”
“นายท่านก็เหมือนกับเซริส”
ฉันขยับดาบเพื่อพยายามโจมตี
แรงผลักดันได้มุ่งเป้าไปที่คอ หน้าอก และขาใส่รีเจียนในคราเดียว
ขณะที่รีเจียนเหวี่ยงดาบของเขาเป็นวงกลม การโจมตีทั้งหมดก็คล้ายถูกดูดซับเข้าสู่วิถีดาบของเขา
“หากนายพัฒนาอย่างเหมาะสม…นายท่านอาจจะกลายเป็นผู้แข็งแกร่งที่สุด”
“ถ้ามันง่ายขนาดนั้นก็คงจะดี”
ฉันหัวเราะออกมา
แม้ว่าการโจมตีทั้งหมดจะถูกขัดขวาง แต่ฉันก็ไม่หยุดแกว่งดาบ
“รีเจียน ในขณะที่ฉันอยู่ที่นี่ ฉันต้องการที่จะยกระดับทักษะดาบของฉันไปสู่ระดับกลาง”
“ด้วยพรสวรรค์ของนายท่าน มันย่อมเป็นไปได้”
“นายจะช่วยฉันไหม?”
“ด้วยความยินดีครับ”
หลังจากที่ถูกเรียกตัวมายังโลกใบนี้ ฉันก็ต้องฝึกดาบด้วยตนเองเกือบทุกด้าน
แต่ฉันไม่ได้ทำเพราะฉันอยากทำ ฉันรู้ว่าการมีพี่เลี้ยงที่สามารถชี้แนะนั้นสำคัญแค่ไหน การเรียนรู้ภายใต้อาจารย์ผู้สอนที่ยอดเยี่ยม ไม่ว่าจะมีความสามารถใดก็ตาม ย่อมมีประสิทธิภาพมากกว่าการเรียนรู้ด้วยตนเอง นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันพาอารอนมาที่เนลม์ไฮมฟ์ด้วย ทั้งหมดก็เพราะเหตุผลเดียวกัน
การเลื่อนระดับทักษะดาบไปสู่ระดับกลางไม่ใช่เรื่องง่าย
ฮีโร่ส่วนใหญ่สามารถทะลุผ่านไปถึงระดับกลางได้หลังจากที่พวกเขาเพิ่มระดับ ระดับเฉลี่ยในการได้รับมันคือ 30 หรือสูงกว่านั้น แต่ฉันไม่ได้คิดที่จะเสียเวลารอ
'ถ้าเร็วขึ้นอีกหน่อยก็ย่อมดีกว่า'
เพื่อที่จะแข็งแกร่งจนไม่มีใครเอาชนะฉันได้
แข็งแกร่งพอที่จะจัดการกับไอ้เวรนั่นได้ด้วยตัวเอง
ฉันไม่ต้องการพึ่งพาเนลม์ไฮมฟ์กับทุกสิ่ง แต่ฉันก็ไม่ได้วางแผนที่จะสำรวจโลกที่บ้าคลั่งนี้ด้วยตัวเองคนเดียว
หากการได้รับความช่วยเหลือกลายเป็นเงื่อนไข ฉันก็ยินดีจะยอมรับมัน และสิ่งที่ฉันได้รับมา ฉันก็จะตอบแทนคืนไป