บทที่ 184 : เนลม์ไฮมฟ์ (7- 2)
บทที่ 184 : เนลม์ไฮมฟ์ (7- 2)
“นายท่านทางนี้ค่ะ”
ประตูสีดำที่มีลวดลายสีทองสลักอยู่
มันเป็นข้อความที่สงวนไว้สำหรับเจ้าหน้าที่ระดับสูง ฉันเดินตามนิดเลสเข้าไปข้างในและลิฟต์ก็เริ่มเคลื่อนตัว
มันต่างจากลิฟต์ทั่วไปตรงที่แทบไม่มีการสั่นสะเทือนเลย
ฉันสังเกตทิวทัศน์ของเนลม์ไฮมฟ์ผ่านกระจกด้านหลัง ชั้นสามเป็นที่ตั้งของการผลิตขั้นพื้นฐานและการรวบรวมฮีโร่ที่ถนัดในด้านต่างๆ ฮีโร่ที่ทำงานในโรงผลิดจะอยู่ที่ด้านหนึ่งของจัตุรัส
ชั้นที่สี่เป็นที่ฮีโร่ที่ทำการต่อสู้เป็นขั้นพื้นฐานอาศัยอยู่
พวกเขามีหน้าที่รับผิดชอบในภารกิจการต่อสู้ย่อยและคุ้มกันฮีโร่จากชั้นสามไปยังดันเจี้ยนประจำสัปดาห์ เมื่อขึ้นไปชั้นบน ความรับผิดชอบ อำนาจ และอะไรหลายอย่างก็จะกระจายกัน
แต่มันไม่ใช่โครงสร้างแบบปิรามิด
ฮีโร่ส่วนใหญ่ของเนลม์ไฮมฟ์อยู่ที่ชั้นกลางตั้งแต่ชั้นที่ 5 ถึงชั้นที่ 8 นี่เป็นสิ่งที่ฉันได้จัดเตรียมไว้
ตั้งแต่ชั้นที่ 9 เป็นต้นไป มันจะเป็นฮีโร่ที่มีหน้าที่เป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายธุรการ
พวกเขามีหน้าที่ควบคุมการรบและจัดการสิ่งอำนวยความสะดวก ส่วนฮีโร่ที่เข้าร่วมรบจริงๆ ของเนลม์ไฮมฟ์จะเริ่มต้นจากชั้นที่สิบ อำนาจของพวกเขายิ่งเพิ่มขึ้นไปมากกว่าฮีโร่ชั้นอื่น
จากชั้นที่ 11 จำนวนคนจะลดลงอย่างมาก
ฮีโร่ 400 คนอยู่ชั้นที่ 11
ฮีโร่ 90 คนอยู่ชั้นที่ 12
และชั้นสุดท้าย…
มีสมาชิกเพียง 5 คน
ประตูลิฟต์ถูกเปิดออก เมื่อมองขึ้นไปฉันเห็นท้องฟ้าสีเทา
มันเป็นชั้นที่สิบสาม
พื้นทรงกลม
ไม่เหมือนกับชั้นอื่นๆ ขนาดมันไม่กว้างขวางมากนัก
แต่ขนาดของมันเปรียบได้กับหมู่บ้านเล็กๆ
ชั้นบนสุดของเนลม์ไฮมฟ์ถูกแบ่งออกเป็นห้าส่วน โดยแต่ละส่วนมีที่อยู่อาศัยของตัวเอง
“นั่นถูกสร้างโดยยูเน็ตเหรอ?”
ฉันชี้ไปที่ปราสาทตรงกลาง
มันเป็นอาคารที่ฉันไม่เคยเห็นมาก่อน
"ใช่ค่ะ มันถูกสร้างขึ้นเพื่อนายท่าน”
“ทำซะยิ่งใหญ่เชียวนะ”
แม้ว่าจะไม่ฉูดฉาด แต่ก็เปล่งประกายด้วยสีดำเงา
ภายในปราสาท ดูเหมือนมีห้องรับแขกที่ฉันเข้าไปเมื่อวันก่อนนี้
“นายท่านเชิญทางนี้ค่ะ”
หมอกก่อตัวตามทางเดินอิฐแล้วเรียงกันเป็นแถว
ฉันยิ้มแล้วเดินตามสายหมอกไป หมอกนั้นนำไปสู่สวนของยูเน็ต
“ที่นี่ค่ะ”
นิดเลสโค้งคำนับ
ดูเหมือนเธอจะไปทำหน้าที่อื่น
ฉันเข้าไปในสวน
ยูเน็ตกำลังรออยู่ข้างโต๊ะกลาง
“ฉันเตรียมอาหารไว้เรียบร้อยแล้วค่ะ”
ยูเน็ตยิ้มและปรบมือของเธอ
ขนมปังและสลัดต่างๆ ปรากฏอยู่บนโต๊ะ
“ฉันทำแต่อาหารง่ายๆ แต่ฉันหวังว่ามันจะถูกปากนะคะ”
“แค่นี้ก็เกินพอแล้ว”
ฉันหยิบขนมปังชิ้นเล็กๆ ขึ้นมาจากตะกร้า
ถ้าเป็นงานฉลองใหญ่ ฉันคงจะปฏิเสธ
ฉันนั่งลงและแทะขนมปัง
“เรียกฉันมาทำไมเหรอ?”
“ฉันได้ยินมาว่านายท่านกำลังจะไปฝึก”
"ถูกต้อง"
“เราชื่นชมความมุ่งมั่นของท่านที่จะแข็งแกร่งขึ้นด้วยตัวท่านเอง แต่…”
ยูเน็ตลดสายตาลง
“ฉันขอโทษนะคะนายท่าน”
"เรื่องอะไร?"
“เราเข้าใจเจตนาของดี แต่ดูเหมือนว่านายท่านจะไม่เชื่อใจเราเลย”
ยูเน็ตมีสีหน้าเศร้าหมองยิ่ง
ฉันหัวเราะเบาๆ ฉันรู้ดีถึงสิ่งที่เธอต้องการจะพูด
“การแข็งแกร่งขึ้นก็เป็นเรื่องที่ดี แต่ฉันเองก็หวังว่าอย่างน้อยท่านควรจะเพิ่งพาเราสักหน่อยไม่ได้เหรอคะ?”
"เพราะไม่งั้นเราคงจะได้แต่ต้องมองท่านจากรอบนอกเท่านั้น…”
ยูเน็ตกอดแขนของเธอ
“แสดงเก่งจังนะ”
แต่ครึ่งที่เธอพูดมาคงจะมาจากใจจริง
ฉันหัวเราะและพูดว่า “ที่จริงฉันก็จะขอให้ช่วยอยู่แล้ว”
“จริงเหรอคะ?”
“แล้วคิดว่าทำไมฉันถึงมาที่นี่ล่ะ?”
ถ้าเนลม์ไฮมฟ์ไม่มีประโยชน์สำหรับฉัน ฉันคงจะอยู่ที่ทาวน์เนียต่อไป มีเหตุผลอื่นอีกที่ฉันมาที่นี่นอกเหนือจากการต้องการข้อมูล
“แต่ฉันจะไม่พึ่งพาเธอในทุกสิ่ง อาจจะเป็นแค่การช่วยเหลือเล็กน้อยเท่านั้น”
“แล้วเราจะช่วยยังไงได้บ้างเหรอคะ?”
ยูเน็ตโน้มตัวไปข้างหน้าข้ามโต๊ะ
ใบหน้าของเธอเข้ามาใกล้มากขึ้น
“เธอเข้ามาใกล้เกินไป ถอยออกไปหน่อย”
“…ฉันขอโทษที่แสดงพฤติกรรมเช่นนั้นออกไป”
ยูเน็ตปรับท่าทางของเธอ
“นายท่าน หรือให้เราส่งอัญมณีประมาณล้านเม็ดไปที่ทาวเนีย์เลยไหมคะ?”
เฮ้อ
“เธอจะเอาแบบนี้จริงๆ เหรอ?”
แม้ว่าจะได้รับความช่วยเหลือทั้งหมดมา แต่ฉันคงไม่อาจช่วยเหลือนายท่านไรก็ได้ไปตลอด
“การสนับสนุนทาวน์เนียเป็นสิ่งต้องห้ามโดยเด็ดขาด ห้ามติดต่อ เว้นเสียแต่ว่าฉันจะบอกกให้ทำ อย่าเข้าไปยุ่งไม่ว่าทางใดทางหนึ่ง”
“ตามที่นายท่านสั่งค่ะ”
ยูเน็ตโค้งคำนับ
'พอเป็นแบบนี้แล้ว...'
ดูแล้วฉันคงต้องบอกเธอทุกเรื่องตั้งแต่ขั้นพื้นฐานเลยแฮะ
'รู้สึกเหมือนได้เลี้ยงดูนักเรียนชั้นประถมเลย'
หลังจากขจัดความคิดของฉันเกี่ยวกับไรก็ได้แล้ว ฉันก็พูดต่อ
“อย่างที่ฉันบอกไป ที่จะให้ช่วยคือเรื่องการฝึกฝน”
"การฝึก..."
“ความก้าวหน้าและทักษะ”
มีอีกสิ่งหนึ่งที่ฉันจะขอ
ฉันวางแผนที่จะหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาเมื่อการฝึกอบรมใกล้จะเสร็จสิ้นแล้ว
“ถ้านายท่านต้องการอะไรก็บอกได้เลยค่ะ”
ยูเน็ตส่งยิ้มอันแสนอ่อนโยนมาให้ฉัน
“ฉันมีบางอย่างอยู่ในใจแล้ว ไว้ฉันจะบอกเธอทีหลัง”
หลังจากทานอาหารเสร็จ ฉันก็ออกจากสวนไป
ยูเน็ตมุ่งหน้าไปที่ห้องทำงานของเธอ เธอบอกว่าเธอจะต้องไปดูแลธุระหลายอย่างของเนลม์ไฮมฟ์
เดิมทีมันเป็นงานที่แบ่งกัน เธอคงจะยุ่งมากที่ต้องทำมันแค่คนเดียว
ถ้าฉันมีเวลาฉันก็อยากจะช่วย แต่ตอนนี้ฉันต้องสนใจเรื่องของตัวเองก่อน
ฉันเดินไปตามเส้นทาง
ทิวทัศน์ที่เต็มไปด้วยต้นไม้และหญ้าเริ่มเปลี่ยนไปทีละน้อย
ภูมิประเทศที่แห้งแล้งเป็นหิน
แม้แต่ทางด้านล่างก็หายไป
ฉันออกจากอาณาเขตของยูเน็ตไปโดยสมบูรณ์แล้ว
หินโผล่ขึ้นมาตามพื้นที่โดยรอบ
หินต่างๆ มีขนาดเล็กเพียง 1 เมตร ในขณะที่บางอันก็สูงเกิน 10 เมตร รอยใบมีดนับไม่ถ้วนถูกสลักไว้บนพื้นผิวหิน
'แต่จริงๆ แล้ว มันไม่ใช่หิน'
เมื่อมองแวบแรก พวกมันดูเหมือนก้อนหิน แต่เมื่อมองดูใกล้ๆพวกมันจะแตกต่างออกไป
แร่ขนาดมหึมาที่มีความแวววาวสีดำเข้ม พวกมันถูกเรียกว่าเหล็กดำ มันแข็งและคมกว่าเหล็กหลายเท่า ฉันคุ้นเคยกับพื้นที่นี้ดี
“ภูเขาเหล็ก”
ฉันตรวจดูหินอย่างใกล้ชิด
รอยใบมีดที่ตัดผ่านเหล็กดำเหมือนกระดาษกำลังก่อตัวเป็นรูปเป็นร่าง
'หมอนั้นคงกำลังแกะสลักมันสินะ'
ประติมากรรมบนผนังภายในปราสาท
นอกจากเขาแล้ว คงไม่มีใครทำได้แบบนี้
อันดับที่ 3 ใน เนลม์ไฮมฟ์
เจ้าของดาบแห่งสวรรค์
พรสวรรค์ของเขาล้นหลาม จนถึงจุดที่ฉันเคยสงสัยว่าเขาเป็นบั๊กของเกมหรือเปล่า
“รีเจี้ยน”
"ผมนายท่านอยู่พอดีเลยครับ"
ด้านหลังภูเขาเหล็กได้แตกออกเป็นสองส่วน
ชายหนุ่มหน้าตาเย็นชาเดินออกมา