บทที่ 180 : เนลม์ไฮมฟ์ (5-2)
บทที่ 180 : เนลม์ไฮมฟ์ (5-2)
พวกเรานั่งลงทันที
หลังจากยืนยันจำนวนผู้เข้าร่วมแล้ว ผู้ฝึกสอนคนอื่นๆ ทั้งหมดก็ออกไป เหลือเพียงอัลเดอร์คินเท่านั้น
อัลเดอร์คิน ยืนอยู่ข้างหน้าและพูดขึ้น
“จากนี้ไปเราจะเรียนภาคทฤษฎีกัน”
"…ทฤษฎี?"
“ครึ่งหนึ่งของการฝึกที่เข้มงวดของพวกนายทุกคน จะประกอบด้วยการเรียนรู้ทฤษฎีและการประยุกต์ใช้กับภารกิจและการต่อสู้ เทคนิคการต่อสู้โดยละเอียดจะสอนในส่วนหลังของการฝึกเสร็จสิ้น”
ความสงสยปรากฏบนใบหน้าของทุกคน
อัลเดอร์คินอธิบายต่อไป
“พวกนายทุกคนต้องรู้เรื่องนี้จากประสบการณ์ของนาย โลกทุกใบนี้มันแตกต่างจากความเป็นจริง มันมีกฎตายตัวของมัน เช่นนั้นต้องทำยังไงเพื่ออยู่รอดกันล่ะ?”
ไม่มีการตอบรับ
“ข้อมูลไงล่ะ”
“…”
“พวกนายต้องเข้าใจกฎของโลกนี้ ตัวตนที่ต้องเผชิญหน้าคือสิ่งใด ค่าสถานะและทักษะคืออะไร วิธีนำไปใช้ในการต่อสู้ ทุกอย่างเริ่มต้นจากพื้นฐาน”
อัลเดอร์คินกล่าว
“จากนั้น เราจะสอนครอบคลุมหัวข้อต่างๆ ตั้งแต่ประเภทภารกิจและกลยุทธ์ การใช้วัตถุ ประเภทและคุณสมบัติของศัตรู ไปจนถึงรูปแบบการรบ”
“ค่าสถานะ ทักษะ ภารกิจ คำเหล่านี้ฟังดูคุ้นเคยจากที่ไหนสักแห่ง”
เจนน่าพึมพำ
ก็ควรจะคุ้นเคยสิ เพราะฉันเคยพูดให้เจนน่าฟังแล้ว
'ว่าแต่พวกเขารู้เรื่องนี้ด้วยเหรอ?'
จริงสินะ
ไม่มีทางที่พวกเขาจะไม่รู้
ฉากที่ฮีโร่ระดับสูงถ่ายทอดความทรงจำของตนให้ฮีโร่ผู้มาใหม่ คือสิ่งที่ฉันเคยเห็นมาหลายครั้ง
หากคุณได้คลุกคลีและเจอกับมันมาเป็นเวลานาน ก็ควรจะเป็นเรื่องปกติที่มันจะมีอะไรแบบนี้ ฉันคิดอย่างนั้นและปัดความสงสัยทิ้งลงไป
“สิ่งที่สำคัญที่สุดที่พวกนายต้องรู้ตำแหน่งปัจจุบันของพวกนายในโลกฝบนี้”
อัลเดอร์คินหยิบอะไรบางอย่างออกมามาจากใต้แท่นบรรยาย
ของเล่นทรงสี่เหลี่ยมทาสีขาวดำ
มันคือกระดานหมากรุก
“มันเป็นเกมที่เรียกว่าหมากรุก”
อัลเดอร์คินวางชิ้นส่วนไว้ข้างกระดานหมากรุก
เป็นวัตถุทรงกลมสีดำ มันเป็นชิ้นส่วนที่มีอันดับต่ำที่สุด นั่นคือเบี้ย
“นี่เป็นการเปรียบเทียบระหว่างผู้เล่นกับตัวหมากรุกหรือเปล่า?”
พวกเขาบอกว่าหมากรุกเป็นสิ่งของพื้นฐานในห้องนั่งเล่น คงไม่มีฮีโร่คนใดที่ไม่รู้จักเกมนั้น
“นายท่าน…”
อัลเดอร์คินยังคงดำเนินการอธิบายต่อไป
มีคำอธิบายด้านข้างมากมาย แต่แก่นแท้ของการเปรียบเทียบนั้นเรียบง่าย
ฮีโร่เป็นเพียงของเล่นสำหรับนายท่านเท่านั้น
และพวกเขาไม่สามารถอยู่รอดได้หากไม่ตระหนักถึงสิ่งนี้ให้ดี
แต่ก็ไม่มีใครดูตกใจเลย
ซึ่งมันก็คงเป็นเรื่องปกติสำหรับพวกเราทุกคนที่นี่ เพราะคนที่มาที่นี่ล้วนไม่ใช่ลูกไก่แรกเกิดที่เพิ่งถูกเรียกมา
ภารกิจ การสังเคราะห์ และการแปรรูปฮีโร่เป็นพื้นฐานในห้องรอ หากพวกเขาไม่ได้รู้ว่าภายในระบบเป็นยังไง พวกเขาก็คงเป็นแค่คนโง่
อัลเดอร์คินกำลังชี้แจงการเรื่องของฮีโร่ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้ฝึกฝนทราบบางส่วนแล้ว
การบรรยายที่น่าเบื่อยังคงดำเนินต่อไป
“…”
มีคนกำลังงีบหลับไปแล้ว
เนื่องจากทุกคนคุ้นเคยกับการฝึกร่างกายแล้ว
ฮีโร่บางคนได้แต่บ่นว่ามันน่าเบื่อ
'ฉันเองก็รู้สึกแบบเดียวกับพวกเขาเหมือนกัน'
มันน่าเบื่อยิ่งกว่าน่าเบื่อซะอีก
เพราะเขากำลังท่องข้อเท็จจริงที่พวกเขารู้อยู่แล้ว
ในช่วงบ่าย เนื้อหาในชั้นเรียนเปลี่ยนไป
ครั้งนี้ มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับการกำหนดค่าสถานะและทักษะ รวมถึงระดับและคะแนนประสบการณ์
ฉันฟังไปง่วงไป และมองไปทางทางออกของห้องเรียน
“…”
นิสเลสยืนอยู่ตรงนั้น
ริมฝีปากของเธอขยับ เป็นคำที่อ่านได้ว่า
“นายท่าน ออกมาได้แล้ว”
ฉันส่ายหัว
ฉันอยากทำให้ทุกอย่างมันปกติที่สุด
แต่ถ้ามันเป็นเช่นนี้ต่อไปอีกสองสัปดาห์ข้างหน้า มันคงจะน่าเบื่อมาก...
ตอนเย็น
หลังจากกลับมาที่อาคารเสริมแล้ว ฉันก็เปิดประตูห้อง
“…”
ประตูมิติถูกเปิดอยู่
เหนือหมอกนั้นก็มองเห็นสวนได้ชัดเจน
'อีกแล้วเหรอ?'
เวลาอาหารเย็นจบลงแล้ว และไม่มีเหตุผลอะไรที่ฉันต้องไปเรียกหาเจนน่ากับอารอน
ตอนนี้จึงมีเวลามากพอที่จะพูดคุยเรื่องต่อจากเมื่อวันก่อนนี้
ดังนั้นฉันจึงเดินก้าวผ่านประตูมิติไป
สวนที่คุ้นเคยรอต้อนรับฉันอยู่ ของว่างและถ้วยชาถูกวางอยู่บนโต๊ะ นิสเลสยืนอยู่ที่ทางเข้า และยูเน็ตเองกำลังนั่งขัดสมาธิอยู่
“ฉันรออยู่เลยนายท่าน วันนี้เป็นไงบ้างคะ?”
"ไม่ค่อยดี"
“ฉันจะยกเลิกตารางการทั้งหมดเลยดีไหม?”
ฉันส่ายหัว
มันเป็นเรื่องปกติ แค่มันน่าเบื่อ
มันไม่มีประโยชน์สำหรับฉัน แต่มันแตกต่างสำหรับเจนน่าและแอรอน
ฉันตระหนักถึงความสำคัญของข้อมูลหลายครั้ง หากพวกเขาไม่อธิบาย ฉันคงต้องใช้เวลาอธิบายทุกอย่างด้วยตัวเอง
“ฉันมีเรื่องจะพูดกับนายท่านเยอะมากจริงๆ”
“พูดเรื่องในอนาคตเถอะ”
ขณะที่เล่นเกมมือถือ ฉันก็มาจากโลกเข้าสู่โมเบียส
หลังจากนั้นฉันก็สามารถเอาชีวิตรอดและไปถึงบัญชีที่ฉันเล่นได้
อย่างไรก็ตาม มีบางสิ่งที่ต้องแก้ไข
“เธอรู้มากแค่ไหน?”
“มันเป็นคำถามที่ซับซ้อนมากเลยนะคะนายท่าน”
ยูเน็ตยิ้มออกมาอย่างบางเบา
“ฉันก็มีความคิดแบบคนอื่นๆ เกี่ยวกับโลกใบนี้”
"ค่ะ ฉันรู้ดีว่าฉันคือตัวหมาก และฉันก็เคลื่อนไหวเพื่อความบันเทิงของนายท่าน”
“ดูเหมือนเธอจะรู้เรื่องอินเตอร์เน็ตเหมือนกันใช่ไหม?”
ไม่อย่างนั้นเธอคงจะไม่สามารถโพสต์รับสมัครบนกระดานข่าวได้หรอก
ยูเน็ตตอบฉัน
"แน่นอนค่ะ ฉันได้เรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมของโลก มันมีประโยชน์ในด้านต่างๆ มากเลย”
“เธอรู้ได้ยังไงว่าฉันมาอยู่ที่นี่? มันคงจะไม่ได้รู้ผ่านทางอินเทอร์เน็ตหรอกนะ”
“นายท่าน คุณจำสิ่งที่ฉันบอกเมื่อวันก่อนนี้ได้ไหมคะ?”
การสนทนาของฉันกับยูเน็ตไม่ใช่เพียงครั้งเดียว
ถึงกระนั้น ฉันก็สามารถอนุมานอะไรต่างๆ ได้
“ความสัมพันธ์ระหว่างนายท่านและฮีโร่ดำเนินไปอย่างลึกซึ้ง”
“เธอคงรู้เรื่องนี้ดีเลยสินะ”
ยูเน็ตยิ้มอย่างอ่อนโยน
“ดูเหมือนนายท่านจะรู้เรื่องพลังแห่งการรบกวนแล้วสินะคะ…”
"หือ"
“พลังทั้งหมดของเรามาจากนายท่าน เมื่อระดับของนายท่านเพิ่มขึ้น เมื่อพลังของนายท่านเพิ่มขึ้น ความสัมพันธ์ระหว่างนายท่านและฮีโร่ก็จะแข็งแกร่งขึ้นเช่นกัน”
ยูเน็ตยื่นมือขวาออกมา และหนังสือก็ปรากฏขึ้น
มันมีปกหนังสีขาวที่มีรูปแพะภูเขาอยู่บนนั้น
นาเกิลปาร์ หนึ่งในห้าคัมภีร์มหัศจรรย์
“พวกเราทั้งห้าคนรู้โดยสัญชาตญาณทันทีที่นายท่านเข้ามาในโมเบียส”
“โดยสัญชาตญาณเหรอ?”
“มันเหมือนกับโชคชะตา”
'ฉันไม่ชอบคำคลุมเครือแบบนี้เลย'
คำพูดอย่างโชคชะตาไม่ทำให้ฉันคล้อยตามสักนิดเดียว
“ดูเหมือนว่าจะมีแค่สมาชิกตั้งแต่ชั้นที่ 13 เท่านั้นที่รู้สินะ”
“สาเหตุที่เป็นเช่นนั้นมันเป็นเพราะเรื่องของความสามารถค่ะ”
ยูเน็ตกล่าวเสริม