บทที่ 168 : รอยของแยกมิติ (2-2)
บทที่ 168 : รอยของแยกมิติ (2-2)
มีสาเหตุที่เป็นไปได้สามประการ ประการแรกคือมีผู้เสียชีวิต 2 รายในปาร์ตี้ของเธอ ประการที่สองคือความล้มเหลวในการปกป้องแท่นบูชา ด้วยบุคลิกของอีดิส เธอย่อมรู้สึกโทษตัวเอง ส่วนประการที่สามคือ...
'ระดับความยากที่บ้าคลั่ง'
ฉันยิ้มเบาๆ เหมือนปลอบใจเธอ
ในบรรดาภารกิจนับไม่ถ้วน เราจะได้รับแค่ภารกิจที่มีความยากระดับบ้าคลั่งเท่านั้นที่ถูกเลือกให้เราตามที่ยัยบ้านั้นเคยบอกฉัน ความยากภายในของทาวเนียอยู่ที่ระดับ S เกือบจะทัดเทียมกับเนล์ฟไฮม์
“แล้วสมาชิกคนอื่นล่ะ?”
“พวกเขาสบายดี อารอนดูเหมือนจะฝึกฝนมากขึ้นกว่าเดิม ตอนนี้เขากำลังฝึกซ้อมอยู่ในสนามฝึกซ้อม ในทางกลับกันเด็กๆที่ชั้น 1…”
สีหน้าของอีดิสเรียบเฉยยิ่ง
“พวกเขาไม่คิดที่จะต่อสู้อีกต่อไปเพราะปาร์ตี้ที่สามทั้งหมดถูกกวาดล้างไปแล้ว”
“เพราะอัตราการรอดชีวิตต่ำใช่ไหม?”
"ใช่ บางคนคิดว่ากินมันฝรั่งอย่างเดียวก็ดีกว่าไปสู้แล้วตาย”
ฉันกำหมัดของฉันแน่น
เนื่องจากอัตราการรอดชีวิตต่ำ ปัญหาอื่นก็เกิดขึ้น ความไม่สมดุลของอัตราส่วนฮีโร่ หากจะเริ่มต้นภารกิจต่อไป ฉันคงจำเป็นต้องคำนึงถึงความอยู่รอดของปาร์ตี้ย่อยด้วย แน่นอนว่าก่อนที่จะจัดการกับปัญหานั้น...
“เราจำเป็นต้องมีความรู้และประสบการณ์ที่เหมาะสม”
ปาร์ตี้ที่สามไม่เคยมีประสบการณ์กับด่านบอสมาก่อน
เพราะพวกเขาไม่มีประสบการณ์ จึงเป็นสาเหตุให้พวกเขาพ่ายแพ้อย่างราบคาบ เราจึงจำเป็นต้องปรับปรุงและฟื้นฟูสถานที่ฝึกฝนเพื่อให้มีประโยชน์มากขึ้น นายท่านจำเป็นต้องเร่งรีบสร้างสิ่งก่อสร้างขึ้นมา
ฉันถ่ายทอดข้อมูลนี้และวิธีแก้ปัญหาให้กับอีดิส
เธอฟังเงียบๆ และพึมพำออกมา “นายเป็นใครกันแน่…?”
"ว่าไงนะ?"
"ไม่มีอะไร ฉันแค่รู้สึกว่านายน่าทึ่งมาก นายรู้ทุกอย่าง คำแนะนำของนายแม่นยำ การตัดสินใจในสถานการณ์ของนายนั้นเยือกเย็น และพลังการต่อสู้ของนายก็น่าเหลือเชื่อ นายแทบจะโค่นมังกรลงได้เพียงลำพัง มันเกินกว่าคนปกติแล้ว”
อีดิสเผยรอยยิ้มอันขมขื่น
“เมื่อเทียบกับนายแล้ว ฉันเหมือนเป็นแค่มดตัวเล็กๆ ตอนแรกฉันคิดว่าคงอาจจะสามารถช่วยอะไรได้บ้าง แต่ว่า…โอ้ยยยยยย!”
ฉันเหยียบเท้าของอีดิสอย่างแรง
“เธอพูดเรื่องไร้สาระอะไรกัน? ฉันเคยพูดไปแล้วนะว่าฉันไม่สามารถทำทุกอย่างเองทั้งหมดได้”
"ฉันเข้าใจ แต่ฉันแค่รู้สึกแย่นิดหน่อย"
“จากนี้ฉันอาจจะหายไปประมาณหนึ่งเดือน”
10 วันของเวลาโลก ก็คงจะใช้เวลาประมาณหนึ่งเดือนในห้องรอ
อีดิสกระพริบตาปริบๆ
"หนึ่งเดือน? นายกำลังจะไปสำรวจหรือไปทำอะไร?”
“ไม่ ฉันไปไกลกว่านั้นอีก ถ้าถึงเวลานั้นแล้ว ได้โปรดดูแลที่แห่งนี้แทนฉันด้วย”
ถ้านายท่านทำตามคำแนะนำของฉัน ฮีโร่ขั้นสูงก็คงจะเข้ามาในห้องรอนี้
เพื่อเติมเต็มตำแหน่งสมาชิกว่างในปาร์ตี้ที่สองและปาร์ตี้ที่สาม ฉันอธิบายเรื่องทั้งหมดนี้ให้อีดิสฟังและเธอก็พยักหน้าตอบ
“นายอยากให้ฉันรับผิดชอบทั้งหมดนี้เลยงั้นเหรอ?”
"ถูกต้อง เพราะงั้นอย่ายึดติดกับฉันมากไป”
“แต่เอาจริงๆ นะ นายจะไปไหนกันแน่…?”
“ฉันจะไปที่ห้องรออื่น”
อีดิสรู้สึกงสงสัยมาก
ฉันรู้ว่าฉันต้องอธิบายเรื่องนี้ด้วย ฉันจึงหัวเราะและพูดว่า “โลกนี้ไม่ใช่มีแต่กลุ่มเรากลุ่มเดียว มีนายท่านและฮีโร่คนอื่นๆ อยู่อีกนับร้อยล้าน”
หลังจากอธิบายเสร็จ
อีดิสก็คล้ายกับไม่สามารถพูดอะไรได้ชั่วขณะหนึ่ง
"……นับร้อยล้าน? มีสถานที่แบบนี้นับร้อยล้านแห่งเลยงั้นเหรอ?”
“ถึงจะบอกว่านับร้อยล้าน แต่ที่จริงตอนนี้มันคงไม่ถึงครึ่งล่ะมั้ง”
“เรื่องแบบนี้มันเป็นไปได้ด้วยเหรอ…?”
“เอาน่า เธอไม่จำเป็นต้องสนใจมันหรอก”
อีดิสจับหน้าผากของเธอ
“ฉันรู้สึกเหมือน…ฉันได้รู้สิ่งที่เปิดโลกของฉันเลยแฮะ แต่เอาเถอะ ฉันเข้าใจแล้ว ฉันจะทำตามที่นายบอกฉันมา”
“ฉันเชื่อใจเธอคนเดียวเท่านั้นนะ”
ฉันลุกขึ้นจากที่นั่ง เดินผ่านอีดิสและวางมือบนไหล่ของเธอ
อีดิสพยักหน้า
นายท่านใช้เวลาไม่นานนักในการจบการเล่นของวันนี้
จากนั้นเขาก็ไม่ได้เข้าสู่ระบบอยู่พักหนึ่ง ฉันจัดระเบียบการต่อสู้ที่สนามฝึกซ้อม
'นักฆ่ามังกร ความเป็นอมตะ'
โบนัสความสามารถที่ได้รับจากการใช้ทักษะความบ้าคลั่งเพิ่มขึ้นเป็นเกือบถึงระดับ 10
ความเป็นอมตะมีผลในการชะลอผลสถานะผิดปกติ เช่น พิษ ความสับสน และการตกเลือด
มันเป็นหนึ่งในทักษะที่แนะนำสำหรับฮีโร่ที่ใช้ทักษะความบ้าคลั่ง เพราะนอกเหนือจากการเพิ่มพลังการต่อสู้ มันเพิ่มความต้านทานอาการผิดปกติด้วย
'นักล่ามังกร...'
จะทำให้ได้รับโบนัสพิเศษเมื่อเผชิญหน้ากับมังกร
มันเป็นทักษะพิเศษที่สามารถเรียนรู้ได้จากการผ่านความสำเร็จเท่านั้น ดูเหมือนว่าระบบจะให้ฉันมาเพราะฉันได้โจมตีครั้งสุดท้ายใสมังกร
“ถ้าผมรู้แบบนี้ ผมคงจะออกไปต่อสู้เองแล้ว”
ในสนามฝึกซ้อม เวลคิสได้แต่เดาะลิ้นของเขา
“ถ้าอย่างนั้น เราก็คงจะมีศพเพิ่มอีกศพล่ะนะ”
เนเรสซ่าหยอกล้อ
ทั้งสองคนหัวเราะและเข้าไปในพื้นที่ฝึกซ้อม และหลังจากนั้นอีกสองสามวัน ความรู้สึกอันหนักอึ้งในยามต่อสู้กับบอสก็ถูกลืมไป
[ยินดีต้อนรับสู่พิกมีอัพ!]
นายท่านได้เข้าสู่ระบบแล้ว
เขาข้ามประกาศและกิจกรรมต่างๆ ที่เด้งขึ้นมาอย่างรวดเร็ว และตรงไปที่เมนู จากนั้นเขาก็ไปที่ส่วนช่วยเหลือภายใต้รายการเบ็ดเตล็ดและค้นหา “รอยแยกของแห่งมิติ”
[รอยแยกของมิติคืออะไร?]
['รอยแยกของมิติ' เป็นสถานที่พิเศษที่คุณสามารถเพลิดเพลินกับเนื้อหาภายนอก พิกมีอัพเปิดให้เฉพาะนายท่านที่เลเวล 20 ขึ้นไปเท่านั้น และไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม]
[หมวดหมู่ย่อย – การจัดส่ง การเดินทาง กิจกรรม… ]
[※ประกาศ!]
[เมื่อคุณเปิดรอยแยกของมิติ คุณจะสามารถเข้าถึงคาเฟ่รอยแยกของมิติทางด้านขวาของหน้าจอหลัก ในคาเฟ่นั้นคุณสามารถโต้ตอบกับนายท่านคนอื่นๆ ได้]
[※คำเตือน!]
[เมื่อคุณเปิดรอยแยกของมิติ คุณจะได้รับพิกัดมิติ นอกจากนี้การป้องกันชั้นหนึ่งของห้องรอจะถูกยกระดับขึ้น จงระวังเพราะคุณอาจถูกรุกรานโดยนายท่านคนอื่น! ดังนั้นโปรดตัดสินใจอย่างรอบคอบ!]
[คำแนะนำ : พิกัดมิติคือพิกัดภายในห้องรอของเซิร์ฟเวอร์ปัจจุบัน]
[คำแนะนำ : คุณสามารถเลือกที่จะไม่เปิดรอยแยกของมิติก็ได้ หากคุณต้องการเล่นเดี่ยว]
นายท่านปิดส่วนช่วยเหลือและกลับสู่หน้าจอหลัก
จากนั้นเขาก็แตะไอคอนสีเทาที่ส่องแสงสีขาว ไอคอนมีคำว่า “รอยแยกของแห่งมิติ” ฉันออกจากห้องแล้วมุ่งหน้าไปที่จัตุรัสชั้น 2 ทันที
ด้านหน้าจัตุรัส
แสงลอดผ่านประตูที่ปิดสนิท
[นายท่านกำลังเปิดรอยแยกของมิติ]
[คุณแน่ใจหรือไม่ว่าต้องการดำเนินการต่อ? เมื่อเปิดแล้วจะไม่สามารถยกเลิกได้!]
[ใช่ (เลือกแล้ว) / ไม่ใช่]
เอี้ยดดดด!
ประตูที่นำไปสู่รอยแยกมิติสั่นสะเทือนอย่างแรง
[ยืนยันอีกครั้ง….คุณแน่ใจไหม?]
[ใช่ (เลือกแล้ว) / ไม่ใช่]
เมื่อนายท่านแตะ "ใช่" ไอเซลล์ก็โผล่ออกมาและโปรยละอองดาว
[เขาเลือกที่จะเปิดมันตามที่คาดไว้เลยค่ะ]
เธอลอยไปมารอบๆ ฉัน
[แต่ว่าการเปิดรอยแยกของมิติไม่ใช่เรื่องดีเลยนะคะ]
“เรามีแต่ต้องทำสิ่งที่เราสามารถทำได้ในตอนนี้”
[งั้นฉันคงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากให้ท่านออกไปใช่ไหมคะ?]
หลังจากที่ไอเซลล์หายใจเข้าเบาๆ เธอก็ยื่นมือขวาออกไป
มวลแสงแผ่ออกมาจากมือของเธอและเกาะติดกับประตูที่ปิดอยู่
“จงเปิด รอยแยกของมิติ!”
ปัง
ประตูที่นำไปสู่รอยแยกของมิติเปิดออก
'ในที่สุด'
ข้อความปรากฏขึ้นมาในสายตาของฉัน