บทที่ 12 เจ้าไม่คิดว่านางน่าสนใจหรือ?
บทที่ 12
เจ้าไม่คิดว่านางน่าสนใจหรือ?
นางจะต้องมีชีวิตที่ยอดเยี่ยม ยมทูตคิดจะฉกฉวยวิญญาณนางไปงั้นหรือ? ไม่มีทาง
เดิมทีนางสงสัยว่าเป็นหลิงอวี่หรงที่วางยาตน แต่ดูเหมือนเรื่องนี้จะไม่เกี่ยวข้องกับหลิงอวี่หรงแต่อย่างใด เพราะพิษนี้เข้าสู่ร่างกายของนางเมื่อสิบปีที่แล้ว อีกทั้งนางเป็นเด็กหญิง จึงไม่ควรถูกวางยาพิษด้วยซ้ำ เพราะเมื่อนางเกิด นางจะไม่ได้รับมรดกใดจากครอบครัว แล้วเมื่อสิบปีที่แล้วผู้ใดกันที่ต้องการให้นางกลายเป็นคนโง่เขลา
เรื่องนี้ไม่ง่ายดาย อาจมีความลับยิ่งใหญ่ซุกซ่อนอยู่ภายใน
ในอนาคตนางจะตรวจสอบเรื่องนี้ ไม่เช่นนั้นผู้ใดจะทราบว่าเมื่อคนร้ายเห็นนางกลับคืนเป็นปกติ เขาจะย้อนกลับมาทำร้ายนางอีกครั้งเมื่อใด
หลังจากหลิงอวี่จื้อและหลิงจื่อเชิ่งกลับออกไป อู๋จินซึ่งเป็นองครักษ์ของเซียวเยี่ยนเอ่ยถามด้วยความสงสัย "เหตุใดท่านอ๋องจึงมอบบัวหิมะให้กับแม่นางหลิงโดยง่ายดายเล่าขอรับ?"
เพราะนี่ไม่ใช่นิสัยของเซียวเยี่ยน โดยปกติแล้วเขามักจะตัดสินใจเด็ดขาด โดยพื้นฐานแล้วเขาไม่ควรคิดสงสารอวี่จื้อที่ไม่มีสิ่งใดเกี่ยวข้องกับตน
"อู๋จิน เจ้าไม่คิดว่าเด็กสาวผู้นั้นพิเศษกว่าคนทั่วไปหรือ?"
อู๋จินตกตะลึงชั่วขณะ เป็นไปได้หรือไม่ว่านายท่านของเขาจะชื่นชอบหลิงอวี่จื้อ ซึ่งก็ไม่น่าจะเป็นไปได้ หลังจากครุ่นคิดครู่หนึ่ง เขากล่าวออกมาในความเงียบงัน "คุณหนูหลิงมีท่าทีโอ่อ่า ผู้ใต้บัญชาข้าไม่เคยพบเจอสตรีเช่นนี้มาก่อน"
"จักรพรรดิน้อยดื้อรั้นยิ่งนัก และอาจารย์ไม่อาจสั่งสอนเขาได้ นับวันยิ่งทวีความปวดหัว เปิ่นหวางผู้นี้คิดว่าสาวน้อยนั่นอาจมีวิธีจัดการกับจักรพรรดิน้อย"
ปรากฏว่าผู้แทนพระองค์คิดเห็นเช่นนี้ จักรพรรดิน้อยเลื่องลือนักในความดื้อรั้น เขาไม่สนใจหรือหวาดกลัวผู้ใดนอกจากเซียวเยี่ยน แม้ถ้อยคำของไทเฮามู่หรงยังไร้ประโยชน์ ขณะนี้เซียวเยี่ยนกำลังยุ่งกับเรื่องราวในราชสำนักทุกวัน จึงเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะดูแลจักรพรรดิน้อยตลอดเวลา ปัญหานี้กวนใจเซียวเยี่ยนเสมอมา หลังจากเปลี่ยนอาจารย์จนไม่อาจนับ จนป่านนี้เขายังไม่อาจควบคุมจักรพรรดิน้อยได้
"แม่นางหลิงเป็นเพียงสตรีตัวน้อย นางจะสามารถทำได้หรือ?"
"เปิ่นหวางผู้นี้จะคอยจับตามองสักพักหนึ่งเพื่อดูว่าสตรีตัวน้อยมีความสามารถหรือไม่ เจ้าเพียงรอรับชม" เมื่อนึกถึงสีหน้าสดใสของหลิงอวี่จื้อ มุมปากเซียวเยี่ยนยกยิ้มจางอีกครั้ง
หลังจากหลิงอวี่จื้อกลับมาที่คฤหาสน์เสนาบดี นางรีบเข้าห้องของตนทันที ก่อนจะนั่งเท้าคางครุ่นคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างรอบคอบ นางบอกกล่าวให้หลิงจื่อเชิ่งสาบานว่าจะไม่บอกผู้อื่นเกี่ยวกับเรื่องนี้ และตอนนี้นางไม่คิดเชื่อใจผู้ใด ดังนั้นสิ่งที่ทำได้คือนางต้องตรวจสอบเรื่องนี้อย่างลับ ๆ
นางมีคู่หมั้นเป็นบุตรชายคนโตของฉางผิงโหว เป็นตระกูลชื่อเสียงโด่งดัง นางไม่ทราบว่าชายคนนี้มีความคิดปกติหรือไม่ เขาทราบว่าหลิงอวี่จื้อเป็นคนโง่เขลา แต่เขาก็ยังต้องการที่จะแต่งงานกับนาง แปดในสิบนี่นับว่าเป็นเรื่องยุ่งยากไม่น้อย
อย่างไรก็ตาม นางไม่สามารถย้อนคืนคำได้ นางไม่อาจปฏิเสธการแต่งงาน หากไม่มีปัญหาใดกับชายคนนี้ และหากเขาหล่อเหลา นางก็คงยินยอมที่จะแต่งงานกับเขา
ขณะที่กำลังคิดเรื่องราวต่าง ๆ อยู่นั้น ประตูห้องถูกผลักออกอย่างแรง ทั้งหนานเยี่ยนและหลูเยี่ยนร่วมมือกันเพื่อหยุดยั้งผู้บุกรุก และแขกไม่ได้รับเชิญเป็นหลิงอวี่หรงที่ถูกลงโทษโดยนางฉูเมื่อไม่กี่วันก่อนนั่นเอง
"โอ้ น้องสาวที่แสนดีของข้า คงจะคิดถึงข้านักจึงเข้ามาอย่างเร่งรีบ น่าเสียดายที่ตอนนี้ข้าไม่ต้องการเจ้าแล้ว"
เมื่อเห็นหลิงอวี่จื้อ ใบหน้าหลิงอวี่หรงเผยความขุ่นเคืองออก "เจ้าเก่งกาจนัก และยังสามารถกล่าววาจาเหล่านั้นได้ สิ่งที่เจ้ากล่าวทั้งหมดในวันนั้นล้วนตั้งใจทั้งสิ้น"
"วันไหนหรือ?" ใบหน้าหลิงอวี่จื้อเผยความว่างเปล่า "น้องหญิงคงทราบดีว่าข้าเพิ่งหายดีเมื่อไม่กี่วันก่อน และข้าจดจำเรื่องราวก่อนหน้าได้ไม่ชัดเจนนัก... หรือน้องหญิงกำลังกล่าวถึงบุรุษที่ได้ลิ้มลองเจ้า"
หลิงอวี่หรงทั้งโกรธปนอับอาย "เจ้ามันไร้ยางอาย"
"เจ้าเองก็ไร้ยางอาย" หลิงอวี่จื้อยิ้มกว้างพร้อมเหยียดนิ้วชี้อีกฝ่าย
หลิงอวี่หรงไม่คาดคิดมาก่อนว่าหลิงอวี่จื้อที่หายเป็นปกติแล้วจะกล่าวชัดถ้อยชัดคำเช่นนี้ และนางไม่อาจกล่าวหักล้างมันได้เลย