บทที่ 10 ผู้แทนพระองค์ ได้โปรด
บทที่ 10
ผู้แทนพระองค์ ได้โปรด
ขณะครุ่นคิด นางมองยังเซียวเยี่ยนก่อนจะกล่าว “ผู้แทนพระองค์ หากว่าข้ามีสิ่งแลกเปลี่ยนกับบัวหิมะของท่านเล่า?”
ได้ยินคำของหลิงอวี่จื้อ เซียวเยี่ยนเกิดรู้สึกสนใจขึ้นมา “คุณหนูใหญ่ลองว่ากล่าว”
“ได้ทราบมาว่าไทเฮามู่หรงเกิดตุ่มที่คางจำนวนไม่น้อย หมอหลวงยังต้องอับจน ข้าจึงมีใบสั่งยา ที่สามารถรักษาตุ่มเหล่านั้นบนใบหน้าของไทเฮา”
ตุ่มที่กล่าวถึงคือสิว ปีนี้ไทเฮามู่หรงมีอายุสามสิบปี กล่าวกันว่าสองปีที่ผ่านมาปรากฏสิวขึ้นมาก ทว่ามันกลับมาบ่อยครั้ง ตลอดมาจึงสร้างความกังวลแก่ไทเฮามู่หรง กระทั่งเรียกตัวหมอผู้มีชื่อเสียงแห่งราชวงศ์เว่ย์ตะวันตก กล่าวว่าหากสามารถรักษาอาการของนางได้จึงตบรางวัลอย่างงาม แต่จนถึงตอนนี้ปัญหายังไม่คลี่คลาย
ไม่ว่าผู้ใดต่างรักชอบความงาม หลิงอวี่จื้อเคยอยู่วงการบันเทิง เวลาเครียดหรือกดดันหนัก ใบหน้าย่อมปรากฏสิวขึ้น ดังนั้นนางจึงกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านความงาม สามารถแก้ปัญหาดังกล่าวได้ แม้ว่าไม่อาจแก้ไขทั้งหมดอย่างหายขาด แต่มันจะไม่กระทบต่อความงามของไทเฮามู่หรง
กระนั้นแล้วผลลัพธ์กลับแตกต่างไปจากที่นางคาดหวัง เซียวเยี่ยนตอบกลับเสียงเบา “เรื่องราวนั้น คุณหนูใหญ่จำเป็นต้องนำเสนอต่อไทเฮาด้วยตนเอง”
หลิงอวี่จื้อเผยสีหน้าขื่นขม “ผู้แทนพระองค์ หากไร้ซึ่งคำเชิญจากไทเฮา ข้าก็ไม่อาจเข้าวัง”
“ให้เปิ่นหวางทำความดี ด้วยการนำคุณหนูใหญ่เข้าวังงั้นหรือ?”
หลิงอวี่จื้อแทบกระอักเลือดพุ่งใส่เซียวเยี่ยน หรือเพราะเขาได้กลายเป็นผู้แทนพระองค์ ดังนั้นจึงไม่ต้องใส่ใจต่อไทเฮาอีก? นางนึกว่าที่เซียวเยี่ยนได้รับการสนับสนุนเป็นฮ่องเต้น้อย ทั้งสองสมควรมีสัมพันธ์อันใกล้ชิดต่อกัน
ไม่คาดคิดว่าเซียวเยี่ยนจะไร้การตอบสนองอย่างสิ้นเชิง หรือเกิดเกรงว่าใบสั่งยานี้จะส่งผลกระทบต่อตนเอง สมควรเป็นอีกฝ่ายระมัดระวังตัว หากว่าใบสั่งยาเกิดปัญหา จะเป็นตัวนางเองที่ไม่อาจแบกรับได้ไหว นางที่เป็นเพียงคนตัวจ้อย ควรค่าหรือที่เขาจะเสี่ยงชีวิตให้?
การโน้มน้าวผู้แทนพระองค์กลายเป็นเรื่องยาก
หลิงอวี่จื้อกัดฟันแน่น นางไร้ซึ่งทางเลือก ขณะนี้ทำได้เพียงใช้กลวิธีของตนเอง หากไม่อาจได้รับดอกบัวหิมะ นางก็ไม่อาจใช้ชีวิตสงบสุข ผู้ใดกันทราบว่าพิษนี้จะกำเริบขึ้นเมื่อใด พิษนี้ไม่อาจปล่อยให้อยู่ในร่างนาน นางจำเป็นต้องรีบหาทาง
วันนี้ไม่ว่าด้วยอะไรนางก็จะต้องเอามันมาให้จงได้
คิดได้เช่นนั้น นางเร่งรีบลุกขึ้น พุ่งตัว และคว้าเข้าที่ชายเสื้อเซียวเยี่ยน “ผู้แทนพระองค์ ขอได้โปรดช่วยเหลือข้า!
ตัวข้าอายุเพียงสิบเจ็ด ท่านจึงมีแก่ใจรับชมดอกไม้แรกแย้มเช่นข้าตกตายหรือ หากข้าตาย ก็ขอข้าตายโดยสงบ ท่านยายข้าที่ยังไม่ล่วงลับ หากว่าข้าล่วงลับไปก่อน ท่านยายก็คงใจสลาย ผู้แทนพระองค์ ท่านที่รูปงาม ก็สมควรต้องมีหัวใจกระมัง”
หลิงอวี่จื้อหลั่งน้ำตาออกเป็นสาย จับจ้องยังเซียวเยี่ยน ท่าทีดูเศร้าหมอง ภาพลักษณ์ของนางเช่นนี้ไม่ว่าผู้ใดพบเห็นล้วนต้องใจอ่อน
หลิงจื่อเชิ่งตื่นตกใจ น้องสาวของเขากำลังก่อเรื่องราวใด?
กระทั่งหวังเซียวเยี่ยนยังชะงัก เห็นได้ชัดว่าไม่คาดคิดที่ หลิงอวี่จื้อทำเช่นนี้ และนี่คือครั้งที่สองที่เขาได้พบกับหลิงอวี่จื้อ มันทำเขาเกิดนึกสงสัยว่าหลิงอวี่จื้อใช่พกถังน้ำตามาด้วยหรือไม่
พ่อบ้านยังต้องตระหนัก สตรีผู้นี้มีความหาญกล้า ต่อหน้าผู้แทนพระองค์ยังกระทำเพียงนี้ได้ หากว่าเป็นสตรีทั่วไปพบเจอเซียวเยี่ยน คำพูดคำจาคงมีแต่ตะกุกตะกัก ยังไม่กล่าวว่านางถึงขั้นคว้าชายเสื้อผู้แทนพระองค์
หลิงอวี่จื้อไม่คิดสนใจอะไรอีกต่อไป นางต้องการเพียงดอกบัวหิมะ ต่อให้ต้องใช้วิธีน่าละอาย ก็ต้องคว้าเอามันมา ชีวิตจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด
เซียวเยี่ยนจึงเกิดตอบสนองด้วยการขมวดคิ้ว เขาปัดมือหลิงอวี่จื้อออก ราวกับเกรงหลิงอวี่จื้อทำชุดตนเองยับ “เปิ่นหวางมอบดอกบัวหิมะให้ได้ กระนั้นแล้วต้องยอมรับเงื่อนไขของเปิ่นหวางประการหนึ่ง”
“เงื่อนไขใดหรือ?”
ดวงตาหลิงอวี่จื้อพลันทอประกาย แสดงชัดถึงอาการยินดี