ตอนที่ 1515 ทั้งหมดมันก็.. แค่นั้น
“คุณชายเฉิน ขออภัย ผม กับจื่อเสีย ยังต้องทํางาน ไว้วันหลังเถอะ ยังไงพวกเราเองก็อยู่ที่นี่ชั่วคราว ดังนั้นเรายังคงมีโอกาสอีกมาก” หลินฟาน กล่าว
เฉิน จวิ้นห่าว เสียใจมาก เขาอยากกินข้าวกับ หลินฟาน มาก มากเกินไป ตัวเขาเองยังคงมีคำถามอีกมากมายที่อยากจะได้คำแนะนำจาก หลินฟาน ที่สําคัญที่สุดคือ เขาต้องการให้ หลินฟาน ชี้เส้นทางที่ชัดเจนให้กับเขา…
โชคดีที่ หลินฟาน ยังพูดประโยคหลังออกมา ซึ่งทําให้ เฉิน จวิ้นห่าว ค่อนข้างสบายใจ ..ใช่ หลินฟาน ยังคงอยู่ที่นี่ เขายังมีโอกาสนี้อยู่!
เขากลับมามีความสุขอีกครั้ง : “โอเค.. ได้ครับ ในเมื่อ คุณหลิน ไม่ว่าง ผมเองไม่รบกวนแล้ว คุณหลิน คุณหลี่ คืนนี้พวกคุณอยากทานอะไร ผมจะได้สั่งให้คนจัดส่งไปให้ที่ห้องพวกคุณ?”
หลินฟาน กล่าวว่า : “ผมอะไรก็ได้ ส่วนใหญ่ก็ขึ้นอยู่กับ จื่อเสีย เป็นหลัก เธออยากกินอะไรผมเองก็กินตามนั้น”
“อืม…” หลี่ จื่อเสีย หน้าแดงมาก ไม่รู้ว่าเป็นเพราะตัวเองคิดมากไปหรือเปล่า.. แต่แค่เธอรู้สึกว่าคําพูดนี้ มันรู้สึกหวานหัวใจขึ้นมา
ตอนนี้ หลี่ จื่อเสีย ก็สั่งอาหารไปหลายอย่าง ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นอาหารที่เธอชอบกินโดยตามปกติ
เฉิน จวิ้นห่าว ได้ให้พนักงานต้อนรับจดลงบันทึกไปทีละรายการ แล้วสั่งให้จัดการทันที
ชุย เหวินเหวิน ที่อยู่ข้างๆ เธอได้มองดูทั้งหมดด้วยความรู้สึกเป็นกังวลเล็กน้อย
ประโยคคำพูดของ หลินฟาน ‘เธออยากกินอะไรผมเองก็กินตามนั้น’ ทําให้ ชุย เหวินเหวิน ประหลาดใจ
หลินฟาน คนที่ร่ำรวยที่สุดในเมืองหยุนเฉิงคนนี้ ไม่เพียงแต่เข้าซื้อ จินอวี้ กรุ๊ป เท่านั้น แต่จากคำพูดเมื่อครู่ ..ส่วนใหญ่เขาก็ทำเพื่อ หลี่ จื่อเสีย เป็นหลัก! โอ้.. พระเจ้า เขาดูตามใจเธอมาก!
นี่มันเห็นได้ชัดว่า หลินฟาน กําลังไล่ตาม หลี่ จื่อเสีย อยู่อย่างชัดเจน!
ชุย เหวินเหวิน ยิ่งตื่นตระหนก และรู้สึกเสียใจมากขึ้น หากรู้ก่อนหน้าว่า หลี่ จื่อเสีย มีคนที่ร่ำรวยที่สุดในเมืองหยุนเฉิง ไล่ตามเธออยู่.. ไม่ว่ายังไงเธอก็จะไม่มีวันเยาะเย้ยเธอ หรือหัวเราะเยาะเธอด้วยซ้ำ!
ชุย เหวินเหวิน เธอได้เข้าใจผิดไปเต็มๆ หลินฟาน พูดประโยคนี้ เขาไม่ได้ตามใจ หลี่ จื่อเสีย และไม่ได้มีความหมายอื่นใด ตามตรงคือ ..เขาแค่ไม่ใช่คนที่จู้จี้จุกจิกในเรื่องอาหารการกิน ก็เท่านั้นเอง
หลินฟาน เขาไม่ใช่คนที่เรื่องมากในเรื่องอาหารเลย ตราบใดที่เป็นอาหารปกติ เขาก็สามารถกินได้ เมื่อหิว เพียงแค่หมั่นโถวกับน้ำต้มเขาก็สามารถกินให้อิ่มได้ แม้ว่าเขาจะเป็นมหาเศรษฐี แต่เขาก็ไม่เคยเปลี่ยนแปลงด้วยเพราะเหตุนี้ อาหารการกิน หรือเสื้อผ้าเหล่านี้ บอกตามตรงเขาไม่ได้ตั้งใจไปแสวงหาของแพงๆ
แน่นอนว่าเมื่อเทียบกับ หมั่นโถว กับน้ำต้มหนึ่งแก้วแล้ว หลินฟาน ก็ยังชอบอาหารที่อร่อยๆ มากกว่า เหตุผลที่เขาให้ หลี่ จื่อเสีย จัดการให้ เพราะ หลี่ จื่อเสีย เป็นคุณหนูจากตระกูลที่ร่ำรวยมาโดยตลอด และเธอคงรู้ดีกว่าเขามากว่า ..อะไรอร่อย
อย่างไรก็ตาม คําพูดที่พูดออกไปอย่างสบายๆ ของเขานั้น ทําให้ ชุย เหวินเหวิน เข้าใจผิด และในเวลานี้ ชุย เหวินเหวิน ก็รู้สึกไม่สบายใจแบบสุดๆ
เธอหันไปมอง หลี่ จื่อเสีย และเดินเข้าไปหา หลี่ จื่อเสีย อย่างหน้าด้านๆ พร้อมกับกล่าวด้วยรอยยิ้มไปว่า : “จื่อเสีย เมื่อกี้.. ฉันแค่ล้อเล่นกับเธอเท่านั้น เธอคงไม่โกรธอะไรฉัน ใช่ไหม?”
พูดพลาง ชุย เหวินเหวิน ก็เอื้อมมือออกไปจะจับมือของ หลี่ จื่อเสีย
หลี่ จื่อเสีย รีบหดมือตัวเองไปไว้ข้างหลัง ชุย เหวินเหวิน จึงคว้าได้แต่ ..อากาศที่ว่างเปล่า
เดิมที.. เพื่อนสนิทควรน่าจะมีความสุขที่ได้พบกัน ไม่ต้องพูดถึงเลยว่า หลี่ จื่อเสีย เพิ่งประสบกับภัยพิบัติในชีวิต และความตายในต่างประเทศ และการได้กลับมาเห็น ‘เพื่อนเก่า’ เดิมคิดว่าจะได้รับคำพูดปลอบโยนบ้าง แต่ ชุย เหวินเหวิน เธอกลับแสดงลักษณะแบบนี้ออกมา..
หลี่ จื่อเสีย ยิ้มอย่างขมขื่นในใจ แม้ว่าเธอจะเป็นผู้หญิงที่มาจากตระกูลที่ร่ำรวย แต่นิสัยของเธอค่อนข้างเก็บตัว และมีเพื่อนไม่มาก ตอนนี้.. ดูเหมือนเธอจะสูญเสียเพื่อนที่ดีที่สุดในสมัยเรียนมหาวิทยาลัยไปแล้ว
ทั้งหมดมันก็.. แค่นั้น ถือเสียว่าเราได้รู้จักกับคนคนหนึ่ง
ในความมั่งคั่งของคุณ คนที่ดีกับคุณอาจไม่ใช่เพื่อนที่ดีจริงๆ เมื่อคุณตกอยู่ในความทุกข์ยากลําบากครั้งใหญ่ คนที่ไม่รังเกียจคุณ และไม่ยอมแพ้คุณนั้น นั่นถือได้ว่าเป็นเพื่อนที่ดีจริงๆ.. ทั้งนี้คนที่มีความหน้าซื่อใจคดเหล่านั้นก็มักจะเปิดเผยตัวในเวลา เช่นนี้
อย่างเช่น ชุย เหวินเหวิน..
เมื่อตระหนักถึงใบหน้าที่แท้จริงของ ชุย เหวินเหวิน แล้ว หลี่ จื่อเสีย คงเป็นไปไม่ได้เลยที่เธอจะสามารถ เป็นเพื่อนกับเธอได้อีก..
ตอนนี้ ชุย เหวินเหวิน ได้รู้ความจริงแล้วว่าที่แท้ เธอ.. ไม่ได้ตกที่นั่งลําบาก มาเวลานี้เธอต้องการจะเข้ามาพูดประจบสอพลอเธอ สําหรับคนประเภทนี้ เธอมีอะไรจะพูดอีก…
คนที่อยากจับมือกับ หลี่ จื่อเสีย ก็กลับคว้าน้ำเหลว ชุย เหวินเหวิน ทำได้แต่ดึงเอามือตัวเองกลับไปอย่างกระอักกระอ่วน เธอเองก็รู้ดีว่าเธอกําลังจะเสีย หลี่ จื่อเสีย ไป และในชั่วครู่หนึ่งเธอก็รู้สึกเสียใจอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
ที่เธอเสียใจ ไม่ใช่เพราะสูญเสียมิตรภาพ แต่เป็นเพราะเธอพบว่า หลี่ จื่อเสีย ยังคงเป็นต้นขาที่เธอกอดได้อยู่ เธอเสียใจที่ตัวเองมองข้ามใน.. จุดๆ นี้ไป
หลังจากนั้น หลินฟาน และหลี่ จื่อเสีย ก็หยิบการ์ดห้องมา กล่าวลา เฉิน จวิ้นห่าว แล้วขึ้นไปชั้นบน
เฉิน จวิ้นห่าว เดินเข้าไปกําชับแผนกต้อนรับเป็นพิเศษว่า ต้องจัดเตรียมอาหารของทั้งสองคนให้เรียบร้อย และต้องโดยเร็วที่สุด ต้องให้ทั้งสองคนนั้นได้กินในขณะที่อาหารยังร้อนๆ อยู่ และแม้แต่รายละเอียดเล็กน้อยก็อย่าได้ละเลย
หลังจากสั่งพนักงานแผนกต้อนรับแล้ว เฉิน จวิ้นห่าว ก็หันหลังกลับเดินจากออกไป
“ที่รัก.. ตอนนี้เราจะไปไหนกันต่อดี?” ชุย เหวินเหวิน เดินไล่ตามเขามา และถาม
เฉิน จวิ้นห่าว แค่เดินก้าวไปข้างหน้า โดยไม่พูดอะไร
ชุย เหวินเหวิน ตระหนักว่า เฉิน จวิ้นห่าว ต้องโกรธเธอเพราะการแสดงของเธอเมื่อกี้ และเธอก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกกังวล
เมื่อออกไปข้างนอก เฉิน จวิ้นห่าว ก็ขึ้นรถหรูของตัวเอง จากนั้น ชุย เหวินเหวิน ก็ตามมา พยายามเปิดประตูฝั่งข้างคนขับเพื่อจะขึ้นรถ
ใครจะไปรู้ว่าหลังจาก เฉิน จวิ้นห่าว ขึ้นรถแล้ว เขาจะปิดล็อคประตูจริงๆ ชุย เหวินเหวิน ลองพยายามอยู่หลายครั้ง แต่ก็ไม่สามารถเปิดประตูได้ เธอจึงรีบตบหน้าต่างรถ
เฉิน จวิ้นห่าว ลดกระจกรถลง
“ที่รัก ทําไมประตูรถถึงเปิดไม่ออก มันเสียหรือเปล่า?” ชุย เหวินเหวิน พูดด้วยรอยยิ้ม
เฉิน จวิ้นห่าว มีสีหน้าเย็นชา : “คุณไปเถอะ..”
ชุย เหวินเหวิน ตกตะลึง : “คุณ.. คุณหมายถึงอะไร ให้ฉันไป? ที่รัก นี่หมายความว่าอย่างไร?”
เฉิน จวิ้นห่าว กล่าวว่า : “ผมหมายความว่า.. ผมไม่ต้องการคุณแล้ว คุณชอบ หรืออยากจะไปที่ไหนก็ ..เชิญเลย”
อ่า?
ชุย เหวินเหวิน ตกใจจนหน้าซีด : “ที่รัก นี่คือคุณจะเลิกกับฉันงั้นเหรอ ทําไมล่ะ?”
เฉิน จวิ้นห่าว พูดอย่างเย็นชาว่า : “เมื่อกี้คุณเพิ่งจะทําให้ คุณหลิน และคุณหลี่ ไม่พอใจ.. แล้วคุณคิดหรือว่าผมจะยังคงเก็บคุณเอาไว้ ..ข้างกายได้อีก?”
เฉิน จวิ้นห่าว มีความคิดของตัวเอง ต่อไปเขาจะเอาใจ หลินฟาน และชุย เหวินเหวิน ที่ปฏิบัติต่อ หลินฟาน แบบนั้นไปในก่อนหน้านี้ ถ้าเขายังคงเก็บ ชุย เหวินเหวิน ไว้ข้างๆ หลินฟาน เขาจะมีความสุขหรือไม่?
แน่นอนทั้งหมดนี้ เพื่ออนาคตของตัวเอง เช่นนี้เขาจึงไม่สามารถเก็บ ชุย เหวินเหวิน เอาไว้ได้อีกต่อไป
ชุย เหวินเหวิน เมื่อได้ยินคําพูดนี้ เธอก็ตกใจจนหน้าซีด : “ที่รัก คุณ.. คุณล้อเล่นกับฉันใช่ไหม คุณต้องล้อเล่นแน่ๆ และคุณต้องไม่ยอมปล่อยฉันไปสิ!”
เฉิน จวิ้นห่าว หัวเราะอย่างเย็นชา : “คุณหยุดแสร้งทําเป็นรักใคร่ผมได้แล้ว ผมถามคุณหน่อยเถอะ ถ้าวันหนึ่ง.. ผมกลายเป็นคนจน กลายเป็นคนอนาถา คุณจะเป็นกังวล หรือ ..อับอายอยู่ไหม กลัวว่าไม่ต้องรอให้ฉันเลิกกับเธอ เธอก็คงเป็นคนทิ้งฉันไปเองก่อนแล้ว และถือโอกาสนั้นหันมาเหยียบย้ำฉันด้วย!”
ชุย เหวินเหวิน : “......”
เธอ.. พูดไม่ออก
เมื่อกี้สิ่งที่เธอพูดกับ หลี่ จื่อเสีย ไป ..อย่างไร เฉิน จวิ้นห่าว ก็กำลังเฝ้ามองดูอยู่ข้างๆ
เฉิน จวิ้นห่าว เมื่อเห็นเธอเงียบ เขาก็ขี้เกียจเกินกว่าจะไปสนใจอะไรเธออีก เขาสตาร์ทรถทันที และขับออกไปอย่างสง่างาม ทิ้งเพียงแต่ไอเสียไว้ให้กับ ชุย เหวินเหวิน
ชุย เหวินเหวิน แก้มทั้งสองข้างเต็มไปด้วยน้ำตา และจากนั้นเธอได้ทรุดตัวลงไปกับพื้นอย่างอ่อนแรง มองย้อนกลับไปที่โรงแรม หัวใจของเธอก็ยิ่งรู้สึกเจ็บปวด มากยิ่งขึ้น…
ไม่มีแล้ว ไม่มีอะไรเหลือแล้ว ลูกเขยเต่าทองหายจากไปแล้ว เดิมที ..เธอได้ตกลงแต่งงานกับ เฉิน จวิ้นห่าว เฉิน จวิ้นห่าว ก็สัญญาว่าจะมอบโรงแรมนี้ให้กับเธอหลังจากแต่งงาน ตอนนี้พวกเราเลิกกันแล้ว โรงแรมนี้มัน ..ก็ไม่ใช่ของเธออีกต่อไป
ตอนนี้เธออยากกลับไปกอดต้นขาของ หลี่ จื่อเสีย แต่เธอก็ทำไม่ได้แล้ว!
เธอรู้สึกเสียใจมาก..
หลังจากคืนเดียวที่เธอได้กลับไปปลดปล่อยมัน ต่อไปเธอจึงเริ่มออกตามหาผู้ชายที่ร่ำรวยอีกครั้ง แต่คงเป็นเรื่องยากสำหรับเธอที่จะหาคนที่ดีเท่า เฉิน จวิ้นห่าว ได้อีกครั้ง
ผู้ชายที่ร่ำรวยไม่ใช่คนโง่ เฉิน จวิ้นห่าว ได้วางแผนที่จะแต่งงานกับเธอจริงๆ แต่ต้องเข้าใจก่อนว่าผู้ชายที่ร่ำรวยส่วนใหญ่นั้นแค่มองเธอเป็นของเล่น
คืนนั้น ชุย เหวินเหวิน แต่งตัวสวยหรู และปรากฏตัวในงานปาร์ตี้ระดับไฮเอนด์ สายตาของเธอเดินเตร่อยู่ภายในงานเลี้ยง เพื่อค้นหาเป้าหมายต่อไปของเธอ
ทันใดนั้น ชายคนหนึ่งก็ดึงดูดความสนใจของเธอ
ทันทีที่ ชุย เหวินเหวิน สอบถาม เธอก็รู้ได้ทันทีว่าชายคนนี้ก็คือ นายน้อยคนที่สามของ ตระกูลเว่ย ..ที่ร่ำรวยที่สุดในเมืองหางโจว เว่ย เจี้ยนเซิง