1298 - เซียนผู้ยิ่งใหญ่ในต้นกำเนิดสวรรค์
1298 - เซียนผู้ยิ่งใหญ่ในต้นกำเนิดสวรรค์
ในที่สุดเมื่อรุ่งสางมาถึง เสียงสวดมนต์ที่ดังออกมาจากเรือก็เงียบสนิทลง
“พุทธะสูงหนึ่งวา ส่วนมารสูงสิบวา!” บรรพชนจระเข้เยาะเย้ยแล้วกล่าวว่า “เว้นแต่ศากยมุนีจะกลับมา ลำพังแค่ตัวเจ้าไม่สามารถฆ่าข้าได้”
“กรรมของอาตมาสิ้นสุดลงแล้ว อย่างไรก็ตามแม้ว่าอาตมาจะดับสูญไปจากโลกแต่ดูเหมือนว่ากรรมของประสกก็จะจบสิ้นลงเช่นกัน อาตมาเพียงแค่เดินทางก่อนล่วงหน้าเท่านั้น”
“แม้กำลังจะตายเจ้าก็ยังพูดไร้สาระอยู่อีก!” เป็นไปได้อย่างไรที่บรรพชนจระเข้จะเชื่อคำพูดนี้
จากนั้นร่างกายของหลวงจีนเฒ่าก็เสื่อมสลายกลายเป็นฝุ่นผงและเหลือเพียงกระดูกสีทองท่อนเดียวเท่านั้น ในเวลาต่อมากระแสน้ำสีดำสนิทก็ไหลกลับคืนสู่ดวงตาแห่งทะเลปีศาจอีกครั้ง
“คนอวดรู้พวกเจ้าทุกคนจะต้องตาย” บรรพชนจระเข้หัวเราะเยาะ
“ถ้าข้าไม่ลงนรกแล้วใครจะลงล่ะ”
คำพูดสุดท้ายของหลวงจีนเฒ่าดังขึ้น จากนั้นเรือสีทองของเขาก็กลายเป็นกระแสแสงที่พุ่งเข้าสู่ดวงตาแห่งทะเลปีศาจอย่างรวดเร็ว
บรรพชนจระเข้หันกลับมาด้วยความโกรธ มือขนาดใหญ่ของเขาคว้าไปที่ลำแสงสีทองนั้นแต่สุดท้ายเขาก็พบเพียงความว่างเปล่า
“เจ้ามดปลวก แม้แต่ตัวตนอย่างเจ้าก็กล้าปองร้ายข้า!”
เมื่อไม่สามารถคว้าแก่นแท้จากเรือสีทองนั้นได้บรรพชนจระเข้ก็หันกลับมาจ้องมองเย่ฟ่านและทุ่มความโกรธแค้นทั้งหมดของเขาเข้าหาเย่ฟ่านโดยไม่ลังเล
“เจ้าจระเข้ วันนี้มีเจ้าไม่มีข้า!” เย่ฟ่านตะโกน
“แมลงตัวน้อยเจ้ากล้ากรีดร้องใส่เทพบนท้องฟ้าหรือ ตัวเจ้าไม่คู่ควรให้ข้าบดบี้ด้วยนิ้วข้างเดียวด้วยซ้ำ!” บรรพชนจระเข้กล่าวด้วยความดูถูก
จากนั้น เขาก็แสดงกายธรรมอันล้ำค่าของเขา มันเป็นร่างของจระเข้ที่ขยายใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็ว ในเวลาต่อมาอุ้งเท้าที่มีขนาดใหญ่โตกว่าหมื่นวาก็ตกลงมาอย่างรวดเร็ว
เขามีท่าทีดูถูกเหยียดเย่ฟ่านราวกับเป็นมดปลวกที่แท้จริง และเขาสามารถทำอะไรต่อเย่ฟ่านก็ได้
สำหรับเย่ฟ่าน นี่เป็นเรื่องน่าอับอายอย่างยิ่ง เขาไม่จำเป็นต้องกล่าวอะไร ร่างของเขาตัดผ่านท้องฟ้าด้วยทักษะซิงจื่อจากนั้นเขาก็หยิบต้นกำเนิดสวรรค์ก้อนใหญ่ออกมา
นี่คือชายชราที่ถูกผนึกไว้ในต้นกำเนิดสวรรค์ในท่านั่งสมาธิ เขาผอมแห้งราวกับท่อนไม้ ไม่มีความผันผวนของพลังชีวิตแผ่ออกมาแม้เพียงเล็กน้อย
ร่างกายส่วนบนของเขาค่อนข้างผอม และร่างกายส่วนล่างของเขาปกคลุมไปด้วยหนังสัตว์ เขาถือแท่งกระดูกสีขาวแวววาวขนาดใหญ่อยู่ในมือ
โซ่เหล็กสีแดงรัฐร่างกายของเขาจนแน่น มันมีลวดลายแห่งเต๋าที่สลับซับซ้อนเกินจะอธิบายได้ถูกสลักไว้อย่างแน่นหนา เห็นได้ชัดว่าสิ่งนี้ใช้เพื่อปิดผนึกร่างกายของเขาในต้นกำเนิดสวรรค์นั่นเอง
เมื่อเห็นสิ่งนี้ บรรพชนจระเข้แม้จะสัมผัสได้ว่าสิ่งที่อยู่ในต้นกำเนิดสวรรค์ทรงพลังอย่างมาก แต่เขาไม่ได้มีความหวาดกลัวแม้แต่น้อย
ตอนนี้เขาเป็นเสมือนจักรพรรดิที่แข็งแกร่งที่สุด และไม่มีจักรพรรดิคนใดถูกปิดผนึกอยู่ในต้นกำเนิดสวรรค์ได้ ดังนั้นเขาจึงค่อนข้างมั่นใจว่าจะสามารถจัดการสิ่งมีชีวิตที่อยู่ในต้นกำเนิดสวรรค์และอย่างง่ายดาย
อย่างไรก็ตามทันทีที่เย่ฟ่านโยนเซียนผู้ยิ่งใหญ่ที่อยู่ในต้นกำเนิดสวรรค์ขึ้นไปบนท้องฟ้า แม้จะปะทะกับอุ้งเท้าของบรรพชนจระเข้แต่ร่างกายของเขากลับไม่ได้รับผลกระทบแม้แต่น้อย!
สิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่าคือกลิ่นอายของพลังชีวิตที่แผ่ออกมาจากต้นกำเนิดสวรรค์สีแดงฉานก้อนนั้น!
สวรรค์พิภพคำรามราวกับมหาสมุทรระเบิด โลกทั้งใบสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงเมื่อต้นกำเนิดสวรรค์มีรอยแตกร้าวปรากฏขึ้น
บรรพชนจระเข้กรีดร้องด้วยความตกใจ ร่างของเขาหดเล็กลงกลายเป็นเพียงมนุษย์ธรรมดา เขาหลบหลีกแสงสีแดงที่ยิงออกจากต้นกำเนิดสวรรค์อย่างทุลักทุเลก่อนจะหลบหนีออกไปไกลหลายร้อยลี้!
ทันใดนั้นดวงตาที่เต็มไปด้วยจิตสังหารของเซียนผู้ยิ่งใหญ่ในต้นกำเนิดสวรรค์ก็ตื่นขึ้น ดวงตานี้เป็นเหมือนตะเกียงวิเศษที่เปล่งประกายแวววาว ไม่ว่าจะมองไปในทิศทางใดจิตใจของผู้ที่ถูกจ้องมองจะสั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัวอย่างถึงที่สุด
“ผู้อาวุโส โปรดฆ่าสัตว์ร้ายตัวนี้ เขาคือภัยพิบัติของเผ่าพันธุ์มนุษย์ที่ทำลายดวงดาวอิงลั่วจนพังพินาศ!”
เย่ฟ่านประสานมือแสดงความเคารพต่อเซียนผู้ยิ่งใหญ่ภายในต้นกำเนิดสวรรค์
เมื่อเซียนผู้ยิ่งใหญ่ตื่นขึ้นต้นกำเนิดสวรรค์และโซ่ศักดิ์สิทธิ์ก็ไม่สามารถผูกมัดเขาได้อีกต่อไป ความผันผวนที่แข็งแกร่งแผ่ออกมาด้านนอกสร้างแรงกระเพื่อมให้กระจายไปทั่วโลก!
ในเวลาต่อมาดวงตาของเขาก็ลุกโชนไปด้วยแสงสีแดงฉาน เขาระเบิดต้นกำเนิดสวรรค์ออกมาและยืนอยู่บนท้องฟ้าอย่างองอาจกล้าหาญ
บรรพชนจระเข้กรีดร้อง เขาไม่เคยเห็นเสมือนจักรพรรดิที่แข็งแกร่งแบบนี้มาก่อน นี่ไม่ใช่ความแข็งแกร่งที่เขาจะสามารถต้านทานได้อย่างแน่นอน
ในขณะนี้ชุดเกราะสีดำสนิทของบรรพชนจระเข้เริ่มเปื่อยยุ่ย แม้จะยังไม่ต่อสู้กับเซียนผู้ยิ่งใหญ่คนนี้ แต่ชุดเกราะซึ่งสร้างมาจากเกล็ดของเขากลับไม่สามารถทนทานต่อคลื่นพลังที่แผ่ออกมาจากร่างของฝ่ายตรงข้ามด้วยซ้ำ
บรรพชนจระเข้เป็นเสมือนจักรพรรดิที่เคยเอาชนะอาจารย์ของศากยมุนีถึงสองครั้ง กล่าวกันตามตรงพลังของเขาแทบจะแข็งแกร่งยิ่งกว่าเสมือนจักรพรรดิทุกคนในจักรวาลนี้
อย่างไรก็ตามสิ่งมีชีวิตที่อยู่ตรงหน้าเป็นใคร เหตุไฉนเขาจึงสามารถสร้างความหวาดกลัวให้กับบรรพชนจระเข้ได้
“เจ้าเป็นใคร?”
เขาตกใจมาก จักรวาลนี้จะมีคนที่ทรงพลังเช่นนี้อยู่ได้อย่างไร?พลังของเขาแทบจะทัดเทียมกับจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ได้เลย!
ย้อนกลับไปตอนที่เย่ฟ่านอยู่ในทุ่งดวงดาวโบราณจื่อเว่ย เขาเคยโยนต้นกำเนิดสวรรค์ที่บรรจุไว้ด้วยร่างของเซียนผู้ยิ่งใหญ่คนนี้ออกไป
อย่างไรก็ตามในตอนนั้นการกระทำของเขาได้ถูกขัดขวางโดยราชาโบราณที่อยู่ในเรือรบทองแดง สุดท้ายต้นกำเนิดสวรรค์ที่บรรจุเซียนผู้ยิ่งใหญ่คนนี้อยู่ก็ตกลงมาที่พื้นอีกครั้ง
เซียนโบราณมีสีหน้าเรียบเฉย ท่าทางของเขาไม่มีความผันผวนทางอารมณ์แม้แต่น้อย นี่เป็นการตื่นขึ้นครั้งแรกในรอบหลายล้านปี ดังนั้นเขาจึงต้องปรับความรู้สึกของตัวเองให้เข้ากับสถานการณ์ในปัจจุบันก่อน
บรรพชนจระเข้สูดลมหายใจอย่างหนาวเหน็บ เขารู้ดีว่านี่เป็นศัตรูที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในรอบหลายพันปีของตัวเอง หากเขาไม่สามารถเอาชนะฝ่ายตรงข้ามได้ความพยายามตลอดหลายปีที่ผ่านมาจะกลายเป็นสิ่งที่สูญเปล่าทันที
เซียนโบราณเพียงแค่ขยับร่างกายของเขาเล็กน้อย จากนั้นรอยแตกสีดำสนิทก็ลุกลามไปทั่วโลก ความว่างเปล่าพังทลายลงพร้อมกับโซ่ศักดิ์สิทธิ์สีแดงฉานที่ถูกบดขยี้เป็นฝุ่นผง
ในเวลาต่อมาสายตาของเขาสอดส่ายไปรอบๆ ก่อนจะหยุดอยู่ที่บรรพชนจระเข้อย่างรวดเร็ว
“บังอาจ…”
เมื่อเห็นสายตาของฝ่ายตรงข้ามที่กำลังจ้องมองเขาราวกับมองเหยื่อ บรรพชนจระเข้ก็คำรามด้วยความโกรธ เขาปลดปล่อยกายธรรมของตัวเองออกมาอีกครั้งและทำให้ร่างกายที่ใหญ่โตนับแสนกว่าปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า
ปัง!
แต่ก่อนที่บรรพชนจระเข้จะมีโอกาสทำอะไรมากกว่านั้น เซียนผู้ยิ่งใหญ่เพียงกดนิ้วไปข้างหน้ายางแผ่วเบามันก็มีลำแสงสีแดงเข้มพุ่งทะลุหน้าผากของเขาราวกับสายฟ้า
บรรพชนจระเข้กรีดร้องด้วยความเจ็บปวดเขาไม่มีโอกาสต้านทานการโจมตีนี้แม้จะมองเห็นอย่างชัดเจนก็ตาม
ในขณะนี้ดวงตาของเขาเริ่มมืดลงเรื่อยๆ ความแข็งแกร่งของอีกฝ่ายไม่มีทางที่เขาจะต่อต้านได้เลย ดังนั้นสายตาของเขาจึงกวาดไปรอบๆ เพื่อหาช่องทางการหลบหนี
แคร่ก!
เมื่อบรรพชนจระเข้เริ่มขยับตัวเขาก็สัมผัสได้ถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้นภายในร่างกาย มันมีเสียงแตกร้าวดังขึ้นอย่างแผ่วเบา จากนั้นปราณกระบี่ที่แข็งแกร่งก็ปะทุออกมาอย่างรุนแรง
ปัง!
ร่างกายของบรรพชนจระเข้ถูกฉีกออกเป็นชิ้นๆ เขาส่งเสียงโหยหวนภายใต้เลือดสีแดงสดที่สาดกระจายไปทั่วท้องฟ้า
กระบี่สังหารนี้ปรากฏขึ้นมาตั้งแต่เมื่อใด มันไปมาอย่างไร้ร่องรอยและมีพลังการโจมตีที่น่าสะพรึงกลัวอย่างถึงที่สุด
บรรพชนจระเข้รู้ดีว่าไม่มีทางต่อสู้กับคนผู้นี้ได้ ร่างขนาดใหญ่โตหลายแสนวาของเขาอดเล็กลงกลายเป็นเพียงชายหนุ่มผู้สง่างามอีกครั้ง
ในเวลาต่อมาเขาเคลื่อนตัวผ่านท้องฟ้าเพื่อหลบหนีออกจากสนามรบให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้
แต่ในขณะเดียวกันกระบี่สีแดงสดก็ไล่ตามความเคลื่อนไหวของเขาโดยไม่ลดละ เมื่อเทียบกับกระบี่ที่เคลื่อนไหวได้รวดเร็วราวกับแสง ต่อให้บรรพชนจระเข้จะเคลื่อนไหวได้รวดเร็วแค่ไหนมันก็ไม่มีทางหลบหลีกการไล่ล่าของกระบี่เล่มนี้ได้
…….