ตอนที่แล้วนักรบพันธุ์ผสม บทที่ 523 - กลับสถาบัน!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปนักรบพันธุ์ผสม บทที่ 525 - 200 ล้านคะแนนจีโน!

นักรบพันธุ์ผสม บทที่ 524 - ถึงแล้ว!


เดวิดนั่งทบทวนหาสิ่งที่ตัวเองน่าจะทำได้ตลอดระยะการเดินทาง 2 อาทิตย์ข้างหน้า ก่อนที่จะเอ่ยถามออกมาด้วยเสียงที่แผ่วเบาเหมือนกับการกระซิบ

“ฟลินท์ แกต้องเข้าไปอยู่ในแหวนหรือโลกใบเล็กแล้ว ฉันจะฝึกฝนต่อ!”

เจ้าตัวเล็กคำรามตอบกลับมาอย่างหงุดหงิด ก่อนที่จะพุ่งหายเข้าไปในโลกใบเล็กทันที เจ้าตัวประหลาดนี่ใส่กระดูกเอาไว้ในนั้นตั้งเยอะ มันไม่ยอมกลับเข้าไปนอนอุดอู้อยู่ในแหวนเก็บของอย่างแน่นอน!

เดวิดไม่สนใจอะไรกับสัตว์เลี้ยงของตัวเองมากนัก แหล่งกำเนิดพลังทรงกลมปรากฏขึ้นมาอยู่ในมืออีกครั้ง ก่อนที่คลื่นสมองส่วนหนึ่งจะขยายออกเป็นม่านพลังปกป้องร่างกายเอาไว้อย่างแน่นหนา เขาหลับตาลงพร้อมกับเริ่มควบคุมลมหายใจของตัวเองอย่างช้า ๆ คลื่นสมองอีกส่วนที่มีปริมาณไม่มากนักไหลเวียนไปรอบร่างกายตามทิศทางการโคจรของทักษะกายาเทวราช ใช่แล้ว! เดวิดต้องการฝึกทักษะนี้เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับร่างกายของตัวเองต่อ และได้แต่หวังว่าการควบคุมการดูดกลืนพลังงานของตนจะยอดเยี่ยมพอที่จะไม่ก่อให้เกิดปัญหาอะไรขึ้น

เกือบ 10 นาทีต่อมา เขาลืมตาขึ้นมาส่งสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ออกไปตรวจสอบสภาพเรือเหาะ ก่อนจะยิ้มน้อย ๆ ออกมาที่มุมปาก ‘ยอดเยี่ยม! ถ้าฝึกด้วยระดับความเข้มข้นแค่นี้ เราไม่ต้องเสียเวลาฟื้นฟูร่างกายเสียด้วยซ้ำ’

ดูเหมือนว่าการใช้คลื่นสมองเพียงแค่ 30 เปอร์เซ็นต์ของระดับสูงสุดเคลื่อนไหวชักนำพลังงานจากภายนอกเข้ามาสู่ร่างกายจะเป็นวิธีการฝึกฝนที่ถูกต้องที่สุดแล้ว แม้ว่าอัตราความแข็งแกร่งของร่างกายจะเพิ่มขึ้นอย่างช้า ๆ แต่เซลล์ต่าง ๆ ก็มีเวลาพอที่จะปรับตัวให้เข้ากับพลังงานที่ค่อย ๆ ถูกซึมซับเข้าไปเช่นกัน แทบจะไม่มีความเสียหายใด ๆ เกิดขึ้นกับกล้ามเนื้อ เส้นเลือด และผิวหนังของเดวิดอีกเลย

เขาหลับตาลงเพื่อฝึกฝนต่อทันที

................

กริ๊ง!!!!!

เสียงกริ่งสัญญาณดังก้องขึ้นในห้องโดยสาร เดวิดค่อย ๆ ลืมตาขึ้นอย่างช้า ๆ พร้อมกับเก็บคลื่นสมองกลับเข้าสู่ร่างกายและปกปิดเอาไว้อย่างมิดชิด ก้มลงมองแหล่งกำเนิดพลังงานในมือที่แทบจะกลายเป็นก้อนหินธรรมดาในมือเล็กน้อย ก่อนจะส่ายหน้าออกมาเบา ๆ แล้วเก็บวัตถุทรงกลมที่ไม่เหลือแสงสว่างเปล่งออกมาอีกแล้วเข้าไปไว้ในแหวนเก็บของ ทักษะกายาเทวราชฝึกฝนได้ยากกว่าที่คิดไม่น้อย สมแล้วที่อวดอ้างว่าสามารถลอยอยู่กลางอวกาศได้แบบตัวเปล่าเมื่อฝึกฝนได้ถึงขั้นสมบูรณ์แบบ

แม้ว่าแหล่งกำเนิดพลังงานที่เขายึดมาจากเวเธอร์จะเหมือนว่ามีพลังงานไร้สิ้นสุด แต่การฝึกฝนกายาเทวราชนั้นเหมือนกับหลุมดำที่ไร้ก้นก็ไม่ปาน ยิ่งร่างกายแข็งแกร่งมากขึ้นไปเท่าไร พลังงานที่ต้องใช้ในการเสริมสร้างก็มากมายมหาศาลเป็นทวีคูณตามไปด้วย หลังจากดูดกลืนพลังงานจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์มาเกือบครึ่ง ร่างกายของเดวิดก็แข็งแกร่งขึ้นจนใกล้เคียงกับการใช้สภาวะเสริมพลังสิบดาวแล้ว แต่! การดูดกลืนพลังงานจากเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์นี้ไปจนหมด ช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นได้เกิน 2 เท่าตัวมาเล็กน้อยเท่านั้นเอง

ถูกต้อง! ความแข็งแกร่งของร่างกายเดวิดในตอนนี้คือ 12 เท่าเมื่อเทียบกับก่อนหน้าที่จะฝึกฝนทักษะกายาเทวราช ผู้ก่อสวรรค์ส่วนใหญ่น่าจะต้องตายลงไปอย่างไม่มีทางเลือกอื่นถ้าถูกเขาตบอย่างเต็มแรงโดยไม่ต้องกระตุ้นพลังพันธุกรรมใด ๆ เดวิดแข็งแกร่งถึงขนาดนั้นแล้ว

“อืม! ถึงแล้วอย่างนั้นหรือ? เร็วดีจริง ๆ” เสียงพึมพำที่แฝงเอาไว้ด้วยความตื่นเต้นพึงพอใจดังออกมาเบา ๆ แม้ว่ามันจะยังไม่เต็มที่นัก เพราะสายตาดันเหลือบไปเห็นแสงสีม่วงจาง ๆ ที่หน้าอกของตัวเองเข้าเสียก่อน ช่วง 2 อาทิตย์ที่ผ่านมาเมล็ดพันธุ์สายฟ้าปะทุขึ้นแบบนับครั้งไม่ถ้วน แม้ว่าเดวิดจะพยายามควบคุมให้อัตราการหมุนเวียนเลือดของตัวเองช้าที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่แบตเตอรี่พิเศษก็ใกล้เต็มเข้าไปทุกที อันที่จริง! ถ้าเขาไม่ดึงพลังมาเสริมสร้างความแข็งแกร่งและขยายขนาดของมันออกไปอีกเท่าตัว เรือเหาะลำนี้ไม่น่าจะรอดกลับมาถึงที่สถาบันได้เลย ปริมาณสายฟ้าที่สะสมอยู่ในร่างกายสามารถทำให้มันแหลกสลายกลายเป็นผุยผงในพริบตาถ้าปะทุออกมาทั้งหมดแบบควบคุมไม่ได้ เดวิดต้องหาพื้นที่ที่เหมาะสมสำหรับการปลดปล่อยมันออกไปให้ได้เร็วที่สุด

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของเขาถูกส่งออกไปสำรวจสภาพแวดล้อมนอกเรือเหาะ ความรู้สึกเป็นกังวลสลายไปทันทีเมื่อภาพที่คุ้นเคยปรากฏขึ้นมาในสมอง เรือเหาะอยู่ในอาณาเขตของทางสถาบันเรียบร้อย และกำลังลดระดับความสูงและความเร็วของตัวเองลง ภาพอาคารสูงที่ตั้งเรียงรายดึงความคิดของเดวิดให้ตวัดไปถึงชายแก่ผมขาวขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ ตั้งแต่ตื่นลืมตาขึ้นมาบนโลกใบนี้ ถ้าที่นี่คือบ้าน ตาแก่ขี้หงุดหงิดก็เป็นเพียงคนเดียวที่เปรียบเสมือนกับครอบครัวของเขา

“พวกนั้นคงโตขึ้นจากความทรงจำนี่ไม่น้อยแล้วเหมือนกันสินะ!” เดวิดพึมพำออกมาเมื่อคำนึงไปถึงครอบครัวที่แท้จริงของร่างที่ตัวเองใช้อยู่ในตอนนี้ น้องสาวฝาแฝด 2 คนที่ไม่เคยได้เจอหน้าแบบจริง ๆ มาก่อน พี่ชาย และพ่อแม่ของ ‘เดวิด ซินเทค’ คนนี้

เรือเหาะสะเทือนเบา ๆ ขัดจังหวะให้ความคิดฟุ้งซ่านหยุดลง เขาลุกจากที่นั่งเดินไปรออยู่ที่หน้าประตูของห้องโดยสาร ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าเต็มปอดลึก ๆ ทันทีที่มันเปิดกว้างออก

“ฮ่าฮ่าฮ่า! ในที่สุดก็กลับมาถึงจนได้” เสียงหัวเราะอย่างยินดีดังออกมาจากปาก เมื่อกลับมาถึงสถาบันแล้ว เดวิดคิดว่าตัวเองจะได้ใช้ชีวิตเสวยสุขบนกองเงินกองทองเสียที ทำตัวเป็นนักพันธุศาสตร์แบบนิ่ง ๆ ไปสัก 2-3 ปี มันจะต้องสงบสุขเป็นอย่างมากแน่นอน!

“หืม? ดูเหมือนว่าเธอจะคิดถึงสถาบันแห่งนี้มากเลยสินะ!” เสียงที่ทั้งแหบและชราภาพดังขึ้นมาตรงหน้า เดวิดสะดุ้งเล็กน้อยและรีบเปลี่ยนอากัปกิริยาจากการเงยหน้าหัวเราะก้องใส่ท้องฟ้าเป็นก้มหัวทำความเคารพและทักทายอย่างมีมารยาททันที

“สวัสดีครับท่านศาสตราจารย์ใหญ่!”

“อืม! ถ้าดูจากอาการดีใจแล้ว การไปฝึกฝนคราวนี้น่าจะหนักหนาไม่เบาเลย กลับมาแล้วก็พักผ่อนฟื้นฟูร่างกายให้สมบูรณ์เสียก่อนล่ะ!” ร่างที่เต็มไปด้วยหนวดเคราขาวโพลนแต่ยังดูแข็งแรงสาวเท้าเดินเข้ามาที่ประตูห้องโดยสารอย่างช้า ๆ ดูเหมือนว่าศาสตราจารย์ใหญ่ตั้งใจจะมาต้อนรับพวกเขาโดยเฉพาะ

“ก็หนักหนาอยู่พอสมควรครับ! แต่ก็ไม่มีอะไรมาก แค่นอนให้เต็มอิ่มสักคืนสองคืนก็น่าจะเพียงพอแล้ว” เดวิดตอบกลับไปอย่างนอบน้อมถ่อมตัว

“ได้ยินอย่างนั้นก็ฉันก็โล่งใจ แล้วคนอื่น ๆ ไปไหนกันหมด!?” ชายชรามองไปรอบ ๆ พร้อมกับคิ้วที่เริ่มขมวดเข้าหากัน

เดวิดกระพริบตาถี่ ‘เจ้ากัปตันบ้า! ทำไมไม่รายงานด้วยตัวเอง!? ตั้งใจจะโยนภาระมาให้ฉันใช่มั้ยเนี่ย!?’ ก่อนจะตอบไปตาม ‘ความจริง’ “พวกเขาตัดสินใจที่จะอยู่ต่อ ผมไม่มีโอกาสแม้แต่จะได้พูดเกลี้ยกล่อมเลยด้วยซ้ำ”

ดวงตาของศาสตราจารย์ใหญ่หรี่เล็กลงอย่างกะทันหัน กลิ่นอายที่ดุดันปรากฏออกมาแวบหนึ่งก่อนจะหายไปอย่างไร้ร่องรอย เขายิ้มให้เดวิดแล้วกล่าวอย่างอ่อนโยน “อ้อ! อย่างนั้นหรือ ถ้าอย่างนั้นเธอก็กลับไปพักผ่อนก่อนเถอะ ห้องพักเดิมยังถูกเก็บเอาไว้ให้ไม่มีการเปลี่ยนแปลง รอให้เธอหายเหนื่อยแล้วพวกเราค่อยมาคุยกันอีกที”

เดวิดพยักหน้ารับคำสั่งนั้นอย่างไม่ลังเล เขาโค้งทำความเคารพก่อนจะก้าวเท้าเพื่อเดินออกไปจากลานจอดเรือเหาะทันที

“เดี๋ยวก่อน!”

เสียงเรียกที่ดังตามขึ้นมาทำให้เดวิดต้องชะงักฝีเท้าและหมุนตัวกลับไปมอง เขายังทันเห็นประกายที่ทอวาบขึ้นในดวงตาของศาสตราจารย์ใหญ่แวบหนึ่ง และแน่ใจว่านั่นเป็นทักษะที่ใช้ตรวจสอบความแข็งแกร่งของตัวเองอย่างแน่นอน

“ไม่ทราบว่าศาสตราจารย์ใหญ่มีอะไรจะสั่งอีกครับ?” เดวิดถามออกไปด้วยน้ำเสียงนอบน้อม ทำตัวเหมือนไม่เห็นอะไรทั้งสิ้น

“ไม่มีอะไรแล้ว! เธอกลับไปก่อนได้เลย” ชายชราส่ายหน้าออกมาเบา ๆ น้ำเสียงยังคงนุ่มนวลอ่อนโยนเหมือนเดิม

เดวิดพยักหน้ารับคำอีกครั้ง เขากระตุ้นอัตราการหมุนเวียนเลือดในร่างกายให้พุ่งสูงขึ้นไปอยู่ที่ 200 รอบต่อนาที และพุ่งออกไปอย่างรวดเร็วจนมองตามไม่ทัน... ในสายตาของคนธรรมดา

หลังจากที่ร่างของเดวิดหายลับไป แววตาผิดหวังก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของศาสตราจารย์ใหญ่อย่างชัดเจน เขาส่ายหัวเล็กน้อยพร้อมกับพึมพำออกมาอย่างไม่พอใจ “ผู้ก่อพลังขั้นสมบูรณ์แบบ แถมยังค้างเติ่งอยู่ที่เฟสเซอร์ระดับ 3 ยีน! เสียโควตาไปเปล่า ๆ แท้ ๆ เลย เจ้าเด็กนี่ทำได้น่าผิดหวังจริง ๆ”

แววตานั่นปรากฏขึ้นมาแค่ครู่เดียวเท่านั้น มันแข็งกร้าวขึ้นเรื่อย ๆ ตามระยะเวลาและโทสะที่ค่อย ๆ ถูกปลดปล่อยออกมาจากการอดกลั้นเอาไว้ กลิ่นอายรอบตัวของศาสตราจารย์ใหญ่เริ่มดุดันเหี้ยมเกรี้ยมขึ้นเรื่อย ๆ “คิดจะขโมยนักเรียนของฉัน!? มันไม่ได้ง่ายอย่างที่คิดหรอกนะ!!”

คลื่นอากาศสั่นไหวจนแตกตัว แต่ก็เพียงแค่เสี้ยววินาทีเท่านั้น ทุกอย่างสงบลงเมื่อร่างของศาสตราจารย์ใหญ่หายไปอย่างไร้ร่องรอย

......

ทันทีที่สัมผัสได้ว่าความสนใจของศาสตราจารย์ใหญ่หายไปจากตัวเอง อัตราการหมุนเวียนเลือดในร่างกายก็ถูกลดลงไปจนใกล้เคียงกับคนธรรมดาทันที ความเร็วของเดวิดยังคงเหมือนเดิม แต่มันเป็นการวิ่งด้วยความความแข็งแรงของกล้ามเนื้อล้วน ๆ แล้ว

เขารู้สึกหงุดหงิดรำคาญกับสถานการณ์ในตอนนี้เล็กน้อย แต่ตั้งใจเอาไว้แล้วว่าจะทำตัวโลว์โปรไฟล์ให้ได้มากที่สุด ความแข็งแกร่งจะค่อย ๆ ถูกเปิดเผยออกมาแค่พอเพียงให้อาศัยอยู่ในสถาบันแห่งนี้อย่างสงบสุขเท่านั้น เดวิดใช้ความสามารถในการปกปิดของแวมไพร์ออกมาอย่างเต็มกำลังเพื่อตบตาศาสตราจารย์ใหญ่ สภาพภายนอกที่ทุกคนจะได้เห็นคือเฟสเซอร์ระดับ 3 ยีนคนหนึ่งเท่านั้น

การฝึกฝนคลื่นสมอง!? ไม่ต้องปกปิดเลย ถ้านับในเรื่องความเข้มข้นของคลื่นสมอง เขายังเป็นแค่ละอ่อนน้อยคนหนึ่งเท่านั้นจริง ๆ

ด้วยประสาทการรับรู้ที่ยอดเยี่ยมขึ้นอย่างมหาศาล แม้ว่าจะวิ่งอยู่อย่างรวดเร็ว แต่เดวิดก็ยังสามารถชื่นชมกับสภาพแวดล้อมรอบตัวได้อย่างชัดเจน เวลาที่ผ่านไปหลายเดือนไม่ทำให้บรรยากาศของสถาบันเปลี่ยนไปเลยแม้แต่น้อย ยกเว้น! มันมีใบหน้าของเด็กวัยรุ่นที่เขาไม่เคยเห็นหน้ามาก่อนปะปนอยู่เป็นจำนวนมากเท่านั้น ดูเหมือนว่านักเรียนรุ่นใหม่จะถูกเกณฑ์มาเรียบร้อยแล้ว

ใช่! ถ้านับระยะเวลาที่ผ่านมาทั้งหมด ตอนนี้เดวิดเป็นนักเรียนชั้นปี 2 มาได้หลายเดือนแล้ว เขาไม่ใช่นักเรียนใหม่อีกไป

“เฮ้ย! เจ้าบ้านี่! วิ่งให้มันดูทางบ้างสิวะ!”

เสียงตวาดที่ดังออกมาทำให้เดวิดชะงักเท้าหยุดกึกลงทันที..

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด