ตอนที่ 2 : ดูเจ้าบ่าวสิ เขาดูเหมือนคนร้ายตามหมายจับหรือเปล่า?
ตอนที่ 2 : ดูเจ้าบ่าวสิ เขาดูเหมือนคนร้ายตามหมายจับหรือเปล่า?
เมื่อได้ยินสิ่งที่ระบบรายงานออกมา ซู่ซวนก็แสดงความไม่อยากจะเชื่อออกมาผ่านสายตาของเขา
ในตอนแรกเขาเพียงแค่อยากจะทดลองเพื่อเจ้าของร่างเดิมของเขา เพื่อลองตรวจสอบดูว่าเศรษฐีคนนี้เคยก่ออาชญากรรมหรือไม่? แต่ใครจะไปคิดว่าอีกฝ่ายจะเป็นอาชญากรตัวจริง!”
แถมยังเป็นอาชญากรระดับสูงด้วย!
เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ ซู่ซวนก็แสดงรอยยิ้มแปลกๆออกมาบนใบหน้าของเขาทันที
หากจำไม่ผิด วันนี้จะเป็นวันที่อดีตแฟนสาวจอมเจ้าเล่ห์ของเขาจะแต่งงานกับมหาเศรษฐีของเธอ….
ถึงแม้ว่าซู่ซวนจะไม่ได้วางแผนที่จะไปร่วมงานแต่งงาน แต่การไปจับอาชญากรนั้นแตกต่างออกไปเพราะนี่คือหน้าที่ของเขาในฐานะตำรวจ!
ก็คงต้องบอกว่าหากเขาไม่รู้ก็คงจะไม่เป็นไร แต่ในเมื่อรู้แล้วการที่ไม่ทำอะไรเลยก็เป็นเรื่องที่ไม่สมควร!
ในตอนแรกเขาก็รู้สึกเหมือนทำอะไรไม่ถูก แต่สุดท้ายเขาก็คิดได้ว่ามันคือหน้าที่ของเขาที่จะต้องจับคนร้าย!
ทุกคนที่อยู่ด้านข้างมองดูรอยยิ้มบนใบหน้าของเขาและเริ่มรู้สึกกังวลเล็กน้อย!
“เอาล่ะ มีอะไรก็พูดออกมา ตอนนี้ใบหน้าของนายดูเหมือนคนบ้าแล้วนะ!”
“เป็นไปได้ไหมว่าแทนที่จะเศร้าอยู่เงียบๆ กลับกลายเป็นว่าเขาจะกลายเป็นบ้าไปแล้ว?”
“จบแล้ว จบแล้วจริงๆ ถ้าเกิดว่ามีอะไรเกิดขึ้นแล้วพวกเราจะทำยังไง?”
เมื่อได้ยินเสียงที่พี่น้องรอบตัวเขาพูด ซู่ซวนก็กลับมามีสติอีกครั้ง เขาหัวเราะเบาๆก่อนจะโบกมือและเดินไปข้างหน้า
“พี่น้องทุกคน มากับฉันเร็ว!”
หลังจากพูดจบแล้วเขาก็เป็นผู้นำในการเดินนำหน้าไป
เมื่อเห็นแบบนั้นแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจคนอื่นก็รู้สึกมึนงงเล็กน้อยก่อนจะเดินตามไป
หลังจากที่เดินตามทันซู่ซวน พวกเขาก็มองดูหน้าตาของซู่ซวนและพูดออกมาอย่างประหม่า
“เดี๋ยวก่อนสิ ซู่ซวน นายจะพาพวกเราไปไหนกัน?”
“เดี๋ยวก่อนนะ นายไม่ได้จะไปก่อเรื่องจริงๆใช่ไหม?”
“ถ้าอย่างนั้นเรามาคุยกันก่อนเถอะ จะลงมือก็ไม่มีปัญหา แต่จะต้องไม่ให้มันย้อนกลับมามีผลกับพวกเรา….”
เมื่อเผชิญหน้ากับความสงสัยของทุกคน ซู่ซวนจึงพูดออกมาทันที “ไม่ต้องกังวลไปพี่น้องทุกคน ฉันได้เลือกที่จะทำตามสิ่งที่ฉันตัดสินใจตามที่ฉันพูดไปก่อนหน้านั้นแล้ว แล้วฉันก็ไม่ใช่คนที่จะกลับคำพูดไปมา”
นอกจากนี้คนที่มีความรู้สึกกับแฟนเก่านั้นคือเจ้าของร่างเดิมไม่ใช่เขา เขาไม่สนใจสาวชาเขียวแบบนั้นด้วยซ้ำ
ต่อให้มายืนเปลือยเปล่าอยู่หน้าเขาในตอนนี้ เขาก็ไม่สนใจที่จะมองดูเธอด้วยซ้ำและยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องการสร้างปัญหาให้เธอเลย!
เมื่อได้ยินสิ่งนี้แล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจหลายคนก็มองดูเขาอย่างสงสัย
นี่ไม่ใช่พี่น้องของเรา!
ถ้าหากว่าเขาปล่อยวางได้จริงๆแล้วทำไมเมื่อกี้เขาถึงตื่นเต้น?
ในขณะที่พูดพวกเขาก็เดินขึ้นไปบนรถตำรวจ ซู่ซวนก็ขับรถตรงไปยังโรงแรมที่ฉินซูยี่และเศรษฐีของเธอกำลังจะแต่งงานกัน
เมื่อเห็นฉากนี้แล้ว สีหน้าของเจ้าหน้าที่ตำรวจคนอื่นๆก็ซับซ้อนยิ่งขึ้น
ไหนบอกว่าปล่อยวางแล้วไง?
แล้วนี่เรากำลังจะไปที่ไหนกัน?
เมื่อสัมผัสได้ถึงสายตาของทุกคน ซู่ซวนก็รู้ว่าพวกเขากำลังคิดอะไรอยู่ แต่เขาก็ไม่สนใจที่จะอธิบาย เมื่อเวลาผ่านไปคนเหล่านี้ก็จะรู้เองว่าสิ่งที่เขาพูดเป็นเรื่องจริงหรือไม่
ในไม่ช้า ซู่ซวนก็พาคนหลายคนเข้าไปในโรงแรมรอยัลคอร์ท
เนื่องจากพวกเขาทุกคนสวมเครื่องแบบตำรวจ พนักงานโรงแรมจึงไม่กล้าหยุดพวกเขาเลย แถมยังก้าวไปข้างหน้าด้วยรอยยิ้มด้วยทัศนคติที่เป็นเลิศ
“คุณเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นหรอครับ?”
ในขณะที่พูด สายตาของพนักงานเสิร์ฟยังคงจับจ้องไปที่ซู่ซวนซึ่งเป็นคนเดียวที่ไม่สวมชุดตำรวจ
เขาเดาในใจว่าคนๆนี้คือคนที่โทรแจ้งตำรวจหรือไม่
เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ซู่ซวนก็หยิบบัตรประจำตัวของเขาออกมา จากนั้นก็รีบเก็บมันออกไปและพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มลึก
“เรามาที่นี่เพื่อปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นทางการ มีผู้ต้องสงสัยอยู่ในโรงแรมของคุณและเราจะพาตัวเขาไปทันที!”
ขณะที่เขาพูด ซู่ซวนก็พาพี่น้องที่อยู่ข้างหลังเขาตรงไปที่ห้องจัดเลี้ยงบนชั้นสาม
พนักงานโรงแรมมองไปที่ซู่ซวนและตระหนักได้ว่าเขาเป็นตำรวจนอกเครื่องแบบ แต่เรื่องนี้ใหญ่เกินไป ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงขอคำแนะนำจากเจ้านายเท่านั้น
เมื่อเปรียบเทียบกับพนักงานแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่เบื้องหลังซู่ซวนก็ยิ่งสับสนมากขึ้นไปอีก
จะมาจับผู้ต้องสงสัยโดยไม่มีหมายจับ?!
เมื่อมองดูซู่ซวนเดินตรงไปที่ชั้นสาม เจ้าหน้าที่ตำรวจหลายคนก็เดาในใจไม่ออก
เป็นไปได้ไหมที่ซู่ซวนต้องการใช้อำนาจของเขาเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว เพื่อทำให้งานแต่งงานของฉินซูยี่ไปต่อไม่ได้?
เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ หลายคนก็มองดูซู่ซวนด้วยความกังวลเล็กน้อย
ถ้าเป็นแบบนั้นจริงนี่มันเป็นการล้มงานแต่งเลยนะ!
การล่มงานแต่งต้องเป็นเรื่องใหญ่อยู่แล้วและหากพวกเขาถูกจับได้ พวกเขาก็อาจจะถูกจับขัง 2 ถึง 3 วันและได้รับการตักเตือน แต่นี่คือโทษสำหรับประชาชนทั่วไป
สำหรับตำรวจแล้วย่อมแตกต่างออกไป สิ่งที่พวกเขาเผชิญไม่ได้มีเพียงแค่โทษพวกนั้น แต่พวกเขาอาจจะต้องถูกถอดเครื่องแบบและถูกคณะกรรมการตรวจสอบวินัยสอบสวน!
ในขณะนี้หลายคนเริ่มรู้สึกกังวลขึ้นมาเล็กน้อย พวกเขาก็รีบไปข้างหน้าและกระซิบแนะนำซู่ซวน
“ซู่ซวน นายจะต้องใจเย็นๆนะ อย่าได้หุนหันพลันแล่น!”
“ฉันรู้ว่านายไม่พอใจ แต่หากว่านายต้องการที่จะก่อเรื่องวุ่นวายฉันไปกับนายแน่นอน! แต่เรื่องผู้ต้องสงสัยล่ะ…. อย่าพูดเรื่องไร้สาระแบบนั้นออกมาน่ะ!”
“อย่าลืมนะว่านายเองก็เป็นตำรวจ! นายจะต้องทำตัวให้คู่ควรกับเครื่องแบบที่นายสวมใส่!”
…
เสียงของเพื่อนร่วมงานดังก้องอยู่ในหูของเขาและซู่ซวนก็รู้ว่าพวกเขากำลังเข้าใจผิด เขาจึงได้แต่ส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้
“ไม่ต้องกังวลไป ฉันจะไม่เสียอนาคตให้กับคนอย่างฉินซูยี่อย่างแน่นอน..... ฉันต้องใช้ความพยายามอย่างมากกว่าจะได้เป็นตำรวจและฉันเองก็ต้องขอบคุณทุกคนที่มาที่นี่ด้วย!”
“แต่อย่างไรก็ตาม ฉันมาที่นี่เพื่อจับกุมอาชญากรจริงๆ ฉันจำได้ว่าตอนที่ฉันเห็นเงินของฉอนซูยี่ ฉันสังเกตเห็นความผิดปกติบางอย่าง!”
“เชื่อฉันเถอะ จะไม่มีอะไรผิดพลาดอย่างแน่นอน!”
ระบบได้ทำการตรวจสอบอาชญากรรมของเศรษฐีคนนั้นแล้ว หากไม่ได้รับการยืนยันซู่ซวนเองก็คงไม่กล้าที่จะนำพี่น้องเข้ามาเสี่ยงอย่างแน่นอน
แต่ในตอนนี้เขาไม่สามารถบอกเรื่องนี้ได้ เขาทำได้เพียงแค่พูดด้วยรอยยิ้มบิดเบี้ยว “แต่ฉันเองก็ยังไม่แน่ใจว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นจริงมั้ย”
เมื่อได้ยินแบบนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจหลายคนที่ยังคงสงสัยและกังวลเล็กน้อยก็อดไม่ได้ที่จะมองไปที่ซู่ซวนแววตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความกังวลและลังเลที่จะพูด
“ซู่ซวน นี่ไม่ใช่เรื่องเล็กๆน้อยๆเลยนะ นายแน่ใจแล้วใช่ไหม?”
“ปัญหาเกี่ยวกับเงินก้อนนี้นายรู้ได้ยังไงกัน?”
“ถ้าเกิดว่าเข้าไปตอนนี้เราจะไม่มีทางให้หันหลังกลับแล้วนะ อยากจะเข้าไปจริงๆหรอ?”
“ไม่ใช่ว่าพี่น้องของพวกเราขี้ขลาดนะ แต่เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กเลย ถ้าหากว่าหน้ายืนกรานที่จะทำนายก็ต้องอธิบายให้พวกเราเข้าใจและชัดเจน.....”
เรื่องที่ส่งผลต่ออาชีพของพวกเขาและอาจมีผลติดตามมาหากว่าไม่เป็นไปตามที่คิดเอาไว้
พี่น้องของพวกเขาอาจจะก่อเรื่องวุ่นวายกับซู่ซวนได้ แต่เรื่องการจับกุมคนนั้นพวกเขาก็ยังต้องทำอย่างระมัดระวัง
หากว่ามันเกิดเป็นการกล่าวหาอันเป็นเท็จขึ้นมานั่นก็จะเป็นการที่พวกเขาทำผิดกฎหมายเสียเอง!
เมื่อได้ยินสิ่งที่พี่ชายของเขาพูด ซู่ซวนเองก็รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่จะอธิบายเขาจึงรีบพูดว่า “พี่น้องทุกคน พวกเรายังจำคดีเก่าที่ยังปิดไม่ได้กันได้อยู่ไหม?”
“จำได้หรือเปล่าว่าเมื่อ 3 เดือนที่แล้ว มีอาชญากรที่ปล้นเพชรมูลค่านับล้านไปบนรถไฟความเร็วสูง?”
"มา มา มา
ซู่ซวนก้าวออกไปในขณะที่เขาพูด เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมองเห็นฉากบนเวทีได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
“ไม่คิดบ้างหรอว่าผู้ชายที่ยืนอยู่บนเวทีจะคล้ายกับอาชญากรที่หนีไปเมื่อสามเดือนก่อน?”
เมื่อได้ยินคำพูดของซู่ซวน เจ้าหน้าที่ตำรวจหลายคนก็ตกตะลึงและพิงประตูทันที มองผ่านช่องว่างและมองไปที่เจ้าบ่าวที่ยืนอยู่บนเวที...
เมื่อเห็นสิ่งนี้ทุกคนก็ประหลาดใจและไม่มั่นใจเล็กน้อย
อย่าบอกนะว่าเหมือนนิดหน่อย!