ตอนที่แล้วตอนที่ 1 : การเดินทางข้ามเวลา? ระบบอาชญากรเปิดใช้งานแล้ว!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 3 : การปล้น? อ่า น่าเกลียดแต่สวย!

ตอนที่ 2 : ดูเจ้าบ่าวสิ เขาดูเหมือนคนร้ายตามหมายจับหรือเปล่า?


ตอนที่ 2 : ดูเจ้าบ่าวสิ เขาดูเหมือนคนร้ายตามหมายจับหรือเปล่า?

เมื่อได้ยินสิ่งที่ระบบรายงานออกมา ซู่ซวนก็แสดงความไม่อยากจะเชื่อออกมาผ่านสายตาของเขา

ในตอนแรกเขาเพียงแค่อยากจะทดลองเพื่อเจ้าของร่างเดิมของเขา เพื่อลองตรวจสอบดูว่าเศรษฐีคนนี้เคยก่ออาชญากรรมหรือไม่? แต่ใครจะไปคิดว่าอีกฝ่ายจะเป็นอาชญากรตัวจริง!”

แถมยังเป็นอาชญากรระดับสูงด้วย!

เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ ซู่ซวนก็แสดงรอยยิ้มแปลกๆออกมาบนใบหน้าของเขาทันที

หากจำไม่ผิด วันนี้จะเป็นวันที่อดีตแฟนสาวจอมเจ้าเล่ห์ของเขาจะแต่งงานกับมหาเศรษฐีของเธอ….

ถึงแม้ว่าซู่ซวนจะไม่ได้วางแผนที่จะไปร่วมงานแต่งงาน แต่การไปจับอาชญากรนั้นแตกต่างออกไปเพราะนี่คือหน้าที่ของเขาในฐานะตำรวจ!

ก็คงต้องบอกว่าหากเขาไม่รู้ก็คงจะไม่เป็นไร แต่ในเมื่อรู้แล้วการที่ไม่ทำอะไรเลยก็เป็นเรื่องที่ไม่สมควร!

ในตอนแรกเขาก็รู้สึกเหมือนทำอะไรไม่ถูก แต่สุดท้ายเขาก็คิดได้ว่ามันคือหน้าที่ของเขาที่จะต้องจับคนร้าย!

ทุกคนที่อยู่ด้านข้างมองดูรอยยิ้มบนใบหน้าของเขาและเริ่มรู้สึกกังวลเล็กน้อย!

“เอาล่ะ มีอะไรก็พูดออกมา ตอนนี้ใบหน้าของนายดูเหมือนคนบ้าแล้วนะ!”

“เป็นไปได้ไหมว่าแทนที่จะเศร้าอยู่เงียบๆ กลับกลายเป็นว่าเขาจะกลายเป็นบ้าไปแล้ว?”

“จบแล้ว จบแล้วจริงๆ ถ้าเกิดว่ามีอะไรเกิดขึ้นแล้วพวกเราจะทำยังไง?”

เมื่อได้ยินเสียงที่พี่น้องรอบตัวเขาพูด ซู่ซวนก็กลับมามีสติอีกครั้ง เขาหัวเราะเบาๆก่อนจะโบกมือและเดินไปข้างหน้า

“พี่น้องทุกคน มากับฉันเร็ว!”

หลังจากพูดจบแล้วเขาก็เป็นผู้นำในการเดินนำหน้าไป

เมื่อเห็นแบบนั้นแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจคนอื่นก็รู้สึกมึนงงเล็กน้อยก่อนจะเดินตามไป

หลังจากที่เดินตามทันซู่ซวน พวกเขาก็มองดูหน้าตาของซู่ซวนและพูดออกมาอย่างประหม่า

“เดี๋ยวก่อนสิ ซู่ซวน นายจะพาพวกเราไปไหนกัน?”

“เดี๋ยวก่อนนะ นายไม่ได้จะไปก่อเรื่องจริงๆใช่ไหม?”

“ถ้าอย่างนั้นเรามาคุยกันก่อนเถอะ จะลงมือก็ไม่มีปัญหา แต่จะต้องไม่ให้มันย้อนกลับมามีผลกับพวกเรา….”

เมื่อเผชิญหน้ากับความสงสัยของทุกคน ซู่ซวนจึงพูดออกมาทันที “ไม่ต้องกังวลไปพี่น้องทุกคน ฉันได้เลือกที่จะทำตามสิ่งที่ฉันตัดสินใจตามที่ฉันพูดไปก่อนหน้านั้นแล้ว แล้วฉันก็ไม่ใช่คนที่จะกลับคำพูดไปมา”

นอกจากนี้คนที่มีความรู้สึกกับแฟนเก่านั้นคือเจ้าของร่างเดิมไม่ใช่เขา เขาไม่สนใจสาวชาเขียวแบบนั้นด้วยซ้ำ

ต่อให้มายืนเปลือยเปล่าอยู่หน้าเขาในตอนนี้ เขาก็ไม่สนใจที่จะมองดูเธอด้วยซ้ำและยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องการสร้างปัญหาให้เธอเลย!

เมื่อได้ยินสิ่งนี้แล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจหลายคนก็มองดูเขาอย่างสงสัย

นี่ไม่ใช่พี่น้องของเรา!

ถ้าหากว่าเขาปล่อยวางได้จริงๆแล้วทำไมเมื่อกี้เขาถึงตื่นเต้น?

ในขณะที่พูดพวกเขาก็เดินขึ้นไปบนรถตำรวจ ซู่ซวนก็ขับรถตรงไปยังโรงแรมที่ฉินซูยี่และเศรษฐีของเธอกำลังจะแต่งงานกัน

เมื่อเห็นฉากนี้แล้ว สีหน้าของเจ้าหน้าที่ตำรวจคนอื่นๆก็ซับซ้อนยิ่งขึ้น

ไหนบอกว่าปล่อยวางแล้วไง?

แล้วนี่เรากำลังจะไปที่ไหนกัน?

เมื่อสัมผัสได้ถึงสายตาของทุกคน ซู่ซวนก็รู้ว่าพวกเขากำลังคิดอะไรอยู่ แต่เขาก็ไม่สนใจที่จะอธิบาย เมื่อเวลาผ่านไปคนเหล่านี้ก็จะรู้เองว่าสิ่งที่เขาพูดเป็นเรื่องจริงหรือไม่

ในไม่ช้า ซู่ซวนก็พาคนหลายคนเข้าไปในโรงแรมรอยัลคอร์ท

เนื่องจากพวกเขาทุกคนสวมเครื่องแบบตำรวจ พนักงานโรงแรมจึงไม่กล้าหยุดพวกเขาเลย แถมยังก้าวไปข้างหน้าด้วยรอยยิ้มด้วยทัศนคติที่เป็นเลิศ

“คุณเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นหรอครับ?”

ในขณะที่พูด สายตาของพนักงานเสิร์ฟยังคงจับจ้องไปที่ซู่ซวนซึ่งเป็นคนเดียวที่ไม่สวมชุดตำรวจ

เขาเดาในใจว่าคนๆนี้คือคนที่โทรแจ้งตำรวจหรือไม่

เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ซู่ซวนก็หยิบบัตรประจำตัวของเขาออกมา จากนั้นก็รีบเก็บมันออกไปและพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มลึก

“เรามาที่นี่เพื่อปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นทางการ มีผู้ต้องสงสัยอยู่ในโรงแรมของคุณและเราจะพาตัวเขาไปทันที!”

ขณะที่เขาพูด ซู่ซวนก็พาพี่น้องที่อยู่ข้างหลังเขาตรงไปที่ห้องจัดเลี้ยงบนชั้นสาม

พนักงานโรงแรมมองไปที่ซู่ซวนและตระหนักได้ว่าเขาเป็นตำรวจนอกเครื่องแบบ แต่เรื่องนี้ใหญ่เกินไป ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงขอคำแนะนำจากเจ้านายเท่านั้น

เมื่อเปรียบเทียบกับพนักงานแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่เบื้องหลังซู่ซวนก็ยิ่งสับสนมากขึ้นไปอีก

จะมาจับผู้ต้องสงสัยโดยไม่มีหมายจับ?!

เมื่อมองดูซู่ซวนเดินตรงไปที่ชั้นสาม เจ้าหน้าที่ตำรวจหลายคนก็เดาในใจไม่ออก

เป็นไปได้ไหมที่ซู่ซวนต้องการใช้อำนาจของเขาเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว เพื่อทำให้งานแต่งงานของฉินซูยี่ไปต่อไม่ได้?

เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ หลายคนก็มองดูซู่ซวนด้วยความกังวลเล็กน้อย

ถ้าเป็นแบบนั้นจริงนี่มันเป็นการล้มงานแต่งเลยนะ!

การล่มงานแต่งต้องเป็นเรื่องใหญ่อยู่แล้วและหากพวกเขาถูกจับได้ พวกเขาก็อาจจะถูกจับขัง 2 ถึง 3 วันและได้รับการตักเตือน แต่นี่คือโทษสำหรับประชาชนทั่วไป

สำหรับตำรวจแล้วย่อมแตกต่างออกไป สิ่งที่พวกเขาเผชิญไม่ได้มีเพียงแค่โทษพวกนั้น แต่พวกเขาอาจจะต้องถูกถอดเครื่องแบบและถูกคณะกรรมการตรวจสอบวินัยสอบสวน!

ในขณะนี้หลายคนเริ่มรู้สึกกังวลขึ้นมาเล็กน้อย พวกเขาก็รีบไปข้างหน้าและกระซิบแนะนำซู่ซวน

“ซู่ซวน นายจะต้องใจเย็นๆนะ อย่าได้หุนหันพลันแล่น!”

“ฉันรู้ว่านายไม่พอใจ แต่หากว่านายต้องการที่จะก่อเรื่องวุ่นวายฉันไปกับนายแน่นอน! แต่เรื่องผู้ต้องสงสัยล่ะ…. อย่าพูดเรื่องไร้สาระแบบนั้นออกมาน่ะ!”

“อย่าลืมนะว่านายเองก็เป็นตำรวจ! นายจะต้องทำตัวให้คู่ควรกับเครื่องแบบที่นายสวมใส่!”

เสียงของเพื่อนร่วมงานดังก้องอยู่ในหูของเขาและซู่ซวนก็รู้ว่าพวกเขากำลังเข้าใจผิด เขาจึงได้แต่ส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้

“ไม่ต้องกังวลไป ฉันจะไม่เสียอนาคตให้กับคนอย่างฉินซูยี่อย่างแน่นอน..... ฉันต้องใช้ความพยายามอย่างมากกว่าจะได้เป็นตำรวจและฉันเองก็ต้องขอบคุณทุกคนที่มาที่นี่ด้วย!”

“แต่อย่างไรก็ตาม ฉันมาที่นี่เพื่อจับกุมอาชญากรจริงๆ ฉันจำได้ว่าตอนที่ฉันเห็นเงินของฉอนซูยี่ ฉันสังเกตเห็นความผิดปกติบางอย่าง!”

“เชื่อฉันเถอะ จะไม่มีอะไรผิดพลาดอย่างแน่นอน!”

ระบบได้ทำการตรวจสอบอาชญากรรมของเศรษฐีคนนั้นแล้ว หากไม่ได้รับการยืนยันซู่ซวนเองก็คงไม่กล้าที่จะนำพี่น้องเข้ามาเสี่ยงอย่างแน่นอน

แต่ในตอนนี้เขาไม่สามารถบอกเรื่องนี้ได้ เขาทำได้เพียงแค่พูดด้วยรอยยิ้มบิดเบี้ยว “แต่ฉันเองก็ยังไม่แน่ใจว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นจริงมั้ย”

เมื่อได้ยินแบบนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจหลายคนที่ยังคงสงสัยและกังวลเล็กน้อยก็อดไม่ได้ที่จะมองไปที่ซู่ซวนแววตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความกังวลและลังเลที่จะพูด

“ซู่ซวน นี่ไม่ใช่เรื่องเล็กๆน้อยๆเลยนะ นายแน่ใจแล้วใช่ไหม?”

“ปัญหาเกี่ยวกับเงินก้อนนี้นายรู้ได้ยังไงกัน?”

“ถ้าเกิดว่าเข้าไปตอนนี้เราจะไม่มีทางให้หันหลังกลับแล้วนะ อยากจะเข้าไปจริงๆหรอ?”

“ไม่ใช่ว่าพี่น้องของพวกเราขี้ขลาดนะ แต่เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กเลย ถ้าหากว่าหน้ายืนกรานที่จะทำนายก็ต้องอธิบายให้พวกเราเข้าใจและชัดเจน.....”

เรื่องที่ส่งผลต่ออาชีพของพวกเขาและอาจมีผลติดตามมาหากว่าไม่เป็นไปตามที่คิดเอาไว้

พี่น้องของพวกเขาอาจจะก่อเรื่องวุ่นวายกับซู่ซวนได้ แต่เรื่องการจับกุมคนนั้นพวกเขาก็ยังต้องทำอย่างระมัดระวัง

หากว่ามันเกิดเป็นการกล่าวหาอันเป็นเท็จขึ้นมานั่นก็จะเป็นการที่พวกเขาทำผิดกฎหมายเสียเอง!

เมื่อได้ยินสิ่งที่พี่ชายของเขาพูด ซู่ซวนเองก็รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่จะอธิบายเขาจึงรีบพูดว่า “พี่น้องทุกคน พวกเรายังจำคดีเก่าที่ยังปิดไม่ได้กันได้อยู่ไหม?”

“จำได้หรือเปล่าว่าเมื่อ 3 เดือนที่แล้ว มีอาชญากรที่ปล้นเพชรมูลค่านับล้านไปบนรถไฟความเร็วสูง?”

"มา มา มา

ซู่ซวนก้าวออกไปในขณะที่เขาพูด เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมองเห็นฉากบนเวทีได้ชัดเจนยิ่งขึ้น

“ไม่คิดบ้างหรอว่าผู้ชายที่ยืนอยู่บนเวทีจะคล้ายกับอาชญากรที่หนีไปเมื่อสามเดือนก่อน?”

เมื่อได้ยินคำพูดของซู่ซวน เจ้าหน้าที่ตำรวจหลายคนก็ตกตะลึงและพิงประตูทันที มองผ่านช่องว่างและมองไปที่เจ้าบ่าวที่ยืนอยู่บนเวที...

เมื่อเห็นสิ่งนี้ทุกคนก็ประหลาดใจและไม่มั่นใจเล็กน้อย

อย่าบอกนะว่าเหมือนนิดหน่อย!

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด