ตอนที่ 10 : ผู้กำกับโง่ นั่นไม่ใช่อาชญากรตามหมายจับเหรอ?
ตอนที่ 10 : ผู้กำกับโง่ นั่นไม่ใช่อาชญากรตามหมายจับเหรอ?
รองผู้กำกับรีบเข้าไปในห้องทำงานทันที
“เหล่าไม คำสั่งของนายไม่แปลกเกินไปหน่อยเหรอ?”
“เมื่อวานคนของเราก็ทำงานกันหนัก วันนี้ยังต้องมาทำหนึ่งในสองงานให้เสร็จก่อนสิ้นเดือนอีก”
“และนี่ก็เหลือเวลาอีกเพียงแค่ไม่กี่วันพวกเขาจะทำได้หรอ?”
“อย่าพูดถึงอาชญากรที่มีหมายจับเลย ด้วยเวลาที่เหลือเพียงเท่านี้ยังไงก็ไม่สามารถสืบสวนและตามจับได้ทันแน่”
หลินซั่นพูดออกมาอย่างจริงจัง เห็นได้ชัดว่าเขาไม่เข้าใจว่าทำไมผู้กำกับถึงทำแบบนี้
“ตาแก่หลิน มันไม่ใช่สิ่งที่ฉันต้องการทำเลย แต่มันเป็นวิธีสุดท้ายแล้วจริงๆ”
“นายเองก็รู้ไม่ใช่เหรอว่าสถานีตำรวจเจียงเฉิงของเราไม่เป็นมิตรกับสถานีตำรวจเขตเฉียนฉีมากขนาดไหน? พวกเขาประสบความสำเร็จครั้งใหญ่มาแล้วสองครั้ง แต่สถานีตำรวจของเรากลับไม่มีอะไรเลย”
“ตอนนี้เองก็ใกล้จะสิ้นเดือนแล้วการประเมินรายไตรมาสก็กำลังกลับมา หากเราไม่ทำอะไรให้สำเร็จเลยสักอย่างฉันเกรงว่าการประเมินรายไตรมาสของเราจะเป็นตัวที่ตบหน้าเราเอง”
ผู้กำกับสถานีตำรวจถอนหายใจออกมา ในฐานะของผู้กำกับประจำสถานีตำรวจนี้ เขาจะไม่มีวันยอมปล่อยให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอย่างเด็ดขาด!
โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเขาแพ้ให้กับเขตเฉียนซี เขายิ่งไม่เต็มใจมากขึ้นไปอีก!
“อีกอย่าง เรื่องนี้เรายังได้รับคำสั่งโดยตรงมาจากผู้บัญชาการระดับสูง ถึงแม้เราจะไม่เห็นด้วยแต่เราก็ต้องทำ….”
“ลองคิดดูสิ ถ้าหากว่าเราต้องเสียเขตอำนาจของเราไปให้สถานีตำรวจอื่นๆ แล้วฉันจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?”
หลินซั่นเองก็เข้าใจความหมายของผู้กำกับดี เวลาในปีนี้ก็ผ่านไปแล้วกว่า 1 ใน 4 ในไตรมาสที่แล้วพวกเขาก็ได้พ่ายแพ้ให้กับสถานีตำรวจเขตเฉียนซีแบบเต็มๆ
เรื่องนี้ทำให้เขาถูกเยาะเย้ยมาเป็นเวลานาน
“แต่เรื่องนี้ก็ยังยากเกินไปอยู่ดี”
“เหลือเวลาอีกเพียงไม่กี่วันแต่พวกเราจะทำได้จริงหรอ?”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ สายตาของตาแก่ไมก็จมลงทันที
“ถึงแม้จะทำไม่เสร็จแต่ก็ต้องทำให้เสร็จเพื่อฉัน!”
“ต้องทำงานล่วงเวลา ฉันไม่เชื่อว่าฉันจะพ่ายแพ้ให้กับเขตเฉียนซีอีก!”
ในเวลานี้ ซู่ซวนและคนอื่นๆก็ขับรถกลับมาพอดี
เสียงคำรามของเครื่องยนต์ดึงดูดความสนใจของทุกคนโดยตรง
วันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่มาเปลี่ยนกะกับตำรวจสองสามนายเพราะอะไรบางอย่างก็ดูด้วยสีหน้างงงวยเล็กน้อย
เลขที่พวกนี้…
เหล่าเย่ไม่ได้บอกว่าเขาขอเปลี่ยนกะเพื่อส่งซู่ซวนออกจากจังหวัดเหรอ?
ทำไมครั้งนี้เขาถึงกลับมาพร้อมกันแบบนี้?
“เด็กพวกนี้กำลังทำอะไรอยู่?”
ในออฟฟิศก็ได้ยินเสียงรถยนต์เช่นกันและเหล่าไมก็เดินไปที่หน้าต่างและดูเหตุการณ์ภายนอกและก็ไม่เข้าใจเช่นกัน "ฉันจำได้ว่าซู่ซวนดูเหมือนจะขอลาไปแล้ว ทำไมเขายังอยู่ที่นี่?
“วันนี้พวกเขาไม่ได้เข้าเวร แล้วพวกเขามาที่นี่ทำไมกัน?”
เหล่าไมพูดด้วยความโกรธและคิดว่าจะสั่งสอนซู่ซวนอย่างไรแล้ว
ปกติแล้วเขาเป็นคนอารมณ์ดีอยู่เสมอ
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เป็นสถานการณ์พิเศษ เขาอยากให้ตำรวจในสังกัดเขารีบทำอะไรสักอย่าง แทนที่จะมาที่นี่เพื่อทำอะไรเล็กๆน้อยๆ...
นอกจากนี้ ในเมื่อเด็กคนนี้ซู่ซวนได้ขอลาออกไปแล้ว เขาจะกลับมาที่นี่เพื่ออะไรกัน?
ไม่รู้จะพูดอะไรจริงๆ!
“เอาล่ะ ลงไปกับฉันดูหน่อยสิ!” เหล่าไมปิดม่าน เงยหน้าขึ้นแล้วเดินลงไป “ฉันอยากเห็น คราวนี้ผู้ชายคนนี้จะทำอะไร”
“วันหยุดยังแต่งชุดตำรวจ นี่ไม่พอให้ลงโทษเหรอ?”
เหล่าไมเดินออกไปในขณะที่เขาพูด หลินซั่นเดินตามหลังเขาไปและส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้
อดไม่ได้ที่จะคิดในใจ : ซู่ซวนผู้ชายคนนี้ก็ดูฉลาด ทำไมเขาถึงต้องมาสูญเสียเขาในช่วงเวลาวิกฤติแบบนี้ด้วยนะ?
คนตั้งมากมายต่างก็อยากที่จะเดินก้าวหน้าต่อไป....
แต่ทำไม!
เขากลับเลือกที่จะทำแบบนี้ คนตั้งมากมายอยากที่จะมาเดินอยู่บนเส้นทางนี้แต่ก็ไม่มีโอกาส
คิดแล้วก็น่าสงสาร…
จริงสิ ฉันเองก็ควรไปดูด้วยดีกว่า เผื่อว่าเหล่าไมอารมณ์เสียขึ้นมาจะได้หยุดเขาได้
...
หลังจากที่ซู่ซวนและคนอื่นๆขับรถเข้ามาภายในประตูสถานีตำรวจ ตำรวจทุกคนที่อยู่ในสถานีตำรวจก็มองหน้ากันและเดินออกมาดู
….
“พระเจ้าช่วย สถานการณ์นี้มันคืออะไรกัน?”
“มีคนมาต้อนรับเยอะมาก ฉันหน้าใหญ่ขนาดนั้นเลยหรอ?”
“หรือว่าทุกคนสั่งข้าวพร้อมกันพอดี? หรือมีใครแอบบอกคนข้างในหรือเปล่า?”
ซู่ซวนดูสับสนและถามคนที่อยู่ในรถโดยไม่รู้ตัว
แต่ใครจะไปคิดว่านี่เป็นเพียงแค่เหล่าไมที่ต้องการใช้โอกาสนี้เชือดไก่ให้ลิงดู
และน่าเสียดายที่ซู่ซวนก็คือไก่ตัวนั้น
เมื่อเห็นว่าพวกเขานั่งอยู่ในรถโดยที่ยังไม่ออกมา ใบหน้าของเหล่าไมก็เปลี่ยนเป็นสีดำทันที
…
ในเวลานี้เองเมื่อเห็นผู้กำกับเดินเข้ามา ตำรวจหลายคนก็มองหน้ากันและลงจากรถตำรวจทีละคน
พวกเขาเต็มไปด้วยความสงสัยในใจ
“ไม่รู้สิฉันเองก็ไม่ได้บอกนะ นายบอกหรือเปล่า?”
เจ้าหน้าที่ตำรวจคน หนึ่ง พูด
คนอื่นๆก็ยิ่งสับสนมากขึ้นไปอีก
พูดตามตรง มันเป็นเรื่องน่าประหลาดใจมากที่พวกเขาสามารถจับอาชญากรที่มีหมายจับได้ในครั้งนี้.....
เดิมทีพวกเขาคิดว่าเมื่อกลับมาถึงสถานีตำรวจแล้วพวกเขาจะโอ้อวด
แล้วสรุปใครเป็นคนบอกกันล่ะ?
"ไม่ใช่ฉันเหมือนกัน
“งานใหญ่แบบนี้ต้องบอกกันในออฟฟิศ แล้วจะไปพูดระหว่างเดินทางได้ไง”
“ลืมไปเถอะ มันไม่มีประโยชน์ที่จะเดาตอนนี้ ควรรีบดูว่าเกิดอะไรขึ้นพวกนายไม่เห็นเหรอ? ฉันเห็นสีหน้าเคร่งขรึมของผู้กำกับ…”
หลังจากลงจากรถ ซู่ซวนก็ลากเกาฉีออกจากรถ
หลังจากขึ้นรถตำรวจแล้ว ชายคนนี้ก็ยังอยากจะวิ่งหนี ซู่ซวนจึงลากเขาไว้กับตัว
แม้ว่าตอนนี้เขาจะเข้ามาโรงพักแล้วแต่เขาก็ไม่ยอมปล่อย
เกาฉีถูกสวมกุญแจมือทั้งสองข้างในเวลานี้ แม้ว่าเขาจะสวมชุดสูท แต่เขาก็ยังดูเขินอายมาก
แต่ถึงอย่างนั้น...
เหล่าไมที่เดินเข้ามาทางนี้ด้วยสีหน้าโกรธเคืองก็จำเขาได้ทันที!
ผู้ชายคนนี้เป็นอาชญากรที่เขาฝันถึงและอยากจับแม้กระทั่งในฝันไม่ใช่หรือ?
เป็นเขา!
ผู้ต้องสงสัยที่หายไปอย่างลึกลับ...
มันจะมาอยู่ในมือของเจ้าหน้าที่ตำรวจของเขาได้อย่างไร?