บทที่ 8: ความคิดแบบเด็กๆ (3)
บทที่ 8: ความคิดแบบเด็กๆ (3)
เมื่อเวลาผ่านไป พี่อดัมและฉันได้รับตำแหน่งระดับสูงในกลุ่มทหารรับจ้าง
ไม่มีใครขัดขวางการเลื่อนตำแหน่งของเราได้
เรามีส่วนร่วมมากมายกับกลุ่มทหารรับจ้างกลุ่มนี้
เมื่อตำแหน่งของเราเลื่อนขึ้น เราก็ย้ายออกจากแนวหน้าที่อันตรายไปด้วย
แต่เราก็ทำเงินได้ดีมากขึ้นเช่นกัน
ถึงขั้นคิดว่าการใช้ชีวิตแบบนี้คงจะสบายดี
เราต้องเข้าร่วมการประชุมยุทธวิธีด้วย
พูดตามตรง มันเป็นเหมือนการมาสนุกมากกว่าเพราะว่ามีทั้งเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อาหาร และผู้หญิง
จริงๆ แล้วเรียกได้ว่าเป็นงานปาร์ตี้เลยยังได้
“เบิร์ก! อดัม! มาแล้วสินะ มาๆ มีที่นั่งตรงนี้”
'มาลัค' ผู้นำกองทหารรับจ้างต้อนรับพวกเรา
ทหารคนอื่นๆ จากหลากหลายเผ่าพันธุ์เข้าประจำที่นั่งแล้ว
เนื้อย่างที่มันเยิ้ม เครื่องเคียงต่างๆ และเหล้าราคาแพงกำลังรอเราอยู่
มาลัคแสร้งทำเป็นต้อนรับเรา แต่สายตาของเขากลับมีความรู้สึกระมัดระวังอยู่เสมอ
พวกเรานั้นมีประโยชน์มากสำหรับสมาชิกคนอื่นๆ และเรายังสามารถรักษาตำแหน่งนี้ไว้ได้ด้วยฝีมือของเราเอง
แต่ในฐานะผู้นำ เขาอาจรู้สึกว่ากำลังถูกคุกคาม
นอกจากนั้น พี่อดัมกับฉันยังผูกพันกันอย่างใกล้ชิด เพราะเราทั้งคู่มาจากเผ่าพันธุ์มนุษย์เหมือนกัน ดังนั้นมันจึงดูเหมือนเราทั้งสองเป็นฝ่ายเดียวกัน
ฉันกับพี่อดัมนั่งลง
“โอ้…งั้นฉันขอนั่งกับคนนี้นะ เขาหล่อมาก…”
จากนั้น ก็มีหญิงสาวชาวเอลฟ์คนหนึ่งนั่งลงข้างๆ ฉัน
ฉันผลักเธอจากการพยายามกอดเเขนฉันด้วยการกอดอก
“อย่ามาแตะต้องตัวฉัน”
พี่อดัมแทบจะพ่นแอลกอฮอล์ที่เขาดื่มออกมาขณะมองเธอ
ฉันไม่ได้สนใจพี่ที่กำลังหัวเราะหรือหญิงสาวชาวเอลฟ์ที่ตกใจเลย
ทั้งหมดที่ฉันเห็นมีเพียงเพียงเครื่องดื่มฟรีตรงหน้าฉัน
การประชุมดำเนินไปด้วยดี
ฉันมักจะเข้าร่วมการประชุมเพียงเพื่อดื่มเหล้าฟรีเท่านั้น
มีคนคุยกับฉันไม่มาก เพราะฉันไม่เคยแสดงปฏิกิริยาใดๆ เป็นพิเศษออกมา
ขณะที่ฉันอยู่แบบนั้น เสียงซุบซิบและเสียงสบถก็ดังไปทั่ว
ฉันไม่ได้หัวเราะไปกับพวกเขา
ฉันดื่มแอลกอฮอล์และกินเนื้อให้เต็มท้อง
จากนั้นมาลัคก็ชี้ไปที่พี่อดัมแล้วเปิดปากของเขาเพื่อพูดขึ้นมา
“อดัม คือว่าเรื่องความขัดแย้งกับรองกัปตันในการรบครั้งก่อน...”
พี่อดัมที่กำลังจีบผู้หญิงที่นั่งข้างเขา ก็ยักไหล่กับคำพูดของมาลัค
“ขัดแย้งเหรอ? มันเป็นเพียงแค่การเปลี่ยนแผนนิดเดียวเอง”
“แต่รองกัปตันพูดอีกอย่างเลยนะ”
“เขาพูดอะไร?”
“เขาบอกว่านายไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง”
ด้วยน้ำเสียงเย็นชาของมาลัค บรรยากาศการประชุมจึงกลับกลายเป็นเคร่งเครียดอย่างรวดเร็ว
ใช้เวลาไม่นานก็ตระหนักได้เลยว่าคำพูดมาลัคไม่ได้ล้อเล่นสักนิดเดียว
ฉันแกล้งดื่มเหล้าและอ่านบรรยากาศการประชุม
มันรู้สึกคุ้นเคย
รู้สึกเหมือนเรากำลังตกเป็นเป้าหมาย
พี่อดัมอ่านบรรยากาศเช่นกัน ก่อนจะวางแก้วลงไปก่อน
“…ไม่ใช่ว่าฉันไม่เชื่อฟังคำสั่ง แค่สถานการณ์มันเปลี่ยนไป”
“แล้วนายก็เลยลงมือเองเหรอ? นั่นไม่ใช่การฝ่าฝืนงั้นหรือ?”
“สถานการณ์มันเปลี่ยนไป ดังนั้นฉันจึงตัดสินใจเลือกทางเลือกที่ดีที่สุด เราแยกจากรองกัปตันไปแล้ว ต้องรอคำสั่งของเขาและค่อยทำเหรอ?”
“แต่พอฉันฟังคำพูดของรองกัปตันอย่างละเอียด ดูเหมือนสถานการณ์จะไม่เป็นเช่นนั้นนะ”
“…”
สีหน้าของพี่อดัมซึ่งเต็มไปด้วยรอยยิ้ม ค่อยๆ แข็งทื่อ
ฉันยังวางแก้วลงตามเขา
เมื่อมองไปยังมาลัค พี่อดัมก็พูดออกมา
“…แต่ว่าลูกน้องของฉันทุกคนรอดชีวิตมาได้ คงต้องให้รางวัลเขาแล้วสิ”
“ตอนนี้นายยังคิดว่าฉันล้อเล่นอีกเหรอ?”
ความเงียบเกิดขึ้นอีกครั้ง
ตำแหน่งของมาลัคคล้ายถูกแขวนด้วยด้าย
ดูเหมือนว่าเขากำลังพยายามควบคุมพี่อดัมเพื่อแสดงอำนาจ
ในที่สุดพี่อดัมก็พูดออกมา
"ฉันขอโทษด้วย ฉันจะปฏิบัติตามคำสั่งอย่างเคร่งครัดในครั้งต่อไปก็แล้วกันนะ”
“ไม่ใช่อย่างนั้นอดัม เราได้ตัดสินใจว่าเรื่องนี้ไม่ควรจะถูกมองข้ามไปง่ายๆ ไม่ใช่แค่ปล่อยให้สหายของเราตกอยู่ในอันตราย แต่มันเป็นการไม่เชื่อฟังในสนามรบ ซึ่งผลที่ตามมาอาจร้ายแรงมาก”
"นอกจากนี้…"
ปั้ก!
พี่อดัมกระแทกกำปั้นของเขาลงบนโต๊ะ
ทหารทุกคนที่อยู่ในที่นั่งต่างผงะด้วยความตกใจและถอยกลับไป
พี่อดัมมองมาที่ฉัน
“…เบิร์ก”
“…”
“ดูเหมือนว่าถึงเวลาแล้ว เรามาก่อตั้งกองทหารรับจ้างของเรากันเถอะ โอกาสเรากองอยู่ตรงนี้แล้ว”
ขณะที่ฉันพยักหน้า พี่อดัมลุกขึ้นจากที่นั่งของเขา
ฉันก็ยืนขึ้นตามเขาเช่นกัน
พี่เขายิ้มอีกครั้งและพูดกับมาลัค
“กัปตัน ฉันซาบซึ้งกับทุกสิ่งจนถึงตอนนี้ แต่รู้สึกเหมือนว่าเราอาจจะทะเลาะกันต่อไปในอนาคตเช่นกัน ดังนั้นฉันขอตัวออกจากกองกำลังทหารรับจ้าง”
หลังจากมาลัคทบทวนคำพูดของพี่ได้ครู่หนึ่ง เขาก็ชักดาบออกมาด้วยความโกรธ
“ไอ้เวร นั่นแกจะไปไหน?”
ทหารจำนวนนับไม่ถ้วนวางมือบนดาบตามการนำของมาลัค
แต่ฉันชักดาบได้เร็วกว่าใครๆ
“กัปตัน นั่งลงก่อนสิ”
ฉันเล็งดาบที่ดึงออกมาไปที่คอของกัปตันแล้วเตือนเขา
มันเป็นความรู้สึกแปลกมากที่ต้องชี้อาวุธไปที่คอของกัปตันที่ฉันติดตามมาตลอด
มาลัคตัวแข็งทื่อทันที ทหารคนอื่นๆ ก็เหมือนกัน
มีความแตกต่างที่ยิ่งยวดระหว่างเราที่ใช้ความสามารถไต่เต้าขึ้นมากับทหารคนอื่นๆ ที่ไต่เต้าขึ้นมาจากเส้นสาย
นอกจากนั้น มันยังมีช่องว่างที่ชัดเจนระหว่างผู้ที่ตีตัวออกห่างจากการต่อสู้ เอาแต่ดื่มแต่แอลกอฮอล์และกินอาหารทั้งวัน กับพวกเราที่ฝึกฝนตลอดวัน
ทุกคนเข้าใจความจริงข้อนั้นดี เห็นได้ชัดจากร่างกายของเรา
ฉันอยู่ข้างหลังและพูดคุยกับพวกเขาตามลำพัง
“ในเมื่อเราแยกกันแล้ว เราคงจะไม่วุ่นวายกันใช่ไหม?”
“…”
ฉันรอคำตอบ ซึ่งก็ไม่มีใครคัดค้านใดๆ
ฉันวางดาบออกไปแล้วเดินตามพี่อดัมไป
นั้นคือสิ่งที่จะต้องเกิดขึ้นในสักวันหนึ่ง ฉันคิดเอาไว้แล้ว ดังนั้นฉันจึงไม่ได้รู้สึกอะไรนัก
แม้ว่าฉันจะต้องสละตำแหน่งทั้งหมดที่ฉันมี แต่มันก็ไม่สำคัญเลย
ฉันยังมีความปรารถนาที่จะติดตามพี่อดัมต่อไป
ประการแรก กองทหารรับจ้างในปัจจุบันไม่ใช่สถานที่ที่ฉันอยากจะอยู่ไปตลอดชีวิต
ซึ่งพี่อดัมที่ทิ้งตำแหน่งมาแล้วก็หันมาขอบคุณฉัน
“ขอบคุณมากนะเบิร์ก”
ฉันยิ้ม
“พี่ก็แสดงเก่งจังนะ”
และภายในไม่กี่เดือน เราก็ก่อตั้งกองทหารรับจ้าง
เราผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากในการคิดถึงชื่อกลุ่มทหารรับจ้าง
ชื่อที่พี่อดัมคิดมักจะแปลกและใช้การไม่ได้อยู่เสมอ
“ดาบเพลิงและโล่”
“ไม่เอา”
"เฮ้! ชื่อแบบนี้โคตรเท่เลยนะ จะหาที่ไหนได้อีก…!”
“ขอแบบธรรมดาๆ และไม่ซ้ำใคร”
“ถ้าอย่างนั้นเปลวเพลิงสีชาต?”
“…ดีขึ้นกว่าเดิมนิดหน่อย”
มันค่อนข้างสนุกที่ได้สร้างกองทหารรับจ้าง
ข้อได้เปรียบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือเราสามารถดำเนินการตามสิ่งที่เราต้องการได้
“ยอมรับเฉพาะเผ่าพันธุ์มนุษย์เท่านั้น”
พี่อดัมตัดสินใจแบบนั้น
“หากมีหลายเผ่าพันธุ์มารวมกัน พวกเขาอาจจะทะเลาะกันได้ แต่เราควรจะอยู่เคียงข้างกันและกัน”
แม้ว่าเขาจะไม่ได้อธิบาย แต่ฉันก็เข้าใจเจตนาของเขา
การร่วมมือกับเผ่าพันธุ์อื่นไม่ใช่เรื่องง่าย
จากประสบการณ์หลายปี มีหลายอย่างที่ฉันได้เรียนรู้
ท้ายที่สุดแล้ว การมีคนข้างกายเป็นเผ่าพันธุ์เดียวกันย่อมสบายใจกว่า
เนื่องจากไม่มีความแตกต่างทางวัฒนธรรม มันจึงมีความขัดแย้งน้อยลง
เมื่อพิจารณาในทุกๆ ด้านแล้ว ก็ไม่มีเหตุผลที่จะรับสมาชิกจากเผ่าพันธุ์อื่นเลย
พี่อดัมผสมผสานบุคลิกที่อบอุ่นของเขาเข้ากับหลักการของกองกำลังทหารรับจ้าง
เขาต้องการสร้างกองกำลังทหารรับจ้างที่มีคนตายน้อยลง
แทนที่จะสร้างกองกำลังทหารรับจ้างที่เพียงแค่ฆ่าสัตว์ประหลาดแต่ไม่สนคนตาย เขาต้องการให้สมาชิกแต่ละคนกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญ
ด้วยเหตุนี้เราจึงเลือกสมาชิกหลังจากพิจารณาอย่างรอบคอบแล้ว
การทดสอบสมรรถภาพทางกาย การตรวจสุขภาพ การประเมินสติปัญญา และอื่นๆ...
ผู้สมัครทั้งหมดที่ดูเหมือนจะตายไปอย่างง่ายดายต่างถูกเขี่ยออกไป
แม้แต่ผู้ที่ได้รับเลือกก็ยังต้องได้รับการฝึกอย่างเข้มงวด
เขาและฉันผลักดันผู้สมัครใหม่ให้ถึงขีดจำกัด
โดยเฉพาะฉัน ถึงขั้นที่สมาชิกที่มาใหม่ไม่ชอบฉันเลย
แต่ฉันไม่สนใจว่าพวกเขาจะชอบหรือไม่ชอบ
ฉันอดไม่ได้ที่จะรู้สึกอึดอัดแปลกๆ เมื่อคิดว่าชีวิตของพวกเขาอยู่ในมือของฉัน
ฉันจึงต้องการที่จะเติมเต็มความรับผิดชอบของฉันให้สมบูรณ์
การฝึกดาบ การฝึกยุทธวิธี การฝึกเอาชีวิตรอด เราไม่ได้ละเลยอะไรเลย
ฉันสอนพวกเขาถึงจุดอ่อนและประเภทของสัตว์ประหลาดทุกอย่าง
พี่อดัมเริ่มถูกเรียกว่ากัปตันโดยธรรมชาติ ส่วนฉันก็ถูกเรียกว่ารองกัปตัน
เนื่องจากเราจัดการกองทหารรับจ้างในแบบของพี่ จำนวนผู้เสียชีวิตจึงลดลงจนถึงจุดที่แตกต่างอย่างยิ่งยวดกองกำลังทหารรับจ้างก่อนหน้านี้
เนื่องจากเราคัดเลือกผู้สมัครอย่างรอบคอบ จึงเป็นเรื่องยากที่จะขยายกลุ่มเราไป แต่เราก็ได้สร้างรากฐานที่มั่นคงไว้แล้ว
นอกจากการฝึกอบรมแล้ว สมาชิกยังมีความพึงพอใจในการอยู่ร่วมกับเรามาก
เมื่ออัตราการรอดชีวิตเพิ่มขึ้น ความไม่พอใจที่มีต่อฉันก็ค่อยๆกลายเป็นความเคารพ
ด้วยเหตุนี้ กลุ่มเปลวเพลิงสีชาตของเราจึงมีชื่อเสียงแตกต่างจากกองกำลังทหารรับจ้างทั่วไป มันเริ่มแพร่กระจายข่าวลือไปที่นี่และที่นั่น และกองกำลังของเราก็มีขนาดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
เมื่อขนาดขยายใหญ่ขึ้น ภารกิจที่เข้ามาก็อันตรายมากขึ้นและเงินรางวัลย่อมเพิ่มขึ้น
แต่เราก็สามารถเติบโตต่อไปได้อย่างต่อเนื่อง
เมื่อเห็นกองทหารรับจ้างที่เราสร้างขึ้นด้วยมือของเราเองเติบโตขึ้น ฉันก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกภาคภูมิใจ
เมื่อทุกคนเคลื่อนไหวเป็นหนึ่งเดียวและเอาชนะสัตว์ประหลาดด้วยเป้าหมายที่เป็นหนึ่งเดียว ความสนิทสนมกันก็ก่อตัวขึ้นตามธรรมชาติ
ฉันมีความสุขมาก แม้ว่าฉันจะไม่ได้แสดงออกมาก็ตาม ตัวฉันได้มีสหายร่วมงานที่ฉันพึ่งพาได้อย่างแท้จริง ไม่ใช่สหายร่วมงานที่จะโต้เถียงกับฉันทุกวันและเปลี่ยนแปลงนิสัยไปในชั่วข้ามคืน
และห้าปีผ่านไป
ฉันอายุครบ 24 ปี
ตอนนี้พี่อดัมอายุ 26 ปี
กลุ่มเปลวเพลิงสีชาตของเราได้รับการยอมรับเป็นวงกว้าง
ตอนนี้หลายๆ คนรู้ชื่อกลุ่มทหารรับจ้างของเราแล้ว
แม้แต่ขุนนางก็เข้ามาหาเราพร้อมกับภารกิจเป็นครั้งคราว
แผนของพี่อดัมในการก่อตั้งกองกำลังทหารรับจ้างถือได้ว่าประสบความสำเร็จ
วันหนึ่งขณะที่ฉันกำลังดื่มกับพี่อดัม เขาก็ยิ้มแล้วพูดว่า
“ฉันบอกแล้วใช่ไหมว่ากองกำลังทหารรับจ้างของฉันจะแตกต่างออกไป”
ฉันอดไม่ได้ที่จะยิ้มอย่างภูมิใจ