Chapter 9 : เลื่อนระดับ นักสู้ขอบเขตที่1!
ในเวลาเดียวกันภายในสถานีไร้ภัยของชั้นที่9ในถ้ำหินยักษ์
โจวเฟิงและอีกสองคนรีบวางร่างของหนุ่มใช้โล่ลงบนโต๊ะหมอ พนักงานที่รับหน้าที่ดูแลรักษารีบเข้ามาใช้สกิลรักษาในทันที
หมอเหล่านี้ส่วนมากล้วนเป็นอดีตแพทย์ดังนั้นหลังจากโลกปรับตัวเข้าสู่ยุคดิจิทัลพวกเขาจึงได้สกิลรักษาเกรดสีฟ้ามาโดยตรง
มหาเทพบางคนในด้านการรักษากระทั่งว่าได้สกิลรักษาเกรดสีม่วงมาครองเลยด้วยซ้ำ
ถ้าไม่มีอะไรผิดคาดคนเหล่านี้ก็จะได้เป็นเจ้าหน้าที่ประจำสถานีไร้ภัย พวกเขาไม่จำเป็นต้องเรียนรู้สกิลต่อสู้และรับหน้าที่เพียงรักษาคนเจ็บเท่านั้น
แน่นอนว่ามีเจ้าหน้าที่ฝ่ายวิชาชีพที่ทนกับความเบื่อหน่ายไม่ไหวและอยากจะจับอาวุธออกไปสู้อยู่เหมือนกัน ยังไงก็ตามพวกเขานั้นรู้ดีว่าพวกตนมีความแข็งแกร่งแค่ไหน พวกเขาจึงมักจะรวมทีมกันและไม่มีทางก้าวเข้าสู่แดนลับเพียงลำพัง
เมื่อเห็นว่าสถานะเชิงลบทั้งหลายบนร่างของหนุ่มใช้โล่ค่อยๆหายไปและพลังชีวิตเองก็เริ่มฟื้นคืนอย่างช้าๆ โจวเฟิงและอีกสองคนจึงถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก
พวกเขาจึงตรงมายังพื้นที่ขายอาหารและซื้อหาอาหารบางส่วนกลับไปนั่งทานระหว่างรอ
ในขณะที่กำลังคุยอยู่นั้นหัวข้อของราชันย์มังกรดินก็ถูกยกขึ้นมาพูดอีกครั้ง
"พลังป้องกันของราชันย์มังกรดินสูงมากทั้งกายภาพและเวทย์มนตร์เลยแต่ค่าต้านทานธาตุของมันไม่ได้สูงเท่าไหร่ พวกเราลองใช้พิษดูดีกว่า!"
นักธนูประจำทีมกล่าวอย่างหมดหนทาง “พี่โจวผมเป็นนักธนูสายโจมตีกายภาพเลยไม่มีสกิลธาตุเลย พี่หวังกับผมไว้สูงเกินไปหน่อยแล้วมั้ง”
หมอประจำทีมเองก็กระแอมเบาๆ “ฉันรู้แต่วิธีล้างพิษ!”
โจวเฟิง : “พวกนาย...!”
“พี่โจวทำไมถึงอยากจะท้าทายราชันย์มังกรดินขนาดนั้นล่ะ? หนนี้โชคดีที่พวกเราหนีมาได้แต่คราวหน้าล่ะ? คราวหน้า...” หมอคนนั้นเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจัง
ยังไงก็ตามก่อนที่เขาจะได้กล่าวจบวิทยุประจำสถานีก็ดังขึ้นเสียก่อน
“ราชันย์แดนลับมากประสบการณ์ ราชันย์มังกรดินถูกสังหารลงแล้ว! ราชันย์แดนลับมากประสบการณ์ ราชันย์มังกรดินถูกสังหารลงแล้ว!”
ราชันย์แดนลับทั่วๆไปนั้นตกตายในทุกวันอยู่แล้วจึงไม่ได้ถูกประกาศอย่างอึกทึกเช่นนี้
หากแต่ราชันย์แดนลับมากประสบการณ์นั้นอย่างน้อยก็ต้องคงอยู่มาเกินครึ่งปี ทุกๆครั้งที่พวกมันถูกฆ่าข่าวจึงจะถูกรายงานไปทั่วทุกสถานีไร้ภัย
เหล่านักสู้ทุกคนภายในสถานีไร้ภัยต่างแสดงสีหน้าตกตะลึง
“ทีมไหนกันที่สังหาราชันย์มังกรดินลงได้? สุดยอดเลย!”
“ไปกัน รีบไปที่ชั้น10ไปดูกนัว่าเป็นมหาเทพกลุ่มไหน!”
“แปลกนะ ฉันคิดว่าวันนี้ฉันยังไม่เห็นทีมที่พอจะคุ้นหน้าคุ้นตาซึ่งชอบท้าทายราชันย์มังกรดินเลยซักทีม”
“ราชันย์แดนลับมากประสบการณ์ตัวล่าสุดดูเหมือนจะถูกสังหารไปเมื่อ3ปีก่อน ไม่คิดเลยว่าวันนี้เราจะได้เป็นพยานในประวัติศาสตร์”
“ไปดูกันเถอะ”
เมื่อได้ยินข่าวที่ประกาศออกมามือของโจวเฟิงและอีกสองคนที่กำลังดื่มอยู่ก็พลันชะงักค้าง
สีหน้าของหมอประจำทีมแข็งค้างไป “ครั้งหน้า...คงไม่มีแล้ว”
นักธนูเองก็เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก “พี่โจว ราชันย์มังกรดินตายแล้ว”
โจวเฟิงเองก็ไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี “ฉันรู้แล้วน่า”
“ยังไงก็เถอะฉันก็ยังสงสัยอยู่ดีว่าเป็นทีมไหนที่ทำได้? ทีมวินด์เชสซิ่ง ทีมฟายอิ้งคุนเผิงหรือทีมบิ๊กเบิร์ดโรเทชั่น?”
“ไปดูกันเถอะ บางทีทีมที่ฆ่าราชันย์มังกรดินลงได้อาจจะยังอยู่ก็ได้” หมอประจำทีมเอ่ยออกมาอย่างเร่งร้อน
“เอาล่ะนายคอยดูเสี่ยวหลิวอยู่ที่น่แล้วกัน พวกเราสองคนจะไปดูซักหน่อย” โจวเฟิงบอกให้นักธนูอยู่เพื่อคอยดูสถานการณ์ของชายหนุ่มถือโล่และรีบวิ่งไปยังชั้น10พร้อมกับหมอ
เมื่อพวกเขามาถึงก็พบกับกลุ่มนักสู้จำนวนมากที่มารวมตัวกัน ทุกๆคนต่างอยากจะเห็นว่าทีมที่สังหารราชันย์แดนลับมากประสบการณ์ลงได้จะมีหน้าตาแบบไหน
โจวเฟิงกวาดสายตามองไปทางถ้ำของราชันย์มังกรดินตามสัญชาตญาณ รูปขนาดใหญ่เหนือถ้ำนั้นได้เปลั่ยนจากราชันย์มังกรดินเป็นราชันย์ด้วงเพลิงไปแล้ว
“ครึ่งปีแล้ว...ดูเหมือนในที่สุดมันก็ถูกสังหารลงแล้วจริงๆ” เขาถอนหายใจ
การสังหารราชันย์แดนลับมากประสบการณ์คือความฝันตลอดมาของเขา นี่คือเกียรติสูงสุดของนักสู้ เขาไม่คิดเลยว่าจะมีคนทำได้ก่อนเขา
ยังไงก็ตามหลังจากมองไปรอบๆเขากลับไม่เห็นวี่แววของทีมที่ว่านั้นเลย
“เฮ้ๆๆแล้วมหาเทพพวกนั้นไปไหนแล้ว? ฉันอยากจะเห็นหน้าพวกเขาซักหน่อย”
“หยุดพลักฉันซักที เลิกพลักทีดิ๊ กล้ามหน้าอกฉันโดนเบียดจนจะกลายเป็นแผ่นเหล็กอยู่แล้ว”
“...กล้ามหน้าอก? แม่เจ้า!”
หลังจากมองไปรอบๆเขาก็เห็นเพียงกลุ่มของพวกแมลงวันไร้หัว โจวเฟิงจึงสับสนยิ่งนัก
“หยุดมองกันได้แล้ว มหาเทพคนนั้นจากไปแล้ว!” ชายหนุ่มขนหน้าอกยุบยั่บท่าทีเย่อหยิ่งจู่ๆก็กระโดดขึ้นมาบนก้อนหินและตะโกนออกมา
โจวเฟิงยิ่งงุนงงเข้าไปใหญ่ ไม่ใช่ว่าเจ้าหมอนี่คือกัปตันทีมบิ๊กเบิร์ดโรเทชั่นหรอกหรอ?
“คนที่ฆ่าราชันย์แดนลับมากประสบการณ์ไม่ใช่วินด์เชสซิ่ง ไม่ใช่ฟายอิ้งคุนเฟิงหรือบิ๊กเบิร์ดโรเทชั่นของเราแต่เป็นนักสู้ที่ใส่หน้ากากปิศาจและถือโล่สีดำด้วยมือข้างเดียว!”
กัปตันทีมบิ๊กเบิร์ดโรเทชั่นตะโกนบอก
นักสู้ทุกคนที่มารวมตัวกันหลังจากได้ยินข่าวประกาศพากันจมลงสู่ความสับสน
เชี่ยไรเนี่ย? เขาสังหารราชันย์แดนลับด้วยตัวเองเพียงคนเดียวเนี่ยนะ?
ดวงตาของโจวเฟิงเบิกกว้าง เขาพลันนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้!
เป็นนักสู้ที่ปฏิเสธเขาคนนั้น!
หมอประจำทีมอ้าปากค้าง “พี่โจวไม่แปลกใจเลยที่เขาปฏิเสธเรา เขากลับทรงพลังถึงขั้นนี้!”
มุมปากของโจวเฟิงกระตุกถี่ยิบ
ทำไมช่องว่างระหว่างผู้คนมันถึงได้กว้างใหญ่นัก?
ทีมสี่คนของเขาเข้าท้าทายราชันย์มังกรดินแต่กลับจบด้วยความล้มเหลวและมีคนได้รับบาดเจ็บสาหัส สุดท้ายจำเป็นต้องพึ่งมูลของราชินีมดเพื่อหลบหนีเอาตัวรอด
อีกฝ่ายเพียงลำพังกลับสามารถจัดการกับราชันย์มังกรลงได้ด้วยโล่ขนาดมหึมา!
เมื่อเข้าใจเรื่องนี้ได้อย่างแจ่มชัดก็ยิ่งทำให้รู้สึกชาหนึบไปทั้งร่าง
จู่ๆหมอประจำทีมของพวกเขาก็เอ่ยขึ้นมา “พี่โจวไม่ใช่ว่าคนใช้โล่คนนั้นเป็นนักกู้ซากหรอ? ถ้าใช่พี่ก็ดึงเขาเข้าทีมพวกเราได้!”
โจวเฟิงตบมือฉาด “จริงด้วย!”
ไอเทมที่ดรอปจากราชันย์แดนลับนั้นไม่ได้สำคัญเท่าไหร่นักหรอก หากแต่ไอเทมที่ราชันย์แดนลับมากประสบการณ์ดรอปลงมนั้นล้ำค่ามากและจำเป็นต้องส่งมอบออกไป เป็นไปไม่ได้ที่จะซ่อนพวกมันเอาไว้
ยังไงก็ตามหลังจากขอให้บิดาใช้ตำแหน่งผู้จัดการเพื่อตรวจสอบแล้วโจวเฟิงกลับพบว่าไม่มีนักกู้ซากจากองค์กรเจอร์มินอลเลยซักคนที่ส่งมอบไอเทมที่ดรอปมาจากราชันย์มังกรดินและไม่มีบันทึกในปลอกคอใดเลยว่ามีไอเทมเหล่านั้นถูกเก็บเอาไว้
ดังนั้นคำตอบก็มีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น นักสู้ผู้ใช้โล่คนนี้ไม่ใช่นักกู้ซากขององค์กรเจอร์มินอล...แต่เป็นหมาป่าเดียวดาย!
โจวเฟิงยิ่งรู้สึกประทับใจขึ้นไปอีก
คนผู้นี้ไม่จำเป็นต้องมีข้อมูลหรือเทคนิคการรับมือที่ทางองค์กรมีเลยแต่กลับทรงพลังได้ถึงขั้นนี้!
โจวเฟิงลอบสาบานในใจว่าตัวเขาเองก็จะกลายเป็นตัวตนเช่นนักสู้โล่ยักษ์คนนี้เช่นกัน!
ในเวลาเดียวกัน ‘พรี่มหาเทพ’ ของหลายๆคนก็ได้กลับมายังหอพัก12คนขององค์กรเจอร์มินอลแล้ว
ในช่วงที่ผ่านมาเพื่อนร่วมห้องของเขาถูกแทบที่อยู่ตลอดดังนั้นส่วนใหญ่ถ้าไม่ใช่คนไม่คุ้นหน้าก็เป็นคนที่รู้จักกันเพียงผิวเผิน
เขาพยักหน้าให้กับเหล่าเพื่อนร่วมห้องที่ไม่คุ้นหน้าเหล่านี้และเดินตรงไปยังเตียงของตัวเองเพื่องีบหลับหากแต่ในความเป็นจริงนั้นสมาธิของเขาอยู่กับหน้าต่างข้อมูลที่ถูกเปิดขึ้นมา
“เลื่อนระดับ!”
หลินเซวียนแตะไปที่สัญลักษณ์ลูกศรตรงหัวข้อเลเวล
พริบตาต่อมาเกล็ดของราชันย์มังกรดินทั้งห้าเกล็ดก็ได้แปรเปลี่ยนเป็นแสงและถูกดูดเข้าไปในร่างกายของเขา
พลังที่ดูเหมือนจะหลั่งไหลออกมาจากความว่างเปล่าแผ่กระจายออกไปทั่วทั้งร่างของเขา
หลินเซวียนดูค่าสถานะของตัวเองและพบว่าค่าสถานะทั้งหมดเพิ่มขึ้นมาถึง15แต้ม กล่าวอีกอย่างก็คือค่าสถานะโดยรวมของเขาเพิ่มขึ้นมาทั้งหมด60แต้ม! ความแตกต่างระหว่างเขาและนักสู้คนอื่นๆพลันทิ้งห่างในชั่วพริบตา!
ค่าสถานะของเขาในตอนนี้เป็นดังนี้
...
[ชื่อ : หลินเซวียน]
[ระดับ : เลเวล1ขอบเขต1]
[ค่าประสบการณ์ : 0/10000]
[ค่าสถานะ : ความอดทน 51 , พละกำลัง 32 , พลังจิต 33 , ความเร็ว28]
[สกิล : อ่อนแอ , กำแพงเหล็ก , ลอบโจมตี , เท้ามันเยิ้ม , พลังชีวิตไร้สิ้นสุด , กายาหนาม , กายาเหล็ก , เกราะเวทย์มนตร์ , อำนาจของราชันย์แดนลับมากประสบการร์...]
[อุปกรณ์สวมใส่ : ปลอกคอของนักกู้ซากแดนรกร้าง , มีดโลหะ , เกราะอกวัวคลั่ง , แหวนอารักษ์ , โล่ปรารถนา]
[ไอเทม : เหรียญทั่วไป1948เหรียญ , บิตกิตหลากรสชาติ8ชิ้น , โค๊ก5กระป๋อง...]
...
เหล่านี้คือไอเทมที่เขาใส่เอาไว้ในช่องเก็บของเพียงอย่างเดียวแต่ในมิติส่วนตัวอขงเขายังมีไอเทมเก็บเอาไว้อีกเพียบ
เมื่อเห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวงในหน้าต่างข้อมูลหลินเซวียนก็พยักหน้าซ้ำไปซ้ำมา
จากนั้นเขาก็นึกอะไรขึ้นมาได้
“ดูเหมือนเราจะได้พิมพ์เขียวมาด้วยนี่น่า”
หลินเซวียนมองดูภายในมิติส่วนตัวของตนและใช้งานพิมพ์เขียวกับโต๊ะสร้างอุปกรณ์ในทันที
เตาหลอมทำการหลอมโลหะและค้อนก็ทำการตีเหล็ก หลังจากตีซ้ำไปซ้ำมาอยู่นับพันครั้งอุปกรณ์ชิ้นใหม่ก็ปรากฏ
มันเป็นอุปกรณ์สวมใส่ที่สูงถึง1.5เมตร เมื่อวางเอาไว้ข้างๆโล่นักล่ามังกรก็จะดูเหมือนกับประตูสองบาน
ดังที่ชื่อของมันบอก อุปกรณ์ชิ้นนี้สามารถเปลี่ยนไปมาได้ระหว่างโล่กับค้อน
ลักษณะของมันเป็นโล่ขนาดใหญ่ที่ดูคล้ายกับหางของราชันย์มังกรดิน นอกจากนี้ยังเปล่งประกายสีเหลืองทองหนาแน่นออกมาอีกด้วย
ในเวลาเดียวกันข้อมูลของค้อนโล่ของราชันย์มังกรดินก็เด้งขึ้นมา
...
[ชื่อ : ค้อนโล่ของราชันย์มังกรดิน]
[ระดับ : เลเวล9ขอบเขต0]
[เกรด : สีม่วง(ล้ำค่า)]
[ข้อจำกัดในการสวมใส่ : ความอดทน 18 , พละกำลัง 25]
[ความสามารถที่1 : พละกำลัง+5 , ความอดทน+5]
[ความสามารถที่2 : เมื่ออยู่ในรูปแบบโล่พลังป้องกันกายภาพ+35% , พลังป้องกันเวทย์มนตร์+40% , ความเร็วในการฟื้นฟูพลังงาน-10%]
[ความสามารถที่3 : เมื่ออยู่ในรูปแบบค้อนความเสียหายกายภาพ+40% , ความเร็วในการฟื้นฟูพลังงาน-15%]
[ความสามารถที่4 : ลดความเสียหายจากศัตรูรอบๆในระยะ10เมตรลง10%]
[คำอธิบาย : ราชันย์มังกรดินชื่นชอบการใช้หางของมันบดขยี้เหล่าศัตรูที่มั่นหน้ามั่นโหนกจนกลายเป็นซอสเนื้อ หลังจากสังหาร10เป้าหมายความสามารถของอุปกรณ์จะเพิ่มขึ้น]
...
หลินเซวียนประหลาดใจระคนดีใจ
เชี่ยอุปกรณ์นี่มีกระทั่งภารกิจย่อยมาให้ทำด้วยหรอเนี่ย?