Chapter 7 : ผูกขาดราชันย์
ตลกน่า ทำไมเขาต้องไปเข้าทีมคนอื่นด้วยในเมื่อฟาร์มคนเดียวได้?
หลังจากเข้าร่วมปาร์ตี้ของที่ได้ก็ต้องถูกแบ่งไป หลินเซวียนไม่อยากจะแบ่งของกับพวกนั้นนัก เขาอยากจะเก็บทั้งหมดไว้กับตัวเอง
ยิ่งไปกว่านั้นนอกจากราชันย์มังกรดินแล้วเขามั่นใจมากว่าเขาสามารถสังหารราชันย์แดนลับตนอื่นๆได้เพียงลำพัง
ต้องรู้ด้วยนะว่าเขาทานไอเทมเพิ่มค่าสถานะถาวรทั้งหมดที่มีในถ้ำหินยักษ์ไปจนครบแล้ว สกิลทั้งหมดของเขาเองก็สูงถึงเลเวล9ขอบเขต0และเป็นเกรดสีม่วงทั้งสิ้น
ไม่มีนักสู้คนไหนมีทรัพยากรมากพอจะทำได้แบบเขาแน่นอน
เมื่อถูกปฏิเสธโจวเฟิงก็แทบจะทนไม่ไหว ยังไงก็ตามตัวเขาก็ไม่ได้เอ่ยอะไรเพิ่มเติม “ถ้างั้นก็ช่างมันเถอะ ถ้าโชคชะตานำพาค่อยมาร่วมงานกันครั้งหน้าก็ได้”
โจวเฟิงและอีกสองคนแบกร่างของชายถือโล่ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสหายตัวกลับไปยังสถานีไร้ภัยอย่างรวดเร็ว
หลินเซวียนเองก็ต่อแถวเงียบๆต่อไป
ในที่สุดก็ถึงตาเขา
คราแรกนักกู้ซากคนอื่นๆคิดว่าหลินเซวียนกำลังรอเพื่อนร่วมทีมของตนอยู่หรือไม่ก็คิดจะเข้าร่วมทีมแบบสุ่มๆซักทีม
ยังไงก็ตามเมื่อพวกเขาเห็นว่าหลินเซวียนเดินเข้าไปในถ้ำเพียงลำพังพวกเขาก็ฮือฮากันขึ้นมาทันที
"เชี่ยไรเนี่ย? คิดจะสู้กับราชันย์แดนลับเพียงคนเดียวเนี่ยนะ?"
“...แถมยังเป็นผู้ใช้โล่ด้วย หมอนั่นวางแผนจะสู้ยังไงล่ะนั่น? หรือคิดจะใช้สายตามองศัตรูจนตาย?”
“ก่อนหน้านี้ก็มีคนจำนวนไม่น้อยที่ไม่รู้ฟ้าสูงแผ่นดินต่ำแบบนี้เหมือนกัน ทั้งเงาเมฆาที่เข้าท้าทายราชันย์มังกรดินหลังจากนั้นก็มีพวกใช้โล่อีกคนที่คิดจะท้าทายกับราชันย์แดนลับเพียงลำพัง”
หลังจากประหลาดกันกันอยู่ซักพักเหล่านักสู้ก็ส่ายหัวและไม่สนใจเขาอีก
ในเมื่อีกฝ่ายกำลังจะตายแล้วพวกเขาจะไปสนใจทำไม?
เมื่อหลินเซวียนเข้ามาภายในถ้ำเบื้องหน้ากลับไม่มีอสูรปิศาจอยู่เลย หลังจากนั้นหลายนาทีแสงสีเหลืองพลันปรากฏก่อนที่ราชันย์แดนลับจะปรากฏกายออกมา
ประเภทของราชันย์แดนลับนั้นทั้งหมดจะถูกสุ่มหลังจากที่ตายลง
ในตอนที่หลินเซวียนรออยู่ด้านนอกห้องบอสนั้นก่อนหน้านี้อีกทีมได้สู้กับราชันย์อสรพิษเพลิง หลังจากอสรพิษเพลิงถูกฆ่าสุดท้ายมันก็ถูกแทนที่ด้วยราชันย์กิ้งก่าหินผาในตอนนี้
นักสู้คนใดก็ตามที่เข้าท้าทายราชันย์กิ้งก่าหินผาก็จะสามารถมองเห็นข้อมูลของมันได้
…
[ชื่อ : ราชันย์กิ้งก่าหินผา]
[ฉายา : ราชันย์แดนลับ]
[ระดับ : เลเวล9ขอบเขต0]
[ค่าสถานะ : ความอดทน 29 , พละกำลัง 25 , พลังจิต 6 , ความเร็ว 16]
[สกิล : หินผาทะลวง (สีม่วง) , เคลื่อนที่ความเร็วสูง , ผิวหิน , ฟื้นฟูระดับต่ำ]
…
หลินเซวียนมองดูค่าสถานะของมันและพยักหน้าอย่างพึงพอใจ
ค่าสถานะนี้อ่อนแอกว่าเขามาก ด้วยพละกำลังแค่25หน่วยยังไม่พอจะทำลายการป้องกันของเขาเลยด้วยซ้ำ
“ดูเหมือนราชันย์แดนลับทั่วๆไปก็งั้นๆ”
หลินเซวียนตั้งโล่นักล่ามังกรเอาไว้ด้านหน้าและปล่อยให้ราชันย์กิ้งก่าหินผาอาละวาดตามสบาย
ปัง! ปัง! ปัง!
ภายในถ้ำบนชั้นที่สิบ เสียงของโลหะปะทะกันดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ยังไงก็ตามกลับเป็นหัวของฝ่ายราชันย์กิ้งก่าแทนที่มีเลือดออก
ส่วนหลินเซวียนนั้นไม่แม้แต่จะขยับเลยด้วยซ้ำ
หลินเซวียนยิ้มและพูดขึ้น “การโจมตีธรรมดาเจาะการป้องกันของฉันไม่เข้าหรอก ใช้สกิลสิ”
ราวกับมันสัมผัสได้ถึงการดูถูกจากน้ำเสียงของอีกฝ่าย ราชันย์กิ้งก่าหินผาจึงกราดเกรี้ยวขึ้นมา
มันควบแน่นพลังมานาและใช้สกิลที่ทรงพลังที่สุดออกมา – หินผาทะลวง
หัวของมันพลันถูกปกคลุมเอาไว้โดยแสงสีเหลืองอร่ามดูงดงามยิ่งนักและหัวที่ดูราวกับหอกที่ทั้งหนาและหนักนั้นก็พุ่งเข้าแทงใส่หลินเซวียนอย่างโหดเหี้ยม
เคร้ง!
หากแต่กลับเป็นราชันย์กิ้งก่าหินผาที่กระเด็นออกไปเนื่องจากแรงดีด
หัวของมันรู้สึกมึนงงยิ่งนัก
หลินเซวียนยังคงแสดงสีหน้าไร้อารมณ์เช่นเดิม เขาเสียพลังชีวิตไปแค่เลขหลักเดียวเท่านั้น
ยังไงก็ตามด้วยความเร็วในการฟื้นฟูพลังชีวิตที่โคตรจะไวของเขาทำให้เลือดของเขากลับมาเต็มในพริบตา
การโจมตีของราชันย์กิ้งก่าหินผาทำอะไรเขาไม่ได้เลยซักนิด
“เสียก็แต่ช้าเกินไปหน่อย คงต้องรออีกซักพัก”
หลินเซวียนใช้สกิลทั้งสองอย่างอย่างสกิลกำแพงเหล็กและพลังชีวิตไร้สิ้นสุดไปแล้ว นอกจากสองสกิลเรียกใช้งานนี้เขายังมีสกิลติดตัวอย่างกายาเหล็กและกายาหนามในตัวอีกดังนั้นเขาจึงทำเพียงนั่งรออย่างเงียบๆ
ราชันย์กิ้งก่าหินผาเองก็ดูเหมือนจะโมโหมากและพยายามใช้หัวของมันกระแทกเข้าใส่โล่นักล่ามังกรอย่างต่อเนื่อง
หากแต่ทุกครั้งที่มันชนเข้ากับโล่นักล่ามังกร โล่นักล่ามังกรก็จะสะท้อนความเสียหายกลับไปให้มัน50หน่วย
ในเวลาเดียวกันก็ยังทำให้มันไม่อาจฟื้นฟูพลังชีวิตได้เป็นเวลา5วินาทีอีกด้วย
บวกกับความเสียหายเพิ่มเติมจากการสะท้อนอีก20%จากสกิลกายาหนามของเขา
ราชันย์กิ้งก่าหินผาดื้อดึงกระแทกเข้าใส่โล่อยู่กว่าครึ่งชั่วโมงก่อนที่สุดท้ายจะส่งเสียงโหยหวนออกมาและล้มลงแน่นิ่งบนพื้น
ร่างของมันแปรเปลี่ยนกลายเป็นจุดแสงและกระจายหายไปย่างรวดเร็วทิ้งไว้เพียงไอเทมมากมายบนพื้น ไอเทมเหล่านั้นมีตั้งแต่เหรียญทั่วไป ค่าประสบการณ์การ หนังสือสกิลและอุปกรณ์สวมใส่...
แน่นอนว่ายังมีสิ่งที่สำคัญที่สุดอย่างวัตถุดิบสำหรับเลื่อนขอบเขตอีกด้วย
…
[ชื่อ : กงเล็บราชันย์กิ้งก่าหินผา]
[ระดับ : เลเวล9ขอบเขต0]
[เกรด : สีม่วง(ล้ำค่า)]
[ความสามารถที่1 : ช่วยให้นักสู้เลื่อนระดับจากเลเวล9ขอบเขต0เป็นเลเวล1ขอบเขต1]
[ความสามารถที่2 : หลังจากเลื่อนระดับค่าสถานะทั้งหมด+1]
[คำอธิบาย : หยุดความป่าเถื่อนของมนุษย์และช่วยเหลือเหล่าราชันย์แดนลับ!]
…
หลังจากสังหารราชันย์กิ้งก่าหินผาลงได้เขาก็ได้กงเล็บคมกริบมาถึงสามอัน ตามปกติแล้ววัตถุดิบเลื่อนระดับจะดรอปอยู่ที่ระหว่างหนึ่งถึงห้าชิ้น จำนวนที่ดรอปนั้นขึ้นอยู่กับโชคล้วนๆ
นักสู้ขอบเขต0จำเป็นต้องใช้วัตถุดิบเลื่อนระดับอย่างน้อยหนึ่งชิ้นเพื่อนเลื่อนไปเป็นนักสู้ขอบเขต1และมากที่สุดที่ใช้ได้คือห้าชิ้น
ถ้าสมองกระทบกระเทือนหน่อยและเลือกใช้วัตถุดิบเลื่อนระดับเพียง1ชิ้นค่าสถานะทั้งหมดก็จะเพิ่มขึ้นเพียง1แต้มหลังจากกลายเป็นนักสู้ขอบเขตที่1
ถ้าใช้ห้าชิ้นเพื่อเลื่อนระดับ หลังจากกลายเป็นนักสู้ขอบเขต1ค่าสถานะทั้งหมดก็จะเพิ่มขึ้นถึง5แต้ม!
แตกต่างกันถึง16แต้ม (5*4-1*4)
ยิ่งไปกว่านั้นเขายังได้ยินมาอีกว่าวัตถุดิบเลื่อนระดับที่ดรอปจากราชันย์แดนลับมากประสบการณ์จะดียิ่งกว่า หลังจากเลื่อนระดับค่าสถานะทั้งหมดจะเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล ยังไงก็ตามหลินเซวียนไม่แน่ใจเหมือนกันว่าจริงหรือเท็จ
ด้านนอกถ้ำของหลินเซวียนมีทีมมารอต่อแถวอยู่แล้วถึง4ทีม
พวกเขาสามารถรับรู้สถานการณ์ภายในห้องบอสได้ผ่านทางรูปภาพที่แสดงอยู่เหนือถ้ำของบอสนั้นๆ
เมื่อครู่นี้สัญลักษณ์รูปราชันย์กิ้งก่าหินผายังคงอยู่แสดงให้เห็นว่าตัวมันยังคงมีชีวิต
หากแต่ไม่กี่วินาทีต่อมาสัญลักษณ์ภาพของราชันย์กิ้งก่าก็หายไปเป็นที่ชัดเจนแล้วว่ามันถูกสังหารลงแล้ว
ทีมทั้งสี่ที่รออยู่ต่างแสดงสีหน้าโง่งม พวกเขาเห็นด้วยตาคู่นี้เลยนะว่ามีนักสู้ถือโล่อันโข่งเดินเข้าไปสู้กับบอสเพียงคนเดียว!
นักสู้ที่ต่อคิวอยู่หน้าถ้ำอื่นเองก็สังเกตุเห็นเช่นกันและเอ่ยออกมาอย่างไม่อยากจะเชื่อนัก “เชี่ย? เจ้าหมอนั่นฆ่าราชันย์กิ้งก่าหินผาด้วยตัวเองเลยงั้นหรอ?”
“ฉันฝันอยู่รึเปล่าเนี่ย? นักสู้ที่ใช้โล่ขนาดใหญ่เนี่ยนะจะโซโล่ราชันย์แดนลับได้?”
“หรือจะเป็นพวกมหาเทพเร้นกาย?”
“ไม่ก็เป็นพวกหมาป่าเดียวดายที่ทรงพลังโพดๆ?”
ไม่ว่าพวกเขาจะพยายามเค้นสมองแค่ไหนแต่ก็จินตนาการไม่ออกอยู่ดีว่าคนที่ใช้โล่นั้นจะโซโล่ราชันย์แดนลับยังไง
“เดี๋ยวนะ...เจ้าหมอนั่นไม่คิดจะออกมา หรือว่าคิดจะสู้ต่ออีกตัว?”
หลังจากที่ไม่เห็นว่าเจ้านักสู้ผู้ใช้โล่ขนาดใหญ่นั่นโผล่ออกมาซักที เหล่านักสู้สี่ทีมที่รอกันอยู่จึงพากันกรีดร้องออกมา
หนนี้พวกเขาสับสนยิ่งกว่าเดิมอีก
โซโล่ราชันย์แดนลับไปตัวนึงแล้วยังไม่พออีกรึไง? ทำไมถึงคิดจะทำแล้วทำอีกทำต่ออีกล่ะ?
“ถ้าเป็นสถานการณ์ปกติ ทีมสี่คนจะต้องใช้ยากว่าสิบขวดในการสังหารราชันย์แดนลับตัวนึง ยิ่งไปกว่านั้นต่อให้ชนะก็ต้องได้รับบาดเจ็บกันถ้วนหน้า ดังนั้นจึงยากมากหากคิดจะสู้ต่อ” นักสู้ที่ดูมีอายุหน่อยกล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม
“เจ้าหมอนี่เป็นมหาเทพจริงๆด้วย...” นักสู้คนอื่นๆถอนหายใจ
หลินเซวียนรอไม่นานนักราชันย์แดนลับตนใหม่ก็ปรากฏตัวขึ้นที่เบื้องหน้าของเขา
มันเป็นเห็ดสีม่วงขนาดใหญ่ บนหัวเห็ดของมันมีรูอยู่มากมายสำหรับใช้พ่นแก๊สสีม่วงออกมา
ราชันย์เห็ดยักษ์!
ราชันย์เห็ดยักษ์นั้นฆ่าไม่ยากแต่พิษสีม่วงที่มันปล่อยออกมานั้นมีผลลบอย่างร้ายแรง มันสามารถลดค่าพละกำลังและความเร็วของนักสู้ได้ ยิ่งไปกว่านั้นผลของมันยังซ้อนทับกันได้อีกด้วย
หลังจากติดพิษจากแก๊สพิษสีม่วงเข้าการโจมตีก็จะไร้ผลเป็นระยะเวลาอย่างน้อย5นาที ผลลัพธ์นั้นทำให้ราชันย์เห็ดยักษ์กลายเป็นหนึ่งในราชันย์แดนลับที่นักสู้หลายคนเกลียดที่จะสู้มากที่สุด
นักสู้ด้านนอกเมื่อเห็นสัญลักษณ์ภาพของราชันย์เห็ดยักษ์โผล่ขึ้นมา พวกเขาต่างพากันกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก
“ทีมของพวกเราเคยสู้กับเจ้านี่มาก่อน การต่อสู้นั้นค่อนข้าง...อธิบายยากทีเดียว” ทีมๆหนึ่งกล่าวออกมาและถอนหายใจ
“ค่าสถานะของฉันโดนลดลงไปเกือบ3เลเวลและฉันยังสร้างความเสียหายให้มันไม่ได้เลย ตอนนั้นโมโหสุดๆเลยแหละ!”
“เจ้าราชันย์เห็ดยักษ์นี่เป็นฝันร้ายสำหรับนักสู้สายความเร็วและสายโจมตีเลยแหละ ส่วนตัวฉันคิดว่าราชันย์มังกรดินกับราชันย์เห็ดยักษ์นี่แหละที่เป็นราชันย์แดนลับที่ไม่ควรจะสู้ด้วยมากที่สุด!”
“มหาเทพคนนี้คงฆ่ามันเพียงลำพังไม่ได้แน่ อีกซักพักเขาก็คงออกมาแล้ว”
นักสู้ทั้งหมดพากันถอนหายใจ